รีวิว SO Sofitel Hua Hin ที่พักริมทะเลสุดชิล สวยชิคทุกมุม เก๋ทุกรายละเอียด

calendar_month 27 มิ.ย. 2016 / stylus Admin Chillpainai / visibility 272,157 / รีวิวที่พัก

เชื่อว่าโซนหัวหิน-ชะอำ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตในใจของใครหลายคน ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ นอกจากจะมีชายหาดสวยๆ แล้ว ยังเป็นเมืองคลาสสิค โดยเป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศของราชวงศ์และชนชั้นสูงที่นิยมไปพักผ่อนกันที่นี่ วันนี้ชิลไปไหนจะพาไปแนะนำให้รู้จักกับที่พักเปิดใหม่ SO Sofitel Hua Hin ดีไซน์โฮเทลสุดเก๋ที่ตั้งอยู่ริมทะเลพร้อมชายหาดส่วนตัว จะเก๋ชิคขนาดไหน…ตามไปดูรีวิวกันเลยค่ะ

เราขับรถจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึงโรงแรม SO Sofitel Hua Hin กันแล้วค่ะ โรงแรมตั้งอยู่โซนชายหาดชะอำตอนเหนือ ไม่ไกลจากเส้นเลียบชายหาดชะอำมากนัก แต่บรรยากาศสงบและเป็นส่วนตัวกว่า ทางเข้าร่มรื่นมีต้นไม้สวยๆ ปลูกอยู่ทั่วบริเวณ

จอดรถเสร็จเราก็ไปเช็คอินที่ล็อบบี้กันค่ะ แต่ระหว่างทางก็ต้องสะดุดตากับเจ้ากระต่ายสีขาวตัวยักษ์ ที่ยืนเด่นต้อนรับอยู่หน้าทางเข้า เจ้าตัวนี้มีชื่อชั่วคราวว่า Mr. Rabbit เป็นกิมมิคเก๋ๆ ที่ทางโรงแรมตั้งใจให้เป็นเซอร์ไพรส์แขกที่มาพัก โดยเจ้า Mr. Rabbit จะทำหน้าที่เป็นเหมือน “Time Keeper” หรือผู้ดูแลเวลา ส่วนนาฬิกาเรือนยักษ์เป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งการ “หยุดเวลา” ที่เมื่อแขกที่เข้ามาในบริเวณโรงแรมแล้วจะรู้สึกผ่อนคลาย เพลิดเพลินกับการพักผ่อนอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องคำนึงถึงเวลา

ต้องบอกว่าตัวโรงแรม SO Sofitel Hua Hin ดีไซน์ได้อย่างโดดเด่นมากๆ นับตั้งแต่ตัวบันไดทางขึ้นล็อบบี้ที่อลังการมากๆ โดยเป็นผลงานการออกแบบของสถาปนิกชั้นนำของเอเชียอย่าง คุณดวงฤทธิ์ บุนนาค และบันไดแห่งนี้ยังนับเป็นบันไดหินอ่อนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยด้วยค่ะ

ส่วนภายในล็อบบี้ก็เก๋ ด้วยการโชว์โครงสร้างดิบๆ ของคอนกรีต พื้นหินอ่อน ผสานเข้ากับไม้ธรรมชาติได้อย่างลงตัว ผนังแต่ละด้านเพนท์เป็นรูปสวยๆ ผลงานการออกแบบของ มร. โดนาเทียน คาราทิเยร์ นักออกแบบภายในมือฉมังชาวฝรั่งเศส

นอกจากนี้ บริเวณโรงแรมยังมีรูปปั้นสัตว์หลากหลายชนิดที่คอยปรากฏตัวสร้างเซอร์ไพรส์ตามมุมต่างๆ อาทิเช่น กระต่าย เสือดาว จระเข้ ช้าง กระทิง ฮิปโป และเต่า ในคอนเซ็ปต์ “วิวัฒนาการแห่งชีวิต” ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาชื่อดัง ‘Grand Galerie de l’Evolution’ ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสนั่นเองค่ะ

