calendar_month 25 ต.ค. 2019 / stylus Admin Chillpainai / visibility 13,066 / รีวิวที่กิน
ทุกครั้งที่มีเหตุให้แวะเวียนมาย่านทองหล่อ ไม่ว่าจะมาแฮงเอาท์กับเพื่อนชาวแก๊งค์ หรือมาคุยงานธุรกิจ ผมก็มักจะมองหาร้านอาหารหรือคาเฟ่ชิคๆ คูลๆ สักร้านไว้นั่งส่องสาว เอ้ย นั่งชิลรอเวลาก่อน ซึ่งร้านที่ผมแวะไปนั่งรอเพื่อนในวันนี้ก็คือ The Blooming Gallery (เดอะ บลูมมิ่ง แกเลอรี) ร้านอาหารกึ่งคาเฟ่ตั้งอยู่ใจกลางโลเคชั่นฮอตฮิตอย่างทองหล่อ พิกัดที่ไม่เคยหลับใหล
สำหรับวิธีการเดินทางมาร้านที่สะดวกที่สุดแนะนำให้ใช้รถไฟฟ้า BTS เลยฮะ จากปากซอยสุขุมวิท 55 ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ก็ถึงไลฟ์สไตล์มอลล์อย่างตึก Eight Thonglor แล้ว ทำเลที่ตั้งของร้านก็หาไม่ยากอยู่ที่ชั้นใต้ดิน แม้จะเป็นร้านเล็กๆ แต่ด้านหน้าก็ตกแต่งได้โดดเด่นจากร้านอื่นทั่วไปเลยฮะ เพราะเขาออกแบบให้เป็นเรือนกระจกเล็กๆ ล้อมรอบด้วยไม้ประดับผสมผสานกับผนังอิฐที่ดูดิบเท่ บอกเลยว่าดูดีจนผู้ชายแมนๆ อย่างผมรีบผลักประตูเข้าไปในร้านทันที
บรรยากาศด้านในอบอวลไปด้วยความสวยงามของไม้ประดับต่างๆ ซึ่งที่นี่เขาได้แรงบันดาลใจในการตกแต่งร้านส่วนหนึ่งมาจากผลงานภาพวาดแนว Impressionist จาก Oscar Claude Monet ศิลปินชาวฝรั่งเศสผู้วาดภาพสีน้ำมันที่ส่วนใหญ่มักจะวาดภาพต้นไม้ ดอกไม้ แนวธรรมชาติ เขาเลยแบ่งที่นั่งออกเป็น 2 โซน คือโซนเรือนกระจกใสตั้งแต่หลังคายันพื้นผนังแต่งด้วยเฟิร์นและไม้เลื้อย คั่นกลางด้วยเคาน์เตอร์บาร์ ก่อนจะต่อเนื่องไปยังที่นั่งอีกหนึ่งโซนที่ทางร้านดึงเสน่ห์ของความดิบเท่สไตล์ Rustic ด้วยอิฐเปลือยผสมผสานกับเฟอร์นิเจอร์เหล็กสีดำ และเพิ่มความโรแมนติกด้วยแสงไฟสีส้ม
ไม่ใช่แค่การตกแต่งที่ได้แรงบันดาลใจมาจากผลงานของศิลปินชาวฝรั่งเศสเท่านั้นนะฮะ ชื่อเมนูอาหารและเครื่องดื่มของร้านเขาก็ตั้งชื่อตามผลงานของ Oscar Claude Monet ด้วยล่ะ ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นของทางร้านเลยก็ว่าได้เพราะทุกเมนูของที่นี่เขาจะสอดแทรกดีเทลของชาและดอกไม้ลงไปในตัวอาหารด้วย โดยจานแรกผมขอประเดิมเมนูเรียกน้ำย่อยกับ Home Fries With Truffle Sauce (220 บาท) มันม่วงและมันหวานญี่ปุ่นที่ถูกหั่นเป็นท่อนๆ นำไปทอดให้กรอบนอกนุ่มใน ให้รสชาติเค็มนิดๆ แนะนำให้ทานคู่กับซอสทรัฟเฟิลโฮมเมดสูตรเฉพาะของทางร้าน ขอบอกว่ากลิ่นทรัฟเฟิลหอมกรุ่นกระตุ้นความอยากอาหารได้ดีทีเดียว
จานต่อไปก็ยังเป็นเมนูเรียกน้ำย่อยอยู่กับ Mexican Pork Quesadillas (180 บาท) จานนี้คือพิซซ่าสไตล์เม็กซิกันที่เชฟนำหมูไปผัดกับซอสเม็กซิกันที่มีเครื่องปรุงเยอะกว่าซอสมะเขือเทศทั่วไป ก่อนจะนำไปวางบนแป้งประกบกันอบพร้อมมอสซาเรลล่าชีส แป้งกรอบๆ ชีสยืดๆ ทานคู่กับซอสสูตรเฉพาะของทางร้าน อร่อยจนอยากจะสั่งเพิ่มอีกจาน!
