0
0
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

รีวิวภูแก้ว รีสอร์ท แอนด์ แอดเวนเจอร์ ปาร์ค เขาค้อ ที่พักชมหมอกขาวและสนุกไปกับเครื่องเล่นสุดมันส์

calendar_month 02 ส.ค. 2016 / stylus นางสาวฮานะ ชิลไปไหน / visibility 129,939 / รีวิวที่พัก


เช้าตื่นมา รีบไปทำงาน รถติด ถึงที่ทำงาน ประชุม ปั่นงาน พบลูกค้า
กลับบ้าน นอน แล้วเช้าก็ต้องตื่นไปสู่วงจรแบบนี้อีก
เลยหันมาถามตัวเองว่าเหนื่อยไหม???
มีคำตอบจากเสียงในหัวใจบอกมาว่าเหนื่อย
แล้วถ้าเหนื่อยจะรออะไรมาพักงานเอาไว้ แล้วออกเดินทางกันดีกว่า
โดยสถานที่ที่เราจะพาเอาร่างกาย และจิตใจอันเหนื่อยล้า
ไปพักชาร์จแบตชีวิตในครั้งนี้ก็คือภูแก้ว รีสอร์ท แอนด์ แอดเวนเจอร์ ปาร์ค เขาค้อ
ที่พักท่ามกลางขุนเขา สายหมอก และกิจกรรมสุดมันส์ที่มีให้เล่นมากมาย
พร้อมแล้วก็มาออกเดินทางไปกันเลยค่ะ
05

 
จากกรุงเทพฯ เราใช้ถนนพหลโยธิน และขับเข้าสู่ถนนสระบุรี - มวกเหล็ก ยิงยาว แล้วตัดเข้าสู่ถนนหมายเลข 12 หรือรูท 12  ซึ่งเป็นถนนที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งในเมืองไทย โดยระหว่างทางที่มุ่งหน้าสู่ภูแก้ว รีสอร์ท แอนด์แอดเวนเจอร์ ปาร์ค นั้นเต็มไปด้วยสายหมอกและสายฝนที่โปรยปรายมาให้เราได้ชุ่มชื่นหัวใจ วิวด้านนอกของเราเป็นภูเขาเต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวขจีที่ได้รับน้ำฝน และวิวอันงดงามของวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วที่ซ่อนตัวอยู่ในไอหมอกขาว แค่ได้ชมวิวข้างทางแบบนี้ก็รู้สึกหายเหนื่อยแล้วค่ะ

หลังจากการเดินทางอันยาวไกลที่เราใช้เวลาไปทั้งหมด 6 ชั่วโมง จากกรุงเทพฯ ตอนนี้เราก็มาถึงภูแก้ว รีสอร์ท แอนด์แอดเวนเจอร์ ปาร์คกันแล้วค่ะ บรรยากาศของที่นี่เหมือนกับหลุดไปในยุโรปเลยค่ะ บ้านหลังเล็กๆ ที่ตั้งเรียงรายกันไปบนเนินเขา มีทุ่งถั่วบราซิลที่กำลังเบ่งบาน อากาศเย็นๆ หลังฝนตก ทำให้เราหายเหนื่อยจากการเดินทางไปเลยค่ะ

  
 
พอมาถึงก็ไปติดต่อที่ล็อบบี้ ซึ่งพนักงานของที่นี่ก็น่ารักมากๆ ค่ะ ดูแลเราอย่างเป็นกันเอง ห้องที่เราจองเอาไว้เป็นบ้านที่ชื่อว่า CLIFF CABIN โดยเราสามารถขับรถยนต์ไปจอดบริเวณบ้านพักได้เลย

 
 
ถึงแล้วค่ะที่พักที่เราจะพักกันในวันนี้กับ CLIFF CABIN โดยลักษณะจะเป็นบ้านหลังเล็กน่ารักตั้งลดหลั่นกันไปตามเนินเขา


เข้าไปชมภายในกันค่ะ บรรยากาศสวยงามเกินบรรยายเลยค่ะ ตัวบ้านก็ตกแต่งได้น่ารักน่านอนมากๆ มีพื้นที่ 30 ตารางเมตร โดยสามารถพักได้ 3 คน มีเครื่องปรับอากาศ ทีวี เคเบิลทีวี เครื่องเล่นดีวีดี เครื่องทำน้ำอุ่น กาน้ำร้อน ชา กาแฟ ไวไฟ ตู้เสื้อผ้า ตู้เย็น น้ำดื่ม แก้วน้ำ สบู่เหลว ยาสระผม ผ้าขนหนู แต่ที่ชอบที่สุดคือไดร์เป่าผมค่ะ ที่นี่เขามีให้ทุกห้อง ไม่ต้องเดินไปขอที่ล็อบบี้ เป็นสิ่งที่สาวๆ อย่างเราถูกใจมากๆ