ระหว่างลงทะเบียนเช็คอิน ทางพนักงานก็นำผ้าเย็นและเครื่องดื่ม Welcome Drink มาต้อนรับ ชื่อว่า “Welcome Elixir” ซึ่งหมายถึงน้ำวิเศษหรือน้ำอมฤต ที่จะช่วยเปิดประสาทสัมผัสในการท่องโลกแห่งจินตนาการ โดยมีส่วนผสมของกระเจี๊ยบช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ใบโหระพาที่ช่วยการไหลเวียนของเลือด และตะไคร้ที่ช่วยขับสารพิษในร่างกาย หลังจากจิบน้ำสมุนไพรหอมเย็นสดชื่นกันแล้ว เราก็ไปสำรวจห้องพักกันเลยค่ะ

ห้องพักแบบแรกที่เราจะไปสำรวจกันคือ SO Pool Villa ที่พักสไตล์พูลวิลล่าแบบ 1 ห้องนอน แต่อ๊ะๆ เดี๋ยวก่อน…อย่านึกว่าเป็นบ้านเป็นหลังเดี่ยวๆ แล้วมีสระว่ายน้ำส่วนตัวเท่านั้นนะคะ เพราะพูลวิลล่าของที่นี่ไม่ธรรมดา แบ่งออกเป็น 2 โซน คือหลังที่เป็นห้องนอน พร้อมห้องน้ำในตัวโดยเฉพาะ ส่วนอีกหลังเป็นห้องนั่งเล่น รับประทานอาหาร และห้องน้ำในตัวแยกกันต่างหากให้พักผ่อนกันชิลๆ เลยค่ะ

สำหรับห้องพักของ SO Sofitel Hua Hin จะออกแบบใน 2 สไตล์ คือ “โซ อาร์ตี้” (SO Arty) และ “โซ เนเจอร์” (SO Nature) ซึ่งวิลล่าหลังนี้เป็นสไตล์โซ อาร์ตี้ ตกแต่งอย่างหรูหราในสไตล์ฝรั่งเศสร่วมสมัย เฟอร์นิเจอร์สีสันสดใสออกแนวเฟมินีนนิดๆ เหมาะกับสาวๆ ที่ชอบสไตล์นี้เลยค่ะ

ห้องนั่งเล่นมีโซฟาเบดที่สามารถปรับเป็นเตียงนอนได้ด้วยค่ะ

ส่วนภายในห้องนอนจะมีเตียงคิงส์ไซส์ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งฝักบัวแบบเรนชาวเวอร์ อินเตอร์เน็ทไร้สายความเร็วสูง และระบบเครื่องเสียง Bose เรียกว่าคัดมาแต่สุดยอดทั้งนั้น

ห้องน้ำกว้างมากๆ เลยค่ะ แยกโซนมีทั้งห้องอาบน้ำ ห้องสุขา และอ่างล้างหน้าแยกเป็นสัดส่วน

ไปดูวิลล่าแบบ 2 ห้องนอนกันบ้าง หลังนี้เป็นสไตล์ “โซ เนเจอร์” ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติอันสวยงาม ในห้องพักประดับตกแต่งด้วยส่วนประกอบต่างๆ จากธรรมชาติผสานด้วยความงามจากศิลปะในแบบฝรั่งเศส

ในส่วนของห้องนอนเล็กก็เก๋ไก๋มากๆ ใช้รากไม้มาประดับหัวเตียงเป็นส่วนผสมระหว่างธรรมชาติกับงานศิลปะได้อย่างลงตัว

ห้องนอนใหญ่ โดดเด่นด้วยเตียงสี่เสาที่ใช้ไม้ธรรมชาติ ให้บรรยากาศเหมือนพักผ่อนอยู่ใต้ร่มไม้ มีผ้าเก๋ๆ พาดแทนมุ้งช่วยลดทอนความดิบ ส่วนห้องน้ำก็กว้างจนแทบจะนอนกลิ้งเล่นได้ และยังมีอ่างอาบน้ำให้นอนแช่ชิลๆ

มาต่อกันที่ห้อง SO Family Kids House ห้องพักที่เหมาะกับครอบครัวมากๆ โดยมีห้องพักทรงลูกบาศก์สำหรับเด็กๆ โดยเฉพาะ ด้านในมีเตียงสองชั้นให้เด็กๆ ได้ปีนป่ายกันเหมือนเป็นฐานลับส่วนตัว ส่วนคุณพ่อคุณแม่ก็พักผ่อนในห้องนอนใหญ่ที่อยู่เชื่อมกัน น่าพาครอบครัวมาพักผ่อนกันชิลๆ

