calendar_month 31 ก.ค. 2019 / stylus นางสาวฮานะ ชิลไปไหน / visibility 57,090 / รีวิวที่พัก
ถ้าถามว่าจังหวัดไหนมีโฮมสเตย์ให้เลือกมากที่สุด หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของจังหวัดจันทบุรีแน่นอนค่ะ และความพิเศษของโฮมสเตย์ที่นี่คือต่างมีแพ็คเกจให้เราไปนอนโฮมสเตย์ กินปู ดูทะเล ล่องแพเปียกแบบจ่ายครั้งเดียวได้ครบทุกอย่างแถมยังจัดซีฟู้ดได้ไม่อั้น ซึ่งโฮมสเตย์ที่เราประทับใจแล้วอยากชวนเพื่อนๆ ไปสัมผัสบรรยากาศอบอุ่น พร้อมกินปูดูทะเล นั่นก็คือศิริจันท์โฮมสเตย์ โฮมสเตย์น้องใหม่ในบ้านบางชัน จันทบุรี ที่นี่เป็นที่พักเล็กๆ แต่ความประทับใจล้นทะลักตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้ามากันเลย ใครคิดถึงปู อยากไปดูเหยี่ยวก็ตามไปชมกันเลย
ทริปนี้เราไปแบบ 2 วัน 1 คืน มุ่งตรงไปศิริจันท์โฮมสเตย์เลยไม่ได้แวะเที่ยวที่ไหน เพราะแค่อยากไปนั่งๆ นอนๆ พักผ่อนรีชาร์จร่างกาย และจัดหนักซีฟู้ดกันแบบเต็มที่ 3 มื้อ เราเลยขับรถออกจากกรุงเทพฯตั้งแต่ 7 โมงเช้าปักหมุด GPS ตามนี้เลยค่ะ>> https://goo.gl/maps/1eUKc6W9QVrBCuie6 ประมาณเที่ยงๆ เราก็เดินทางถึงศิริจันท์โฮมสเตย์ พอเข้ามาถึงพี่เล็กเจ้าของโฮมสเตย์รวมทั้งๆ พี่ๆ สต๊าฟของศิริจันท์โฮมสเตย์ก็ยิ้มแย้มทักทายเชื้อเชิญเราว่าเดี๋ยวเอาของไปเก็บในห้องพัก พักเหนื่อยกันก่อน แล้วค่อยออกมาทานอาหารกลางวันมื้อแรกกัน
บรรยากาศภายในโฮมสเตย์เป็นโฮมสเตย์ขนาดเล็กตั้งอยู่กลางน้ำ มีบ้านพักประมาณ 5 หลัง และมีบ่อกุ้งขนาดใหญ่อยู่บริเวณด้านหลัง รวมพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 12 ไร่ พี่เล็ก สุวนันท์ แจบไธสง เจ้าของที่พักแห่งนี้เล่าให้เราฟังว่าความตั้งใจแรกคือสร้างบ้านกลางน้ำสำหรับนอนเล่นให้กับคุณแม่ที่อยู่บ้านตรงข้ามมานั่งมานอนเล่นรับลมชิลๆ โดยบ้านหลังแรกที่สร้างคือบ้านหินทราย บ้านสีน้ำตาลอ่อนที่ผนังภายนอกก่อเป็นอิฐด้านในฉาบด้วยปูนทาสีขาวหลังเดียวของที่นี่ มีประตูหน้าต่างกระจกบานเลื่อนรอบตัวบ้าน ซึ่งความชิลของบ้านหลังนี้ไปเตะตาคนที่ขับรถผ่านไปผ่านมาและกำลังหาที่พักอยู่ต่างสนใจและมาขอเช่ากับพี่เล็กอยู่เสมอ พี่เล็กจึงปิ๊งไอเดียทำให้ที่นี่เป็นโฮมสเตย์เสียเลย และสร้างบ้านเพิ่มอีก 3 หลัง คือบ้านไม้งาม 1 หลัง และบ้านแฝดอีก 2 หลัง พร้อมกันนั้นยังปรับบ้านของคุณแม่บริเวณด้านหน้าสุดให้เป็นห้องพักสำหรับลูกค้าอีกด้วย
