0
0
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

รีวิว WISH ME LUCK แบ็คแพคลากแตะ นั่งรถไฟฟรีไปฟูลมูน

calendar_month 14 ม.ค. 2016 / stylus Admin Chillpainai / visibility 55,903 / รีวิวที่เที่ยว



"   WISH ME LUCK  "
แบ็คแพคลากแตะ  ..  นั่งรถไฟฟรีไปฟูลมูน


 



เป็นไรว่ะ .. ไปทะเลคนเดียว? 
อกหัก
รักคุด
อินดี้
ติสท์แตก

ทำไม ใครๆต้องคิดว่า การไปทะเลคนเดียวมีอยู่แค่ 2 เหตุผล คือ ไม่หนีร้อน ก็หนีรัก 
สำหรับเรา เราไม่ได้หนีร้อนหรือหนีรัก แต่เรากำลังเดินทางไปหา “ ที่รัก ” 


ทริปนี้ออกเดินทางตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. – 2 ก.ค. 58

แพลนการเดินทาง 
นั่งรถไฟฟรี ลงเรือนอน ไปเกาะเต่า – เกาะนางยวน – ปิดท้ายด้วย ฟูลมูนปาร์ตี้ที่เกาะพงัน  
นั่นแหละคือแพลนทั้งหมดที่เรามี ไม่มีการจองที่พัก หรือตั๋วขากลับอะไรใดๆทั้งสิ้น 

::: เรื่องคาใจ :::
จริงๆทริปนี้มันคือทริปค้างปี ทริปเก่าเก็บที่เราเคยทำไว้ไม่สำเร็จ และกวนใจเรามานาน 
ย้อนกลับไปเมื่อ ศุกร์ 13 มิ.ย. 57 เราเคยออกเดินทางทริปนี้มาแล้ว 
วันนั้นเราเจอฝนตั้งแต่กรุงเทพ – ชุมพร เมื่อถึงสถานีรถไฟชุมพร 
เราถามนายสถานีว่าฝนตกแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว 
ได้คำตอบว่าตกแบบนี้มาทั้งอาทิตย์แล้วน้อง 
น้องจะไปไหนเกาะเต่าเหรอ?  ใช่คับ แต่ตอนนี้ไม่ไปแล้ว (เราไม่ชอบฝน)
ตั๋วกลับกรุงเทพรอบเร็วสุดให้ผมที่นึงด้วยคับ 
จากวันนั้นจนวันนี้ก็ปีนึงเต็มๆ ครั้งนี้เราตั้งใจว่ายังไงก็ต้องทำให้สำเร็จ 
ไม่ว่าฝนจะตกแดดจะออก เราก็จะไป 


::: ขอให้เราโชคดี :::




เช้าวันเสาร์ที่ 27 มิ.ย. 58
ตื่นแต่เช้าออกไปรับตั๋วรถไฟฟรี ขบวน 171 ก่อนตั้งแต่ประมาณ 7:30น. 
เข้ามาในตัวสถานี MRT เรียบร้อยตอนแรกตั้งใจว่าจะไปรับตั๋วที่สถานีบางซื่อ
แต่เปลี่ยนใจอยากไปตั้งต้นทริปที่หัวลำโพงเหมือนทุกๆทริป 
ทำไงทีนี้หยอดเหรียญมาเรียบร้อย ไม่เป็นไรไปถึงสถานีหัวลำโพง เอาเหรียญไปแตะประตูกั้นทางออก 
แล้วเดินมามอบตัวกับพนักงาน นี่ก็พูดเวอร์ไป แค่ไปจ่ายเงินส่วนต่างแค่นั้นเอง เราทำประจำเวลาที่เปลี่ยนใจอยากไปที่อื่นต่อ

MRT หัวลำโพง
พนักงานสาวฟันเหล็กเด็กแนวเดินมารับเรื่อง
พนง : สวัสดีค่ะ ลงเลยสถานีเหรอคะ
เรา : ใช่คับ
พนง : แล้วตัวเองจะไปลงที่สถานีไหน
เรา : สตั๊นไป 3 วิ คือสรรพนามนี้ เราไว้ใช้กับคนพิเศษกันป่าวว่ะ 
        (แต่พูดตรงๆก็แอบรู้สึกดีแหละ) อ๋อมาลงนี่แหละคับ
พนง : แล้วตัวเอง ขึ้นมาจากไหน สตั๊นรอบ2 
เรา : ลาดพร้าวคับ 
พนง : จ่ายส่วนต่างเพิ่ม 19 บาท นะคะ 
เรา : จ่ายเงินเสร็จ เรากล่าวคำขอบคุณ รับเหรียญแล้วเดินออกมา 

สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง)
ไปถึงห้องขายตั๋ว ยื่นบัตรประชาชน พร้อมทั้งบอกจุดหมาย
ขบวน 171 ไปชุมพรคับ ขอที่นั่งฝั่งซ้ายริมหน้าต่าง 
พนักงานคีย์ข้อมูลพร้อมทั้งปริ้นตั๋วให้ตามที่ต้องการ 
รับตั๋วเสร็จเดินออกมา พร้อมรอยยิ้มบางๆที่มุมปาก 
ทำไมเรารู้สึกว่าทริปนี้เราจะเจอแต่เรื่องดีๆ : )
::: การเดินทางข้ามคืน :::




วันแรกของการเดินทาง 
27 มิ.ย. 58
รถไฟ กรุงเทพ – ชุมพร 
เรือนอน ชุมพร – เกาะเต่า
เรามาถึงสถานีก่อนเวลารถออกประมาณครึ่งชั่วโมง เดินหาที่นั่งเก็บของเรียบร้อย
ยังพอมีเวลาให้ถ่ายรูปเล่น ให้พี่ผช ช่วยถ่ายรูปให้ยังไม่ค่อยถูกใจนัก ขอบคุณแล้วเดินออกมา
มาเจอกลุ่มน้องผญ กำลังจะขึ้นรถ เราเลยขอให้ช่วยถ่ายรูปให้อีกที 

กำลังรอรถไฟขบวนไหนกันอยู่หรือเปล่า ?
กี่ขบวนแล้วที่ปล่อยผ่านไป ?