ห้องนี้เป็นห้องพักสไตล์ SO Arty ซึ่งจะแตกต่างจากห้อง SO Nature อย่างสิ้นเชิง นอกจากจะเก๋ชิคในสไตล์ฝรั่งเศสร่วมสมัย ยังมีภาพถ่ายฝีมือของช่างภาพชื่อดัง มิส โลอิส กรีนฟิลด์ (Lois Greenfield) ชาวอเมริกัน ภาพถ่ายอิริยาบถของหญิงสาวที่ดูอ่อนช้อยงดงามตัดกับผนังคอนกรีตสไตล์ลอฟต์ ได้อารมณ์เหมือนพักผ่อนอยู่ในแกลเลอรี่เล็กๆ ทีเดียวค่ะ

ส่วนใครที่มาพักผ่อนเป็นคู่ ลองดูห้อง SO Studio ห้องพักที่มีระเบียงส่วนตัวให้นั่งเล่นพักผ่อน ภายในห้องกว้างขวางมากๆ ตกแต่งอย่างสวยงาม มีให้เลือกทั้งสไตล์โซ อาร์ตี้ และโซ เนเจอร์

ห้องแบบสุดท้าย ซึ่งเป็นห้องที่เราพักกันคืนนี้ คือ ห้อง SO Comfy ที่อบอุ่นสบายสมชื่อจริงๆ ค่ะ สามารถเลือกพักได้ทั้งเตียงคู่และเตียงเดียว ห้องพักแบบนี้จะอยู่บนชั้น 2-3 ของตัวตึก สามารถเปิดประตูไปรับลมที่ระเบียงเล็กๆ ด้านนอกได้ด้วย

ชมห้องพักหลากหลายแบบหลายสไตล์กันไปแล้ว ก็ถึงเวลาทานมื้อเที่ยง เราไปฝากท้องกันที่ห้องอาหาร White Oven ของโรงแรม ที่ตกแต่งได้อย่างสวยเก๋น่านั่ง มีทั้งโซนอินดอร์และเอาท์ดอร์ ไฮไลท์ของที่นี่คือ เตาอบหลักสีขาวที่ตั้งอยู่ใจกลางห้องอาหาร ที่นี่จะเน้นเสิร์ฟอาหารไทยในรูปแบบใหม่ที่เน้นความสดใหม่ของวัตถุดิบที่หาได้จากในพื้นที่ จากฝีมือของเชฟที่ปรุงอย่างพิถีพิถัน แต่ละจานถูกนำเสนอได้อย่างโดดเด่น น่าสนใจ ไม่แพ้รสชาติเลยค่ะ

อิ่มท้องกันแล้วก็ได้เวลาพักผ่อน เราไปเดินเล่นชิลๆ ที่ชายหาดย่อยอาหารกัน ระหว่างทางเดินนั้นก็จะเห็นมุมถ่ายรูปเก๋ๆ ซ่อนอยู่หลายที่เลยทีเดียวค่ะ อย่างเจ้ากระต่ายน้อยฝูงนี้ที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ในสวน

บริเวณชายหาดส่วนตัวของรีสอร์ท มีเตียงและเบาะบีนแบ็คให้เรานั่งเล่นชิลๆ รับลมทะเลกันหลายมุมเลยทีเดียวค่ะ

ส่วนใครอยากออกกำลังกายหลังย่อยอาหาร ทางโรงแรมก็มีสระว่ายน้ำให้เลือกว่ายถึง 2 สระ คือ SO Pool ที่อยู่ติดริมทะเล และ Solarium Pool ที่มีความเป็นส่วนตัวและเงียบสงบให้บริการสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้นค่ะ

