calendar_month 15 ก.ค. 2019 / stylus Admin Chillpainai / visibility 23,371 / รีวิวที่พัก
ทำงานมาเหนื่อยๆ ทั้งอาทิตย์หาเวลาพักผ่อนให้ตัวเองกันบ้างหรือยังคะ ถ้ายังไม่มีแพลนไปไหน ตามไปเที่ยวศรีราชาด้วยกันไหมคะใช้เวลาขับรถไม่นานแถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวให้เลือกหลากหลายด้วยค่ะ แต่ก่อนจะไปเที่ยวเราก็ต้องหาที่พักกันก่อน โจทย์การเลือกที่พักของเราในทริปนี้ คือที่พักสำหรับครอบครัวใกล้ที่เที่ยวที่เด็กๆชอบและต้องมั่นใจได้ในเรื่องการบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกค่ะ
ใช้เวลาอยู่ไม่นานเราก็ได้ที่พักสำหรับทริปนี้ ซึ่งเราเลือกพักที่ โรงแรมแคนทารี เบย์ ศรีราชา รวมถึงเช็คมาแล้วด้วยว่าใช้เวลาขับรถจากกรุงเทพประมาณชั่วโมงครึ่งก็ถึงแล้ว และยังอยู่ห่างจากสวนสัตว์เขาเขียว และสวนเสือศรีราชาเพียง 30 นาทีเท่านั้น ที่สำคัญอยู่ใกล้ท่าเรือเกาะลอย ท่าเรือสำหรับข้ามไปเที่ยวเกาะสีชังที่อยู่ห่างจากโรงแรมเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้นเองค่ะ
โรงแรมแคนทารี เบย์ ศรีราชา (Kantary Bay Hotel & Serviced Apartments Sriracha) เป็นโรงแรมในเครือ Cape and Kantary Hotels ตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์น คอนเทมโพรารี่ มีความเรียบง่าย สบายตา อยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ รวมถึงนิคมแหลมฉบังและนิคมอื่นๆ บริเวณใกล้เคียง ลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้าพักจึงเป็นชาวต่างชาติและชาวญี่ปุ่นที่ทำงานในนิคม เพื่อเป็นการรองรับลูกค้าชาวต่างชาติ ทางโรงแรมจึงจัดสิ่งอำนวยความสะดวกชั้นดี เพื่อรองรับแก่นักท่องเที่ยวและนักธุรกิจรวมถึงเป็นโรงแรมในเครือเราเลยมั่นใจได้แน่นอนในเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการที่ดีจากโรงแรม
มาถึงแล้วเราก็ไม่รอช้ารีบไปเช็คอินกันที่ล็อบบี้พร้อมกับได้รับการต้อนรับจากพนักงานอย่างอบอุ่นด้วยรอยยิ้ม เมื่อเช็คอินเรียบร้อยก็จะมีเบลบอยช่วยเรายกกระเป๋าขึ้นไปบนห้องด้วยค่ะ ห้องพักที่นี่มีทั้งหมด 194 ห้อง มีบริการห้องพักทั้งแบบรายเดือนและรายวัน มีห้องพัก 3 ประเภท คือ Two Bedroom 42 ห้อง One Bedroom 124 ห้อง และStodio Room 28 ห้องค่ะ สำหรับห้องที่เราพักคืนนี้ เป็นห้อง Two Bedroom เป็นห้องขนาด 148 ตารางเมตร พักได้ 4คน มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องครัวและ 1 ห้องนั่งเล่นค่ะ เข้ามาในห้องก็จะเจอกับห้องนอนห้องแรก เป็นห้องเตียงเดียวสองเตียง มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและมีห้องน้ำในตัวค่ะ
ตรงข้ามกับห้องนอนจะเป็นห้องครัวขนาดเล็กที่มีเครื่องครัวมาให้ครบครันตั้งแต่เตาไฟฟ้า ไมโครเวฟ อ่างซิงค์ล้างจาน ตู้เย็น กระติกน้ำร้อน เครื่องปิ้งขนมปัง รวมถึงอุปกรณ์ทำอาหารอย่าง หม้อ กระทะ และชุดจานชามที่วางไว้บนโต๊ะให้สำหรับ 6 ที่ เรียกได้ว่าห้องนี้เหมาะสำหรับครอบครัวมากๆ เลย
ถัดจากโต๊ะรับประทานอาหารมาจะเป็นห้องนั่งเล่น ที่มาพร้อมชุดโซฟา โต๊ะทำงาน โทรทัศน์จอแบนพร้อมเคเบิลทีวี ชุดเครื่องเสียงแบบสเตอริโอ และระเบียงส่วนกลาง โซนนี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งมุมสำหรับครอบครัวที่จะได้มานั่งเล่นอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันเลย
มาต่อกันที่ห้องนอนสุดท้ายกันค่ะเป็นห้องเตียงใหญ่เตียงเดี่ยว มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โทรทัศน์จอแบน ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง รวมถึงระเบียงส่วนตัว ที่บอกเลยว่าวิวระเบียงจากห้องเราสามารถมองเห็นทะเลและท่าเรือเกาะลอยได้อีกด้วยนะคะ
ภายในห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำและฝักบัวอยู่ในโซนเดียวกันมีผ้าเช็ดตัวและเซ็ตสำหรับอาบน้ำอย่างสบู่แชมพูสระผม คอนดิชั่นเนอร์ โลชั่นไว้ให้ครบรวมถึงสิ่งที่สาวๆจะต้องถูกใจแน่นอนก็คือกระจกแต่งหน้าแต่ความพิเศษภายในห้องน้ำยังไม่หมดแค่นี้ค่ะอีกหนึ่งความพิเศษคือโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติแบบญี่ปุ่นที่ไม่ค่อยเห็นกันตามโรงแรมมากนัก บอกเลยว่าสะดวกสบายมากๆ แต่ถ้าใครไม่ถนัดใช้ปุ่มกดอัตโนมัติเขาก็มีสายฉีดชําระไว้ให้ด้วยบอกเลยว่าตอบโจทย์ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติเลยค่ะ
พามาดูกันต่อที่ห้อง One Bedroom ห้องขนาด 64 ตารางเมตร ห้องพักสำหรับ 2 ท่าน มี 1ห้องนอน1ห้องน้ำและ1ห้องนั่งเล่นค่ะเมื่อเข้ามาภายในห้องเราก็จะพบกับโซนเครื่องครัวที่มีอุปกรณ์ทำอาหารครบครัน รวมถึงเครื่องซักผ้าและโต๊ะรับประทานอาหาร
ถัดมาจะเป็นโซนห้องนั่งเล่นที่ถูกตกแต่งอย่างเรียบง่าย มาพร้อมชุดโซฟา โทรทัศน์จอแบน โต๊ะทำงาน รวมถึงระเบียงให้เราได้ออกไปชมวิวเมืองศรีราชาได้อีกด้วย
พาไปชมบรรยากาศภายในห้องนอนกันบ้างค่ะภายในห้องก็ตกแต่งด้วยความเรียบง่ายแต่แฝงด้วยความรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้านเลยค่ะ มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งโทรทัศน์จอแบนและห้องน้ำในตัวที่แยกระหว่างโซนฝักบัวกับอ่างอาบน้ำอย่างชัดเจน รวมถึงความพิเศษที่โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติแบบญี่ปุ่นอีกด้วย
พาไปดูห้องพักกันเรียบร้อยแล้วไปดูฟาซิลิตี้อื่นๆในโรงแรมกันบ้างค่ะว่าเขามีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรรองรับให้นักท่องเที่ยวอย่างเราใช้บริการกันบ้าง บอกเลยว่ามีครบครันมากๆ ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ สระจากุซซี่ ซึ่งเวลา 6 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็นจะเปิดเป็นน้ำอุณหภูมิปกติ และเวลา 6 โมงจนถึง 4 ทุ่มจะเปิดเป็นน้ำร้อนค่ะ
รวมถึงห้องฟิตเนส ห้องซาวน่า และห้องสตรีม ที่อยู่บริการใกล้เคียงกัน ให้เราได้เลือกใช้บริการกันได้โดยไม่มีค่าบริการเพิ่มเติม เปิดให้บริการตั้งแต่เช้าตรู่ เวลา 06.00 - 22.00 น. เลยค่า
มาต่อกันอีกหนึ่งสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทางโรงแรมจัดไว้ให้ก็คือ Reading Room หรือจะเรียกว่าห้องนั่งเล่นส่วนกลางก็ได้นะคะ เพราะที่นี่เขาไม่ได้มีแค่หนังสือเท่านั้น แต่ยังมีมุมขนมและกาแฟบริการไว้ด้วย เรียกว่าถ้าเบื่อๆ นั่งในห้องอยากเปลี่ยนบรรยากาศลงมาอ่านหนังสือก็ลงมานั่งเล่นที่นี่ได้เลย ห้องนี้เปิดให้บริการตั้งแต่ 06.00 - 22.00 น. เลยค่ะ
เดินดูรอบๆ โรงแรมกันจนเพลินเกือบลืมเวลากินข้าวเลยค่ะ โชคดีที่ไม่ต้องออกไปไหนไกล เพราะห้องอาหาร The Orchard (ดิออร์ชาร์ด) ภายในโรงแรมซึ่งมีบริการทั้ง อาหารไทยและอาหารนานาชาติ เปิดให้บริการสั่งอาหาร แบบ A La Carte ตั้งแต่เวลา 10.30 - 00.00 น. เลยค่ะ และในวันพฤหัสบดี มีบุฟเฟ่ต์อาหารไทย วันศุกร์บุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติและวันเสาร์เป็นบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น ในราคา 480++ กินได้ไม่อั้นตั้งแต่เวลา 18.00 - 22.00 เลยค่ะ
เมนูที่เราสั่งมาวันนี้เป็นเมนูแนะนำของที่นี่เลยค่ะส่วนตัวทางเราก็ชอบทานอาหารญี่ปุ่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเราจึงไม่พลาดที่จะสั่งอาหารญี่ปุ่นมาลองกันเริ่มด้วย”ยากิโซบะ”พร้อมเครื่องทะเลจัดเต็มรสชาติญี่ปุ่นแท้ๆถูกใจมากๆเลยเมนูนี้ต่อด้วย”กุ้งเทมปุระ”กุ้งเนื้อแน่นชุบแป้งทอดบอกเลยว่ากัดไปแล้วมีแต่เนื้อกุ้งเน้นๆ มาแล้วต้องสั่งเลยค่ะ ไปต่อกันที่อาหารฝรั่งกันบ้างกับเมนู “ฟิเลมิยอง” เนื้อสันในอย่างดีห่อด้วยเบคอนเสิร์ฟพร้อมซอสเห็ดแชมปิญอง และ “ลาซานญ่าเนื้อ” แป้งลาซานญ่าผสมกับซอสเนื้อที่นำไปอบในเตาพร้อมมอสซาเรลล่าชีส ฟินมากเลยค่ะเมนูนี้ และขอปิดท้ายด้วยเมนูอาหารไทย อย่าง “ไก่ผัดเม็ดมะม่วง” ที่ใช้เนื้อไก่ส่วนสะโพกผัดกับหอมแดง เม็ดมะม่วงหิมพานต์และน้ำพริกเผา เข้ากันดีมากๆ เลย
พามาดูอาหารเช้ากันบ้าง ที่ The Orchard (ดิออร์ชาร์ด) เหมือนเดิมเลยค่ะ แต่อาหารเช้าที่นี่จะเริ่มเร็วหน่อย ตั้งแต่ 05.30 - 10.00 น. เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ค่ะ เลือกได้ตามใจชอบไม่ว่าจะเป็นโซนอาหารเช้าแบบญี่ปุ่น โซนอาหารไทยก็มีให้เลือกหลากหลายทั้งข้าวต้มและกับข้าวอื่นๆ รวมถึงโซนอาหารฝรั่งที่เราสามารถสั่งเมนูไข่ที่บาร์ไข่ได้ตามต้องการเลย
ก่อนจะกลับสายหวานๆ อย่างเราก็ขอไปแวะกันที่ Café Kantary Sriracha ซึ่งอยู่ห่างจากโรงแรมเพียงแค่ 5 นาทีค่ะ เป็นคาเฟ่ 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์นผสมผสานกับญี่ปุ่น มีบริการทั้งของคาวและของหวานเลย เปิดบริการตั้งแต่ 07.00 - 22.00 น.
เมนูที่เราสั่งมาวันนี้ก็มี“แคนทารี่เย็น”กาแฟสูตรพิเศษของทางร้านที่หวานมันกำลังดีและมีความกรุบกรอบของผงคุกกี้โรยหน้า คนรักกาแฟต้องถูกใจสิ่งนี้ ต่อกันด้วยเมนูเฮลตี้กับ “เฮลตี้เบอรี่คัพ” บลูเบอร์รี่ปั่น ท็อปปิ้งจัดเต็มด้วยสตรอว์เบอร์รี่สด กล้วย กราโนล่า อัลมอนด์ ซึ่งเป็นเมนูพิเศษสำหรับเดือน ก.ค. - ส.ค. นี้เท่านั้นค่ะ และเครื่องดื่มสุดท้าย ได้ยินมานานแล้วเหมือนกันว่าชาเขียวของแคนทารีคาเฟ่ขึ้นชื่อมากๆเราก็ไม่พลาดที่จะสั่งมาลองบอกเลยว่า ถูกใจคนรักชาเขียวแน่นอนจ้า ปิดท้ายด้วยขนมอร่อยๆ อย่าง “เครปพีชเมลบา” เครปเย็นท็อปปิ้งจัดเต็มมาพร้อมไอศกรีมวานิลลาและ “ฮันนี่โทต์” ขนมปังอบกรอบนอกนุ่มใน กินแล้วฟินสุดๆ ไปเลยค่า
เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับ Kantary Bay Sriracha ตอบโจทย์มากๆ สำหรับครอบครัวที่อยากหาเวลาพักผ่อนไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมถึงสามารถมั่นใจได้แน่นอนในเรื่องของการบริการที่ดี ที่สำคัญอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับครอบครัวไม่ว่าจะเป็นสวนสัตว์เขาเขียว หรือข้ามเรือไปไหว้พระที่เกาะสีชังได้ด้วยนะคะ
Kantary Bay Sriracha
ที่ตั้ง : 17/2-3 ซอย เจิมจอมพล 1 อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
ราคา : เริ่มต้น 2,900 - 5,900 บาท
เบอร์ติดต่อ : 035-771-365-9
GPS : https://goo.gl/maps/dHQjEau9oNtMWBir5
Tags: ชลบุรี ศรีราชา ที่พักศรีราชา ที่พักใกล้ท่าเรือเกาะลอย ที่พักใกล้เกาะสีชัง ที่พักสุดหรูศรีราชา รวมที่พักศรีราชา แคนทารีศรีราชา
รีวิวที่พัก | 21 พ.ย. 2024 | 439 อ่าน
รีวิวที่พัก | 25 พ.ย. 2024 | 572 อ่าน
รีวิวที่พัก | 19 พ.ย. 2024 | 3,597 อ่าน
รีวิวที่พัก | 18 พ.ย. 2024 | 439 อ่าน
รีวิวที่พัก | 11 พ.ย. 2024 | 1,395 อ่าน
รีวิวที่พัก | 08 พ.ย. 2024 | 1,072 อ่าน
รีวิวที่พัก | 05 พ.ย. 2024 | 1,067 อ่าน
รีวิวที่พัก | 11 ต.ค. 2024 | 1,684 อ่าน
รีวิวที่พัก | 11 ต.ค. 2024 | 1,378 อ่าน