บางครั้งการขึ้นรถไฟผิดขบวน อาจพาเราไปถึงสถานีที่ใช่ก็ได้ 



น้ำอัดลม ชา กาแฟ ข้าวกล่อง ยาลม ยาดม ยาหม่อง ผ้าเย็น 
ยังไม่ทันไปไหนนี่ก็เสียเงินซะแล้ว กาแฟแก้วละ 20บาท 
รถวิ่งออกมา ยังไม่พ้นเขตกรุงเทพ แต่ขนมหม้อแกงเพชรบุรีก็มาแล้วนะ
หนังสือพิมพ์ การ์ตูนผี ขายหัวเราะ 
หนังสือดูดวง ดวงชะตา นี่ก็มี 
อ่านจบลงรถไฟนี่ปูเสื่อหาเงินเที่ยวได้พอดี 
เราชอบนะเรารู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ เมดอินไทยแลนด์มากๆ 



หากอยู่ในสังคมเราถูกแบ่งออกเป็นหลายชนชั้นหลายระดับหลายประเภท
แต่ที่นี่เราคือชนชั้นเดียวกัน “ ชั้น3 “ 






ศาลายา
นครปฐม
แล้วก็ ราชบุรี

ทุกๆครั้งหากนั่งลงสายใต้ เราหิ้วท้องมาเพื่อสิ่งนี้เสมอ
เตี๋ยวแห้งราชรี กล่องละ10บาท






แล้วก็ หัวหิน



แล้วก็ประจวบ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
แล้วก็ชุมพร 


วันนั้นเราไปถึงสถานีชุมพรประมาณ 4ทุ่มครึ่ง เดินลงมาเจอกลุ่มน้องผญ ที่เราขอให้ช่วยถ่ายรูปให้ และน้องผช อีก2 คนจะไปเกาะเต่าเหมือนกันเลยชวน ให้ขึ้นรถกระป๊อไปท่าเรือพร้อมกันเลย กะมีตัวหาร แต่ระหว่างนั้นเราแวะถามพี่วินว่าไปท่าเรือเท่าไหร่ พี่วินบอกคนละ 100 น้องมากันหลายคนไปรถกะป๊อดีกว่า คนละ100 เหมือนกัน เดินมาถึงรถกะป๊อขอต่อราคาค่ารถ แต่พี่คนขับไม่ยอมลดให้ บอกพี่วินเป็นคนพามาส่งให้นี่พี่ต้องให้เค้าอีกหัวละ30 น้องไปแวะตรงนั้นกันทำไม เราก็ ห่ะ!!! พี่นี่ผมเดินมากันเองเค้าไม่เกี่ยว พี่คนขับยังคงยืนยันคำเดิมลดไม่ได้ เอาเป็นว่าถ้ามาถึงสถานีชุมพรแล้ว ลงจากรถแล้วพุ่งตัวมาที่รถกะป๊อเลย แล้วต่อราคาไปเลย 60-70 บ. ขึ้นรถเรียบร้อยก่อนจะไปท่าเรือ ก็แวะเซเว่น ซื้อขนมน้ำ และเบียร์อีกนิดหน่อย บนเรือไม่มีอะไรขายนะ อ้อถ้าใครไม่อยากเข้าเซเว่น ถัดไปอีก 50ม. มีโลตัสเอ็กเพลส รถมาส่งเราที่ท่าเรือพรทวีสินทันเวลาพอดี ค่าเรือคนละ 400บ.

สำหรับรอบการเดินเรือชุมพร – เกาะเต่า

ท่าเรือเกาะเจริญ 077-580030
จันทน์ – พุธ – ศุกร์ 

ท่าเรือพรทวีสิน
ชุมพร – เกาะเต่า
อังคาร – พฤหัส – เสาร์
เกาะเต่า – ชุมพร
อาทิตย์ – พุธ – ศุกร์
077-553343 ชุมพร
077-456103 เกาะเต่า
081-9162191 จองตั๋ว



ซื้อตั๋วเสร็จเรียบร้อย ขึ้นบนเรือจัดของ ล้างหน้าล้างตา
แล้วเราก็ขึ้นไปนั่งบนดาดฟ้าเรือ กินขนม จิบเบียร์นั่งพูดคุยทำความรู้จักกัน 
แม้คืนนั้นฟ้าจะปิด มองไม่เห็นแม้แต่แสงดาว แต่เรากลับรู้สึกดี 
ประมาณ ตี1 เราก็เริ่มทยอยแยกย้ายกันเข้านอน จะว่าแยกย้ายก็ไม่ถูกนัก
เพราะเตียงที่เรานอนนั้นก็อยู่ติดๆกันเลย เอาเป็นว่าคืนนี้ ฝันดีเจอกันพรุ่งนี้เช้า ที่เกาะเต่า
::: อรุณสวัสดิ์เกาะเต่า :::