ส่วนวิวของที่นี่สามารถมองเห็นวิวของภูเขาได้สวยงามมากๆ เลยค่ะ และยามเช้าถ้าโชคดีเราจะได้เห็นหมอกมาทักทายถึงหน้าห้องนอนเลยค่ะ บ้านหลังนี้ราคาเริ่มต้นที่ 2,800 บาทเท่านั้น (ราคาขึ้นอยู่กับฤดูกาล)



หลังจากที่เก็บของกันเรียบร้อยแล้ว เราก็ขออนุญาตพี่ๆ เจ้าหน้าที่ของรีสอร์ทเข้าไปชมบรรยากาศของบ้านพักในแบบต่างๆ เริ่มจาก FAMILY HOME บ้านพักสไตล์ยุโรปสีเหลืองสดใส หน้าบ้านมีทุ่งถั่วบราซิลกำลังออกดอกเหลืองอร่ามตัดกับสีเขียวสวยงามมากๆ ค่ะ


 
 
บ้านหลังนี้เป็นบ้าน 2 ชั้น ค่ะ มี 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และ 1 ห้องนั่งเล่น พื้นที่ทั้งหมด 150 ตาราง เมตร กว้างขวางเหมือนมาอยู่บ้านพักส่วนตัวเลยค่ะ ราคาเริ่มต้นที่ 12,000 บาท (ราคาขึ้นอยู่กับฤดูกาล) โดยหลังนี้สามารถพักได้ถึง 12 คน หารแล้วตกคนละพันบาทเท่านั้นคุ้มมากๆ ใครจะยกครอบครัว ยกแก๊งค์เพื่อน หรือยกออฟฟิศเล็กๆ มาพัก บ้านหลังนี้ก็เหมาะสมมากๆ ค่ะ

ชั้นล่างจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่นมีโซฟาขนาดใหญ่ กับทีวีแอลซีดีขนาด 49 นิ้ว ให้นั่งพักผ่อน พร้อมกับส่วนครัวและโต๊ะรับประทานอาหาร ใครอยากจะสั่งอาหารมาทานที่นี่เขาก็มีบริการรูมเซอร์วิสจากห้องอาหารของรีสอร์ทมาส่งถึงบ้านพักเลยค่ะ
 

 
 
และด้านล่างจะมีห้องนอนสองห้อง ห้องแรกพักได้ 4 ท่าน และห้องที่สองพักได้ 2 ท่าน โดยทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัว มีทีวี เครื่องปรับอากาศ ตู้เสื้อผ้า ไดร์เป่าผมให้ทุกห้อง 

 
 
ส่วนด้านบนจะมีห้องนอนอีก 2 ห้องค่ะ ห้องแรกนอนได้ 2 คน และห้องถัดไปนอนได้ 4 คน ตกแต่งน่ารักน่านอนมากๆ


จากนั้นทางพี่ๆ เจ้าหน้าที่ก็พาเราไปชมบ้าน PARADISE 1 บ้านพักที่ประยุกต์มาจากบ้านสไตล์สิบสองปันนาเป็นบ้านทรงเหลี่ยมที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนสวย มีพื้นที่ 40 ตารางเมตรพักได้ 2 คน ราคาเริ่มต้นที่ 5,000 บาท (ราคาขึ้นอยู่กับฤดูกาล) โดยตัวบ้านจะแยกส่วนของห้องนั่งเล่นและห้องนอน สไตล์การตกแต่งเป็นสไตล์วินเทจน่ารักมากๆ เลยค่ะ


 
 
ต่อด้วยบ้าน PARADISE 2 ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน โดยบ้านหลังนี้จะพักได้ 4 คน ราคาเริ่มต้นที่ 7,000 บาท (ราคาขึ้นอยู่กับฤดูกาล) มีพื้นที่ 60 ตารางเมตร แบ่งเป็น 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และ 1 ห้องนั่งเล่น ขนาดกว้างขวาง ออกแบบสไตล์วินเทจ ซึ่งจากห้องนอนสามารถชมวิวสวนสวยด้านนอกได้อย่างสวยงามสบายตามากๆ


