0
0
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

รีวิว ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort) ที่พักสุดบรรยากาศสุดฟิน ริมชายหาดส่วนตัว

calendar_month 10 พ.ย. 2015 / stylus Admin Chillpainai / visibility 148,363 / รีวิวที่พัก

วันหยุดสำหรับพวกเรา.. เหล่ามนุษย์ออฟฟิศ คงไม่ต้องการอะไรมากมาย แค่ได้เอนกายพักผ่อนริมทะเล นอนฟังเสียงคลื่นท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวและได้ใช้เวลาไปกับคนที่รักเท่านี้ก็คงฟินสุดๆ แล้ว และวันนี้หมอนขนเป็ดได้มีโอกาสมานอนที่หรูริมทะเล ที่ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท ประจวบคีรีขันธ์ ที่แม้จะใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ นานสักนิดเกือบๆ 5 ชั่วโมง แต่ก็รับรองว่าบรรยากาศที่นี้จะทำให้คุณฟิน จนลืมคำว่าเหนื่อยได้แน่นอน!! ซึ่งหมอนขนเป็ดได้เก็บบรรยากาศฟินๆ มาฝากเพื่อนๆด้วยตามไปดูกันเลย...

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

เมื่อมาถึงก็เช็คอินเข้าห้องพักกันก่อน บริเวณล็อบบี้จะออกแบบและตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น เป็นอาคารเปิดโล่งให้รับลมเย็นๆ จากทะเล ที่นี่จะสามารถเช็คอินเข้าพักได้ตั้งแต่ 14.00 น.เป็นต้นไป โดยจะมีพนักงานต้อนรับให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว...

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

สำหรับห้องพักที่นี่จะมี 3 แบบ 32 ห้อง แบ่งออกเป็น Beachfront Pool Villa 6 หลัง, Graden Cottage 11 หลัง และ Standard 15 ห้อง โดยห้องแรกที่หมอนขนเป็ดจะพาเพื่อนๆ ไปชมบรรยากาศฟินๆ เป็นห้อง One Bedroom Beachfront Pool Villa

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

ห้องพักได้ตกแต่งอย่างหรูหราน่าพักผ่อน ที่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางขนาด 153 ตร.ม. ส่วนด้านหน้าที่พักมีลานจอดรถส่วนตัว ภายในห้องพักถูกจัดแบ่งพื้นที่ได้อย่างเป็นสัดส่วน มีเคาร์เตอร์ครัว มีมุมนั่งเล่นให้พักผ่อนบนโซฟาเบทขนาดใหญ่ให้ได้เอนกายชมวิวทะเลผ่านกระจกใสบานใหญ่เพลินๆ

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

และในส่วนของห้องนั่งเล่นและห้องนอน ยังได้ออกแบบดีไซน์ประตูให้สามารถหมุนได้แบบ 360 องศาอีกด้วย

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

ภายในห้องนอนก็สะอาดสะอ้าด มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ให้นอนพักผ่อนฟังเสียงคลื่น และชมวิวผ่านกระจกใสบานใหญ่ที่ได้ออกแบบอย่างพิเศษให้สามารถเปิดออกได้ทั้งบานเพื่อให้คุณได้รับลมชมวิวทะเลได้ทุกเมื่อที่คุณต้องการ

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

ส่วนห้องน้ำก็กว้างขวาง แบ่งพื้นที่โซนเปียกและโซนแห้งได้เป็นอย่างดี ห้องนี้ยังพิเศษตรงที่มี Rain Shower และอ่างล้างหน้า 2 อัน อีกทั้งยังมีอ่างอ่างจากุซซี่ให้แช่ตัว ผ่อนคลายความตึงเครียดอีกด้วย

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

ส่วนด้านนอกก็มีสระว่ายน้ำขนาด 32 ตร.ม. ให้ได้แหวกว่ายเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน และยังมีเดย์เบทให้คุณได้นอนพักผ่อน รับลมชมวิวด้านนอกท่ามกลางบรรยากาศที่ส่วนตัวแบบสุดๆ อีกด้วยนะ