28 มิ.ย. 58
ประมาณ ตี5ครึ่ง เรือก็พาเรามาถึงเกาะเต่า บรรยากาศตอนนั้นวุ่นวายใช้ได้ เพราะจะมีเรือที่เข้าเทียบท่าพร้อมๆกัน ทั้งรถขนของต่างๆที่วิ่งเข้าไปซื้อของจากตัวจังหวัด เสียงคนขับรถร้องเรียกหาผู้โดยสาร น้องๆผช เดินนำไปก่อนบอกจะไปหาที่พักก่อน ส่วนเราขอซึบซับบรรยากาศแถวนั้นอีกหน่อย





เราใช้เวลาอยู่ตรงนั้นอยู่ซักพัก ก่อนจะเก็บของและลงจากเรือไป เดินขึ้นไปจนถึง 3แยกหอนาฬิกา ก็ไปเจอกับน้องผช2 คน ที่เดินวนมาพอดีเลยเดินคุย และชวนหาที่พักไปด้วยกันเลย ส่วนกลุ่มน้องผญ นั้นจองที่พักกันมาเรียบร้อยน้องๆ พักกันที่ Koh Tao Loft Hostel เดินมาจากท่าเรือประมาณ 100ม. อยู่ขวามือ 

Hostel 69 เราเดินเข้าไปดูน่าพักเหมือนกัน อันนี้อยู่ติดกับแยกที่จะไปอ่าวโตนด






แล้วเราก็เดินวนไปมาหาที่พักกันไปเรื่อยๆ สุดท้ายตกลงกันว่าจะเอากระเป๋าไปฝากไว้ที่พักของกลุ่มน้องผญ แล้วเช่ามอไซต์ขับหาที่พักกัน 




บางทีเราว่าที่นี่ควรเปลี่ยนชื่อเป็นเกาะแมวมั้ย 
เราเจอแมวแทบจะทุกบ้าน ทาสแมวมีกรี๊ดแน่นอนถ้ามาที่นี่




Tip & Trick
ถ้าไม่ได้จองที่พักมาก่อน แล้วอยากจะเช่ามอไซต์เที่ยวอยู่แล้ว หลังจากลงเรือนั่งเล่นนอนเล่นแถวๆแม่หาดไปก่อน
รอเวลาซัก 8:30-9:00น. ค่อยเดินไปหาเช่ารถ แล้วขับรถหาที่พัก เพราะเช้าๆ ส่วนมากที่พักก็ยังไม่เปิด ราวๆ 10โมงไปแล้วนั่นแหละ

ฝากกระเป๋าเก็บกระเป๋าเรียบร้อย หาเช่ามอไซต์เราเช่าร้าน ใกล้ๆกับ Koh Tao Loft Hostel เลย 
ได้ราคา วันละ 200 เราขอไม่มัดจำเงินสดใช้แค่บัตร ปชช. 



ได้รถเช็ครถเรียบร้อย เติมน้ำมันไป 50บ. แว๊นได้รอบเกาะเลยทีเดียว




เราลองไปที่อ่าวหินวง เพราะเคยอ่านเจอมาว่ามีรีสอร์ทเงียบๆ ชื่อ view rock resort บังกะโลพัดลม ราคา 700-1000 
ที่สำคัญ sea view ทุกห้อง นี่ก็ขับไปถามทางกันไปตลอดทาง ทางแม่ งก็โหดสั ส ไปแวะถามทางอีกครั้งตรงบาร์ก่อนจะถึงทางที่จะลงไป 



เจอพี่เจ้าของร้าน เลยได้พูดคุยกันเล็กน้อย พี่เค้าเป็นครูสอนดำน้ำด้วย 
บาร์นี้จะเปิดช่วงบ่ายๆ น้องจะไปดูที่พักกันเหรอ 
ดีๆตรงนั้นดี อ่าวนั้นสวยเดินลงไปดำน้ำจากตรงนั้นได้เลย
เอ้านี่!!! เอาหน้ากากไปพี่ให้ยืม ลองลงไปดำน้ำดูกัน สวยจริงๆเชื่อพี่ เสร็จแล้วถ้าไม่เจอพี่ ก็เอามาวางคืนไว้ได้เลย 
ไอ่เราก็ไม่ค่อยอยากเชื่อเลยรับหน้ากากมา แล้วไปพิสูจน์กัน (ที่ร้านพี่เค้าให้เช่าหน้ากากด้วย 50บ. เสื้อชูชีพก็ 50บ.)
ขับมอไซต์ไปจอดไว้ที่หน้ารีสอร์ท ห้องเหิ้งไม่ดูแล้ว จุดๆนั้นเราได้ยินแต่เสียงทะเลที่เรียกชื่อเรา
ที่พักที่นี่เราบอกเลย เหมาะแก่การมาพักผ่อนจริงๆ คือมานอนอ่านหนังสือ 
ฟังเพลง พอเบื่อก็เดินลงดำน้ำหน้าที่พักได้เลย และแล้วเราก็มาถึง


หันไปทางขวาจะเจอท่าเทียบเรือของรีสอร์ท



หันมองลงที่พื้นจะเจอเท้าเราเอง แฮร่



เราผลัดกันดำผุดดำว่าย อยู่ตรงนี้ประมาณ 2ชม. มันสวยจริงๆอย่างที่พี่เค้าบอกนั่นแหละ ของแบบนี้ต่อให้เป็นนักเขียนฝีมือดีขนาดไหน
กล้องราคาแพงเลนส์ โ ค ร ต เทพ มันก็ไม่สามารถทำให้คุณรับรู้ถึงความงามจริงๆหรอกและอย่าเพิ่งเชื่อเรา ของแบบนี้มันต้องพิสูจน์ : )
แล้วก็ระวังๆโขดหินก้อนหินใต้น้ำไว้ด้วย นี่เราได้แผลมาจากการเตะหิน และหินบาดมาทุกอ่าวเลย