เดินขึ้นเนินมาหน่อยเราก็จะพบกับบ้าน Long Life 1 ซึ่งเป็นบ้านแฝดหลังเล็กน่ารักออกแบบสไตล์ยุโรปต้อนรับพวกเราอยู่ เราก็ไม่รอช้าขออนุญาตพี่เจ้าหน้าที่ของรีสอร์ทเข้าไปชมห้องพักด้านในกันค่ะ

 
 
ด้านในจะแบ่งเป็น 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พักได้ 2 ท่าน มีพื้นที่ 30 ตารางเมตร ออกแบบตกแต่งได้น่ารักมากๆ ค่ะ และมีระเบียงชมวิวชิลๆ ด้านนอก มีประตูตรงกลางที่สามารถเปิดเชื่อมกับอีกห้องได้ ใครจะมาคู่หรือมาเป็นครอบครัวก็สามารถพักห้องนี้ได้เลยค่ะ ห้องนี้ราคาเริ่มต้นที่ 2,200 บาทเท่านั้น (ราคาขึ้นอยู่กับฤดูกาล)

 
 
ต่อด้วยบ้านพัก Long Life 2 หลังนี้จะมีชั้นครึ่งค่ะ มีพื้นที่ทั้งหมด 44 ตารารางเมตร ประกอบด้วย 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และ 1 ห้องนั่งเล่น พักได้ 4 ท่าน ราคาเริ่มต้นที่ 3,400 บาท (ราคาขึ้นอยู่กับฤดูกาล) ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเลยค่ะ 

 
 
ห้องนั่งเล่นที่มีมุมโซฟา ทีวี ดีวีดีและโต๊ะทานอาหารสำหรับการสังสรรค์ของกลุ่มเพื่อนหรือคนในครอบครัว




ห้องนอนชั้นล่างจะเป็นแบบ 2 เตียง ภายในห้องมีเครื่องปรับอากาศ ทีวี ไดร์เป่าผม ตู้เสื้อผ้า

 
 
ห้องนอนชั้นบนจะเป็นแบบที่นอนใหญ่ให้อารมณ์ห้องใต้หลังคาของฝรั่งมีทีวี ไดร์เป่าผมพร้อมเลยค่ะ

 

จากบ้านเป็นหลังเราขอพาไปพบห้องพักสไตล์โรงแรมกันบ้างค่ะกับ HILL SIDE บ้านสีส้มสดใสที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ห้องพักแต่ละห้องนั้นจะมีพื้นที่ 27 ตารางเมตร ราคาห้องพักเริ่มต้นที่ 1,500 บาทเท่านั้น (ราคาขึ้นอยู่กับฤดูกาล) มีระเบียงทุกห้องให้ชมวิวชิลๆ ด้านนอก ส่วนด้านในตกแต่งด้วยสีสันสดใส สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องนี้ก็ไม่แพ้บ้านหลังใหญ่เลยนะคะทั้ง ทีวี เครื่องเล่นดีวีดี ตู้เย็น กระติกน้ำร้อน ไดร์เป่าผม ครบครันมากๆ


มาชมบ้านพักที่สามารถพักได้เยอะที่สุดในรีสอร์ทกันค่ะกับบ้าน Lake Home บ้านพักวิวทะเลสาบ พื้นที่มากถึง 450 ตารางเมตร มี 2 ชั้น 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ พักได้สูงสุด 25 คน ใครจะมาสัมมนา เอาท์ติ้งก็สามารถพักบ้านหลังนี้ได้เลยค่ะ ราคาหลังนี้เริ่มต้นที่ 15,500 บาท (ราคาขึ้นอยู่กับฤดูกาล)


 
มาถึงบ้านหลังสุดท้ายที่เราจะพาไปชมคือ Little Honey บ้านหลังเล็กน่ารักติดริมน้ำใกล้กับโซนแอดเวนเจอร์ ปาร์ค ค่ะ  เหมาะสำหรับคนที่ตั้งใจมาเล่นเครื่องเล่นที่นี่พอเหนื่อยปุ๊บก็สามารถเดินกลับบ้านพัก อาบน้ำ พักผ่อนได้เลย

 
 
ภายในจะเป็นแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พักได้ 2 ท่าน มีระเบียงชมวิวริมน้ำ หลังนี้ราคาเริ่มต้นที่ 1,500 บาทเท่านั้นคุ้มมากๆ (ราคาขึ้นอยู่กับฤดูกาล)