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

ห้องที่สองเป็นห้อง Two Bedroom Beachfront Pool Villa ห้องพักแบบ 2 ห้องนอน มีพื้นที่กว้างขวางขนาด 220 ตร.ม. พื้นที่ภายในห้องพักถูกแบ่งอย่างเป็นสัดส่วน มีห้องครัว โต๊ะทานข้าว ห้องน้ำ ห้องสุขา และพื้นที่ส่วนกลางสำหรับสังสรรค์ที่สามารถตอบสนองได้ทุกกิจกรรม

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

โดยพื้นที่ตรงกลางในส่วนของห้องนั่งเล่นจะถูกไล่ระดับให้ต่ำลง มีโซฟาเบทขนาดใหญ่ให้คุณได้พักผ่อน พร้อมอุปกรณ์เอ็นเตอร์เทนที่ครบครันให้คุณได้เต็มอิ่มไปการพักผ่อน

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort).

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

ส่วนของห้องนอนทั้ง 2 ห้องจะตกแต่งอย่างหรูหรา เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก การจัดวางและการออกแบบภายในจะแตกต่างกัน โดยห้องทางด้านซ้ายมือห้องน้ำจะมีความวาบหวิวเล็กๆ เพราะเป็นกระจกบานใหญ่ที่สามารถมองทะลุมายังห้องนอนได้ ห้องนี้จึงเหมาะสำหรับคู่รักเป็นที่สุด

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

แต่ถ้าอยากฟินกับวิวทะเล ห้องนี้ก็สามารถเปิดกระจกบานใหญ่เพื่อรับลมทะเล นอนฟังเสียงคลื่นได้แบบฟินๆ เช่นกัน

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

ส่วนอีกห้องทางด้านขวามือ จะฟินสุดๆ กับเตียงที่หันหน้าออกสู่ทะเล เรียกว่าตื่นปุ๊บฟินปั๊บกับวิวเบื้องหน้าได้แบบทันที ส่วนห้องน้ำจะเป็นแบบปิดมิดชิดและให้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าห้องแรก และที่สำคัญ ห้องนี้อ่างน้ำจะเป็นแบบจากุชชี่ และตรงส่วนที่อาบน้ำ Rain shower หลังคาเป็นหลังคากระจกทำให้สามารถมองท้องฟ้าตอนอาบน้ำไปด้วยได้

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

ส่วนด้านนอกก็มีสระว่ายน้ำส่วนตัวขนาดใหญ่ให้ได้ลงเล่นกันอย่างสนุกสนาน และยังมีพื้นที่ให้ได้สังสรรค์กันยามเย็นอีกด้วย ใครที่อยากมาจัดปาร์ตี้เล็กๆ กับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน ที่นี่เหมาะสุดๆ

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

ห้องที่สามเป็นห้อง Garden Cottage ซึ่งห้องพักในส่วนนี้จะอยู่ถัดจากโซนบีชฟร้อทไปไม่ไกล ให้ความรู้สึกการพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศสวนไม้ที่ร่มรื่น หรือถ้าอยากลงเล่นน้ำทะเลก็เดินเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงชายหาดที่ให้ความเป็นส่วนตัวแบบสุดๆ แล้ว

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

Garden Cottage และ Garden Cottage with Spa ห้องพักแบบเป็นหลังที่ให้ความเป็นส่วนตัว ภายในตกแต่งและออกแบบด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่แปลกตา แต่นึกถึงการใช้งานที่เป็นประโยชน์ต่อผู้เข้าพัก โดยชั้นวางทีวีสามารถปรับหมุนทิศทางได้ตามที่ต้องการ และยังครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่มากมาย

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

ห้องน้ำก็มีทั้งอ่างจากุซชี่สำหรับห้อง Garden cottage with spa แต่ในส่วนของห้อง Garden cottage จะเป็นอ่างอาบน้ำธรรมดา ให้ได้แช่ตัวในน้ำอุ่นๆ และนวดผ่อนคลายความตึงเครียดในอ่างจากุซชี่ และฝักบัวแบบ Rain Shower โดยห้องน้ำจะมีกระจกใสบานใหญ่กั้นให้คุณได้แช่น้ำในอ่างอาบน้ำพร้อมชมรายการโปรดผ่านทางทีวีได้แบบไม่มีสะดุดอีกด้วย

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

หากอยากนั่งชมวิวสวนด้านนอกก็มีระเบียงส่วนตัว ทั้งระเบียงจากในห้องพักและด้านนอก ซึ่งไม่ว่าจะนั่งมุมไหนก็ให้ความรู้สึกผ่อนคลายท่ามกลางบรรยากาศสวนที่ร่มรื่นและสดชื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่มากมาย

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)  ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

ห้องสุดท้ายเป็นห้อง Standard เป็นห้องพักแบบมาตราฐาน มีทั้งแบบเตียงเดี่ยว (Double bed) และเตียงคู่ (Twin bed) ซึ่งโซนนี้จะอยู่ถัดจาก Graden Cottage แวดล้อมไปด้วยสวนไม้ที่ร่มรื่นและให้ความเป็นส่วนตัว

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

ภายในห้องพักตกแต่งอย่างเรียบง่าย แต่ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีพร้อม มีทีวี ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ และมีระเบียงด้านนอกให้ชมวิวสวนเบื้องหน้าแบบเพลินๆ อีกด้วย

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

ห้องน้ำก็ครบครันไปด้วยสิ่งของที่จำเป็น มีเครื่องทำน้ำอุ่น ผ้าเช็ดตัว สบู่ ยาสระผม และชุดสุขภัณฑ์อย่างดี

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

นอกจากห้องพักแสนสบายแล้ว ที่นี่ยังครบครันไปด้วยการบริการอื่นๆ ที่เพียบพร้อม เพื่อเติมเต็มความสุขแห่งการพักผ่อนของคุณได้แบบไร้ขีดจำกัด ไม่ว่าจะห้องอาหาร สระว่ายน้ำส่วนกลาง ฟิตเนส บาร์น้ำ ห้องสันทนาการ และกิจกรรมทางน้ำ

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

สระว่ายน้ำที่นี้จะเปิดให้บริการตั้งแต่ 7.00 น. ไปจนถึง 21.00 น. เลยทีเดียว

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

หากใครอยากกำลังกายก็มีฟิตเนสเปิดให้บริการ ได้ออกกำลังกายพร้อมกับชมวิวทะเลสวยๆ เบื้องหน้าแบบเพลินๆ

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

ในส่วนของห้องอาหารจะตั้งอยู่ถัดจากบริเวณล็อบบี้ ซึ่งช่วงเช้าจะเปิดให้บริการอาหารเช้าตั้งแต่ 7.00 - 9.00 น. ในแบบบุฟเฟ่

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

อาหารก็จะมีให้เลือกรับประทานมากมายหลากหลายเมนูทั้งแบบไทย และแบบอเมริกัน

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)  ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

หากในช่วงกลางวัน และช่วงเย็นไม่ได้ออกไปเที่ยวไหน ก็สามารถมารับประทานอาหารชมวิวทะเลเพลินๆ ได้ที่นี่ ซึ่งอาหารที่นี่เน้นวัตถุดิบที่สดใหม่ และใจใส่ลูกค้าแบบสุดๆ อีกทั้งยังมีเมนูอาหารให้เลือกรับประทานหลากหลายเมนูทีเดียว โดยมื้อกลางวัน มีเมนูแนะนำเป็น ปลากระพงซอสมะขาม ยำถั่วพู ข้าวผัดปู ต้มกุ้งยำน้ำข้น เนื้อปลากระพงราดพริก คอหมูมะนาว และ ผัดผักรวม ซึ่งราคาอาหารเบาๆ ถ้าเทียบกับวิวและรสชาติแล้วบอกเลยว่าเกินคุ้ม

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

ส่วนมื้อเย็นก็มีเมนูที่น่ารับประทานไม่แพ้กัน เมนูแนะนำเป็น ต้มยำปลาอินทรี หมึกทอดแดดเดียว ปลากระพงราดน้ำปลา หมึกไข่เค็ม และผัดไทกุ้งสด ทานคู่กับเครื่องดื่มเย็นๆ ชื่นใจสุดๆ มีทั้งน้ำผลไม้ปั่น แตงโม น้ำส้ม และค็อกเทลให้ได้จิบกันแบบเพลินๆ โดยร้านอาหารช่วงเย็นจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 14.00 - 21.00 น.

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

หรือถ้าใครยังฟินไม่พอชั้นดาดฟ้าของร้านอาหารก็มี Roof Bar ให้ได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้แบบสุดสายตา ซึ่งจากที่นี่สามารถมองเห็นเกาะร่ำราได้อีกด้วย ใครจะสั่งค็อกเทลมาจิบเบาๆ ที่มุมนี้ก็เพลินไม่น้อย เปิดให้บริการตั้งแต่ 7.00 -23.00 น. เลยทีเดียว หรือถ้าใครอยากจะนั่งชิลยาวๆจนเช้าก็สามารถแจ้งพนักงานได้เช่นกัน

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

หากใครอยากได้พื้นที่แฮงเอ้าท์ริมทะเลก็มีบาร์น้ำเปิดบริการตั้งแต่ 16.00 - 23.00 น. ให้คุณได้นั่งชิลๆ รับลมเย็นในช่วงค่ำ ท่ามกลางบรรยากาศริมทะเลที่แสนโรแมนติกสุดๆ

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

หากใครอยากทำกิจกรรมสนุกๆ ที่นี่ก็มีเคาร์เตอร์ทัวร์นำเที่ยว ห้องสันทนาการให้คุณได้สนุกไปกับโต๊ะพูล โต๊ะโกล์ที่ชั้นล่างของห้องอาหาร หรือถ้าใครอยากพายเรือคายัคที่นี่ก็มีให้บริการฟรีอีกด้วย 

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)  ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)

 

การพักผ่อนที่ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท เป็นอีกช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนที่หมอนขนเป็ด พูดได้เลยว่าฟินตั้งแต่เริ่มเช็คอินไปจนถึงวันเช็คเอ้าท์ เพราะนอกจากที่พักจะดีไซน์หรู บรรยากาศเป็นส่วนตัวและเงียบสงบแล้ว ที่นี่ยังครบทุกความต้องการ สามรถตอบสนองไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ทำงานหนัก อยากพักผ่อนแบบแท้จริงอย่างเราๆ ได้ดีทีเดียว...

ซันไชน์พาราไดซ์ รีสอร์ท (Sunshine Paradise Resort)


 

ที่ตั้ง : 95 หมู่ 9 ต.อ่างทอง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ 77130 
โทรศัพท์ : 081-8298123
เว็บไซต์ : www.sunshineparadise-resort.com
 

การเดินทาง 

รถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯ ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2 หรือถนนธนบุรี-ปากท่อ) จะวิ่งผ่านสมุทรสาคาร ยาวไปจนถึงอำเภอปากท่อแล้วจะแยกซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) วิ่งผ่านเพชรบุรี ผ่านหัวหินยาวไปจนถึงอำเภอทับสะแก เมื่อถึงวัดอ่างทอง (กม358.6) แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงชนบทหมายเลข 1029 ขับตรงไปเรื่อยๆ จะมีป้ายบอกทางของรีสอร์ทอย่างชัดเจน ซึ่งรีสอร์ทจะตั้งอยู่ริมทะเล

รถโดยสาร จากกรุงเทพฯ ให้นั่งรถตู้กรุงเทพฯ - ชุมพร หรือรถตู้กรุงเทพฯ - ประจวบฯ แล้วมาต่อรถตู้ประจวบฯ - ชุมพร แล้วมาลงที่หน้าวัดอ่างทอง อ.ทับสะแก จะมีรถจากทางรีสอร์ทไปรับเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าฟรี หากเกิน 20.00 น.จะมีค่าใช้จ่าย

รถไฟ จากกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) ให้นั่งรถไฟมาลงที่สถานีบ้านกรูด จะมีรถจากทางรีสอร์ทไปรับเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าฟรี หากเกิน 20.00 น.จะมีค่าใช้จ่าย
 


Story by : หมอนขนเป็ด

 

เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai