calendar_month 09 มี.ค. 2018 / stylus Admin Chillpainai / visibility 15,221 / รีวิวที่พัก
และหากใครเป็นโรครักการเที่ยว..ไม่ต้องห่วงว่าจะเหงาค่ะ โรคนี้เป็นกันถ้วนหน้า พลเมืองป่วยกันทั่วเมือง ระบาดหนักกว่าโรคซาร์ส โรคไข้หวัดนกซะอีกอาการมันก็จะจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว คิดแต่เรื่องทริปต่อไป จะส่งผลโดยตรงกับกระเป๋าตังค์ก็เท่านั้น ชิลเองก็เป็นโรคนี้นะ เป็นมานานกลายเป็นเรื้อรังรักษาไม่หายสักที! ล่าสุด ..มีเวลาแค่ 2 วัน 1 คืน ทนอยู่กรุงเทพฯ ไม่ไหว อยากออกไปเที่ยวใจจะขาด ตัดสินใจขับรถไป อ.ศรีราชา ไปเที่ยว “ เกาะสีชัง”
กัน
เราเลือกไปเที่ยวเกาะสีชัง เพราะชื่นชอบในความเงียบสงบ ความเป็นส่วนตัว ได้หนีความวุ่ยวายสักช่วงหนึ่ง ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก และสถานที่ท่องเที่ยวยังมีความเป็นมา รวมทั้งเรื่องราวที่ยังคงอยู่จากอดีตจนถึงปัจจุบัน โรงแรมซัมแวร์ เกาะสีชัง เป็นทางเลือกในการเดินทางครั้งนี้
หลังจากจองที่พักเรียบร้อย เดินทางไปถึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี แวะนำรถไปจอดไว้ที่โรงแรมแคนทารี เบย์ ศรีราชา ซึ่งทำให้รู้สึกหายกังวลได้ ไม่ต้องห่วงว่ารถจะไม่ปลอดภัย เพราะโรงแรมจัดที่จอดรถไว้ และมี รปภ. คอยดูแลรถให้แก่เราตลอด 24 ชั่งโมง ทั้งมีบริการจัดรถไปส่งพวกเราถึงท่าเรือจรินทร์ เพื่อลงเรือข้ามฟากไปยังเกาะสีชัง สะดวกสบายมากๆ เพราะมีเรือออกทุกๆ 1 ชั่งโมง ทำให้การเดินทางครั้งนี้ ไม่มีความรู้สึกหงุดหงิด หรือต้องทนร้อน ยืนรอเรือนานๆ
เรานั่งเรือจากฝั่งศรีราชามาเกาะสีชัง เพียง 45 นาที พอเรือจอดที่ท่าเรือปุ๊บก็มีรถของโรงแรมมารอรับอยู่แล้ว เรียกว่าเป็นความประทับใจ First Impression เลยค่ะ ไม่ต้องถือของหนัก ยืนรอนานๆ ให้เมื่อยเลย
ถึงที่พักเราเช็คอินกันก่อนค่ะ ระหว่างที่รอ เจ้าหน้าที่ก็นำ Welcome Drink เครื่องดื่มมาต้อนรับเป็นน้ำแอปเปิ้ลสุดอร่อยมาให้ พวกเราก็นั่งดูแผนที่เที่ยวรอบๆเกาะสีชัง วางแพลนเที่ยวกันไปพลางๆ บอกเลยว่าบนเกาะมีที่เที่ยวสวยๆ เยอะมากกก...