จากระเบียงสามารถมองเห็นเครื่องเล่นของโซนแอดเวนเจอร์ ปาร์ค ได้อย่างใกล้ชิด

 
จากห้องพักเราขอพาเพื่อนๆ ไปชมห้องประชุมของที่นี่กันค่ะ ซึ่งห้องประชุมของภูแก้ว รีสอร์ท แอนด์แอดเวนเจอร์ปาร์ค นั้นสามารถรองรับได้ถึง 250 คน และห้องใหญ่ยังสามารถแบ่งเป็นห้องเล็กอีกสองห้องได้ด้วย ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็น เครื่องเสียงคุณภาพเยี่ยม, จอสไลด์ และเครื่องฉายภาพ LCD Projector ใครอยากมาจัดประชุมสัมมนา มาเอาท์ติ้ง หรือมาจัดงานเลี้ยงก็สามารถมาใช้บริการกันได้เลยค่ะ ค่าบริการห้องใหญ่ราคา 5000 บาท/วัน สามารถใช้ได้ตั้งแต่เวลา 8.00-17.00 น. ส่วนห้องเล็ก ราคา 2500 บาท/วัน
 
 

ชมห้องต่างๆ กันไปจนครบทั้งรีสอร์ทแล้ว และต่อจากนี้เตรียมใจ เตรียมร่างกายไว้ให้พร้อมเราจะพาเพื่อนๆ ไปพบกับความเสียว ความสนุก ความมันส์กันค่ะกับโซนแอดเวนเจอร์ปาร์คซึ่งที่นี่เป็นที่เดียวในเขาค้อที่มีเครื่องเล่นมันส์ๆ เหล่านีั โดยมีให้เลือกเล่นถึง 17 กิจกรรม มีทั้งหมด 20 กว่าฐาน แบ่งเป็นโซนเครื่องเล่นสำหรับเด็ก ทดสอบความสามารถ เครื่องเล่นวัดใจและฐานกิจกรรม ใครที่ไม่ได้พักที่นี่ก็สามารถมาเล่นได้ค่ะ เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 8.30-17.00 น. ส่วนในเรื่องความปลอดภัยมั่นใจได้เลยค่ะเพราะพนักงานทุกคนผ่านการอบรบในเรื่องความปลอดภัย และใช้อุปกรณ์เซฟตี้ระดับสากลและมีการดูแลอุปกรณ์ต่างๆ เป็นอย่างดี ถ้าพร้อมแล้วก็ไปเริ่มกันเลย

โดยเราเริ่มจากความเสียวระดับเบสิคกันก่อนกับ High Flying ซึ่งเป็นการโรยตัวข้ามน้ำด้วยความยาวกว่า 150 เมตร โดยเขาจะให้เราใส่อุปกรณ์เซฟตี้ให้พร้อมแล้วพาเราเดินไปที่หอโรยตัวซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามหลังจากติดอุปกรณ์แล้วก็กระโดดลงมา หลังจากนั้นก็เป็นความอิสระที่เหมือนได้บินข้ามน้ำมายังหอฝั่งตรงข้าม บอกเลยว่ากิจกรรมนี้ครั้งเดียวไม่พอจริงๆ ค่ะ 

 

 
จากความเสียวระดับเบสิคพัฒนาสู่ความเสียวระดับสูงขึ้นกับ Giant Swing หรือโล้ชิงช้าท้าวัดใจ ในความสูง 20 ฟุต โดยเขาจะให้เราเดินขึ้นไปบนหอคอยจากนั้นให้ยืนชมวิวประมาณ 5 วิ แล้วตัวของเราก็จะทิ้งดิ่งลงมาเหมือนได้โล้ชิงช้าไปในอากาศ ความเสียวของเครื่องเล่นนี้เราให้ไปเลย 9 เต็ม 10 ค่ะ


 
มาถึงเครื่องเล่นที่เสียวสุดๆ ของที่นี่ก็คือ Tower Jump เป็นการผสมผสานการโดดหอของทหารเข้ากับการเล่นบันจี้ จัมพ์ โดยเป็นการทิ้งตัวจากความสูง 50 ฟุต แบบ Free Fall และดีดเด้งลอยขึ้นสู่อากาศอีกครั้งและอีกครั้งแบบบันจี้ จัมพ์ ระดับความเสียวให้ไปเลย 10 เต็ม 10 ใครอยากลองเล่นบันจี้จัมพ์แนะนำให้มาลองกระโดด Tower Jump กันก่อนเลยค่ะเพราะได้ความรู้สึกที่เหมือนกันมากๆ
 

