NA NIRAND Romantic Boutique Resort พักผ่อนริมแม่น้ำปิงในที่พักบรรยากาศสุดคลาสสิค

หากคุณกำลังมีแพลนไปเที่ยวเชียงใหม่แล้วมองหาที่พักสวยริมแม่น้ำปิง สถานที่ซึ่งเราจะได้พักผ่อนแนบอิงไปกับธรรมชาติ ท่ามกลางบรรยากาศสถาปัตยกรรมสุดคลาสสิคที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายประวัติศาสตร์ล้านนา เราจะพาคุณย้อนไปสู่ช่วงเวลาแห่งความทรงจำที่งดงามกันที่นี่...ณ นิรันดร์ โรแมนติก บูทีค รีสอร์ท

“ณ นิรันดร์” โรแมนติก บูทีค รีสอร์ท (NA NIRAND Romantic Boutique Resort) เป็นรีสอร์ทสไตล์ล้านนาโคโลเนียลริมแม่น้ำปิง ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ ให้ความรู้สึกเสมือนย้อนอดีตกลับไปยังสมัยรัชกาลที่ 5 ยุคที่สถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลได้เข้ามามีอิทธิพลในการออกแบบอาคารบ้านเรือนท้องถิ่น ด้วยการผสมผสานศิลปะคลาสสิกและโรแมนติก ผนวกกับสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นของล้านนา สะท้อนผ่านงานตกแต่งดีไซน์ตัวอาคารและห้องพักในอารมณ์อบอุ่น เรียบง่าย ตามแบบฉบับล้านนา แต่ยังคงไว้ซึ่งความสง่างาม     

นอกเหนือจากตำนานทางประวัติศาสตร์แล้ว ผู้มาเยือนยังได้ซาบซึ้งกับตำนานแห่งรักแท้ที่มาลบล้างตำนานสาวเครือฟ้า เรื่องราวความรักของสาวงามเชื้อสายเจ้าผู้ครองนครลำพูน และหนุ่มกรุงเทพ เจ้าของ “บ้านทับพญา” อันเป็นสถานที่ตั้งเดิม รอผู้มาเยือนได้มาสัมผัส และร่วมค้นหาความหมายที่แท้จริงแห่ง “รักนิรันดร์” อันเป็นที่มาของชื่อที่พักแห่งนี้นั่นเอง 

เราจะพาไปสำรวจอาคารที่พักทั้ง 6 หลังของ ณ นิรันดร์ โรแมนติก บูทีค รีสอร์ท ซึ่งเป็นลักษณะครึ่งตึก ครึ่งไม้ ในสไตล์ล้านนาโคโลเนียล สำหรับห้องพักที่นี่มีให้เลือกถึง 5 รูมไทป์ด้วยกัน โดยทุกห้องจะมีพื้นที่นั่งเล่นและระเบียงพักผ่อนส่วนตัวให้เราได้ผ่อนคลายกันอีกด้วย เริ่มต้นจากห้องพักประเภทดีลักซ์ ที่แบ่งออกเป็น 3 แบบให้เลือก คือ ห้อง Romantic Lanna Deluxe, Romantic Lanna Grand Deluxe และ Romantic Lanna Royal Deluxe

ห้อง Romantic Lanna Deluxe ห้องพักดีลักซ์ดีไซน์เรียบหรู ซึ่งมีให้เลือกพักทั้งเตียงแบบ Double และ Twin จะมาพักผ่อนกับเพื่อนหรือคนรู้ใจก็ฟินทั้งสองแบบ ภายในตกแต่งอย่างสวยเก๋ด้วยการนำงานหัตถกรรมท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ เช่น ผ้าทอมือพื้นเมืองลายล้านนาที่เป็นเอกลักษณ์ มาประดับตกแต่งบริเวณหัวเตียงให้มีลูกเล่นและสีสันมากยิ่งขึ้น 

