0
0
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

คิดถึง Someone ที่ ซัมแวร์ เกาะสีชัง (Somewhere Koh Sichang)

calendar_month 17 ก.ค. 2019 / stylus Admin Chillpainai / visibility 24,502 / รีวิวที่พัก

“ทะเลเยียวยาทุกสิ่ง” มันก็คงจะจริงอย่างที่เขาว่า การที่เราได้นั่งเฉยๆ มองคลื่นบนผิวน้ำทะเลกระทบเข้าฝั่งมันทำให้สบายใจได้อยากบอกไม่ถูก รวมถึงยังเป็นช่วงเวลาที่ดี เมื่อเรามีเวลานั่งทบทวนเรื่องราวต่างๆ ของตัวเองที่ผ่านมาตลอดครึ่งปีนี้ด้วย ทะเล จึงเป็นจุดหมายปลายทางของเราในทริปนี้และด้วยระยะเวลาที่จำกัดของมนุษย์เงินเดือนนั้น “เกาะสีชัง”  จึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุดเพราะใกล้กรุงเทพเดินทางสะดวก น้ำทะเลสวยที่สำคัญมีที่เที่ยวให้เช็คอินเพียบ

Somewhere  Koh Sichang

ทริปนี้เราเริ่มต้นออกเดินทางกันในช่วงสายๆ ของวัน ไปแบบชิลๆ ไม่ต้องรีบร้อนอะไรมากขับรถแค่ชั่วโมงครึ่งก็ถึงแล้ว ทริปนี้เราจองที่พักโดยตรงกับ Somewhere Koh Sichang จึงสามารถนำรถไปจอดไว้ที่ โรงแรมแคนทารี เบย์ ศรีราชาซึ่งเป็นโรงแรมในเครือเดียวกันได้ ตัวโรงแรมห่างจากท่าเรือเกาะลอยเพียง 5 นาทีเท่านั้นและขาไปจะมีรถไปส่งฟรีที่ท่าเรือเกาะลอยอีกด้วย เรือโดยสารไปเกาะสีชังมีออกทุก 45 นาที  ตั้งแต่ 07.00 - 22.00 น. ค่าโดยสารคนละ 50 บาท เท่านั้น

Somewhere  Koh Sichang

ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีเราก็มาถึงท่าเรือเกาะสีชังและไม่รอช้าที่จะเหมารถสกายแล็ปของชาวบ้าน (ราคาเหมาต่อวัน 250 บาท/ค้างคืน 300 - 350 บาท)ไปยัง Somewhere Koh Sichang กันค่ะ แต่ถ้าใครมาถึงช่วง 11 โมงทางโรงแรมก็จะมีรถมารับนะคะ 1 เที่ยวต่อวัน สงสัยกันใช่ไหม? ว่าทำไมทางโรงแรมถึงไม่จัดรถรับส่งมารับเราทีเดียวก็เป็นเพราะว่าที่ท่าเรือมีรถสกายแล็ป รถมอเตอร์ไซค์และรถสองแถวของชาวบ้านบนเกาะไว้บริการท่องเที่ยวรอบเกาะให้อยู่แล้วค่ะ เพื่อเป็นการกระจายรายได้ให้แก่ชาวบ้าน ทางโรงแรมจึงไม่มีรถรับส่งประจำตลอดทั้งวันแต่แนะนำให้เราเช่ารถจากท่าเรือมาส่งที่โรงแรมและพาไปเที่ยวด้วยเลยค่ะ