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสุดสนุกให้เราได้ทดสอบความสามารถทั้งการปีนหน้าผาจำลอง การยิงธนู ส่วนใครที่อยากลองล่องแก่งเขาก็มี Canyon Rafting ล่องเรือคายัค พุ่งทะยานผ่านน้ำตกและแก่งหิน ระดับต่างๆ ถึง 4 แก่ง ด้วยระยะทาง 350 เมตร สนุกและตื่นเต้นมากๆ ซึ่งสามารถมาเล่นได้ทุกฤดูกาลเลยค่ะ และสำหรับกิจกรรมทางน้ำของที่นี่ยังมีจักรยานน้ำ พายเรือคายัค Air Ball ให้ได้เลือกเล่นกันอีกมากมาย 

   
 
หลังจากเรียกเหงื่อไปกับกิจกรรมโซนแอดเวนเจอร์ปาร์คกันแล้ว เราก็กลับไปอาบน้ำผักผ่อนที่บ้านพักเพื่อจะมาทานดินเนอร์สุดอร่อยที่ร้านภูแก้ว สเต็ก คอทเทจ ร้านอาหารภายในรีสอร์ทซึ่งตั้งอยู่บริเวณล็อบบี้ 
 

โดยห้องอาหารภูแก้ว เสต็ก คอทเทจให้บริการทั้งอาหารไทยและยุโรปและยังสามารถมาจัดเลี้ยงสังสรรค์ได้อีกด้วยค่ะ

 
 
เมนูอาหารที่เราทานกันในวันนี้ทั้งยำปลาทอดสมุนไพร กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา ต้มยำปลาคัง เสต็กหมูคุโรบูตะ ย่างร้อนๆ เสิร์ฟกับส้มตำรสจัดจ้าน สลัดผักผลไม้กุ้งทอด แกงหมูพริกขี้หนูสด ที่อร่อยทุกเมนูเลยค่ะ ราคาก็ไม่แพงเป็นมื้อค่ำที่เราอิ่มอร่อยและมีความสุขมากๆ 

  

 
บรรยากาศในตอนกลางคืนของภูแก้ว รีสอร์ท แอนด์ แอดเวนเจอร์ ปาร์ค ที่สวยงามไม่แพ้กลางวันเลยล่ะค่ะ พระอาทิตย์ที่ค่อยๆ ลาลับขอบฟ้า อากาศเย็นๆ ที่เราไม่สามารถหาได้ในกรุงเทพฯ เสียงแมลงที่เป็นเหมือนเครื่องดนตรีขับกล่อมให้เรานอนหลับฝันดี คือความสุขที่เราได้รับจาก ภูแก้ว รีสอร์ท แอนด์ แอดเวนเจอร์ ปาร์ค  เขาค้อแห่งนี้

 
 
เช้านี้เราตื่นมาด้วยความสดใสของสายหมอกที่มาทักทายหน้าบ้าน สูดกลิ่นของเช้าวันใหม่ แล้วไปทานอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ที่ร้านภูแก้ว เสต็ก คอทเทจ โดยมีทั้งเมนูแบบอเมริกัน เบรคฟาสท์ ข้าวต้ม อาหารไทย กับข้าวมากมายให้เราได้เลือกทานกันอย่างเต็มอิ่ม

 

มุมสวนสไตล์อังกฤษชิลๆ บริเวณล้อบบี้ให้นั่งจิบเครื่องดื่ม ทานขนมอร่อย


 
เมื่อแบตชีวิตชาร์จเต็มแล้วเราก็ต้องเตรียมโบกมือลาเขาค้อกลับไปใช้ชีวิตในเมืองตามเดิม แม้ในความจริงยังไม่อยากกลับก็ตาม เพราะที่นี่ทำให้เราทิ้งเรื่องราวอันวุ่นวายไว้ข้างหลัง แล้วรับกับความสุข ความสนุก ที่ภูแก้ว รีสอร์ท แอนด์ แอดเวนเจอร์ ปาร์ค ได้มอบให้เรา
 
แล้วเราจะกลับมาพบกันใหม่... เขาค้อ
 
 

 

ที่ตั้ง : 75 หมู่ 14 ถนนพิษณุโลก-หล่มสัก ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
โทร : กรุงเทพฯ 023810691-4
เขาค้อ 056750053 / 0814099927
Adventure park 056750055  
www.phukaewresort.com
 

 

เขียนโดย
นางสาวฮานะ ชิลไปไหน
นางสาวฮานะ ชิลไปไหน