ภูใจใส เมาน์เทน รีสอร์ท ที่พักท่ามกลางขุนเขาในเชียงรายที่สักครั้งต้องไปพักให้ได้

ว่ากันว่า 'ถ้าเรารู้สึกเหนื่อยล้า หมดกำลังใจหรือท้อแท้ ให้ออกเดินทางท่องเที่ยวไปให้ธรรมชาติโอบกอดแล้วจะรู้สึกดีขึ้น' ใครที่กำลังวางแพลนเที่ยว แต่ยังไม่รู้จะไปที่ไหนดี เราอยากจะชวนให้มาเที่ยวที่เชียงราย เมืองเหนือสุดของไทยที่มากด้วยวัฒนธรรมและความสวยงามของธรรมชาติ พร้อมเช็คอินที่ "ภูใจใส เมาน์เทน รีสอร์ท" ที่พักที่จะเติมเต็มความสุขให้ทุกช่วงเวลาการพักผ่อนของคุณ 

"ภูใจใส เมาน์เทน รีสอร์ท" เป็นรีสอร์ทที่เกิดจากแรงบันดาลใจที่อยากพัฒนาเนินเขาไม้ไผ่แห่งนี้ ให้กลายเป็นจุดหมายแห่งการพักผ่อนที่มีความกลมกลืนกับธรรมชาติของหม่อมหลวงสุดาวดี เกรียงไกร หรือหม่อมดา นักออกแบบตกแต่งภายในชั้นนำของไทย ซึ่งภูใจใสแปลว่า “ภูเขาแห่งใจที่สะอาด” และคำว่า “ใจใส” นั้นเป็นชื่อของคุณแม่ของ หม่อมหลวงสุดาวดีนั่นเองค่ะ

ใครที่ชอบความเรียบง่าย บอกเลยว่าจะต้องตกหลุ่มรักที่นี่อย่างแน่นอน เพราะ ภูใจใส เมาน์เทน รีสอร์ท เป็นบูทีครีสอร์ทที่นำความเป็นชนบท วิถีชีวิตที่เรียบง่าย และความอบอุ่นของชาวล้านนามารวมกันไว้ในที่เดียวกัน การตกแต่งรีสอร์ทของที่นี่จะเน้นใช้วัสดุที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งก้อนหิน อิฐแดง ไม้ไผ่ และไม้สัก ที่เรียกได้ว่าเรียบแต่เก๋สุดๆ เลยค่ะห้องพักของที่นี่จะมีทั้งหมด 33 ห้อง โดยแบ่งห้องพักออกเป็น 5 ประเภท ซึ่งวันนี้เราก็มีภาพบรรยากาศสวยๆ มาฝากถึง 2 ห้องด้วยกัน ถ้าพร้อมแล้วก็มาเริ่มกันที่ห้องแรกเลยค่ะ กับ Bamboo Cottage ห้องพักสำหรับผู้เข้าพัก 2 ท่านขนาด 30 ตารางเมตรที่มาพร้อมกับบรรยากาศอบอุ่น ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องส่วนใหญ่จะทำมาจากไม้ไผ่ในท้องถิ่นทั้ง เตียง โต๊ะ เก้าอี้ ที่จับประตู หรือแม้กระทั่งโคมไฟ
นั่นเองค่ะ

ภายในห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันเลยทีเดียวค่ะ ทั้งเตียงนอนสุดนิ่ม เครื่องปรับอากาศ เครื่องชงชา-กาแฟ โคมไฟ โทรศัพท์ ไดร์เป่าผม โทรศัพท์สายตรงติดต่อพนักงานที่ล็อบบี้ ฯลฯ ส่วนห้องน้ำของที่นี่ก็ค่อนข้างกว้างขวางเลยทีเดียวค่ะ มีการแยกโซนแห้ง-เปียกที่ชัดเจน และอีกหนึ่งกิมมิคที่เราชอบมากในห้องน้ำนี้คือ สบู่กลิ่นน้ำผึ้ง และแชมพูชาโคล ที่เป็นผลิตภัณฑ์ออแกนิคจากธรรมชาติ เรียกได้ว่าแช่ตัวสปาฟินวนไปเลยจ้า และส่วนใครที่อยากชมวิวรับลมธรรมชาติ ก็ไม่ต้องเดินไปที่ไหนไกลๆ เพราะห้องนี้มีชานระเบียงส่วนตัวที่มาพร้อมกับโต๊ะ เก้าอี้ โซฟา และหมอนอิง ที่ไม่ว่าจะมาจิบกาแฟ อ่านหนังสือหรือถ่ายรูปชิคๆ ที่มุมนี้ก็ดีเริ่ดไปหมดเลยล่ะจ้า