Somewhere  Koh Sichang

ใช้เวลาจากท่าเรือเพียงแค่ 5 นาทีเราก็มาถึงแล้วค่ะ ซัมแวร์ เกาะสีชัง (Somewhere Koh Sichang ) บูทีคโฮเทลในเครือ Cape and Kantary Hotels ซึ่งเราสามารถมั่นใจได้แน่นอนในเรื่องของการบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ดูจากในรูปก่อนมาก็ว่าสวยและน่ารักมากๆ แล้วยิ่งพอมาเห็นของจริงยิ่งตอกย้ำไปเลยว่าคิดไม่ผิดจริงๆ ที่เลือกมาพักที่นี่เมื่อมาถึงเราก็เข้ามาเช็คอินกันที่ล็อบบี้ ที่ถึงแม้จะไม่ได้ใหญ่อะไรมากนักแต่เราก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นพร้อมรอยยิ้มจากพนักงาน ที่นี่จะมีสองอาคารค่ะ ก็คือโซนล็อบบี้ ห้องอาหารและสระว่ายจะอยู่ติดกัน และอาคารสองชั้นสำหรับห้องพัก ซึ่งทั้งสองอาคารตกแต่งด้วยสไตล์โคโลเนียลโดยใช้โทนสีฟ้าขาวเป็นหลักในการตกแต่งให้เข้ากับบรรยากาศบนเกาะ

Somewhere  Koh Sichang

เช็คอินเรียบร้อยก็ไปห้องพักกันค่ะ ระหว่างทางเดินไปห้องพักที่ชั้นสองต้องผ่านบริเวณโถงบันไดซึ่งตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงามและยังคงไว้ซึ่งสไตล์โคโลเนียลสีฟ้าขาวรวมถึงวัสดุในการตกแต่งไม่ว่าจะเป็นพื้นกระเบื้องหรือกระจกสีที่ประตูทางเข้าทำให้เราต้องหยุดแวะถ่ายรูปกันก่อนเข้าห้องพักกันเลยค่ะ

Somewhere  Koh Sichang

ที่นี่จะมีห้องประเภทเดียวคือ Deluxe Room จำนวน 20 ห้องแต่จะมีให้เลือกแบบ Twin bed เตียงเดี่ยว 2 เตียง กับ King bed เตียงใหญ่เตียงเดียว วันนี้เราพาไปดูที่ห้อง Deluxe Room แบบเตียงใหญ่เตียงเดียวกันก่อนเลย ห้องนอนขนาด 38 ตารางเมตร ตกแต่งอย่างน่ารักด้วยโทนสีฟ้าขาวดูแล้วสบายตาและยังทำให้เข้ากับบรรยากาศทะเลอีกด้วย

Somewhere  Koh Sichang

ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเหมือนโรงแรมในเครือแคนทารีอื่นๆ เลยค่ะ ทั้งชุดโซฟา ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง โทรทัศน์จอแบนพร้อมเคเบิลทีวี ชุดเครื่องเสียงแบบสเตอริโอ ตู้เย็น กาน้ำร้อน รวมถึงชานระเบียงให้เราออกไปนั่งเล่นรับลมและสำหรับห้องชั้นสองนี้ สามารถมองเห็นวิวทะเลได้ด้วยนะคะ

Somewhere  Koh Sichang

Somewhere  Koh Sichang

ส่วนภายในห้องน้ำถูกแบ่งโซนฝักบัวสำหรับอาบน้ำและโถสุขภัณฑ์ไว้อย่างชัดเจนรวมถึงมีผ้าเช็ดตัวและเซตสำหรับอาบน้ำอย่างสบู่ แชมพูสระผม คอนดิชั่นเนอร์ โลชั่น ไว้ให้ครบ ระบบน้ำก็มีทั้งน้ำอุ่นน้ำเย็นให้เลือกทั้งที่ฝักบัวและอ่างล้างหน้า แต่ที่ชอบมากๆ เลยก็คือกระจกแต่งหน้าที่ติดไว้ด้านข้างกำแพง บอกเลยว่าตอบโจทย์สาวๆ อย่างเราเป็นที่สุดเชื่อเลยว่าคุณต้องถูกใจสิ่งนี้ค่ะ

Somewhere  Koh Sichang

ไหนๆ มาแล้วพากันไปดูให้ครบกันอีกหนึ่งห้อง ที่ห้อง Deluxe Room แบบTwinbed เตียงเดี่ยว 2 เตียง ขนาดห้อง 38 ตารางเมตรเท่ากันค่ะ มีการตกแต่งที่แตกต่างกันเล็กน้อยบริเวณสีของหัวเตียง บางห้องเป็นสีฟ้าบางห้องเป็นสีเขียวน้ำทะเล แต่ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันรวมถึง Wi-fi เหมือนกันทุกห้องค่ะ

Somewhere  Koh Sichang

Somewhere  Koh Sichang

สิ่งที่แตกต่างกันชัดเจนเลยคือห้องนี้ระเบียงจะเล็กกว่าแต่สามารถมองเห็นวิวสวนได้ชัดกว่าค่ะ มีที่นั่งเล่นริมระเบียงให้นั่งชิลๆ รับลมเหมือนกันเลย

Somewhere  Koh Sichang

ดูห้องพักกันเรียบร้อยแล้วเราพาไปดูกันที่โซนอื่นๆ บ้างค่ะ เริ่มกันที่ สระว่ายน้ำ ที่เปิดให้ใช้บริการตั้งแต่ 6โมงเช้าจนถึง 4 ทุ่มเลยค่ะ

Somewhere  Koh Sichang

พามาเดินเล่นกันต่อที่สวนซึ่งอยู่ติดกับสระว่ายน้ำกันค่ะ ซึ่งบริเวณสวนตรงนี้สามารถจัดงานเลี้ยงหรือจัด outing ได้ด้วยนะคะ รองรับได้ถึง 40-50 ท่านเลย ถ้าอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศมาจัดงานเลี้ยงบนเกาะใกล้ๆ กรุงเทพดูล่ะก็ต้องที่นี่เลย

Somewhere  Koh Sichang

จากบริเวณด้านหน้าอาคารล็อบบี้มีทางเดินลงไปถึงทะเลด้วยนะคะ เดินแค่ 100 เมตรก็ถึงแล้วค่ะ แวะออกมาเดินเล่น ถ่ายรูปชมวิวกันก่อนออกไปเที่ยวรอบเกาะกันค่ะ บริเวณนี้เป็นหาดหินนะคะไม่สามารถเล่นน้ำได้แต่ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่จะได้รูปสวยๆ ไว้เช็คอินกันแน่นอน

Somewhere  Koh Sichang

กลับมาจากไปเที่ยวรอบเกาะกันเรียบร้อยก็ถึงเวลาอาหารเย็นพอดี วันนี้เรากินอาหารกันที่ห้องอาหาร The Verandah Restaurant ซึ่งอยู่ภายในโรงแรมและยังคงตกแต่งด้วยโทนสีฟ้าขาวจากหน้าต่าง ผ้าม่านและเก้าอี้ทำให้ได้ความรู้สึกสบายๆ และเรียบหรูในเวลาเดียวกัน ที่นี่มีให้เลือกที่นั่งทั้งแบบ Indoor และ Outdoor ได้ตามชอบเลยค่ะ โดยห้องอาหารจะเปิดให้บริการกับคนภายนอกตั้งแต่ เวลา 10โมงเช้า จนถึง 5 ทุ่ม โดยสามารถสั่งเมนูสุดท้ายได้ถึง 4 ทุ่มครึ่งเลยค่ะ

Somewhere  Koh Sichang

Somewhere  Koh Sichang

พามาดูเมนูอาหารแนะนำของวันนี้กันบ้าง เริ่มด้วย “สปาเก็ตตี้ผัดขี้เมาทะเล”  นำเส้นสปาเก็ตตี้สองสีมาผัดแบบขี้เมาไทยใส่เครื่องทะเลจัดเต็มทั้ง กุ้ง หมึก หอยแมลงภู่ รสชาติเผ็ดกำลังดีเมนูนี้แนะนำเลยค่ะ มาต่อกันอีกหนึ่งเมนูเส้นสำหรับใครที่ไม่ชอบทานเผ็ดกับ “เฟตตูชินี่ครีมซอสเห็ดทรัฟเฟิล” ใช้เส้น“แทลเลียเตลเล” (tagliatelle) ผัดผสมกับครีมซอสพร้อมเห็ดทรัฟเฟิลบดเสิร์ฟพร้อมพาร์เมซานชีส ต่อด้วย”พิซซ่าพาร์มาแฮม” พิซซ่าแป้งบางกรอบทำสดร้อนออกจากเตา รับรองต้องถูกใจคนรักพิซซ่าแน่ๆ และเมนูสุดท้ายสำหรับอาหารฝรั่ง “สเต็กเนื้อย่างราดซอสพริกไทยดำ” ใช้เนื้อสันนอกหมักเครื่องจัดเต็มย่างความสุกตามใจชอบ เนื้อนุ่มหอมซอสพริกไทย รักเลยจานนี้ มาต่อกันที่อาหารไทยกันบ้างที่ขึ้นชื่อของที่นี่เลยก็มี“ยำมะเขือยาวเผากุ้งสด”รสชาติจัดจ้านกำลังดีเชื่อว่าถูกใจคนรักยำแน่นอน

Somewhere  Koh Sichang

และเมนูสุดท้ายที่แนะนำเลยว่า มาแล้วพลาดไม่ได้จริงๆ “แกงเหลืองปลาแซลมอน” แกงเหลืองใส่ยอดมะพร้าวอ่อนพร้อมเนื้อปลาแซลมอนชิ้นใหญ่เต็มคำ รสชาติเผ็ดกำลังดีบอกเลยว่าถูกใจจริงๆ

Somewhere  Koh Sichang

ของคาวหมดไปแล้ว ก็ต้องต่อด้วยของหวานกันค่ะ เพราะที่นี่ห้องอาหาร The Verandah Restaurant เขามีของหวานด้วยน้า เมนูที่เราสั่งมาวันนี้ก็คือ “ ฮันนี่โทสต์ไอศกรีมวานิลลา” ขนมปังอบกรอบนอกนุ่มในที่เสิร์ฟพร้อมไอศกรีม วิปปิ้งครีม น้ำผึ้งโรยด้วยไอซิ่งและอัลมอนด์ เมนูนี้หวานละมุนกำลังดีจริงๆ ค่ะถูกใจสายหวานแน่นอน ยิ่งถ้าสั่งพร้อม เครื่องดื่มอย่างฟรุตพั้นช์ น้ำผลไม้รสชาติเปรี้ยวหวานแถมมีเนื้อผลไม้ในแก้วอีกด้วยละก็ ฟินมากๆ เลยล่ะค่ะ

Somewhere  Koh Sichang

เผลอแป๊บเดียววันหยุดของเราก็ต้องหมดเวลาแล้วค่ะ กลับไปทำงานที่เรารักกันเถอะ! แต่ก่อนจะเช็คเอาท์ เราไปกินอาหารเช้าที่ The Verandah Restaurant กันค่ะ ห้องอาหารเปิดบริการตั้งแต่ 06.30 - 10.00 โมง มื้อเช้าวันนี้เขาเสิร์ฟเป็นแบบอาลาคาร์ทค่ะ สั่งได้ตามใจ ชอบไข่แบบไหนไม่ว่าจะเป็น ไข่ดาวไข่คน เอาไว้กินคู่กับไส้กรอก แฮม ก็มีให้เลือกหลากหลาย หรือถ้าไม่อยากกินอาหารฝรั่ง เขาก็มีทั้งข้าวต้ม ข้าวผัด เส้นหมี่ผัดไว้บริการกันด้วยน้าแต่ถ้าวันไหนลูกค้าเยอะหน่อยก็จะจัดเป็นบุฟเฟ่ต์ให้เลือกตามใจชอบเลยค่ะ

Somewhere  Koh Sichang

เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับ Somewhere Koh Sichang เชื่อเลยว่าใครมาก็ต้องหลงรักที่นี่แน่นอน มาเที่ยวรอบนี้เลือกที่พักไม่ผิดเลยจริงๆ ทั้งในเรื่องการบริการ สิ่งอำนวยความสะดวกรับประกันได้เลยค่ะ รอบหน้าถ้ามีโอกาสเราจะพาคนๆ นั้นที่เราคิดถึงระหว่างมาพักผ่อนอยู่ที่นี่มาด้วยกันให้ได้


Somewhere Koh Sichang

ที่ตั้ง : 194, 194/1 หมู่ 3 ถ.ท่าเทววงษ์ ต.ท่าเทววงษ์ อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี

ราคา :  เริ่มต้น 2,500 - 3,200 บาท

เบอร์ติดต่อ :  038-109 - 400

GPS : https://goo.gl/maps/jiqsoKDQ9yYPnTYT9




เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai