0
0
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

รีวิว โรงแรม โฮเทล โคลเวอร์ อโศก (Hotel Clover Asoke) ที่พักสุดโรแมนติกใจกลางกรุงที่คุณต้องหลงรัก

calendar_month 26 มิ.ย. 2016 / stylus นางสาวฮานะ ชิลไปไหน / visibility 57,729 / รีวิวที่พัก

ไปพักที่พักต่างจังหวัดมาก็เยอะแล้ว
วันนี้หมอนขนเป็ดขอเปลี่ยนมานอนพักในกรุงบ้างค่ะ
พอดีมีโอกาสได้ไปพักที่ 
โรงแรม โฮเทล โคลเวอร์ อโศก (Hotel Clover Asoke) 
ที่พักสไตล์บูทีคโฮเทลจากประเทศสิงคโปร์
ที่มาเปิดใหม่ล่าสุดใจกลางกรุงเทพมหานคร
หมอนขนเป็ดเลยเก็บภาพบรรยากาศ ความประทับใจมาฝากเพื่อนๆ ชาวชิลไปไหน
พร้อมแล้วก็นั่งบีทีเอสไปกันเลยค่ะ

05

 
การเดินทางมายังโรงแรม โฮเทล โคลเวอร์ อโศก  (Hotel Clover Asoke) ที่สะดวกที่สุดคือนั่งรถไฟฟ้าบีทีเอสมาลงสถานีอโศกหรือ นั่งรถไฟใต้ดินเอ็มอาร์ที มาลงสถานีสุขุมวิท จากนั้นใช้ทางเดินลอยฟ้าข้ามแยกอโศก-สุขุมวิทมายังอาคารเอ็กเชน ทาวเวอร์ แล้วเดินมาตามถนนรัชดาภิเษกก็จะพบโรงแรม โคลเวอร์ อโศก ตั้งอยู่บริเวณปากซอยสุขุมวิท 16  จากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสใช้เวลาเดินทางมาประมาณ 5 นาทีเท่านั้นค่ะ
 
 


ถึงแล้วค่ะโรงแรม โฮเทล โคลเวอร์ อโศก ที่เราจะพักกันในคืนนี้


 
เดินเข้ามาภายในล็อบบี้ก็ประทับใจเลยค่ะ เพราะเขาตกแต่งได้สวยงามด้วยชุดโซฟาดีไซน์สุดเก๋ สีสันสดใส และที่เก๋ที่สุดคือมีรูปปั้นปลาโลมาลอยอยู่บนเพดานที่ดีไซน์เป็นเหมือนท้องฟ้าสะดุดตามากๆ ค่ะ

และที่ประทับใจเมื่อก้าวเข้ามาที่นี่คือรอยยิ้มของพนักงานทุกคน ตั้งแต่พี่ๆ พนักงานรักษาความปลอดภัย แม่บ้าน พนักงานต้อนรับที่ยิ้มแย้มทักทาย เป็นกันเองมากๆ ค่ะ

ห้องพักที่เราเช็คอินในคืนนี้คือ LADY ROOM ซึ่งที่นี่เขาจัดชั้น 5 เป็นโซน LADY สำหรับสาวๆ เท่านั้นค่ะ เพื่อความมั่นใจของสาวๆ นักเดินทางที่คำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
 


 
เปิดประตูลิฟต์มาก็เจอกับรองเท้าส้นสูงขนาดใหญ่หน้าลิฟต์เลยค่ะ เก๋ไก๋มากๆ เลยขอเซลฟี่ไว้อัพโซเชียลโชว์เพื่อนๆ ก่อนเลย
 


 
บริเวณทางเดินเลดี้รูมที่เขานำรูปภาพเก๋ๆ โดยปรินท์ลงบนผ้าแคนวาสมาประดับบนผนังน่ารัก เก๋ไก๋ ดูผู้ญิ้ง ผู้หญิงมากๆ และบริเวณทางเดินเขาจะมีกลิ่นหอมของอโรมาเธอราพีในบริเวณทางเดินด้วยค่ะ
 

Lady Room 


ถึงแล้วค่ะห้องพักของเรากับห้อง Lady Room เข้ามาก็ประทับใจกับการตกแต่งได้น่ารักมากๆ ขนาดของห้องประมาณ 22 ตารางเมตร กว้างกำลังดีสำหรับพักสองคน เตียงขนาดคิงไซส์ ที่นอนนุ่มน่าทิ้งตัวลงนอนมากๆ 
 