แต่สำหรับใครที่ชอบห้องที่กว้างขวางและมีความเป็นส่วนตัวแบบสุดๆ เราขอแนะนำห้องนี้เลยค่ะ Private Pool Cottage วิลล่าส่วนตัวสำหรับผู้เข้าพัก 2 ท่าน ขนาด 100 ตารางเมตร ที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันไม่แพ้ห้องไหนๆ เลยค่ะ ทั้งเตียงนอน มุมโซฟา มุมนั่งเล่น เครื่องปรับอากาศ โคมไฟ ตะเกียงฉุกเฉิน โทรศัพท์ติดต่อพนักงานที่ล็อบบี้ และห้องน้ำภายในห้องพักที่มีขนาดกว้างขวาง แถมภายในยังมีสิ่งอำนวยสะดวกและการแยกโซนแห้ง-เปียกที่ทำให้เราไม่ต้องเดินเลอะเฉอะแฉะอีกต่อไปเลยค่ะ

แต่ถ้าใครเบื่อการอาบน้ำแบบเดิมๆ ก็สามารถมาอาบน้ำได้ที่อ่างอาบน้ำกลางแจ้งที่อยู่ข้างๆ มุมนั่งเล่นได้เลยค่ะ บอกเลยว่าเปิดประสบการณ์การอาบน้ำท่ามกลางธรรมชาติที่สุดเลยล่ะค่ะ

นอกจากนี้ภายในวิลล่ายังมีลานระเบียงกลางแจ้ง ที่มาพร้อมกับเก้าอี้นอน เบาะโซฟา และสระว่ายน้ำส่วนตัวขนาดใหญ่ที่จะช่วยให้เราได้เพลิดเพลินเมื่อเข้ามาพักที่วิลล่านี้นั่นเองค่ะ ใครที่อยากได้รูปอัพลงโซเชียลเก๋ๆ บอกเลยว่ามุมนี้ถ่ายแล้วเป๊ะ ถ่ายแล้วปังแน่ๆ จ้า

ชมบรรยากาศภายในห้องพักกันไปแล้ว ก็แวะมาชมบรรยากาศรอบๆ รีสอร์ทกันต่อ ซึ่งใครที่อยากว่ายน้ำแต่ไม่ได้พักที่ห้อง Private Pool Cottage ก็ไม่ต้องน้อยใจไปนะคะ เพราทางรีสอร์ทก็มีสระว่ายน้ำส่วนกลางสุดเก๋ไว้คอยให้บริการแถมบรรยากาศก็ยังเริ่ดไม่แพ้ที่ไหนๆ เลยล่ะค่ะ ซึ่งนอกจากนี้ที่นี้ยังมีสปากลางแจ้งเก๋ๆ ที่ชื่อว่า Bamboo Spa ซึ่งที่มาของชื่อก็มาจากตัวอาคารสปาที่ทำขึ้นจากไม้ไผ่นั่นเอง ส่วนบรรยากาศภายในสปาค่อนข้างและมีความเป็นส่วนตัวสุดค่ะ ซึ่งจุดเด่นของสปาที่นี่คือการใช้น้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติ ที่สร้างจากภูมิปัญญาชาวบ้านที่ส่งต่อกันจากรุ่นสู่รุ่นนั่นเองค่ะ บอกเลยว่าหอมละมุมสุดๆ 

และอีกหนึ่งกิจกรรมที่เราอยากให้เพื่อนๆ ได้ลองทำ นั่นก็คือการเดินชมเส้นทางธรรมชาติ วิถีชีวิตสีเขียวที่มีทั้งสวนเกษตรอินทรีย์ สวนชา และสวนผลไม้ ที่ปลูกแบปลอดสารพิษและนำมาเป็นวัตถุดิบเมนูอาหารภายในรีสอร์ทนั่นเองค่ะ เดินชมบรรยากาศรอบๆ ที่พักจนเมื่อยแล้ว เราก็ขอแวะมานั่งชิลที่อีกหนึ่งจุดไฮไลท์ของรีสอร์ท นั่นก็คือ สวนจำลอง ที่มีทั้งพรรณไม้และปลาคาร์ฟตัวโตนั่นเองค่ะ บรรยากาศเขียวชะอุ่ม ร่มรื่นสุดๆ ค่ะ

ส่วนใครที่มาที่นี่แล้วไม่อยากเดินทางไปทานอาหารไกลๆ ที่นี่ก็มีห้องอาหารภายในรีสอร์ท "ห้องอาหารภูวิว" (Phu View Restaurant) ไว้คอยให้บริการด้วยล่ะค่ะ สะดวกสบาย แถมเมนูของที่นี่ก็เฮลตี้และปลอดสารพิษอีกด้วย ซึ่งเมนูอาหารแนะนำของที่นี่ก็คือ ยอดมะระไข่เค็ม เมนูสุขภาพดีโภชนาการสูงนั่นเองค่ะ ห้องอาหารภูวิว เปิดให้บริการทุกวัน อาหารเช้าจะเริ่มตั้งแต่เวลา 7.00 - 10.00 น. อาหารเที่ยงและมื้อเย็นจะเริ่มตั้งแต่เวลา 11.00 - 21.30 น. ค่ะ

ใครที่ทานอาหารอิ่มแล้ว เราขอแนะนำให้ไปเดินย่อยที่บริเวณจุดชมวิวภายในรีสอร์ทที่มีมากถึง 3 จุดด้วยกัน ซึ่งอยู่ใกล้ๆ ศาลากลางและห้องอาหารเลยค่ะ เดินไปนิดเดียวก็ถือแล้ว บอกเลยว่าใครที่มาที่นี่ต้องห้ามพลาดมานั่งชมวิวขุนเขาอันเขียวขจีที่บริเวณเลยนะคะ

สำหรับใครที่มีแพลนมาเที่ยวเชียงราย แล้วต้องการที่พักบรรยากาศสงบสุขและมีความเป็นส่วนตัว ภูใจใส เมาน์เทน รีสอร์ท ก็ถือว่าเป็นที่พักที่ดีในตัวเลือกเลยล่ะค่ะ เพราะนอกจากที่นี่จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์การเข้าพักแล้ว ที่นี่ก็ยังเป็นอีกหนึ่งรีสอร์ทที่จะทำให้เราได้สัมผัสวิถีท้องถิ่นไปพร้อมกับการชื่นชมธรรมชาติที่สวยงามของขุนเขาในเขียงรายอีกด้วย ใครที่มาเชียงรายก็อย่าลืมมาพักที่นี่นะคะ รับรองว่าจะติดใจเหมือนเราอย่างแน่นอน

Phu Chaisai Mountain Resort & Spa (ภูใจใส เมาน์เทน รีสอร์ท)

ที่ตั้ง : 142 หมู่ 8 ต.ศรีค้ำ อ.แม่จัน จ.เชียงราย

เบอร์โทรศัพท์ : 053-910-500

ราคาห้องพักรวมอาหารเช้า :

- Bamboo Cottage ราคาเริ่มต้นคืนละ 3,500 บาท

- Private Pool Cottage ราคาเริ่มต้นคืนละ 7,000 บาท

- เตียงเสริม ราคา 1,000 บาทต่อเตียง (ราคานี้ไม่รวมอาหารเช้า)

หมายเหตุ : ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงโปรดสอบถามทางที่พักอีกครั้ง

 GPS : https://goo.gl/maps/BdBJ3ZY7cBm9iqSj8

เว็บไซต์ : https://www.phu-chaisai.com/th/

เฟสบุ๊ก : Phu Chaisai Mountain Resort

จองที่พัก ภูใจใส เมาน์เทน รีสอร์ท ออนไลน์ได้ที่นี่

Tags: เชียงราย ที่พักเชียงราย แม่จัน ที่พักแม่จัน ภูใจใส ภูใจใสเมาน์เทนรีสอร์ทแอนด์สปา PhuChaisaiMountainResortandSpa

เขียนโดย

Admin Chillpainai

แชร์บทความนี้