calendar_month 25 ก.พ. 2012 / stylus Admin Chillpainai / visibility 11,710 / เที่ยวต่างประเทศ
สกู๊ปนี้ เราจะว่าด้วยการเดินทางสู่ยอดคีนาบาลู ประเทศมาเลย์เซีย
คัดมาเฉพาะวันเเรกใช้เวลาซึ่งใช้เวลาเกือบ 7 ชั่วโมงครึ่ง
ตั้งเเต่ 9:30 จาก Timphohon Gate ที่ระดับความสูง 1866 เมตร
ไปยัง ที่พัก Laban Rata กม.ที่ 6 ที่ระดับความสูง 3273 เมตรจากระดับน้ำทะเล
ตีห้า สมาชิกทุกคนพร้อมสัมภาระ กับเครื่องเเต่งกายที่พร้อมสำหรับการเดินป่าวันนี้ ลงมาเจอกันที่ร้านอาหาร Self-Service ข้างบ้าน..เอ๊ย.. ข้างโรงแรม เติมพลังให้กับตัวเองด้วยอาหารเช้าเเละโกปี้มาเลย์
เรานั่งรถตู้ ออกจากตัวเมืองไปประมาณชั่วโมงกว่าๆ เราก็ได้เห็นขุนเขาสูงทะมึนปรากฏตัวโผล่ออกมาจากมวลหมู่เมฆ ต้อนรับพวกเราที่กำลังจะไปเยือนมัน เราอ้าปากค้างเมื่อมองเห็นความสูงและยอดเขาของภูเขาสูงลูกนั้น พลางสงสัย... คีนาบาลู ฉันจะขึ้นไปถึงบนนั้นไหมนะ...
เมื่อมาถึงตัวที่ทำการอุทยานฯ คีนาบาลู ป๋าเป็นตัวเเทนจัดการเรื่องช่างน้ำหนักฝากสัมภาระให้ลูกหาบ วันนี้เราใส่เสื้อผ้าสำหรับการเดินป่าธรรมดา ยังไม่ต้องใช้เครื่องกันหนาว เอาไว้ใช้ในตอนเดินขึ้นสู่ยอดเขาในเช้ามืดวันพรุ่งนี้ เราได้รับอาหารกล่องไว้กินระหว่างทาง, ไม้เท้า (อันนี้ ใครจะเช่าก็ได้ เเล้วเเต่ความถนัดส่วนบุคคล) เเละ tag ป้ายชื่อของเเต่ละคน...อันนี้สำคัญมาก เพราะต้องเอาไว้ Check-point ตอนที่จะขึ้นไปสู่ยอดเขาในวันรุ่งขึ้น
อาหารกล่องและขวดน้ำดื่ม ที่มากับเเพคเกจเป็นถุงใส่สวยงาม อุทยานผูกขาดจัดให้
ป้ายชื่อของเเต่ละคน ใครไม่มีขึ้นไม่ได้นะจ๊ะ
นั่งรถตู้ต่อไปอีกนิด จะถึงจุดเริ่มต้นเดินเท้า เราเรียกตรงจุดนี้ว่า "ทิมโพฮอน เกจ" (Timphohon Gate) ฟังเจ้าหน้าที่อธิบายเรื่องเส้นทางประกอบแผนที่เส้นทางเดินขึ้น คร่าวๆก็คือ ทางที่เราต้องเดินป่าวันนี้ 6 กิโลเมตร ไปยังที่พัก "ลาบัน ราต้า" (Laban Rata) ที่ระดับความสูง 3273 เมตร ระหว่างทางเราจะพักทานข้าวตรงจุด กม.ที่ 4 ก่อนถึงทางเเยกที่เส้นทาง "เมอสิเลา" (Mesilau) มาตัดผ่าน (Mesilau – เป็นอีกเดินทางที่สามารถขึ้นเขานี้ได้ แต่ว่าจะใช้เวลามากกว่าเส้นทางทิมโพฮอน เพราะลักษณะเขาจะขึ้นๆลงๆ เหนื่อยกว่าด้วย บางคนขึ้นทางเมอสิเลา วันที่สองตอนเช้าหมดเเรงขึ้นยอดเขาซะยังงั้น เพราะฉะนั้นไม่ฟิตจริงๆ ไม่เเนะนำจร้าา)
ตอนนี้ข้าวของที่อยู่ติดตัวไปพร้อมกับการเดินป่าวันนี้ ประกอบไปด้วย ชุดแฮปปี้มีลจากอุทยาน / น้ำดื่มหนึ่งขวด ที่นี่มีจุดให้เติมน้ำทุก 1 กม. เเต่ที่จริงไม่ควรทานน้ำเยอะ จิบเบาๆแบบกินยาแก้ไอก็พอ / นอกนั้นก็จะมีลูกอมหวานๆไว้เเก้เหนื่อย / ช๊อคโกแลตให้พลังงาน / บางคนมีไม้เท้าช่วยเดิน / กางเกงขายาวใส่สบายสักตัว (ไม่ค่อยเเนะนำใส่ยีนส์ มันเดินลำบาก) / สนับเข่าที่มีลักษณะเป็นผ้า ลดการกระเเทกที่หัวเข่า / รองเท้าดอกยางหนาๆสักคู่กันลื่น / เสื้อกันฝนเผื่อฝนตก และที่ขาดไม่ได้สำหรับตัวเอง กล้องคู่ใจ ที่จะไม่มีวันเก็บไว้เเค่ในกระเป๋ากล้องเฉยๆเเน่
ทำพิธีกรรมถ่ายภาพที่หน้าเกจ ลงชื่อที่จุดปล่อยตัว ผ่านประตูเเละก็เริ่มต้นเดินเข้าสู่ป่า... เส้นทางสู่คีนาบาลู!!!
ระยะทางช่วงแรกจะเป็นป่าดิบเขา หน้าตาเหมือนป่าเมืองไทย พื้นดินเเดงๆ ชื้นๆ บางที่ลื่น ผ่านน้ำตกถุงเท้าที่หนึ่ง (ฮ่าๆ ก็มันชื่อน้ำตก Carson) พบพืชพรรณพวก เฟิร์น มอส หนวดฤาษี เเละพวกพืชสีเขียวๆมีขนขึ้นปกคลุมต้นไม้ (เรียกว่าอะไรไม่รู้จริงๆ) ทางเดินดีมาก มีบันไดบ้างเป็นระยะๆ มีที่พักเเละน้ำดื่มทุกๆ 1 กม. เเละมีป้ายบอกระยะทาง ทุกๆ ครึ่งกิโลเมตร
สภาพลูกหาบคีนาบาลู เเละจุดเติมน้ำดื่มทุกๆ 1 กม.
ไม่จำเป็นต้องรีบเดิน เพราะว่าอีกใจก็เพลิดเพลินกับการถ่ายภาพสิ่งเล็กน้อยมากมายที่อยู่รอบตัวเรา...
ดอกนี้หน้าตาคล้ายผีเสื้อเลย
ลูกแดงๆน่ารัก ฉันถามลูกหาบว่า กินได้ไหม เขาตอบกลับเสียงหลง โนว โนว โนว!!
พอเริ่มสูง ต้นไม้ก็เริ่มใส่เสื้อกันหนาวสีเขียวน่ารัก
เดินช่วงเเรกเรี่ยวเเรงยังมี แม้ว่าเส้นทางจะเริ่มมีเเต่ขึ้นเเละขึ้น เราถ่ายรูปกันทุกจุด ทุกป้าย ทักทายกระรอกน้อยไปตามทาง มันจะชอบมาทักทายเราที่จุดเเวะพัก ชะเง้อคอหาของกินจากนักท่องเที่ยว มิน่า...อ้วนเชียวนะ
ตอนนี้ขึ้นเขาไป 4 กม.แล้วกับความเหนื่อย... เราเเวะพักทานมื้อเที่ยงกันที่จุดเเวะพัก Layang-Layang ซึ่งจะคือประมาณครึ่งทางของเส้นทางทั้งหมดที่ขึ้นสู่ยอดเขา (ระยะทางทั้งหมด ถ้าขึ้นทาง Timphohon จะเป็น 8.75 กม. ถึงยอดสูงสุด Low's Peak) เลย กม.ที่ 4 ไปนิดหน่อย จะมีทางเเยกเพราะเส้นทาง Mesilau มาบรรจบ
พี่ชายแกนนำกลุ่มพูดอย่างหมายมั่นปั้นมือว่า... ขากลับจะกลับทางนี้เเหละ ไหนๆก็มาเเล้ว ก็ไปให้ทุกเส้นทาง!!! เราก็ ขำๆ เฮฮา เออออเนียนๆกันไป... คอยดูจิ จะไหวมั้ย เอิ่ม..เอาขึ้นให้รอดก่อนดีกว่านะพี่...
เราไปต่อกันทางซ้ายมือค่ะ อีก 2 กิโลเอ๊งงงงงงง -..-
และเเล้วเมื่อเลย กิโลเมตรที่ 4 ขึ้นมา สภาพของป่ารอบตัวก็เปลี่ยนไป
เริ่มกลายเป็นต้นสนรูปทรงเเปลก ใบสีเเดง ปลายยอดสีเขียว เต็มสองข้างทาง
ดูเข้ากับดินสีเเดงที่เราเดินขึ้นไปทีละขั้นมากๆเลย
และก็เริ่มพบหม้อข้าวหม้อแกงลิงขนาดใหญ่ พืชที่พบได้มากในคีนาบาลูนี้
ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง ใหญ่มั้ย...
พ้นช่วงนี้ไป จะมีหน้าผานึงซึ่ง ฟ้าเปิดมองเห็นวิวพอดี เราก็ปฏิบัติการ 16 act (and more) กันทันที
ตอนนี้เริ่มมองเห็นหน้าผาที่เราจะต้องขึ้นไปถึง ใกล้เข้ามาเรื่อยๆเเล้ว นับว่าโชคดีมากๆ ที่ฟ้าเปิดฝนไม่ตก
ความสูงตอนนี้ก็เลยความสูงของดอยอินทนนท์ซึ่งสูงสุดในประเทศมาเเล้ว ผ่านระดับความสูง 2800 เมตร ซึ่งพี่ๆผู้เชี่ยวชาญการเดินป่า ตปท. บอกมาว่า คนเราจะเริ่มมีอาการแพ้ความสูง กันที่เลยระดับนี้ไปแล้ว เเต่พวกเรายังไม่มีใครเป็นอะไร ก็นับว่า โล่งอกจ้าา
วิวเบื้องล่างที่จากมา
วิวของขุนเขาที่เราจะขึ้นไป
เข้า กม.ที่ 5 ป่าที่เราเดินผ่านมีลักษณะเป็นป่าแคระ สวยแปลกตามาก เพราะดูเหมือนเราเป็นคนตัวใหญ่ เดินเข้าไปในดินแดนมหัศจรรย์ เราเห็นต้นสนเตี้ยๆ เต็มหน้าผาสองข้างทาง เเละมองเห็นยอดเขาที่ด้านหน้าพอดี
เสียอย่างเดียว ท้องฟ้าข้างบนเเปรเปลี่ยนไวมาก มีเเค่ไม่กี่ช่วงอึดใจที่ฟ้าเปิดเป็นใจให้ถ่ายภาพ เเต่ก็มีข้อดี คือแดดไม่ร้อนเกินไป เราเเวะพักกันบ่อย กินนู้นนี่ เป็นการลดเสบียงในกระเป๋าไปด้วย
เดินขึ้นเขากันต่อไป
พ้นป่าเเคระ ก็เข้าป่าทึบชื้นๆอีกทีนึง เดินไปตามก้อนหินน้อยใหญ่ ย้อนทางน้ำไหลผ่าน
เเละนั่นก็คือช่วงสุดท้ายของการเดินป่าวันนี้....
ทางเดินในป่า สภาพเหมือนสวนหลังบ้าน
ไม่นาน... อาคารที่พัก Laban Rata สีเหลือง ก็โดดเด่นเป็นสง่าขึ้นมาข้างหน้าจากป่าทึบรอบตัว
"ถึงเเล้วโว้ยยยยย" ฉันตะโกนดังลั่นด้วยความดีใจ เรามาถึงกม.ที่ 6 เวลาเกือบๆ 5 โมงเย็น เริ่มรู้สึกหนาวเพราะลมเเรงมาก มองไปที่วิวข้างล่างที่เราเพิ่งขึ้นมา... สูดลมหายใจลึกๆเต็มปอด เเล้วก็บอกว่า...
"เราขึ้นมาสูงกว่าเมฆเเล้วเฟ้ย!!"
ทันทีที่เข้าไปในตัวอาคาร อากาศก็อบอุ่นขึ้นทันทีด้วยฮีตเตอร์
เป็นช่วงเวลาอาหารมื้อเย็นพอดี หลายคนของคณะทัวร์ของเรา เดินขึ้นมาถึงนานเเล้ว อิ่มกันเเล้วด้วย
ฉันรู้สึกหิวขึ้นมาทันที แทบไม่รู้สึกตัว จัดการวางกระเป๋ากล้องหนักอึ่ง เดินตัวลอยไปตักอาหารบุฟเฟ่ต์ในทันที...
อาหารมีหลากหลายประเภทมาก อร่อยมากด้วย (หรือหิวกันเเน่!!)
Laban Rata เป็นที่พักที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่ง เพราะมี Heater และสิ่งอำนวยความสะดวกดีกว่าที่อื่น ๆ รวมไปถึงร้านอาหารซึ่งเป็นที่เดียวบนเขานี้ด้วย แต่จะจองได้ยาก (เนื่องจากเต็มเร็ว) และราคาก็จะแพงกว่าด้วยเช่นกัน... อย่างที่เรามาก็จองล่วงหน้ากันเกือบปีเลยทีเดียวเชียว
อิ่มเเล้ว เดินสำรวจห้องพัก เก็บข้าวของ ลักษณะห้องพักเป็นเเบบ dom ห้องน้ำรวม (น้อยไปหน่อย)
ห้องนอนเป็นเตียงสองชั้น ห้องเรานอนกัน 6 คน 3 เตียงสองชั้น
ฉันกำลังทำใจอยู่รอมร่อว่า จะอาบน้ำดีมั้ย.... ผละประตูออกไปสำรวจดูด้านนอกตึก...
โอ้โหเหะ........ พระเจ้า!!! ไม่เคยเห็นอะไรสวยเเละยิ่งใหญ่ขนาดนี้มาก่อน....
ยอดเขาเเหลมๆ ตรงนั้นคือทางที่เราจะผ่านในวันพรุ่งนี้เช้า
ขุนเขายิ่งใหญ่ตระหง่านเต็มสองตาจังๆ เเสงพระอาทิตย์อาบไล้ขุนเขาทั้งหมดเป็นสีทอง
เห็นทางเดินที่เราจะต้องไปเป็นเส้นสีขาวเล็กๆลิบๆบาง ที่หน้าผานั้น
ที่จริง หลังเรามาถึงที่พัก ฝนก็เทลงมา โชคดีมากที่เราไม่โดน เเถมโชคดียิ่งไปกว่านั้นอีก
ที่ฝนหยุดตก เเละยังฝากเเสงยามเย็นสวยๆให้เราได้นั่งมองกัน
เเทบจะวิ่งกลับห้องไปเอากล้องมาถ่ายไม่ทันเเน่ะ!!
และในวินาทีเดียวกันนั้น...
ฉันก็ได้ยินเสียงคนตะโกนโหวกเหวกให้ออกไปดูอะไรบางอย่างที่ระเบียงด้านทิศตะวันตก
ฉันเดินไหลไปตามกระเเสเสียงคนอย่างไม่ต้องคิดอะไรอีก คว้ากล้องคู่ใจในมือที่เย็นเฉียบไปด้วยความหนาวของอากาศ เเล้วก็ได้เห็นเเสงยามเย็นสีจัดจ้านโดดเด่นเหนือสิ่งอื่นใดในเบื้องหน้าทันที เมื่อผลักประตูกระจกหนาออกไปที่ระเบียงด้านนอก
จะมีอะไรในโลกสวยไปกว่านี้อีก...
กิจกรรมของคนทั้ง Raban Lata ในตอนนี้คือ ให้รางวัลกับตัวเอง
ยืนมอง ดื่มด่ำกับบรรยากาศของพระอาทิตย์ตกเหนือมวลหมู่เมฆเบื้องล่างทั้งหมด
สวยมากกกก ไม่เคยเห็นอะไรสวยเท่านี้มาก่อนเลย ป๋าบอกกับเราว่า ทริปนี้เราโชคดีมากที่ได้เห็นเเสงยามเย็น
เพราะหลายครั้งที่เขาขึ้นมา ท้องฟ้ามักจะปิดเนื่องจากฝนตก
เห็นไกลๆด้านขวา นั่นคือทะเลนะ
ท้องฟ้าเปลี่ยนสีอย่างรวดเร็วทาบขุนเขาที่เราต้องไปเผชิญในวันพรุ่ง
ทะเลเมฆนะนั่น ไม่ใช่ทะเลหมอก
5 นาทีต่อมา ก็เห็นท้องฟ้าเป็นเเบบนี้เเล้วอ๊ะ...
ไม่เคยคิดว่า เรามาอยู่เหนือเมฆ ดูพระอาทิตย์ตกเหนือมวลหมู่เมฆมโหฬารมากมายสุดจะบรรยายข้างหน้าเรานี่.... (เพราะทำใจมาตลอดว่าฝนจะตก) วินาทีนี้...ฉันเชื่อสนิทใจว่าทุกคนล้วนดีใจกับสิ่งที่ได้เห็นอยู่ตรงหน้า เหมือนเป็นของขวัญพิเศษของทริปนี้เลย
ร้องเพลงดังๆให้กับสิ่งที่อยู่ข้างหน้าเรา ฉันตะโกนดังลั่นกับเพื่อนสาว
"บอกไม่ถูกเลยว่ารู้สึก ดีใจสักเท่าไหร่ มากแค่ไหนก็ไม่รู้..."
(โปรดติดตามต่อตอนสุดท้าย กับทริปคีนาบาลู เป้าหมายคือยอดเขา กับสิ่งที่ตามหาในเเบงค์ 1RM)
เรื่องโดย : This road is mine
Tags: มาเลย์เซีย
เที่ยวต่างประเทศ | 21 พ.ย. 2024 | 1,836 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 12 พ.ย. 2024 | 719 อ่าน
ทริปตัวอย่าง เที่ยวต่างประเทศ | 15 ต.ค. 2024 | 1,220 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 11 ต.ค. 2024 | 1,482 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 24 ก.ย. 2024 | 1,538 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 16 ก.ย. 2024 | 2,305 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 30 ก.ค. 2024 | 3,246 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 19 ก.ค. 2024 | 6,355 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 16 ก.ค. 2024 | 3,863 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 16 ก.ค. 2024 | 1,111 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 18 เม.ย. 2024 | 4,137 อ่าน