 
 
 
และที่ชอบที่สุดคือรายละเอียดภายในห้องที่เขาใส่ใจมากๆ  โดยห้องนี้ถ้าเปรียบเป็นผู้หญิงคงจะเป็นผู้หญิง เปรี้ยว เท่ ชอบงานศิลปะ แฟชั่นและการเดินทาง เพราะรายละเอียดเหล่านี้ปรากฏบนภาพบนหัวเตียง การเลือกใช้สีของเก้าอี้ โซฟา ลายของหมอนอิงที่แมชกันมากๆ 


 

รายละเอียดเล็กๆ ที่ทำให้ห้องนี้น่าพักมากๆ
 
 
 
 
ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องมีทั้งสมาร์ททีวี 40 นิ้ว โทรศัพท์ไร้สาย สัญญาณไวไฟ ตู้เย็น ชา กาแฟ เครื่องทำกาแฟสด ไดร์เป่าผม และสำหรับ Lady Room จะมีแปรงไฟฟ้าให้ด้วยค่ะ ตอบสนองความต้องการของสาวๆ ได้ดีมากเลย
 

 

และความพิเศษของที่นี่คือการเลือกชากาแฟที่เขาใช้กาแฟสด และเครื่องทำกาแฟสดยี่ห้อ Segafredo ได้ใจคนชอบทานกาแฟแบบหมอนขนเป็ดมากๆ



 
 
ในส่วนของห้องน้ำแยกส่วนเปียกและแห้ง มีระบบน้ำร้อน น้ำเย็น และภาพสอนวิธีการใช้ระบบน้ำร้อนน้ำเย็นที่ทำเป็นรูปคุณช้างน่ารักมากๆ

 
 
อุปกรณ์ในห้องน้ำของที่นี่เขาจัดเต็มทั้ง สบู่เหลว ยาสระผม ครีมทาผิว หมวกคลุมอาบน้ำ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ที่โกนหนวด และที่ชอบคือกลิ่นหอมอ่อนๆจากผ้าขนหนูและอุปกรณ์ในห้องน้ำ เพียงแค่เปิดซองมาก็จะมีกลิ่นหอมจางๆ มาทักทาย
 
 
 
 
หลังจากเก็บของเสร็จท้องก็เริ่มร้องแล้วค่ะ ทางโรงแรมเลยแนะนำห้องอาหาร  The Clover Sky Restaurant & Bar ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชั้น R หรือชั้นบนสุดของโรงแรม เป็นร้านอาหารสไตล์ฟิวชั่น บริการอาหารไทยและอาหารนานาชาติ โดยจุดเด่นของที่นี่คือวิวแบบพาโนราม่าที่สามารถมองเห็นวิวของ 4 แยกอโศก-สุขุมวิท ที่มีรถไฟฟ้าบีทีเอสวิ่งผ่านได้เกือบ 360 องศาเลยค่ะ ยิ่งวิวยามค่ำคืนของที่นี่จะสวยงามมากๆ โดยจะแบ่งโซนเป็นอินดอร์ตกแต่งสวยงามมีกระจกใสรอบด้านที่สามารถมองเห็นวิวภายนอกได้ ภายในยังมีห้องไพรเวต 2 ห้องที่แบ่งเป็นห้องคอมพลิเมนทารี่ของลูกค้า EXECUTIVE CORNER ที่สามารถมาทานเครื่องดื่มและขนมได้ตลอดเวลา และส่วนห้องไพรเวตที่สามารถมาจัดเลี้ยงสังสรรค์ ร้องคาราโอเกะพร้อมชมวิวกรุงเทพฯ ในยามค่ำคืนได้ อีกไฮไลท์ของห้องอาหารนี้คือส่วนของบาร์ริมสระว่ายน้ำที่อยู่ในส่วนเอาท์ดอร์และเป็นจุดชมวิวของกรุงเทพฯ ที่สวยงามมากๆ ค่ะ แต่ก่อนจะไปชมวิวยามค่ำคืนมาทานอาหารกลางวันกันก่อน
 

  
 