โรงแรมซัมแวร์ เกาะสีชัง เป็นโรงแรมในเครือ Cape & Kantary Hotels ถึงแม้จะเป็นโรงแรมขนาดเล็กแต่การบริการก็ไม่แพ้โรงแรมระดับห้าดาว ใส่ใจทุกรายละเอียด การตกแต่งถูกใจเรามากๆ เหมือนได้มาพักบ้านพักตากอากาศในฝัน ตัวที่พักออกแบบในสไตล์โคโลเนียล ใช้โทนสีขาวและสีฟ้า เข้ากับบรรยากาศริมทะเล ที่ชอบมากที่สุดคือ ความเงียบสงบ เป็นส่วนตัวและรู้สึกเป็นกันเองสุดๆ
เห็นที่พักเล็กๆ แบบนี้ แต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ถูกใจทุกคนแน่นอนค่ะ ทั้งสระว่ายน้ำ ที่มีสระเด็กและสระผู้ใหญ่ สวนหย่อมสีเขียวชะอุ่ม ถึงแม้ว่าจะไม่ติดริมทะเล แต่เดินแค่เพียง 100 เมตร ก็ถึงทะเลแล้วค่ะ
ส่วนห้องพักที่นี่มีทั้งหมด 20 ห้อง เป็นห้องพักรูปแบบเดียว คือแบบ Deluxe จะต่างกันก็ที่ลักษณะของเตียงนอน ซึ่งจะแบ่งเป็นเตียงเดี่ยวและเตียงคู่ ภายในห้องทุกห้องมีโซฟานั่งเล่นเล็กๆ ทีวีแอลซีดีพร้อมช่องรายการดาวเทียม เครื่องเล่นดีวีดี ตู้เย็น ห้องน้ำ ไดร์เป่าผม ตู้นิรภัย ที่สำคัญภายในที่พักมีสัญญาณ Free Wi-Fi จะต้องส่งเมล์หรือเอางานมาทำก็ไม่ต้องห่วงเลย
การตกแต่งภายในห้องใช้โทนสีขาวและสีฟ้าเช่นกัน มองดูแล้วสบายตามาก เสริมด้วยลูกเล่นเล็กๆ ตรงหัวเตียงแต่ละห้องตกแต่งด้วยสีสันสดใสและภาพวาดเป็นรูปสมอเรือได้กลิ่นอายความเป็นที่พักริมทะเล ดูแล้วน่ารัก สดชื่นดีค่ะ
ที่สำคัญ ทุกห้องมีระเบียงพร้อมชุดโต๊ะเก้าอี้เล็กๆ ให้นั่งจิบกาแฟยามเช้า..ตากลมชิลๆ ชมวิวทะเลจากหน้าระเบียงห้องได้เลย
นอกจากห้องพักที่น่ารักสดใสแล้ว ที่นี่ยังมีมุมน่ารักๆ ชวนให้เราแชะภาพกันเพียบเลยนะคะ
ชมห้องพักและบรรยากาศรอบๆ ไปแล้ว เราไปชมห้องอาหารของที่พักกันบ้างค่ะ ที่นี่มีห้องอาหารชื่อว่า The Verandah Restaurant (เดอะ เวอรันดา) ซึ่งเปิดให้คนนอกที่ไม่ได้เข้าพักมารับประทานได้นะคะ ตกแต่งได้สวยงามไม่แพ้ห้องพัก ภายในใช้โทนสีขาวและสีฟ้าเป็นหลักให้ความรู้สึกเหมือนนั่งกินอาหารอยู่ริมทะเลเลยค่ะ
ส่วนเมนูอาหารมื้อเที่ยงเราเลือกเมนูสไตล์อิตาเลียน เริ่มด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยอย่างซีซาร์สลัด ต่อด้วยมันฝรั่งเกลียวทอด ไก่ย่างซอสบาร์บีคิว และพอร์คช็อปย่างซอสเห็ด สำหรับใครที่ชอบอาหารแนวฟิวชั่น แนะนำสั่งเมนูแซลมอนรมควันแซ่บ ปลาแซลมอนรมควันราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด หรือจะชิมรสชาติแบบต้นตำรับอิตาเลียนแท้ๆ กับเมนูเฟตตูชินี่แซลมอนรมควัน และเฟตตูชินี่ครีมซอสเห็ดทรัฟเฟิล สำหรับใครที่ทานมังสวิรัติ ทุกจานถูกปากพวกเรามาก ! ถึงจะเป็นอาหารอิตาเลียนแต่รสชาติไม่เลี่ยนจนพวกเราทานจนเกลี้ยงจาน อิ่มกันจนพุงกางเลยค่ะ
ปิดท้ายมื้อเที่ยงด้วยเครื่องดื่มเย็นชื่นใจอย่างอิตาเลียนโซดา เครื่องดื่มซ่าๆ กับบรรยากาศทะเลมันสดชื๊นนนนน..สดชื่นสุดๆ
รับประทานมื้อเที่ยงกันอิ่มแล้ว เราเปลี่ยนชุดลงไปเล่นน้ำกัน ซึ่งสระว่ายน้ำที่นี่เปิดตั้งแต่ 06.30 - 22.00 น. ไปเที่ยวรอบเกาะแล้วกลับมาเล่นตอนเย็นแดดร่มลมตกแล้วก็ยังทันนะคะ
พักผ่อนกันเต็มที่แล้ว ถึงเวลามื้อเย็นเรามารับประทานดินเนอร์กันที่ The Verandah Restaurant คราวนี้เราเลือกทานเมนูอาหารไทยค่ะ จัดเต็มมื้อใหญ่กับเมนูไข่เจียวหมูสับโรยกากหมู แกงมัสมั่นไก่ ไก่ทอดคั่วพริกเกลือ ยำผักบุ้งทอดกรอบทะเล ผักบุ้งชุบแป้งทอดกรอบ เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำยำกุ้งสดรสแซ่บ แกงเหลืองปลาแซลมอน แกงเหลืองรสชาติแบบไทยแท้ ใส่ปลาแซลมอนเนื้อหวานกับยอดมะพร้าวอ่อน กินกับข้าวสวยร้อนๆ ถูกใจสุดๆ เบรกความเผ็ดด้วยเมนูปลาหมึกผัดไข่เค็ม ส่วนใครชอบเมนูข้าวผัดต้องลองข้าวผัดทะเลโป๊ะแตก จัดเต็มขนาดนี้รับรองว่าอิ่มท้อง นอนหลับสบายค่ะ
แต่ยังไม่หมดนะคะ เราตบท้ายด้วยของหวานอย่าง เครปซูเซตต์ เครปซอสส้มของหวานสไตล์ฝรั่งเศส รสหวานอมเปรี้ยว รับประทานง่ายอร่อยสดชื่นค่ะ
เรียกได้ว่าห้องอาหารของ Somewhere มีครบทั้งอาหารนานาชาติ อาหารไทย หรือจะสั่งอาหารจานเดียวง่ายๆ พร้อมเมนูเครื่องดื่มอย่างน้ำผลไม้ ชา กาแฟหอมกรุ่นก็มีพร้อมเสิร์ฟตลอดทั้งวัน นอกจากอาหารอร่อยๆ แล้ว ภายในห้องอาหารยังมีให้เลือกถึง 2 โซน ทั้งห้องแอร์แบบเย็นฉ่ำและโซนระเบียงด้านนอกสำหรับนั่งตากลม ชมทะเลชิลๆ แบบนี้
บรรยากาศยามค่ำคืนของ Somewhere ก็สวยและโรแมนติกไม่แพ้ในตอนกลางวันเลยนะคะ ได้มาพักผ่อนในที่พักสวยบนเกาะที่เงียบสงบแบบนี้ คงนอนหลับฝันดี เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมเลย!
บอกเลยว่าทริปนี้เราตกหลุมรักเกาะสีชังเข้าเต็มๆ ไม่ใช่แค่ที่เที่ยวเท่านั้น แต่ที่พักดีๆ ก็ทำให้ทริปท่องเที่ยวของเราสมบูรณ์แบบขึ้นได้นะคะ สำหรับโรงแรมซัมแวร์ เกาะสีชัง สอบผ่านทุกข้อ เป็นที่พักเล็กๆ ที่ช่วยให้เราได้ผ่อนคลายจากความตึงเครียดในการทำงาน ทำให้การมาพักผ่อนสบายๆ 2 วัน 1 คืนที่เกาะสีชังของเราสมบูรณ์แบบเลยค่ะ
ที่ตั้ง : 194, 194/1 หมู่ 3 ถ.ท่าเทววงษ์ ต.ท่าเทววงษ์ อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี 20120
โทรศัพท์ : 038 - 109400
https://somewherehotel.com/
ชิลไปไหน
Tags: เกาะสีชัง ที่พักเกาะสีชัง Somewhere Koh Sichang ซัมแวร์ เกาะสีชัง เที่ยวเกาะสีชัง โรงแรมซัมแวร์ เกาะสีชัง ที่พักชลบุรี
รีวิวที่พัก | 17 ธ.ค. 2024 | 150 อ่าน
รีวิวที่พัก | 21 พ.ย. 2024 | 525 อ่าน
รีวิวที่พัก | 25 พ.ย. 2024 | 720 อ่าน
รีวิวที่พัก | 19 พ.ย. 2024 | 3,942 อ่าน
รีวิวที่พัก | 18 พ.ย. 2024 | 511 อ่าน
รีวิวที่พัก | 11 พ.ย. 2024 | 1,513 อ่าน
รีวิวที่พัก | 08 พ.ย. 2024 | 1,154 อ่าน
รีวิวที่พัก | 05 พ.ย. 2024 | 1,178 อ่าน