ตามมาด้วยเมนู Signature อย่าง The Blooming Gallery Crispy Tea Leaf Salad (220 บาท) ซีซาร์สลัดที่ไม่เหมือนร้านอื่นทั่วไป เพราะที่นี่เขาเสิร์ฟมาพร้อมกับใบชาทอดกรอบที่เพิ่มความกรุบกรอบให้กับสลัดได้เป็นอย่างดี แถมยังตกแต่งจานด้วยดอกไม้ คนรักสุขภาพและชอบถ่ายรูปห้ามพลาด
ส่วนเมนูจานหลักผมสั่ง Fettuccine Truffle Sauce (280 บาท) เส้นพาสต้าหนาๆ ผัดกับซอสเห็ดทรัฟเฟิลผสมกับวิปปิ้งครีมมันๆ ซึ่งให้เส้นที่เหนียวนุ่ม คลุกเคล้ากับซอสเห็ดที่ไม่เลี่ยนจนเกินไป ลงตัวสุดๆ เลยฮะ
ต่อด้วย Salmon Steak Ponzu Sauce (380 บาท) แซลมอนชิ้นโตที่ถูกย่างจนสุกกำลังดี หนังมีความกรอบ คลุกเคล้ามากับซอสพอนสึที่เชฟของทางร้านปรุงจากส้มประเทศญี่ปุ่น คั้นน้ำต้มกับเครื่องเทศจนออกมาเป็นรสชาติเปรี้ยวเค็มแบบกำลังดี แนะนำให้ทานคู่กับมันญี่ปุ่นที่เสิร์ฟมาคู่กันจะให้รสชาติหวานมันกลมกล่อมเวอร์
อีกหนึ่งจานที่อร่อยจนผมแทบจะร้องขอชีวิตกับเมนู Angel Hair Spaghetti Mentaiko (280 บาท) สปาเก็ตตี้เส้น Angel Hair คลุกเคล้ากับซอสสูตรพิเศษจากทางร้าน เพิ่มรสชาติและกลิ่นหอมจากกระเทียม พริกแห้งคั่วน้ำมัน รสชาติดี มีความเผ็ดที่ปลายลิ้นนิดๆ ท็อปด้วยกุ้งสดตัวโตและไข่กุ้งผสมผสานกันอย่างลงตัว
ใครอยากซดซุปให้โล่งคอต้องสั่งเมนูนี้เลย Lobster Bisque (180 บาท) ซุปล็อบสเตอร์สุดเข้มข้นที่มีส่วนผสมของหัวกุ้งล็อบสเตอร์ เครื่องหอมและเครื่องเทศเคี่ยวรวมกันถึง 2 ชั่วโมง ถึงออกมาเป็นซุปชามนี้!! บอกเลยว่าซุปหวานหอมเด็ดมากๆ เขาจะเสิร์ฟกุ้งสดราดครีมและขนมปังมาพร้อมกับซุปกา แนะนำให้ทานคู่กันแล้วจะติดใจจนอยากกลับไปทานอีก
ปิดท้ายกันที่เมนูขนมหวานที่ไม่สั่งเหมือนมาไม่ถึงร้านนี้ A Path in the Forest (380 บาท) มัทฉะมูสที่แบ่งเลเยอร์ออกเป็น 4 ชั้นเพื่อเพิ่มรสสัมผัสให้กับตัวขนม ชั้นล่างสุดจะเป็นชีสเค้ก ชั้นที่ 2 เป็นมูสชาเขียวมัทฉะ ชั้นที่ 3 คือครัมเบิลกรุบกรอบ และชั้นที่ 4 คือวิปครีมสดที่โรยด้วยผงมัทฉะจากเกียวโตเสิร์ฟลงบนถ้วยหินอ่อนสีดำคู่กับช้อนไม้ ทางร้านแนะนำให้ทานพร้อมกัน 4 ชั้น จะได้รสชาติที่กลมกล่อมเพราะความนุ่มละมุนของเนื้อมูสจะผสานความกรุบกรอบของครัมเบิล อร่อยจนผมยกนิ้วให้เลยฮะ
เห็นผมสั่งแต่เมนูน่าทานมาเยอะขนาดนี้ไม่ใช่ว่าผมถูกหวยได้เลขเด็ดทุกงวดมาจากไหนหรอกนะฮะ แต่เป็นเพราะว่าผมหิวแบบว่ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เช้า ประกอบกับนั่งรอเพื่อนนานหันไปเห็นป้ายว่าลูกค้าที่ใช้แอปพลิเคชัน FWD MAX สามารถรับสิทธิพิเศษส่วนลดได้ 10% ทางผมจึงไม่รีรอสั่งเมนูเด็ดๆ มาทานพลางรอเพื่อนอย่างที่ทุกคนเห็นนี่ล่ะครับ ใครอยากได้ส่วนลดฟินๆ แบบผมก็ลองเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่นี่เลย https://www.chillpainai.com/fwdmaxprivilege/
สมัครรับสิทธิพิเศษ FWD MAX ได้ง่ายๆ
Android: https://goo.gl/RVJ6Kl
The Blooming Gallery
ที่ตั้ง : ชั้น LG The Ei8ht Thonglor Plaza สุขุมวิท 55 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพ
เวลาเปิด : 10.00 - 22.00 น.
ราคาเริ่มต้น : 180 บาท
เบอร์โทรติดต่อ : 0 2063 5508
GPS : https://g.page/TBGThonglor?share
Tags: กรุงเทพ ร้านอาหารทองหล่อ ร้านคาเฟ่ทองหล่อ The blooming gallery เดอะ บลูมมิ่ง แกเลอรี FWDMAX FWD fwdthailand
รีวิวที่กิน | 07 ต.ค. 2024 | 465 อ่าน
รีวิวที่กิน | 01 ส.ค. 2024 | 667 อ่าน
รีวิวที่กิน | 10 ก.ค. 2024 | 1,482 อ่าน
รีวิวที่กิน | 30 เม.ย. 2024 | 5,987 อ่าน
รีวิวที่กิน | 30 เม.ย. 2024 | 4,632 อ่าน
รีวิวที่กิน ที่กิน | 02 เม.ย. 2024 | 2,891 อ่าน
รีวิวที่กิน | 26 ธ.ค. 2023 | 2,599 อ่าน
รีวิวที่กิน | 08 ธ.ค. 2023 | 9,735 อ่าน
รีวิวที่กิน | 21 มิ.ย. 2023 | 23,680 อ่าน
รีวิวที่กิน | 12 มิ.ย. 2023 | 42,242 อ่าน
รีวิวที่กิน | 24 พ.ค. 2023 | 11,422 อ่าน