มื้อกลางวันของวันนี้เราจะมาทานโปรโมชั่นเซ็ตลันช์ราคา 119 บาทเน็ตเท่านั้น โดยในเซ็ตนี้จะมีอาหารจานหลัก 1 จาน เครื่องดื่ม 1 แก้ว และ ขนมหวานคือไอศกรีมหนึ่งถ้วย บอกเลยว่าคุ้มสุดๆ
 


ทานข้าวกลางวันเสร็จแอบลงไปชั้นล่าง เพื่อไปชมห้องออกกำลังกายที่มีเครื่องออกกำลังกายเยอะมาก เลยกะว่าตอนเช้าว่ายน้ำเสร็จจะมาออกกำลังกายสักหน่อย
 

Lady Room 

 
  
 
หลังจากลงไปชมห้องออกกำลังกายเสร็จแล้วเราเลยขอพี่ๆ เจ้าหน้าที่โรงแรมเพื่อไปชมห้องต่างๆ ของโรงแรม โฮเทล โคลเวอร์ อโศก โดยจุดเด่นของที่นี่คือห้องพักที่ตกแต่งได้ไม่เหมือนกันเลยค่ะ เราเริ่มต้นจากโซนเลดี้รูมที่เราพักอยู่กันก่อน การตกแต่งของห้องเลดี้รูมนั้นจะเหมือนผู้หญิงคาแรกเตอร์ต่างๆ บางห้องเปิดเข้าไปแล้วรู้สึกเหมือนได้ไปเที่ยวทะเล บางห้องเป็นตัวการ์ตูนน่ารักๆ เหมาะสำหรับสาวแบ๊ว ส่วนสาวสายช้อปปิ้ง สายปาร์ตี้ หรือไม่ว่าคุณจะเป็นสาวคาแรกเตอร์แบบใด ห้องพักที่นี่ก็ตกแต่งได้ตอบสนองความต้องการของสาวๆ ได้ทุกคน 

EXECUTIVE CORNER


 
 

นอกจากเลดี้รูมแล้วในชั้นนี้ยังมีส่วนของห้องมุมที่เรียกว่า EXECUTIVE CORNER โดยจะมีพื้นที่ 32 ตารางเมตร เป็นห้องมุมที่สามารถนอนชมวิวของย่านอโศกได้จากเตียงเลยค่ะ 
 
  
 
โดยความพิเศษของห้องนี้คือจะแบ่งโซนเป็นห้องนอนและห้องรับแขก และยังสามารถเสริมเตียงได้อีกด้วยค่ะ สำหรับลูกค้าที่จองห้อง EXECUTIVE CORNER  ยังสามารถทาน Complimentary ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มในตู้เย็น ขนมภายในห้อง และผลไม้สดๆ ได้ฟรีอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถขึ้นไปทาน Complimentary ที่ห้องอาหาร The Clover Sky Restaurant & Bar ทั้งเครื่องดื่มของว่างได้ฟรีตลอดวันอีกด้วย และในยามเย็นยังมีโปรโมชั่น Happy Hours ตั้งแต่เวลา 17.30-19.00 น. สั่งเครื่องดื่มทั้งแบบมีแอลกอฮอล์และแบบไม่มีแอลกอฮอล์ รวมทั้งอาหารได้ฟรีอีกด้วย บอกเลยว่ามาพักห้องนี้คุ้มเกินคุ้มเลยค่ะ 
 


 
และในชั้นเลดี้นี้ยังมีห้อง EXECUTIVE CORNER แบบไม่ได้กั้นโซนห้องนอนและห้องรับแขกแต่จะเปิดถึงกันหมดเลย โดยที่พื้นที่ของห้องนี้จะมีขนาด 32 ตารางเมตร
 

Clover Style Room 

 
 
จากชั้น 5 เราขึ้นลิฟต์เพื่อไปชมห้องสไตล์ Clover Style ซึ่งจะอยู่บริเวณชั้น 8 และ ชั้น 9 ห้องพักมีพื้นที่ 22 ตารางเมตร  โดยความพิเศษของ Clover Style คือการตกแต่งด้วยวัสดุจากจิม ทอมป์สัน ไม่ว่าจะเป็นภาพหัวเตียง เก้าอี้ โซฟา หมอน ที่เป็นผ้าจาก จิม ทอมป์สัน ทำให้ห้องเรียบหรูดูดีน่านอนมากๆ ค่ะ 
 

Standard Room
 


 
ในส่วนของห้องสแตนดาร์ดรูมจะอยู่บริเวณชั้น 2, 3, 6 และ 7 ห้องนี้มีพื้นที่ 22 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเช่นเดียวกันแต่ที่แตกต่างคือตรงผนังจะไม่มีภาพเหมือนโซนเลดี้รูมและโซน  Clover Style 

 
 
ความโดดเด่นของที่นี่อีกสิ่งหนึ่งคือในส่วนของทางเดินแต่ละชั้นนั้นตกแต่งไม่เหมือนกันเลยค่ะ โดยบริเวณทางเดินจะตกแต่งให้เข้ากับภายในห้องพัก การมาพักที่นี่จึงเหมือนการเดินชมภาพศิลปะสวยๆ ของแต่ละชั้น ทำให้เราเพลิดเพลินมากๆ เลยค่ะ


ถึงเวลาทานอาหารค่ำแล้วค่ะ เรากดลิฟต์มายังชั้น R เพื่อมาดินเนอร์ที่ ห้องอาหาร The Clover Sky Restaurant & Bar ที่เดิมแต่เพิ่มเติมคือความโรแมนติกที่อยากจะเปลี่ยนเพื่อนสาวที่มาด้วยเป็นชายหนุ่มสุดหล่อ เพราะบรรยากาศสวยงามเกินบรรยายเลยค่ะ


     
 
เมนูอาหารในวันนี้ค่ะ โดยเราเลือกเป็นเซ็ตดินเนอร์ที่จะประกอบไปด้วย Chef Salad สลัดพักสดทานกับน้ำสลัดอิตาเลียน เดรสซิ่ง, ซุปเห็ด, ปีกไก่ซอสบาร์บีคิว, ปอเปี๊ยะผัก, ต้มยำกุ้ง, ผัดไทยกุ้งสด, Battered Fish & Chips ที่เขาใช้เนื้อปลากระพง และเครื่องดื่มม็อคเทลสตอเบอร์รี่เวอร์จินและเวอร์จินไหมไทย ทานอาหารอร่อยเคล้ากับบรรยากาศของกรุงเทพฯในยามค่ำคืนที่สวยประทับใจมากๆ ค่ะ

 

หลังจากทานอาหารเสร็จก็ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มค็อกเทล ฟังเพลงเพราะๆ และชมวิวสวยๆ ของกรุงเทพฯ แบบพาโนราม่าบริเวณบาร์ริมสระว่ายน้ำเป็นค่ำคืนที่ทำให้เราได้รู้ว่ากรุงเทพฯ นั้นสวยงามและโรแมนติกกว่าที่เรารู้จัก


ในยามเช้าห้องอาหาร  The Clover Sky Restaurant & Bar ถูกเปลี่ยนเป็นห้องอาหารเช้าที่มีอาหารนานาชาติมากมายทั้งอาหารไทย สลัด ขนมปัง ไส้กรอก มุมไข่ที่เราสามารถสั่งจากเชฟได้ว่าต้องการไข่แบบไหน ผลไม้ และอีกมากมายที่เขาให้เราจัดเต็มก่อนกลับบ้านวันนี้

  

หนึ่งคืนกับการได้เปลี่ยนที่นอนมาพักที่ โรงแรม โฮเทล โคลเวอร์ อโศก  นั้นสร้างความประทับใจให้กับเรามากมาย ทั้งมีความสุขจากห้องพักน่ารัก อิ่มอร่อยจากอาหาร และชมวิวสวยๆ ยามค่ำคืน เพื่อนๆ คนไหนที่อยากมาสัมผัสประสบการณ์ความสุขแบบนี้ก็มากันได้เลยค่ะที่ โรงแรม โฮเทล โคลเวอร์ อโศก   (Hotel Clover Asoke) แล้วคุณจะตกหลุมรักที่นี่เหมือนกับเรา

ที่ตั้ง : 9/1 ซอยสุุขุมวิท 16 (สามมิตร) แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพ
โทร : 02-258-8555
http://www.hotelclover-th.com/


 

เขียนโดย
นางสาวฮานะ ชิลไปไหน
นางสาวฮานะ ชิลไปไหน