The Pino Khao Kho (เดอะ พีโน่ เขาค้อ) ที่พักสไตล์นอดิกสุดหรู ชมวิวพาโนราม่าแบบรอบทิศ

The Pino Khao Kho (เดอะ พีโน่ เขาค้อ) รีสอร์ตหรูที่ให้ความเป็นส่วนตัวแบบพรีเมียมสุดๆ  ที่นี่เค้าเน้นความเงียบสงบ เหมาะกับคนที่อยากพักผ่อนจริงๆ จุดเด่นที่ต้องร้องว้าวคือวิว พาโนราม่าแบบรอบทิศทาง ไม่ว่าจะนั่งเล่นในห้องพัก ออกไปชิลที่ระเบียง หรือเดินไปที่จุดชมวิวของรีสอร์ต ก็จะได้เห็นภูเขาเขียวๆและหมอกขาวล่องลอยไปมา ที่สำคัญมี "สระว่ายน้ำลอยฟ้า" ให้ได้ว่ายน้ำท่ามกลางวิวภูเขาและสายหมอกฟุ้งๆ บอกเลยว่าบรรยากาศดีเกินต้านจริงๆ  จะมีห้องพักไหนให้ได้เลือกนอนบ้าง ไปชมกันเลย

ครั้งนี้เรามีโอกาสได้มาพักที่ The Pino Khao Kho (เดอะ พีโน่ เขาค้อ) ที่พักน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวสดๆ ร้อนๆ แยกตัวออกมาจาก Pino Latte Hotel ชื่อดังของเขาค้อ บอกเลยว่าที่นี่ตอบโจทย์มากๆ สำหรับใครที่อยากหาที่พักบรรยากาศเงียบสงบ โรแมนติกและได้วิวภูเขาแบบ180 องศาเลย แถมยังอยู่ใกล้กับแลนด์มาร์กสำคัญอย่างวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วอีกด้วย บอกได้เลยว่าคุ้มค่ากับการมาพักผ่อนมากๆ

ตั้งแต่ก้าวแรกที่เราเข้ามาเช็กอิน สิ่งที่ทำให้ประทับใจสุดๆ จุดนั่งพักระหว่างรอเข้าห้อง วิวสวยมากๆ รวมถึงการต้อนรับด้วย Afternoon Tea Set ที่มีขนมและเครื่องดื่มเสิร์ฟมาอย่างน่าทาน บรรยากาศการพักผ่อนเลยเริ่มต้นแบบฟีลดีสุดๆค่ะ เรามาเริ่มชมห้องพักกันค่ะทุกคน ที่นี่เค้ามีที่พักออกแบบมาในสไตล์บ้านไม้สนทรงสามเหลี่ยม ให้ความรู้สึกอบอุ่น โปร่งโล่ง และเชื่อมต่อกับธรรมชาติได้อย่างลงตัวทุกหลังเลย ภายในมีห้องพักให้เลือกถึง 4 ประเภท ตอบโจทย์ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะมากับคู่รัก ครอบครัวหรือแก๊งเเพื่อนซี้เรามาดูห้องประเภทแรกกันค่ะกับห้อง Family Suite กันค่ะ ห้องแรกนี้เหมาะสุดๆ สำหรับครอบครัวที่มาด้วยกันหลายคน Family Suite จะมีพื้นที่กว้างขวางถึง 2 ชั้นเลยนะคะ  ชั้นล่างมีเตียงคิงไซส์ 1 เตียง ส่วนชั้นบนที่เป็นห้องใต้หลังคาจะมีเตียงเดี่ยว 3.5 ฟุต สองเตียง เด็กๆต้องถูกใจแน่นอนเพราะฟีลเหมือนได้แอบไปนอนเล่นบนห้องลับเลยค่ะ แถมยังรองรับผู้เข้าพักได้ 4 ท่านสบายๆ จะมากับเพื่อนก็ได้น้าและยังมีระเบียงด้านหน้าที่สามารถนั่งชมวิวภูเขาแบบ 180 องศา กว้างมากๆอีกด้วย ถ่ายรูปมุมนี้พร้อมเห็นองค์พระธาตุคือมู๊ดดีไม่ไหวค่ะถัดมาจะเป็นห้อง Terrace Suite ค่ะ สำหรับใครที่มาแบบคู่รักหรืออยากได้พื้นที่กำลังดี แนะนำเทอเรส สวีทเลยค่ะ ห้องนี้จะมีเตียงคิงไซส์ 1 เตียง ภายในอบอุ่น น่ารักและมีระเบียงหน้าห้องกว้างๆ พร้อมโต๊ะทานอาหารให้ออกไปนั่งชิล จิบกาแฟ หรือสังสรรค์พูดคุยกันยาวๆได้เลยค่ะ และเราชอบมากกับห้องนี้คือ ห้อง Honeymoon Suite สายโรแมนติกต้องเลิฟห้องนี้แน่นอน Honeymoon Suite มาพร้อมกับอ่างจากุซซี่ใหญ่ๆสุดฟิน ปรับอุณหภูมิน้ำแช่อุ่นๆได้ด้วย แช่น้ำไปชมวิวภูเขาไป หรือจะตื่นมาแช่และชมวิวตอนพระอาทิตย์ขึ้นมาทักทายยามเช้าก็ได้น้า  ฟีลดีเกินบรรยายเลย และถึงแม้ห้องฮันนีมูนไม่มีระเบียงภายนอกนะคะ แต่ก็สามารถเปิดประตูกระจกเพื่อรับลมและบรรยากาศธรรมชาติได้เช่นค่ะ มองไปด้านล่างก็จะเห็นสระน้ำที่ยื่นตัวออกมาด้านนอกด้วย สวยมากๆด้วยน้า ว่าแล้วก็ขอเปลี่ยนเสื้อผ้า แชะรูปมุมนี้สักหน่อยค่ะ ห้องนี้มีอ่างจากุซซี่พร้อมบาธบอมที่เป็นมิตรต่อผิวผู้ใช้ด้วยนะคะ ออแกนิคมากๆ แช่ตัวชิลๆพร้อมดู Netflix และมองวิวสวยๆด้านนอกไปพร้อมกันได้เลย และอีกหนึ่งห้องจะเป็นห้อง Villa Deluxe นะคะ สำหรับใครที่อยากได้ห้องกว้าง ดีไซน์โปร่งโล่ง ก็เป็นอีกหนึ่งห้องที่แนะนำเลยค่ะ

มาชมกันต่อค่ะ ที่นี่แต่ละห้องพักจุดเด่นเค้าคือ ห้องน้ำของที่นี่ เพราะกว้างขวางและแยกโซนเปียก-แห้งชัดเจน ภายในยังมีบาธบอมให้สำหรับใส่ในอ่างด้วยน้า และที่พิเศษสุดคือ ไดร์เป่าผม Dyson ที่สาวๆต้องเลิฟแน่นอนนอกจากนี้ยังมีโซนแต่งหน้าพร้อมกระจกบานใหญ่ ที่ใช้งานสะดวกมากๆและภายในห้องน้ำก็แยกโซนเปียกและแห้งออกจากกันคนละประตูเลยค่ะ มาพร้อมครีมอาบน้ำ แชมพูสระผม และสบู่ล้างมือหรือครีมทามือค่ะ ประทับใจสาวๆอย่างเรามากเพราะไม่ต้องพกมาจากบ้านเลย แถมนอกจากนี้ภายในห้องยังมีลำโพงที่ทำให้บรรยากาศการพักผ่อนสมบูรณ์แบบไปอีกด้วยนะคะ ครบจบจริงๆบรรยากาศรอบๆก็เต็มไปด้วยภูเขาสูงสีเขียวสลับซับซ้อนกันไปมา หลังฝนตกก็มีหมอกล่องลอยไปมาทำให้เย็นสบายสุดๆ  แถมยังมีสระว่ายน้ำลอยฟ้าให้ได้ไปแหวกว่ายท่ามกลางสายหมอกยามเช้า เรียกได้ว่าฟินเกินต้านจริงๆค่ะ แถมจากที่พักเราสามารถมองเห็นวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วจากที่พีโน่ เขาค้อได้ด้วยนะคะ ตอนช่วงเย็น ทางที่พักจะเปิดไฟที่สระว่ายน้ำด้วยน้า มาว่ายเล่นตอนกลางคืน ถ่ายรูปสวยๆก็ได้ภาพอีกมู๊ดนึงที่สวยไม่แพ้กันเลยค่ะทุกคนช่วงค่ำเย็นๆแบบนี้ท้องร้องจ๊อกๆ เราก็ขอฝากท้องไว้กับทางที่พักค่ะ บอกเลยว่าไม่ผิดหวัง เพราะที่นี่มี “ชาบูจัดเต็ม” ให้เลือกทานกันได้แบบอบอุ่นในบรรยากาศเย็นๆของเขาค้อกันเลยค่ะ ในราคาเริ่มต้นเพียงสำหรับ 2 ท่านเพียง 1,599 บาทเท่านั้น แต่ถ้าใครอยากทานชาบูต้องแจ้งจองล่วงหน้าก่อนนะคะ โดยชาบูจะเริ่มเสิร์ฟเวลา 16.00 – 18.00 น. ค่ะ แต่วันนี้เราเลือกสั่งแบบชุดใหญ่ในราคา 1,999 บาทมาค่ะ จัดเต็มสุดๆ เพราะมากันหลายคน ที่ชอบมากๆเลยคือ ปลาแซลมอนนอร์เวย์ชิ้นโตๆที่ใส่มาให้ในชุดด้วย ส่วนวัตถุดิบอื่นๆก็แน่นมากค่ะทั้งกุ้งขาว, หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์, หมูสไลด์, หมูสามชั้น, ปลาหมึก, ปลากะพง, ลูกชิ้น, เต้าหู้ปลา, ชีส, ชุดผักและเห็ดเพื่อสุขภาพ ฯลฯ ครบเครื่องสุดๆ น้ำซุปก็มีให้เลือกทั้งน้ำดำสไตล์ญี่ปุ่นและน้ำใสสุกี้ยากี้ พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ดแบบไทยๆ ฟินมากๆ

กินอิ่มก็ขอตัวไปพักผ่อน ก่อนจะตื่นมารับแสงแดดยามเช้ากันค่ะ เช้ามานี้สดชื่นมากๆและบอกเลยว่า อาหารเช้าที่นี่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่เราประทับใจสุดๆค่ะ แขกที่เข้าพักสามารถเลือกอาหารเช้าได้ 1 เมนูต่อคน (ตามคูปองที่ได้รับ) และเริ่มเสิร์ฟตั้งแต่เวลา 07.00 – 10.00 น.นะคะ เรากับเพื่อนๆที่มาด้วยกันก็เลยจัดเต็ม มีทั้งเมนูแนะนำอย่าง ข้าวต้มกุ๊ย, ข้าวต้มหมูแห้ง, ขนมปังปิ้งเบคอนไข่ นอกจากนี้ยังมีเซ็ตขนมปัง ครัวซองต์ แยมหลากรส ผลไม้สด โยเกิร์ตสตรอว์เบอร์รี่ และน้ำส้มคั้นมาให้ด้วยน้า บอกเลยว่าอร่อยทุกอย่างจริงๆ ในส่วนของเครื่องดื่ม เราสามารถเลือกฟรีได้อีกคนละ 1 แก้ว ไม่ว่าจะเป็น อเมริกาโน่เย็น, ลาเต้ซิกเนเจอร์ของพีโน่ หรือเมนูอื่นๆ ก็เลือกได้ตามใจเลยค่ะ ที่พิเศษสุดๆคือตอนเช็คเอาท์ออกจากโรงแรม เรายังสามารถนำ ตั๋วไปแลกเครื่องดื่มฟรีที่คาเฟ่ Pino Latte ได้อีกด้วย เป็นการปิดท้ายทริปที่สมบูรณ์แบบจริงๆค่ะ ใครที่ได้มีโอกาสมาพักต้องชอบทุกงานบริการของที่นี่แบบเราเลยค่ะ พรีเมี่ยมตั้งแต่ตอนเช็คอินจนถึงเช็คเอาท์ออก ใครอยากมาพักผ่อนแบบชาร์จพลังกายให้เต็มที่และได้รับการบริการแบบพรีเมี่ยมต้องลองมาพักที่ The Pino Khao Kho นะคะ 

The Pino Khao Kho (เดอะ พีโน เขาค้อ) 
ที่ตั้ง : 232/3 หมู่ 7 อำเภอแคมป์สน จังหวัดเพชรบูรณ์ 67280 
เบอร์โทรศัพท์ : 056029498, 0870994497
ราคา :  เริ่มต้น 8,000 (ราคาอาจจะเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลากรุณาสอบถามกับทางที่พักโดยตรง)
Website : https://www.pinolatte.com
Facebook : https://www.facebook.com/thepinokhaokho
GPS : https://maps.app.goo.gl/owrAydD97pw38kPY6

จองที่พักเดอะพีโน่ เขาค้อ  ออนไลน์ได้ที่นี่

Tags: The Pino Khao Kho เดอะ พีโน เขาค้อ ที่พักเขาค้อ เขาค้อ พีโน่ ลาเต้ รีสอร์ท พีโน่ ลาเต้ รีสอร์ท เขาค้อ ที่พักวิวทะเลหมอก เดอะพีโน่เขาค้อ

เขียนโดย

Fern Chillpainai

แชร์บทความนี้