หรือใครอยากผ่อนคลายทำสปา ทาง SO Sofitel Hua Hin ก็มีโซ สปา (SoSPA) ที่ให้คุณผ่อนคลายไปกับทรีตเมนท์สุดพิเศษจากแบรนด์เวชสำอางชั้นนำจากประเทศฝรั่งเศสอย่าง ฟิโตแมร์ (Phytomer) ที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีประทินผิวที่ผลิตจากท้องทะเลและแบรนด์ที่ได้ผสานสมุนไพรประทินผิวของไทยอย่าง อิสระ (YTSARA) ภายในโซ สปา มีทั้งห้องเดี่ยวและห้องสปาสวีทที่ให้บริการนวดผ่อนคลาย ทรีตเมนท์บำบัด พร้อมอ่างสปาให้แช่แบบเป็นส่วนตัว โดยการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญด้านสปาเธอราพิสต์โดยเฉพาะ

หลังจากรีแลกซ์กันเต็มที่แล้ว มื้อเย็นเราไปดินเนอร์กันที่ห้องอาหารบีช โซไซตี้ (Beach Society) ห้องอาหารริมชายหาดที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้อย่างชัดเจน เมนูที่นี่เน้นอาหารทะเลสดใหม่มีให้เลือกหลากหลายเมนู จานเด็ดที่เราติดใจในรสชาติ อาทิ Smoked Fish Tartines ปลาแซลมอนรมควัน เสิร์ฟบนขนมปังพร้อมผักดองและซอสรสเปรี้ยว ต่อด้วย Calamari ปลาหมึกชุบแป้งทอดทานกับเลมอนและซอสมายองเนส และยังมีพิซซ่าซีฟู้ดโฮมเมดถาดใหญ่มากๆ ตบท้ายด้วยเมนูของหวานจานเด็ดอย่างคุ้กกี้ช็อกโกแลตลาวา เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมวานิลลา ฟินสุดๆ กันเลยทีเดียวค่ะ

นอกจากนี้ ใกล้ๆ กันกับห้องอาหารบีช โซไซตี้ ยังมีบีชบาร์ ให้เราปาร์ตี้ค็อกเทลริมชายหาด ฟังเสียงเพลงเคล้าคลอเสียงคลื่นกันแบบชิลๆ อีกด้วยค่ะ ซึ่งทุกวันเสาร์แรกของเดือนยิ่งห้ามพลาด เพราะทางโรงแรมจะมีจัดบีช ปาร์ตี้ พร้อมดีเจ ให้ได้สนุกกันอย่างเต็มที่

หรือใครชอบชมวิวจากมุมสูง แนะนำไปนั่งเล่นรับลมบนดาดฟ้ากันต่อที่ ไฮโซ (HI-SO) รูฟท็อปบาร์สุดเก๋ที่เราสามารถมองเห็นวิวทะเล พร้อมจิบค็อกเทลสุดพิเศษรังสรรค์จากมิกโซโลจิสท์มือหนึ่งไปด้วย นั่งแฮงเอาท์ชิลยาวกันได้จนถึงตีหนึ่งกันเลยค่ะ

ไปชมบรรยากาศตอนกลางคืนกันบ้าง ทางโรงแรมมีการจุดเทียนและประดับด้วยแสงไฟสวยงามชวนโรแมนติกน่าค้นหามากๆ ดูลึกลับไปอีกแบบ

ตอนเช้าตื่นมาพร้อมความสดใส เราก็ไปทานเบรกฟาสต์กันที่ห้องอาหารของโรงแรม อาหารเช้าที่นี่มีให้เลือกหลากหลายมากๆ เลยค่ะ ได้นั่งจิบกาแฟตอนเช้า ชมวิวไปด้วยแบบนี้ ฟินสุดๆ

เวลา 2 วัน 1 คืนที่เราได้มาพักผ่อนที่นี่ ดูผ่านไปเร็วเหลือเกิน..ยังอยากอยู่พักผ่อนต่ออีกนานๆ ใครกำลังมองหาที่พักเก๋ๆ ชิคๆ ติดริมทะเลที่ไม่ธรรมดาแบบนี้ ต้องลองมาพักกันที่โรงแรม SO Sofitel Hua Hin แล้วจะตกหลุมรักที่นี่เหมือนเราแน่นอนค่ะ

SO Sofitel Hua Hin
115 หมู่ 7 ตำบลบางเก่า อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
โทร.032-709 555
www.facebook.com/SOSofitelHuaHin
www.so-sofitel-huahin.com