10ชม. บนรถไฟและอีก 5ชม. บนเรือนอน 
เราว่ามันคุ้มค่ามากเลยนะ กับการที่เราได้เดินทางมา 



ที่ๆ ไม่ได้อยู่ในแผน ที่ๆเจอโดยบังเอิญ บางทีมันก็ดีเกินไปที่จะเก็บไว้ชื่นชมคนเดียว 
ถ้ามาเกาะเต่าอย่าลืมลองมาที่นี่กันนะ “อ่าวหินวง”



จากนั้นเราไปหาที่พักกัน แถวๆหาดทรายรี 
คืนนั้นเราพักกันที่ Ban’s Avenue Guesthouse เป็น Mix Dorm คืนละ 400
ที่นี่โอเคเลยแหละ แอร์เย็นเปิดแอร์ตลอดเวลา มีผ้าเช็ดตัวให้ มีล็อคเกอร์เก็บของ (อย่าลืมพกแม่กุญแจมา) 



คืนนี้มีที่นอนเรียบร้อย ต่อไปหาทัวร์ Day Trip สำหรับพรุ่งนี้กันดีกว่า
เราตกลงซื้อของที่นี่ AC ทัวร์ ราคาทัวร์ คนละ500บ. 
นัดเจอ 9:30น ที่รีสอร์ทของทัวร์อยู่แถวๆหาดทรายรี โปรแกรมต่างๆก็ตามนี้ 
มีข้าวกลางวันให้ น้ำดื่ม กาแฟ โอวัลติน ผลไม้ 
พี่ไกด์เป็นกันเองดี 



จ่ายเงินเรียบร้อย สอบถามเจ้ แถวนี้อ่าวไหนสวยๆบ้าง
เจ้บอกสวยทุกอ่าวแหละน้อง ถามใครนี่ตอบเหมือนกันหมด (_ _”)
เอาที่เจ้คิดว่าสวยที่สุด ขอซักอ่าวแบบสุดๆเลย งั้นลองไปอ่าวโตนดกันนะ
ก่อนจากเจ้กำชับ ถ้าฝนตกยังไม่ต้องกลับนะรอให้ฝนหยุดก่อน ถนนมันลื่น
จากนั้น คนไทย6 คน กับมอไซต์ 3คัน ก็แว๊นไปอ่าวโตนดกัน 
ทางโหดอีกแล้ว นอกจากชันแล้วยังมีบางช่วงที่ไม่ได้เทคอนกรีต 
เป็นถนนดินลูกรังที่เสี่ยงต่อการลื่นและลงไปนอนกลิ้งได้ง่ายๆ
สุดท้ายเราเดินทางมาถึงกันอย่างปลอดภัย  
Let’s go green



อ่าวโตนดกับแดดอ่อนๆในวันนั้น 
หาดนี้ที่ร้านอาหาร มีให้เช้าหน้ากากสนอคเกิล 50บ เสื้อชูชีพ 50บ เช่นกัน (เราแนะนำว่าควรเช่าทั้งคู่)
มีมัดจำ 1000บ หรือจะเอากุญแจมอไซต์มัดจำแทนก็ได้ 




ในสมุดบันทึกนั้นมีเรื่องราว ทั้งของเราและคนที่ได้พบเจอ
เรามักพกสมุดบันทึกติดตัวตลอดเวลา ไว้จดบันทึกเรื่องที่เรากลัวจะลืม
หรือแม้แต่การสเก็ทรูปเก็บไว้เตือนความทรงจำ . . . . …เพราะคำว่าตลอดไปมันไม่มีจริง



บรรยากาศในวันนั้น นักท่องเที่ยวพอประมาณไม่ได้ชวนให้รู้สึกอึดอัด 
เราสนุกสนานกับการดำผุดดำว่าย สำรวจโลกใต้น้ำ 
ใครเจอตรงไหนสวยก็ตะโกนส่งสัญญาณเรียกกัน 





และดูเหมือนหินก้อนยักษ์จะส่งเสียงเรียกเรา 
พวกเราค่อยๆ พาตัวเองเข้าไปๆๆ จนไปถึงที่นั่น 
แนวหินและปะการังแถวนี้มันสวยจริงๆแหละ



และแน่นอนยิ่งเราออกมาห่างไกลเท่าไร 
ความอันตรายก็มากขึ้นเท่านั้น ตรงนี้มีหินที่แหลมคม 
ลมและคลื่นที่ซัดเข้าหาแท่นหินบริเวณนั้น ซัดเอา นทท หล่นลงไปหลายคนรวมทั้งเราด้วยเช่นกัน  








ไม่มีใครไม่เคยเป็นแผล ไม่ว่าจะแผลที่ตัว หรือแผลที่ตามองไม่เห็น 


เวลา 2ชม ผ่านไปอย่างรวดเร็ว 
เราชวนกันกลับ ระหว่างทางได้แวะพักหาอะไรเย็นๆดื่มกันนิดหน่อย
ที่ @ LOVE KOH TAO 


