calendar_month 11 ม.ค. 2012 / stylus Admin Chillpainai / visibility 23,226 / รีวิวที่เที่ยว
ฟันออกปาก..เอ้ยยย ควันออกปาก ตั้งเเต่ก้าวเเรกที่ลงจากรถทัวร์ที่ผานกเค้า ตอนตีห้ากว่าๆ เรามาตั้งหลักที่ร้านเจ๊กิม จัดแจงซื้อตั๋วขากลับ ล้างหน้าเเปรงฟัน กินข้าวเช้า เเละหลับรอเวลาอีกสักนิด ก่อนจะบึ่งรถสองเเถว นั่งตัวหนาวสะท้านตามเเรงลม มายังตัวอุทยานแห่งชาติภูกระดึง
จัดแจงชำระค่าเข้าอุทยาน ยืนยันการจองที่พักออนไลน์(เต๊นท์)กับทางอุทยานฯ จ่ายเงินช่างน้ำหนักสัมภาระให้ลูกหาบเรียบร้อยเเล้ว ก็พาตัวเเละหัวใจของสองสาว ขึ้นสู่ยอดภูกระดึง.... ป่ะ ลุยย!!
กว่าจะถึงหลังแปนั้น ทางขึ้นภูกระดึงในระยะทาง 5.5 กม. เราจะผ่านด่านทั้ง 10 ด่าน หรือที่เรียกๆกันว่า "ซำ" นั่นเเหละ แต่ช่วงที่เราไปนั้นเป็นเทศกาลพอดิบพอดี ผู้คนมหาศาล เค้าเรียกว่า...ไหลตามกันไปซะมากกว่า
ระหว่างทางที่ไป มีช่วงซำเเฮกที่เป็นลักษณะเป็นหินชันต้องปีนป่าย พอพ้นช่วงนั้นไปได้ จะเป็นทางเรียบ (โอ้ว สวรรค์โปรด... ได้เดินทอดน่องสักที เหนื่อยย - -! ) จากนั้นก็เป็นทางเดินขึ้นเขาตลอด มีบันไดบ้าง ไม่มีบันไดบ้าง ผู้คนที่เคยไหลตามกันมา เริ่มหายไปทีละกลุ่มสองกลุ่ม เพราะโดนร้านอาหารข้างทางตามซำต่างๆ ดึงดูดเอาไว้ให้นั่งพักเหนื่อย ไม่ว่าจะเป็น แตงโมเย็นๆ ไอศกรีม น้ำปั่น ข้าวเหนียว ส้มตำ อาหารตามสั่ง ขนมจุกจิกทุกชนิด เครื่องดื่มทุกอย่าง(ยกเว้นแอลกอฮอล์นะ) เรียกได้ว่า อยากกินไรข้างทางให้หายเหนื่อยก็มีให้ครบอ่ะ เเต่ราคาก็สูงกว่าภาคพื้นดินนะ
หายเหนื่อยก็เดินต่อ เเนะนำสำหรับคนที่เพิ่งเคยมา หรือไม่มีประสบการณ์ปีนเขาเท่าไหร่ ขอบอกว่า ภูกระดึงนี่เป็นภูเขาที่เดินขึ้นง่ายที่สุดในประเทศไทยเเล้ว 555 นี่พูดให้กำลังใจนะคะ ...อย่างเเรก...หารองเท้าผ้าใบดีๆสักอัน มีดอกยางหน่อย เเละก็ใส่สบาย แต่บางคนใส่รองเท้าเเตะเดินขึ้นภูยังได้ อันนี้เเล้วเเต่ความถนัดส่วนตัวเน้อ
อย่างที่สองก็คือ จริงๆเเล้วไม่ค่อยจะเเนะนำใส่กางเกงยีนส์ โดยเฉพาะขาเดฟ มันจะทำให้อัตราการก้าวเดินช้าลง ยกขาก้าวลำบากขึ้น เเต่เห็นวัยรุ่นทั่วไปก็ใส่ยีนส์เดินนะ (แถมวิ่งด้วยซ้ำไป) เเต่ถ้าคุณใส่สบายก็เเล้วเเต่สไตล์ไม่ว่ากัน... อย่างที่สาม หาลูกอม หรือชอคโกแลตติดตัวไปด้วย เพิ่มพลังงาน จะได้ไม่รู้สึกเหนื่อยระหว่างทาง เเละอย่างที่สี่ ค่อยๆเดิน ไม่ต้องรีบ เหนื่อยก็เเวะพัก เเต่อย่าพักนานเพราะการเริ่มต้นเดินใหม่จะทำให้รู้สึกเหนื่อยยิ่งกว่าเดิม
ถ้าเดินไม่ไหว ลองมองความพยายามของผู้คนที่เดินไปพร้อมๆเราดูนะคะ โดยเฉพาะอย่างยื่ง ลูกหาบที่ต้องแบกของร่วม 60 กก. ต่อคน หรือไม่ว่าจะเป็นเด็กตัวน้อยๆ ที่กำลังใจเข้มเเข็งกว่าเรามากนัก...
เดินเท้ามาจนถึงช่วงสุดท้าย จากซำเเคร่ ถึง หลังแป นั่นคือช่วงที่เหนื่อยที่สุดของการเดินขึ้น เพราะช่วงนี้จะมีเเต่หินชันที่ต้องปีนป่าย ระยะทางตรงนี้ ประมาณ 1 กม. มีบันไดเหล็กชันๆขึ้นเป็นระยะ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เก็บภาพเลย เพราะว่า ไม่ว่าง เหนื่อยอยู่ 555
คนทั่วไปใช้เวลาเดิน 3-5 ชม. เเต่ด้วยสปีดสองสาวที่ฟิตจัด จากเชิงภูถึงหลังแป ใช้เวลา 3 ชั่วโมงครึ่ง พอดิบพอดี ของขวัญอย่างเเรกเลยที่ได้รับเมื่อถึงที่ราบสูงหลังแป นั่นคือ ท้องฟ้าสีฟ้าเข้มสดใส ไร้เมฆขาวเจือปน เราเเหงนหน้าดูด้วยความพอใจ ให้หายเหน็ดเหนื่อยจากการเดินเท้าขึ้นมา... ก้มลงมองพื้น... เอ่อ.. อีก 3 กิโลนี่หว่า กว่าจะถึงจุดกางเต้นท์หรือศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง เเต่พื้นบนภูกระดึงนี้ จะมีเเต่ทางเดินเรียบๆ บนพื้นทรายนุ่มๆ เดินสบายไม่ลำบากค่ะ
สิ่งเเรกที่ทำเมื่อขึ้นไปถึงศูนย์บริการฯ นั้นคือ ติดต่อเช่าถุงนอน เบาะรองนอน หมอน จากนั้นก็ติดต่อเรื่องเต้นท์อุทยานที่เราได้ทำการจองเอาไว้ตั้งเเต่อยู่ กทม. ส่วมสัมภาระที่ฝากไว้กับลูกหาบนั้นคงต้องรอการเดินทางมากันนิดหน่อย ให้เวลากันนิดนึง จากนั้นด้วยความหิว สองสาวเลยเดินสำรวจบริเวณโรงอาหารที่นี่...
จะว่าเชยไหม... ถ้าบอกว่า ตื่นเต้นมากกกก... กับความอุดมสมบูรณ์เรื่องอาหารการกินบนนี้มาก เรียกได้ว่า มีทุกอย่างที่คุณอยากได้ ...จิ้มจุ่ม หมูกระทะ สุกี้ โจ๊ก ปาท่องโก๋ ขนมปังปิ้ง มาม่า อาหารตามสั่ง น้ำอัดลม น้ำร้อน ไข่ต้ม (ยกเว้นเครื่องดื่มเเอลกอฮอลล์) ฯลฯ แหม... เห็นเเล้วก็มองหน้าเพื่อนรักเป็นเชิงคำถามว่า "แล้วเราจะแบกมาม่าโจ๊กคัพ ที่ซื้อมาจาก กทม. ทำไมฟระ!!” ก็อย่าว่ากันเนอะ มันชินกับการเดินป่าทุระกันดารที่ไม่มีเเม้กระทั่งน้ำดื่มมาเเล้วนิ ^^!
การเดินทางเที่ยวเล่นบนภูกระดึงวันเเรกของเรา ง่ายๆหลังการจากนอนพักสักงีบเเล้ว คือ เดินไปสระอโนดาต ลัดมาผานาน้อย เเละมาดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก รวมระยะทางวันเเรก 17 กม.
ถามเพื่อน ด้วยอารมณ์ท้าทาย "จิ๊บๆป่ะ"
มันตอบ ด้วยความท้าทายยิ่งกว่า "หรือว่าจะไปผาหล่มสักเลยดีแก"
“เฮ้ย จะวิ่งไปเหรอ นี่เหลือเวลาอีกเเค่ 3 ชั่วโมง ไม่ทันหรอกพระอาทิตย์ตกมั้ง"
เพื่อนตอบ “งั้น ตามนั้นเเก"
เเล้วเราก็ออกเดินทาง ของติดตัวที่ลืมไม่ได้ คือ ไฟฉายที่เอาไว้เผื่อเดินขากลับ ตอนพระอาทิตย์ตกไปแล้ว กับเสื้อกันหนาว น้ำดื่มและของกินนิดหน่อย
และที่ต้องจำให้ได้ขึ้นใจ คือเวลาพระอาทิตย์ตก ซึ่งดูที่ป้ายหน้าอุทยานเขียนไว้ว่า 5 โมงครึ่ง ดังนั้น การเดินบนภูกระดึง เสมือนดูหนังเรื่อง in time ที่ต้องคอยดูนาฬิกาตัวเอง คำนวณระยะทางกับเวลาที่กำลังจะหมด ก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดิน เพราะฉะนั้น...รีบจ้ำเว่ย55
ช่วงเเรกที่เดิน จริงๆก็ไม่ถึงกับรีบจ้ำ เพราะระหว่างสองข้างทาง จะมีสิ่งมีชีวิตเล็กๆให้น่าค้นหา เลยเก็บภาพใบสน ใบเฟิร์นที่ขดเป็นรูปหัวใจ เเละที่ชอบที่สุด น่าจะเป็นฟอร์มหงิกหงอของต้นสนสูงๆสองข้างทางนี่เเหละ
หลังจากเดินมาเกือบๆ 3 กม. เราก็มาถึงสระอโนดาต มองผ่านๆเเว๊บเเรก นึกว่ามาเยือนปางอุ๋งซะเเล้ว อาจเป็นเพราะเเสงเเดดยามบ่ายที่ส่องกระทบต้นสนจนเห็นเป็นเงาทอดยาวไปกับพื้นนั่นเอง
สระอโนดาตมีลักษณะเป็นสระน้ำขังคล้ายบึงไปตามพ้นร่องหิน ไม่ใหญ่โตนัก เเต่เเสงเเละสียามนี้ ขึ้นกล้องมากเลย
เหลือบมองนาฬิกา ไอ้หย่าาาาา นี่มันสี่โมงเเล้วนิ เหลือหนทางอีกไกล กว่าจะถึงผาหมากดูก ทีนี้เเหละ ได้เวลาจ้ำอ้าวของจริง 555+
เมื่อมาถึงผานาน้อย เราก็เข้าสู่เส้นทางที่เลาะเลียบริมผา จากผานาน้อย สู่ผาจำศีล เเล้วก็ถึงผาหมากดูก จุดชมพระอาทิตย์ตกสุดฮิตอันดับสองของภูกระดึง เรามาถึงทันเวลาพระอาทิตย์ตกพอดิบพอดี เเละยืนยันได้อีกว่า มาฤดูกาลท่องเที่ยว คนเยอะมาก เเทบจะล้นหน้าผากันเลยทีเดียว ทำให้เราไม่สามารถไปยืนตรงหน้าผาได้ อาศัยพื้นดอกหญ้าข้างทางนี่เเหละ เป็นพื้นที่สำหรับการถ่ายภาพพระอาทิตย์ตก
และก็อาศัยต้นสนนี่เเหละเป็นโฟร์กราวน์สำหรับภาพไข่เเดงลาลับท้องฟ้า.....
5 นาทีต่อมา ก็มีไข่เเดงฟองที่สอง เป็นโฟร์กราวน์ในการถ่ายภาพ... 555
ทานไข่ต้มอุ่นๆ ในตอนอากาศเย็นๆ มองพระอาทิตย์ตกไป ในเเบบนี้ มันได้บรรยากาศดีจริงๆนะ
ถึงเวลาเดินกลับที่พัก ซึ่งเเทบจะหมดเรี่ยวหมดเเรงขา ฟ้าเริ่มมืด ทางเดินที่เป็นทรายถูกคนจำนวนมากย่ำเหยียบ ฟุ้งจนฝุ่นตลบ
ค่ำคืนนี้ เราสั่งจิ้มจุ่มมากินให้หายหนาว เเต่ว่า รสชาติน้ำจิ้มมันเหมือนสุกี้เลยอ่ะ เลยเดาเอาว่า ไม่ว่าจะสั่งจิ้มจุ่ม สุกี้ หรือหมูกระทะ ยังไง มันก็คืออย่างเดียวกัน 555 และดูเหมือนว่า เมนูสามอย่างนี้ จะเป็นอาหารหลักของคนทุกคนที่มาเยือนภูกระดึงในค่ำคืนนี้
ผลจากการเดินไกล 17 กม. ในวันนี้ ทำเอาเราสองสาวโสดถึงกับสลบไสลไปในนิทราอย่างรวดเร็ว เเละตั้งใจไว้ว่า คืนพรุ่งนี้จะตื่นสาย ไม่ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น เพื่อเก็บเเรงไว้เดินอีก 20 กม. กับเส้นทางสู่ผาหล่มสักไฮไลท์ของภูกระดึงตลอดกาลในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน
มันจะสวยสมคำร่ำลือมั้ยนะ...พรุ่งนี้ไปพิสูจน์กัน...!!
(ติดตามตอน 2 จร้าา^^ )
คลิ๊กที่นี่เพื่ออ่าน คิดถึงเธอ...ภูกระดึง (ตอนที่ 2 เหยียบเมฆที่ผาหล่มสัก)
เรื่องโดย : This road is mine
รีวิวที่เที่ยว ที่เที่ยว | 03 ก.ค. 2024 | 1,961 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว | 28 เม.ย. 2024 | 2,742 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว | 08 มี.ค. 2024 | 2,764 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว | 06 ก.พ. 2024 | 3,722 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว ที่เที่ยว | 29 ม.ค. 2024 | 4,533 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว | 24 ม.ค. 2024 | 3,468 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว ที่เที่ยว | 22 ม.ค. 2024 | 6,351 อ่าน