ถัดมาคือ ห้อง Romantic Lanna Grand Deluxe ห้องพักแบบดีลักซ์ที่มีขนาดพื้นที่กว้างยิ่งขึ้น ภายในประดับตกแต่งด้วยงานหัตถกรรมท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความโดดเด่น เช่น ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สะท้อนให้เห็นถึงศิลปะในท้องถิ่นโดยมีการใช้ลวดลายเมฆไหล ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเราอาจจะคุ้นเคยหรือพบเห็นได้ในสถาปัตยกรรมทางศาสนาในจีนและญี่ปุ่น แต่น้อยคนจะทราบว่าลักษณะลายเมฆไหลนี้เป็นลายเอกลักษณ์ของศิลปะล้านนาโบราณ ที่ให้ความสวยงามนุ่มนวลและอ่อนหวานไม่แพ้กัน 

ห้อง Romantic Lanna Royal Deluxe ห้องพักดีลักซ์สุดเก๋ที่ผสมผสานเสน่ห์การตกแต่งแบบล้านนาเข้ากับสไตล์การตกแต่งที่ทันสมัย ภายในห้องนอนประดับหัวเตียงด้วยเหล็กฉลุเป็นลวดลายหนุ่มสาวล้านนาโบราณในชุดพื้นเมือง มีประตูบานเลื่อนกั้นบริเวณห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่และสุขภัณฑ์สีขาวสะอาดตา พื้นปูด้วยกระเบื้องสไตล์โคโลเนียลวินเทจ นอกจากนี้ ยังมีกิมมิคเล็กๆ อย่างผนังบานเลื่อนไม้สไตล์ล้านนา ที่เรียกว่า “ฝาไหล” สามารถเลื่อนเปิดปิดได้ เมื่อผสมผสานกับเฟอร์นิเจอร์ไม้และหวายทำให้รู้สึกกลมกลืนเข้ากับบรรยากาศและกลิ่นอายความเป็นล้านนาแบบร่วมสมัย

ถัดมาคือห้อง Romantic Lanna Corner Suites ห้องสวีทที่อยู่บริเวณหัวมุมอาคาร ทำให้มีขนาดพื้นที่กว้างขวางเป็นพิเศษ และมีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น มีจำนวนทั้งหมดเพียงแค่ 2 ห้องเท่านั้น ภายในห้องพักโดดเด่นด้วยการตกแต่งผนังหัวเตียงที่ได้รับการออกแบบอย่างสวยงามด้วยการผสมผสานการแกะสลักไม้ในหลายสไตล์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมผ้าทอมือล้านนาที่ตกแต่งผนังห้องพักช่วยสร้างบรรยากาศที่ดูคลาสสิกยิ่งขึ้น 

ปิดท้ายด้วยห้องพัก Riverfront Colonial Suites ห้องสวีทติดริมแม่น้ำ ขนาดตั้งแต่ 65-73 ตร.ม. แบ่งออกเป็น 4 รูปแบบ 4 สไตล์ แต่ละห้องจะตกแต่งในสไตล์โคโลเนียลที่แตกต่างกัน โดยการตกแต่งสะท้อนให้เห็นถึงเรื่องราวของพ่อค้าชาวต่างชาติจากเมียนมาร์ จีน อินเดียและอังกฤษที่เข้ามาในประเทศไทยเมื่อประมาณ 100 ปีที่แล้ว เพื่อทำธุรกิจและตั้งถิ่นฐานในชุมชนท้องถิ่น สถาปัตยกรรมไทยในสมัยนั้นจึงได้รับอิทธิพลจากหลายชาติและวัฒนธรรมซึ่งสะท้อนให้เห็นผ่านการออกแบบอาคารนั่นเอง 

เริ่มด้วยห้อง HARMONIOUS BRITISH INDIAN ห้องพักที่ดีไซน์การตกแต่งผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมอินเดียและอังกฤษ ที่หลอมรวมจุดเด่นของความเป็นตะวันตกและตะวันออกได้อย่างงดงามกลมกลืน ภายในห้องพักตกแต่งในโทนสีขาวสะอาดตา มาพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ให้อารมณ์แบบผู้ดีอังกฤษแบบชนชั้นสูงในยุคก่อน นอกจากนี้ ยังมีเฟอร์นิเจอร์ไม้และหวายซึ่งประดับด้วยไม้แกะสลักที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะอินเดียเพื่อเพิ่มอารมณ์อบอุ่นและผ่อนคลายให้กับห้องพักมากยิ่งขึ้น 

ห้อง BURMESE DREAM ห้องพักสไตล์โคโลเนียล ที่เน้นเฟอร์นิเจอร์ไม้และหวายสไตล์ล้านนาผสมผสานกับของตกแต่งจากเมียนมาร์สะท้อนให้เห็นผ่านงานหัตถกรรมต่างๆ รวมทั้งงานแกะสลักไม้ที่สวยงามและละเอียดอ่อน ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของต้นกำเนิดจากดินแดนพุกาม ช่วยเสริมให้บรรยากาศภายในห้องพักแห่งนี้มีเสน่ห์ชวนหลงใหลราวกับตกอยู่ในความฝัน 

ไปต่อกันที่ห้อง ENCHANTED CHINESE ที่ตกแต่งได้อย่างมีเสน่ห์สมชื่อห้อง ด้วยการตกแต่งในโทนสีสว่างและประดับด้วยโคมไฟสีแดงในแต่ละมุมของห้อง ซึ่งสะท้อนถึงเอกลักษณ์แบบจีนที่โดดเด่นตัดกับผนังสีเขียวแมนดารินที่เป็นเอกลักษณ์และร่วมสมัย ในขณะเดียวกันก็ไม่ละเลยความสง่างามและความโรแมนติก ด้วยเสน่ห์ที่ผสมผสานระหว่างความเป็นไทยและจีนได้อย่างลงตัว 

ปิดท้ายด้วย ห้อง “SIAMESE LOVE” ที่ตกแต่งในสไตล์โคโลเนียลร่วมสมัย ได้กลิ่นอายความเป็นไทย ภายในห้องนอนหัวเตียงประดับด้วยภาพวาดสไตล์ไทย – ล้านนาที่วิจิตรงดงาม สะท้อนถึงภาพวิถีชีวิตล้านนาในสมัยก่อน พร้อมยังนำศิลปะประจำชาติไทยอย่าง “การลงรักปิดทอง” นำมาใช้ในการตกแต่งเครื่องเรือน สร้างบรรยากาศแห่งการพักผ่อนได้อย่างลงตัวสมบูรณ์แบบ 

ไม่เพียงแต่ห้องพักที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ณ นิรันดร์ โรแมนติก บูทีค รีสอร์ท ยังมีสระว่ายน้ำกลางแจ้งรูปทรงยาวขนาดใหญ่ขนานไปกับอาคารที่พัก ให้เราได้แหวกว่ายท่ามกลางสวนสีเขียวและพันธุ์ไม้ร่มรื่น บรรยากาศสดชื่นเหมาะจะมาพักผ่อนออกกำลังกาย หรือนอนอาบแดด อ่านหนังสือชิลๆ สักเล่ม ช่วยเติมเต็มวันหยุดพักผ่อนได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ภายในบริเวณรีสอร์ทยังถูกออกแบบให้แวดล้อมไปด้วยพรรณไม้ท้องถิ่นใหญ่น้อย ให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสถึงบรรยากาศแห่งธรรมชาติที่สงบ ร่มรื่น และผ่อนคลาย โดยตัวอาคารที่พักและอาคารเพื่อการใช้สอยทั้งหมดถูกออกแบบมาให้ตั้งเรียงรายโอบล้อมต้นฉำฉาหรือต้นจามจุรียักษ์ อายุเก่าแก่กว่า 100 ปี ซึ่งตั้งโดดเด่นเป็นศูนย์กลางจนได้ชื่อว่า “The Heart of Na Nirand” ประดุจหัวใจแห่ง ณ นิรันดร์ โดยมีตำนานเล่าขานกันมาว่า ต้นฉำฉาเก่าแก่อายุนับกว่าร้อยปีต้นนี้ อาจเป็นหนึ่งในพันธุ์ฉำฉาที่ Mr. H. Slade เจ้ากรมป่าไม้คนแรกของสยามในยุคนั้นได้นำมาปลูกไว้ จวบจนปัจจุบัน 

นอกจากจะเป็นแลนด์มาร์กของรีสอร์ทแล้ว ต้นจามจุรียักษ์ต้นนี้ยังเปรียบเสมือนตัวแทนของความรักและความโรแมนติกที่ยืนยงเป็นนิจนิรันดร์ ทำให้เหล่าบรรดาคู่รักนิยมใช้เป็นสถานที่ขอแต่งงาน,  ถ่าย Pre-Wedding, จัดพิธีหมั้น หรืองานแต่งงานขนาดกะทัดรัด รวมถึงใช้เป็นสถานที่ฮันนีมูน โดยสามารถเลือกจัดงานภายใต้ร่มเงาของต้นฉำฉาเก่าแก่อายุราว 100 ปี  “The Heart of Na Nirand”  หรือหากอยากได้งานแต่งงานในรูปแบบย้อนยุค ก็สามารถเลือกจัดงานที่ “Function House” บ้านทรงไทยล้านนาประยุกต์ก็ให้อารมณ์คลาสสิก เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร  

สำหรับใครที่อยากรับประทานอาหารริมน้ำ ภายในรีสอร์ทยังมีร้านอาหารบรรยากาศดีอย่าง “TIME”  Riverfront Cuisine & Bar  ร้านอาหารสุดเก๋แนว Industrial Vintage ริมแม่น้ำปิง ที่ให้บริการทั้งอาหารไทยและล้านนาแนวฟิวชั่น รวมถึงอาหารนานาชาติ 

และที่พลาดไม่ได้เลยคือ การจิบชายามบ่ายกับ Signature Afternoon Tea ที่มีชื่อเสียงของโรงแรม ซึ่งประกอบด้วยอาหารทานเล่นและขนมเค้กที่มีรสชาติดีมาก พร้อม “Rooftop Wine Bar” รูฟท็อปบาร์บนดาดฟ้าริมแม่น้ำปิง ให้เราได้นั่งจิบไวน์รสเลิศ พร้อมเพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันโรแมนติกและงดงามรอบด้านในมุมมองแบบ 360 องศา ไม่ว่าจะบรรยากาศสดชื่นตอนกลางวันท่ามกลางแสงแดดอันอบอุ่นสดใส หรือชมบรรยากาศทไวไลท์ยามค่ำคืน...ก็โรแมนติกไม่แพ้กันเลยจริงๆ 

ใครอยากมาสัมผัสบรรยากาศในการพักผ่อนที่เหมือนได้ย้อนไปยังเชียงใหม่ในวันวาน...ลองเกี่ยวก้อยคนรู้ใจไปพักผ่อนเติมความหวานกันได้ที่ ณ นิรันดร์ โรแมนติก บูทีค รีสอร์ท ที่พักสุดโรแมนติกที่จะทำให้คุณตกหลุมรักและประทับใจเชียงใหม่มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม 

NA NIRAND Romantic Boutique Resort

ที่ตั้ง: 1/1 ซอย 9 ถนนเจริญประเทศ ต.ช้างคลาน อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรโมชั่นและสำรองห้องพักได้ที่  053-280-988  หรือ 062-875-2401    
Email: rsvn@nanirand.com

IG: @na_nirand

FB: nanirand.romantic.boutique.resort
Line Official: @nanirandresort หรือ คลิก bit.ly/2Zihb4B
Website: www.nanirand.com

Tags: เชียงใหม่ ที่พักเชียงใหม่ ณ นิรันดร์ โรแมนติก บูทีค รีสอร์ท Na Nirand Romantic Boutique Resort ที่พักสวยเชียงใหม่ ที่พักริมแม่น้ำปิง Rooftop Wine Bar รูฟท็อปบาร์เชียงใหม่ TIME Riverfront Cuisine & Bar ร้านอาหารเชียงใหม่ ร้านอาหารริมแม่น้ำปิง ร้านนั่งชิลเชียงใหม่

เขียนโดย

Admin Chillpainai

แชร์บทความนี้