บรรยากาศดีใช้ได้เลย เราสั่งกาแฟมาคนละแก้ว
แต่สิ่งที่ได้ ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร กาแฟถุงกระดาษหน้าปากซอยอร่อยกว่าเยอะ
นั่งเล่นพูดคุยกันจน ฝรั่งลุกออกไปทีนี้ก็ถึงเวลาของเราบ้าง



หลังจากผิดหวังจากรสชาติกาแฟมาแล้ว 
เราเลยเปลี่ยนใจมาดื่มเครื่องดื่มสำเร็จรูปบ้าง 

--------------------------------------------
START THE DAY WITH A COFFEE  
AND FINISH IT  WITH BEERS.
--------------------------------------------
คำเตือน สุราทำให้ความสามารถในการขับขี่ลดลง



จากนี้แยกย้ายกันกลับ นัดเจอกันอีกทีคืนนี้ไปหาร้านนั่งชิวกัน
กลับที่พักอาบน้ำเรียบร้อย พวกเราไปเดินเล่นริมหาดกัน
เราเริ่มจากที่ Lotus Bar อันเป็นเอกลักษณ์ของหาดนี้ก็ว่าได้มั้ง




เราเดินลัดเลาะริมหาดขึ้นไปเรื่อยๆ 
หยุดสำรวจสิ่งรอบข้าง
ก้มมองดูจุดยืนตัวเองบ้าง 
เป็นครั้งคราว



เรือเล็กที่ลอยลำอยู่กลางทะเล จะรู้สึกอย่างไร เคว้งคว้างรึเปล่า



ไม่เพียงแค่มนุษย์ หรือทะเลจะมีแรงดึงดูดกับทุกสิ่ง 



จากนั้นเราลองเดินตัดขึ้นไปบนถนนในย่าน Walking Street บ้าง
เป็นการสำรวจหาร้านน่านั่งสำหรับคืนนี้ไปในตัว


ออกซิเจนทำให้มีชีวิต 
แต่ดูเหมือนมนุษย์ต้องการมากกว่านั้น
คาร์บอนไดออกไซด์จากใครอีกคน....


เฮเซล เกรซ ก็เช่นกัน 




ไม่รู้ว่าเพราะบรรยากาศ แสงสี 
เหล้าถังนั้น หรือบทสนทนากับคนที่นั่งอยู่ด้วย
คืนนั้นเรานั่งอยู่ที่นี่จนร้านปิด 







ระหว่างขับรถกลับที่พัก เราเจอด่านตรวจ 
ตำรวจทักทาย ถามว่ามาจากไหน พร้อมขอตรวจค้น
พี่ตำรวจบอกว่าเมื่อคืนเพิ่งมี นทท ถูกชิงโทรศัพท์ไป
เรายินยอมให้ค้นโดยดี แต่พี่ก็ค้นละเอียดเกิ๊น ตั้งแต่ใต้เบาะรถ ยันกระเป๋าสตางค์ 
(ยังไงมาเที่ยวกลับดึกก็ระวังตัวกันด้วย)

ราวๆตี 3กลับถึงที่พักอย่างปลอดภัย 
เป็นคนสุดท้ายที่กลับถึงห้อง เรานี่เดินตัวลีบๆ
(ไม่ได้หมายถึงมีธุระนะ ฮร่าๆ) เข้าห้องเลยเกรงใจกลัวคนอื่นตื่น
::: DAY TRIP :::
29 มิ.ย. 58
เช้าวันใหม่ 
วันที่ฟ้าใส แดดแรง 
นาฬิกาปลุกยังไม่ทันปลุก 
เสียงสนทนาของน้องๆก็ปลุกเราให้ตื่น
เราลุกขึ้นมานั่งตั้งสติ ก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำ
ในห้องยังไม่มีใครตื่น มีเพียงเรา 3 คน  
เราต้องเชคเอ้าท์ เอากระเป๋าไปฝากไว้ที่ร้านทัวร์
เอารถไปคืน ส่วนที่พักคืนนี้ค่อยหากัน หลังจากจบ Day Trip

ประมาณ 8:30น เราเดินมาถึงร้านทัวร์
ระหว่างรอเวลา เรานั่งเล่น เรานอนเล่น เราถ่ายรูปเก็บบรรยากาศ
เช้าๆแบบนี้ หาดเงียบจนอาจลืมไปว่า นี่คือหาดที่ครึกครื้นที่สุดของเกาะ



จะมีเพียงคนที่ออกมาวิ่งออกกำลังกายริมหาดอยู่บ้างก็เท่านั้น 



ใจที่ว่างเปล่าจะเปลี่ยนเป็นใจที่เปิดกว้างขึ้น


10:00น. ถึงเวลาออกเดินทาง 
ไกด์แจกอุปกรณ์ เสื้อชูชีพ หน้ากากสนอคเกิล 
เดินไปขึ้นเรือลำเล็กที่จะพาเราไปส่งเรือลำใหญ่กว่า



เรือลำสีชมพูนั่นแหละ คือเรือที่จะพาเราออกเดินทางกันในวันนี้




ประสบการณ์อยู่ข้างหน้า


 


หลายคนอยากได้ประสบการณ์ใหม่ แต่สิ่งที่ฉุดรั้งเขาไว้คือความกลัว
กลัวเรือ กลัวแดด กลัวคลื่นลม กลัวการเคว้งคว้างอยู่กลางทะเล 
และกลัวการถูกทิ้งไว้กลางทาง
แต่เธออย่าลืมซิ ว่าเธอนั้นไม่ได้อยู่คนเดียว


 



ไม่มีใครรับประกันได้ว่าเราจะเจอเรื่องร้ายหรือดี
เมื่อตัดสินใจเดินออกไป ตอนนี้คงทำได้เพียงมองที่ๆเคยจากมา




เราอาจจะเจอ ฟ้าสีคราม น้ำทะเลสีเขียว ภูเขาสูง


ไม่ว่าร้ายหรือดี เมื่อเราผ่านมันมาได้สิ่งเหล่านี้คือประสบการณ์ชีวิต
(กระชากอารมณ์ ใครเมาเรือพี่ไกด์มียาแก้เมานะ แฮร่)


บ่อยครั้งที่เราได้เรียนรู้ ผ่านการสังเกต


ในวันที่เราออกเดินทางบนเส้นทางใหม่
สำหรับใครบางคน คือการเดินทางบนเส้นทางเดิมๆ


จุดแรกของการสำรวจโลกใต้น้ำ 
เราลงไปลอยตัวอยู่นิ่งๆ แต่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรที่อยู่นิ่งได้ตลอดไป
ถึงเราไม่เคลื่อนไหว  สิ่งต่างๆก็เคลื่อนไหวผ่านตัวเราไปอยู่ดี



หยุดพัก เพื่อมีแรงไปต่อ



ตอนที่อยู่ใต้น้ำเรารู้สึกเหมือนตัดขาดกับโลกและผู้คน
ถึงจะมีช่วงเวลาแห่งความโดดเดี่ยว 




แต่ใช่ว่าเราจะอยู่คนเดียวซะเมื่อไหร่


บนโลกที่เคลื่อนตัวไปข้างหน้า สิ่งที่เราพอจะเก็บไว้ได้คือความทรงจำ


ขึ้นมาบนเรือก็ถึงเวลาอาหารเที่ยงพอดี
ไก่พริกไทยชิ้นโตกับข้าวหอมมะลินุ่มๆ 
อร่อยลื๊มมม



เค้าว่ากันว่า รอยแผลนั้นคือประสบการณ์ของชีวิต 



ในวันที่ฟ้าเป็นสีเทา เราเปิดดูรูปวันฟ้าใส 


เราขึ้นจากน้ำ เพื่อมานั่งกลางแดดแล้วดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ บ้าดีเหมือนกัน 



แต่แปลกดี แค่นี้เราก็มีความสุขแล้ว 



ทะเลหรือภูเขา  เธอรู้ใช่มั้ย ว่าทะเลกับภูเขานั้นอยู่ด้วยกันได้



บางครั้งความสุขก็เรียบง่าย 

 


บุตรแห่งทะเล 

 



จุดสุดท้ายของวันนี้  เกาะนางยวน
เราชอบที่นี่ สั้นๆง่ายๆแค่นี้แหละ
สำหรับค่าเข้าเกาะ คนไทย 30บ ต่างชาติ100บ










ช่องว่างที่ธรรมชาติได้สรรค์สร้างเอาไว้ 

 


วันที่เราไม่ทำอะไร เราได้ทำสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งคือ พักผ่อน 

 


บางความสุขนั้นเราต้องการคนข้างกาย



Together



ความโดดเดี่ยวมันไม่ใช่ความเปลี่ยวเหงาหรืออ้างว้างตลอดไป 
บางทีมันคือการที่เลือกจะโดดเดี่ยวต่างหาก



ไม่รู้จักใคร รู้จักตัวเองก็พอ
ตอนนี้รู้แล้วว่าเรารักเธอมากขนาดไหน 
“ทะเล”



และก่อนที่จะหมดเวลา 2ชม. ที่ทัวร์กำหนดไว้
เราใช้เวลาที่เหลือไปกับการเดินสำรวจเกาะ





เราเดินไปตามสะพานไม้ที่ทอดยาวรอบเกาะ
เราไม่รู้หรอกว่าข้างหน้านั้นเราจะเจอกับอะไร



ทางแยก
ทางตัน
ทางที่หักพัง
อะไรก็ตามแต่
มันคือทางที่เราเลือกเดิน




บางครั้งเราค้นพบมัน 
บางครั้งมันก็ค้นพบเรา
และบางคราวเราก็ค้นพบกันและกัน
“ความรัก”



คืนนั้นเราย้ายมาพักกันที่ Koh Tao Loft Hostel ราคา 450บ.
เราซื้อตั๋วสำหรับไป พงันพรุ่งนี้รอบ 10:00น ของบริษัทส่งเสริม ราคา 350บ.
::: คืนพระจันทร์เต็มดวง ::: 
30 มิ.ย. 58



ที่พักที่นี่ ก็โอเคนะ การตกแต่ง พี่พนักงานเป็นกันเอง 
แต่ที่นี่ไม่ได้เปิดแอร์ตลอดเวลา ห้องด้านล่างที่เราพักแอร์ไม่ค่อยเย็น 

มุมพื้นที่ส่วนกลาง มีบอร์ดเกมส์ให้เล่น มีหนังสือให้อ่าน 








ถึงเวลาไปขึ้นเรือ ออกจากที่พักเดินเลี้ยวซ้ายในซอยเล็กๆ ไปประมาณ 200ม. ก็จะถึงท่าเรือส่งเสริม



ถึงเวลาออกเดินทาง 



ก่อนหน้านี้เรากังวลเรื่องเรือที่จะไปพงันกลัวว่าจะไม่มีตั๋ว
แต่เอาเข้าจริงๆ นททส่วนใหญ่ก็ออกเดินทางล่วงหน้ากันไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว 
เมื่อคืนเกาะเต่าเลยเงียบมาก
ส่วนที่นั่งบนเรือเหรอ ที่นั่งก็ไม่ค่อยมีหรอกมีแต่ที่นอน แฮร่  และแอร์บนเรือเย็นมากกกก