เรามาดูบรรยากาศบ้านหินทรายซึ่งเป็นห้องพักของเราคืนนี้กันค่ะ ตัวบ้านด้านหน้ามีสะพานไม้เชื่อมต่อกับที่พักหลังอื่นๆ ด้านหลังติดกับบึงน้ำบรรยากาศหลังนี้จะเป็นส่วนตัวที่สุด รองรับได้ 5-6 คน มีพื้นที่ด้านหน้าที่ทำเป็นชานระเบียงกว้างขวาง จะมานั่งเล่น นอนเล่นรับลมตรงนี้ก็ชิลสุดๆ กันไปเลย
ภายในห้องพักมีที่นอนแบบฟูกขนาด 6 ฟุต 2 ฟูก สามารถนอนได้ 4 คน และมีเตียงนอนแบบ 2 ชั้น สามารถนอนได้ 2 คน ตั้งอยู่อีกมุมของห้อง ติดกับกระจกขนาดใหญ่ มองออกไปเห็นบึงน้ำด้านนอกบรรยากาศดีมากๆ ค่ะ
ภายในห้องมีทีวี เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น สัญญาณอินเตอร์เน็ตไวไฟ พร้อมน้ำดื่มเรียกว่าเป็นโฮมสเตย์ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเทียบเท่ากับโรงแรมกันเลย
และที่ชอบที่สุดคือในห้องน้ำมีเครื่องทำน้ำอุ่นด้วยค่ะ เพราะจะหาโฮมสเตย์ในบ้านบางชันที่มีเครื่องทำน้ำอุ่นด้วยค่อนข้างน้อยมากๆ ทีนี้จะได้อาบน้ำโดยไม่ต้องทนหนาวอีกต่อไปแล้ว
พอเก็บของเข้าห้องเสร็จก็ขอพี่เล็กไปเดินชมห้องพักแบบอื่นกันบ้างค่ะ โดยบ้านหลังอื่นอีก 3 หลังจะเป็นบ้านไม้ที่สร้างจากไม้เก่า ตัวบ้านทุกหลังจะมีชานระเบียงด้านหน้าพร้อมห้องน้ำในตัว เริ่มจากบ้านไม้งามตั้งอยู่ตรงกลางบึงค่ะ หลังนี้จะมีที่นอนขนาด 6 ฟุต 4 ฟูก รองรับได้ 8 คน ส่วนบ้านแฝดอีก 2 หลัง จะมีห้องนอนแยก 2 ห้อง แต่ละห้องมีห้องน้ำในตัว และพักได้ห้องละ 8 คน พี่เล็กตั้งชื่อห้องพักของบ้านแฝดหลังแรกว่าน้ำริน และฝนโปรย ส่วนบ้านแฝดหลังที่สองชื่อว่าลมโชย และฟ้าคราม แค่ชื่อห้องก็อยากนอนแล้วล่ะค่ะ
บรรยากาศภายในห้องฟ้าครามตกแต่งด้วยผ้าปูที่นอนสีฟ้าและม่านสีฟ้าสดใส กรุผนังและเพดานด้วยไม้ไผ่สานมีกระจกรอบห้องสามารถมองวิวชิลๆ จากด้านในห้องได้เลยค่ะ
เดินดูห้องกันจนเพลินพี่เล็กก็มาตามให้ไปทานข้าวกลางวันกันค่ะ ซึ่งโซนทานอาหารจะทำเป็นแบบโอเพ่นแอร์ จัดโต๊ะทานอาหารส่วนตัวของแต่ละห้องเอาไว้ทางที่พักจะคำนวณมาแล้วว่าโต๊ะนี้สำหรับห้องไหน มีคนเข้าพักกี่คน เพื่อจะได้จัดอาหารตามจำนวนคนที่เข้ามาพักได้อย่างเพียงพอ พร้อมกันนั้นยังมีโซนเวทีตรงกลางพร้อมเครื่องเสียงคาราโอเกะสำหรับสายปาร์ตี้อีกด้วย ใครที่อยากโชว์ลูกคอก็ไปแจ้งพี่เล็กและพี่ๆ สต๊าฟกันได้เลย
มาชิมอาหารมื้อแรกของทริปนี้กันค่ะ จะประกอบไปด้วย อาหารจำนวน 5 เมนู ถ้าไม่อิ่มสามารถเติมได้เลย พร้อมกันนั้นยังมีน้ำเปล่า น้ำแข็ง น้ำอัดลมให้บริการฟรีแบบไม่อั้นเช่นเดียวกัน
เริ่มจากเมนูแรกกับน้ำพริกกุ้งแห้งรสชาติจัดจ้าน เสิร์ฟมาพร้อมกับผักต้มและผักสด ทานกับข้าวสวยร้อนๆ คลุกข้าว หรือจะเอาผักต้มไปดิปก็อร่อยสุดๆ
ต่อด้วยปลาอินทรีย์แช่น้ำปลาที่นำไปทอด เนื้อปลาอินทรีย์มีความนุ่มมากๆ กลิ่นหอม รสกลมกล่อมและเค็มนิดๆ จากน้ำปลา อร่อยจนอยากขอซื้อต่อกลับไปทอดที่บ้านกันเลย
ส่วนจานนี้พี่เล็กบอกว่าเด็กๆ จะชอบมาก กับเมนูปลาหมึกชุบแป้งทอด ตัวแป้งปรุงได้รสกลมกล่อมมากๆ ค่ะ นำไปทอดและจิ้มกับน้ำจิ้มบ๋วยหรือจะทานเล่นๆ ไม่จิ้มอะไรก็เข้าที
ใครเรียกหาปูอยู่ มามุงที่เมนูนี้เลยค่ะกับเมนูปูผัดผงกะหรี่ ใช้ปูทะเลเนื้อแน่นๆ ไปผัดกับผงกะหรี่ รสชาติกลมกล่อม อร่อยจนต้องขอเบิ้ลต่ออีกหนึ่งจาน
มาซดให้โล่งคอด้วยแกงส้มทะเลรสชาติจี๊ดจ๊าดโดนใจ ใส่กุ้งให้เยอะแบบไม่ยั้งเป็นเมนูปิดท้ายที่เอาใจเราไปเลย
ทานอาหารเสร็จก็เข้าห้องพักไปเปิดแอร์เย็นๆ หนังท้องตึงหนังตาเริ่มหย่อน เลยต้องพักสายตากันสักหน่อย พร้อมตั้งเวลาปลุกเอาไว้ตอนบ่ายสองโมงครึ่งซึ่งเป็นเวลาที่ทางที่พักจะพาเราไปล่องแพเปียกค่ะ ซึ่งจุดลงแพจะอยู่ฝั่งตรงข้ามของที่พัก มีคลองที่จะไปเชื่อมต่อกับปากน้ำเวฬุที่นำไปสู่อ่าวไทยได้ด้วยค่ะ แต่เส้นทางในการล่องของเราครั้งนี้จะใช้ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ชมป่าชายเลนในคลอง และไปชมหมู่บ้านไร้แผ่นดินที่ปากน้ำเวฬุ ใช้เวลาล่องไป-กลับประมาณ 3 ชั่วโมง
แพของเราเป็นแพที่ทำจากท่อพีวีซี มีหลังคาไม่ต้องกลัวร้อน ใครพาผู้สูงอายุมาก็สามารถนั่งได้ค่ะ เพราะมีที่นั่งสะดวกสบาย
มีเสื้อชูชีพให้บริการสำหรับทุกคน มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยได้เลย ระหว่างล่องไปทางสต๊าฟก็เปิดเพลงแดนซ์มันส์ๆ ให้เราฟังไปด้วยใครหิวน้ำก็มีน้ำดื่มบริการค่ะ แต่แนะนำว่าควรรักษาความสะอาดกันด้วยนะคะ ไม่ควรทิ้งขยะลงในแม่น้ำ เรามารับความสุขแล้วก็ขอให้หยิบไปแต่ความสุขอย่าทิ้งความทุกข์ให้คนข้างหลังกันนะคะ
ระหว่างล่องไปก็ได้เจอคุณเหยี่ยวแดงบินโฉบโชว์ความเท่ห์อยู่บนท้องฟ้ามากมายเลยล่ะค่ะ บางตัวก็แลนด์ดิ้งลงมาโฉบอาหารบนพื้นน้ำแล้วเทคออฟสู่ท้องฟ้า เป็นภาพที่สวยงามประทับใจมากๆ
ใครอยากลงเล่นน้ำก็จะมีจุดให้จอดแพและเล่นน้ำกันได้อย่างสนุกสนาน ในแพมีทั้งลูกค้าที่มาเป็นครอบครัว คุณพ่อ คุณแม่ คุณลูก และคุณตา คุณยาย บางคนมาเป็นแก๊งค์เพื่อน รับรองว่ามาที่นี่คุณจะได้รอยยิ้มกลับไปทุกเพศทุกวัยกันเลยล่ะค่ะ
น้ำที่นี่สะอาดและกระแสน้ำไม่แรงค่ะ สามารถนำเด็กๆ ลงเล่นกันได้อย่างปลอดภัย
เล่นน้ำกันจนตัวเปื่อยก็ถึงเวลากลับมายังที่พักประมาณ 5 โมงเย็น ตอนแรกกะว่าจะไปอาบน้ำแต่งตัวแต่พอมาเห็นเรือคายัคของที่พักเท่านั้นวิญญาณนักพายเรือก็เข้าสิงขอให้พี่ๆ ที่ศิริจันท์โฮมสเตย์ไปลากเรือคายัคมาให้เราพายที่บึงน้ำด้านหลังของโฮมสเตย์ ชมบรรยากาศยามเย็นไปด้วย โอ๊ย ชิลสุดๆ
วันนี้โชคดีที่ฟ้าเปิดทำให้เราได้นั่งชมพระอาทิตย์ตกสวยๆ ที่กำลังลาลับไปปลายขอบฟ้าสวยงามจนต้องยกกล้องขึ้นมาเก็บโมเมนท์ประทับใจนี้เอาไว้
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว 1 ทุ่มก็ถึงเวลาอาหารเย็น ซึ่งเป็นไฮไลท์ของการมาพักโฮมสเตย์ที่จันทบุรีเลยล่ะค่ะ มื้อนี้ประกอบไปด้วยอาหาร 7 อย่าง ซีฟู้ดจัดเต็ม ไม่อิ่มไม่ต้องลุกขอเติมได้ตลอด
เริ่มด้วยเมนูที่ดูธรรมดาแต่รสชาติไม่ธรรมดากับทอดมันเนื้อนุ่มรสกลมกล่อมเสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้มอาจาดรสชาติหวานๆ เปรี้ยวๆ จะทานเดี่ยวๆ หรือจะจิ้มน้ำจิ้มก็ทานเพลินมากๆ
ต่อด้วยกุ้งแช่น้ำปลากุ้งสดๆ ผ่ากลาง เสิร์ฟมาพร้อมมะระ กระเทียมสด พริก เวลาทานแนะนำว่าตักทุกอย่างมาวางที่ช้อน แล้วราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเด็ดที่เปรี้ยว เค็ม เผ็ดลงไป จะได้ลิ้มรสความหวานของเนื้อกุ้งที่ตัดด้วยความขมของมะระ ความหอมของกระเทียม และความเปรี้ยว เค็ม เผ็ด ของน้ำจิ้ม อร่อยจนต้องขอเพิ่มอีกจานกันเลย
ตัวใหญ่จนต้องร้องโอ้โหววว กับปลากะพงทอดน้ำปลาเสิร์ฟมาพร้อมน้ำยำมะม่วง เนื้อกรอบนอก นุ่มใน ทานกับน้ำยำมะม่วงรสเปรี้ยวนำ มีความกรุบ ความมันจากถั่วลิสงคั่วด้วย กินกันเกลี้ยงจนแมวร้องกันเลย
ต่อด้วยหอยนางรม รับประกันว่าสดและหวานอร่อยมากๆ ทานคู่กับพริกเผา กระถิน หอมเจียว และน้ำจิ้มซีฟู้ด ทานเพลินกันจนลืมไปเลยค่ะว่ามีพุง
มื้อกลางวันเป็นแกงส้มก็ว่าเด็ดแล้ว เจอมื้อเย็นที่จัดต้มยำทะเลหม้อไฟมาให้อร่อยสุดๆ ค่ะ รสชาติเข้มข้น แต่ไม่เผ็ดมากซดโล่งคอกันเลยทีเดียว
มาถึงเมนูพระเอกของมื้อนี้กับปูทะเลไซส์บิ๊กนึ่งมาร้อนๆ พร้อมให้เราได้ถอดก้ามแข็งๆ ภายนอกและไปสัมผัสกับความแน่นของเนื้อด้านใน
แกะมาก็เจอไข่สีส้มพร้อมมันเยิ้มๆ อัดแน่นอยู่ด้านใน พร้อมให้เราราดน้ำจิ้มซีฟู้ดและลิ้มรสความมัน ความแน่นของพี่ปู พี่เล็กบอกเราว่าถ้าอยากมากินปูไข่ฟินๆ ต้องมากินช่วงเดือนกันยายน - เดือนพฤศจิกายน รับรองว่าเปิดกระดองมาจะเจอไข่เยอะอลังการแน่นอน
ค่ำคืนนี้ฟินกับอาหารเย็นแบบอิ่มหนำสำราญมากๆ ค่ะ ใครอยากร้องเพลงโชว์เงาเสียงแบบพี่ตูน บอดี้แสลม ก็สามารถขึ้นไปโชว์กันได้เลย ส่วนสายกินอย่างเราจัดปูไปคนละสอง พร้อมเติมจานอื่นๆ กันอย่างเต็มที่ ปิดท้ายมื้อนี้ด้วยเงาะจันทบุรีที่หวานอร่อยมากๆ
เช้าวันนี้เตรียมอาบน้ำ เก็บของ พร้อมมาปิดท้ายด้วยมื้อสุดท้ายที่ฟินล้าย หลาย กับเมนูข้าวต้มทะเล ทั้ง ปลาอินทรีย์ กุ้งตัวโต๊โต รสชาติดีไม่ต้องปรุงก็อร่อย และมาจันทบุรีทั้งทีก็ต้องมากินเส้นจันท์ผัดปูซึ่งที่นี่เขาใส่มาให้ทั้งปูและกุ้ง รสหวานนำ เผ็ดนิดๆ เส้นเหนียวหนึบหนับ นอกจากนี้ยังมีขนมปังปิ้ง ชา กาแฟ แบบบริการตัวเองให้บริการในยามเช้าอีกด้วยค่ะ
ศิริจันท์โฮมสเตย์ช่วยเติมเต็มความคิดถึงปูของเราได้ดีเลยล่ะค่ะ ใครที่คิดถึงปู อยากมานอนพักในที่พักบรรยากาศแบบบ้านไม้ริมน้ำ วันหยุดนี้ลองหาเวลามารีชาร์จแบจในชีวิตด้วยอาหารอร่อยและที่พักน่ารักแบบนี้กันดูนะคะ
รายละเอียดแพ็คเกจ
- อาหารสามมื้อ ได้แก่ อาหารกลางวัน อาหารเย็น และอาหารเช้า
- กิจกรรมล่องแพเปียก
- บ้านพักพร้อมห้องน้ำส่วนตัว เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น
ราคา
- สำหรับกรุ๊ป 7 คนขึ้นไปคิดคนละ 1600 บาท
- ต่ำกว่า 7 คน คิดคนละ 1800 บาท
- เด็กอายุ 11 ปีขึ้นไปคิดราคาเต็ม
- เด็กอายุ 6-10 ขวบคิดครึ่งราคา
- เด็กแรกเกิด - 5 ขวบ ฟรี
ที่ตั้ง : ศิริจันท์โฮมสเตย์ ต.บางชัน อ.ขลุง จันทบุรี
โทรจองได้ที่ 0847659979
GPS : https://goo.gl/maps/7b3A7hFsTqZFJeY37
Tags: จันทบุรี ที่พัก โฮมสเตย์ โฮมสเตย์จันทบุรี โฮมสเตย์กินปู ศิริจันท์โฮมสเตย์
รีวิวที่พัก | 17 ธ.ค. 2024 | 153 อ่าน
รีวิวที่พัก | 21 พ.ย. 2024 | 529 อ่าน
รีวิวที่พัก | 25 พ.ย. 2024 | 726 อ่าน
รีวิวที่พัก | 19 พ.ย. 2024 | 3,955 อ่าน
รีวิวที่พัก | 18 พ.ย. 2024 | 514 อ่าน
รีวิวที่พัก | 11 พ.ย. 2024 | 1,516 อ่าน
รีวิวที่พัก | 08 พ.ย. 2024 | 1,157 อ่าน
รีวิวที่พัก | 05 พ.ย. 2024 | 1,190 อ่าน