เมื่อทางโลกและทางธรรมเดินทางร่วมกัน



ส่วนนี่คนตัวดำ : )



ไม่นานเราก็เดินทางมาถึงเกาะพงัน 
ลงจากเรือจะมีรถ 2แถววิ่งรับส่งนทท(คนละ 100บ)  มีรถโรงแรมที่พักมารอรับลูกค้า
มีเอเจ้นย์ที่รอดักขายห้องพัก  ส่วนพวกเราเช่นเคยไม่ได้จองมา
เดิมที น้องผชอีก 2คนจะมีเพื่อนมาเพิ่มโดยขับรถมากันเอง
เราเลยตกลงกันคร่าวๆว่าจะรอให้เพื่อนน้องๆมาถึงแล้วไปขับรถหาที่พักกัน
แต่มาแพ้การตลาดของเจ้ คนหนึ่ง บอกมีรีสอร์ทว่างที่นึง ห้อง 2500 น้องจะไว้แค่เก็บของหรืออยู่รวมกันเลยก็ได้
เด๋วมีรถรีสอร์ทมารับตรงนี้เลย คนละ 50บ. มีร้านอาหารพ่อครัวคนไทยแน่นอน รถชาติถูกปากไม่ใช่พ่อครัวพม่าทำ
ติดชายหาด มีพูลบาร์ เท่านั้นแหละครับตกลงกันตรงนั้นเลย 
และที่ๆเราพักกันคือ สบายเบย์ รีสอร์ท 



บรรยากาศรอบๆที่พักตอนนั้น




ฟ้าใสแดดแรง แบบที่เราชอบ




พูลบาร์ที่ตอนนี้ถูกยึดเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งไปแล้ว



ส่วนนี่สิงห์ฮา ในมือเรา 


 


เคยเขียนข้อความอะไรลงบนหาดทรายกันมั้ย
ใช้เวลานานแค่ไหนก่อนที่มันจะเลือนหายไป
แล้วกี่คน…ที่ไม่เลือนหายไปกับการเวลา



 

อยู่ตรงที่…ที่มีความสุข ถ้ารู้ว่าเริ่มทุกข์ให้รีบเดินออกมา #อยากอยู่ตรงนี้ตลอดไป
 

 



แม้จะยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยว 
แต่ใช่ว่าเราจะอยู่คนเดียว 
ภายในใจเรามักมีภาพใครซักคนอยู่ในนั้นเสมอ



ขอนอนพักเอาแรง แบบไม่ชิค ไม่ฮิป ไม่คูลล
เพราะร้อนมาก ตอนแรกก็ลมพัดเย็นดีหรอก พอไม่มีลมเท่านั้นแหละ เหงื่อแฉะไปดิ



แต่ยังพอมีอะไรให้ได้มอง : )


ตัดภาพมาที่ 4ทุ่มของคืนนั้น 
::: ปาร์ตี้เต้นรำในคืนพระจันทร์เต็มดวง :::




ได้เวลาออกเดินทางไปที่ๆ คนจากทั่วโลกบินข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อมาดูพระจันทร์เต็มดวง
เอาความจริง!!! คือมาปาร์ตี้กันแค่นั้นแหละ 
หาดริ้น คือจุดหมายปลายทางของเรา 
ก่อนเข้าหาดเสียไป 100 ได้ลิสแบนมาอันนึง
บรรยากาศในตอนนั้น 



บางคนเริ่มเมาไม่ได้สติแล้ว


มาแล้วถ้าไม่เพ้นท์นี่ถือว่ามาไม่ถึงนะ เหรอ!! ฝรั่งมันบอกเราอย่างงั้น ส่วนพวกเราซื้อสีมาเพ้นท์กันเอง





ระยะทางของหาดไม่ได้ยาวมาก 
ช่วงนี้ยังสามารถเดินเล่นไปกลับได้สบายๆ เพราะคนกำลังทยอยเข้างาน


เล็งไว้ดีๆ ก่อนภาพจะตัดก็ประคองร่างมาให้ถึงจุดนี้กันนะ SLEEP AREA
เอาจริงๆ ก็ไม่ควรดื่มหนักกันขนาดนั้นเนอะ เหรอ!!!


พวกเราเริ่มเดินสำรวจ ถ้าไปเจอบาร์ไหนที่เปิดเพลงมันส์ๆ ก็จะมีคนแวะตรงนั้นกันเยอะหน่อย


 


และนี่คือสิ่งที่ขาดไม่ได้ของงานรึเปล่า? 
แต่ร้านค้าพวกนี้ไม่ได้เงินพวกเราหรอก
ทำไมไม่กินกันเหรออ!!! 
เพราะพวกเราเตรียมกันมาเอง 




และด้วยแสงสี บรรยากาศ และเครื่องดื่มในมือ

มันเลยมีภาพแบบนี้ให้เห็นอยู่ตลอดเวลา 



ส่วนนี่ ลายเพ้นท์ที่เราออกแบบ 
แล้วก็ผลัดกันเพ้นท์


 




บททดสอบร่างกายว่าใครจะตัวอ่อนมากกว่ากัน
จุดนี้เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย







และนี่ ฝรั่งเจอไปมีแต่ร้องเสียงหลงจะกินฟักกันอย่างเดียวเลย  ฟัคคค i n bucket 
น้องๆไปซื้อถังมาจาก บิ๊กซี แล้วซื้อเหล้าซื้อน้ำแข็งมาผสมกันเอง ประหยัดไปเยอะ 



ภาพตัดกลับมา ตี4ครึ่ง
หมดเวลาสนุกแล้วซิ
นทท เริ่มทยอยกลับพวกเราก็เช่นกัน
บางคนเลือกที่จะนั่งเรือรอบเช้าออกไปเลย 
แต่พวกเราขอกลับไปนอนพักเอาแรงก่อน 
สายๆ ไว้ว่ากันอีกที





::: พงันวันปิดทริป :::
1 ก.ค. 58
10 โมงโดยประมาณ เราตื่นมาเดินเล่นริมหาด 
เก็บเกี่ยวบรรยากาศดีๆ กลับไปให้มากที่สุด 



เราย้อนเวลาไม่ได้ แต่เราคิดถึงมันได้ 
ภาพความทรงจำ ความสุข ยังคงติดแน่นอยู่ 

จากนั้นเราไปถามข้อมูลถึงตั๋วกลับกรุงเทพ
เราได้ตั๋วเรือของส่งเสริม+รถไฟชั้น2 ตู้นอน ขบวน86 ในราคา 1200 
จริงๆ มีเรือ+รถทัวร์ไป ส่งที่ข้าวสารด้วย แต่วันนั้นเค้าไม่รับคนไทย 
พี่ที่รีเซปชั่น พยายามช่วยเหลือเราเต็มที่ 
แต่ไม่เป็นไรหรอก เราบอกพี่เค้าไป
จริงๆเราอยากนั่งรถไฟตู้นอนมากกว่า 
เราอยากจะนอนยาวๆไปเลย

ประมาณเที่ยงครึ่ง รถของรีสอร์ทมาส่งเราที่ท่าเรือ
บรรยากาศตอนนั้นก็อย่างที่เห็น วุ่นวายพอสมควร 


 



มาถึงแล้วอย่าลืมไป 
เช็คอินรายงานตัวที่ 
สำนักงานเพื่อรับสติ๊กเกอร์ 
แยกประเภทผู้โดยสารมาด้วย













เมื่อไปถึงท่าเรือที่สุราษฎร์ธานี 
จะมีรถบัสคอยรับผู้โดยสารแยกเป็นคันๆ ไปสนามบิน ไปสถานีรถไฟ 
ก็เดินขึ้นไปตามที่เราซื้อแพ็คเกจมา

วันที่ 2 ก.ค. 58  
ประมาณ 8โมงเช้าเราเดินทางมาถึง สถานีรถไฟหัวลำโพง 


เราไม่รู้จะเขียนไรแล้ว 
ตัดจบตรงนี้เลยแล้วกัน
ขอบคุณคับที่อ่านกันจนมาถึงตรงนี้ 
เราดีใจนะที่วันนั้น เราตัดสินใจออกเดินทางคนเดียวครั้งแรก 
มันเลยเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางคนเดียวครั้งต่อมาเรื่อยๆ 
ตลอดทุกๆครั้งของการเดินทางเราไม่เคยมีความรู้สึก หรือคำถามในใจที่ว่า กูมาทำอะไรอยู่คนเดียวตรงนี้
มีแต่รู้สึกตื่นเต้น และความสุขไม่ว่าการเดินทางเส้นนั้นเราจะเคยผ่านมันมาแล้วกี่ครั้ง
ทริปนี้เราโชคดีจริงๆแหละ เราไม่เจอฝนเลย เราได้เจอเพื่อนร่วมทางที่ดี 
ขอบคุณความรู้สึกดีๆ และมิตรภาพที่มีให้กัน 

เราเคยได้ยินมาว่า โลกจะดึงดูดคนที่มีอะไรเหมือนๆกันให้มาเจอกัน 
แล้วแรงดึงดูดนี่มีหมดพลังรึเปล่า เราจะได้เจอกันอีกไหม?

สุดท้ายเราปิดทริปนี้ได้สำเร็จ 

เราไม่ชอบเลยกับการกล่าวคำลา 
เราว่ามันดูเศร้าไป (วันนั้นเราเลยโบกมือลาน้องๆไปแบบส่งๆ)
ถ้าจะบอกว่า ไว้พบกันใหม่ เราก็กลัวจะเป็นเหมือนกับเนื้อเพลง 
งั้นเราขอใช้คำนี้แทนละกัน ลายูเนิฟ เลิฟยูนะ : )








สรุปค่าใช้จ่าย

ค่าเดินทาง
รถไฟ ขบวน 171 ฟรี
รถกระป๊อจากสถานีรถไฟ 100
เรือนอนชุมพร-เกาะเต่า 400
เช่ารถมอไซต์ 1วัน 200
เติมน้ำมัน 50
เรือบริษัทส่งเสริม ไปเกาะพงัน 350
ค่ารถไปที่พัก 50
แพคเกจเรือ+รถไฟนอน กลับกรุงเทพ 1200

ที่พัก
Ban’s Avenue Guesthouse   400
Koh Tao Loft Hostel  450
Sabaii Bay Resort  หารกันคนละประมาณ  270

อาหารและเครื่องดื่ม
1710

ทัวร์เดย์ทริป
ค่าทัวร์ 500
ค่าเข้าเกาะนางยวน 30
เช่าสนอคเกิลที่อ่าวโตนด 50
เข้าฟูลมูล 100

รวม 5,860 บาท




ขอบคุณรีวิวพันทิพจากคุณ 1st-DayDreamer


 

เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai