calendar_month 10 ก.ค. 2019 / stylus Admin Chillpainai / visibility 21,771 / รีวิวที่พัก
ผ่านมาครึ่งปีแล้วหาเวลาพักผ่อนให้ตัวเองกันหน่อยดีกว่า ถ้าไม่อยากไปไหนไกลๆ ปราจีนบุรีถือเป็นตัวเลือกในการท่องเที่ยวพักผ่อนที่น่าสนใจเลยทีเดียวเพราะใช้เวลาขับรถจากกรุงเทพแค่สองชั่วโมงกว่าๆ สถานที่ท่องเที่ยวก็มีให้เลือกไปเช็คอินทั้งในเมืองและนอกเมืองไม่ว่าจะเป็นน้ำตก ภูเขา ทุ่งดอกไม้ หรือคาเฟ่เก๋ๆ เมื่อเราเลือกได้แล้วว่าจุดหมายปลายทางของเราในทริปนี้คือจังหวัดปราจีนบุรี ขั้นตอนต่อไปก็ต้องหาที่พักกัน
นานๆ ทีจะได้ลาหยุดมาเที่ยวพักผ่อนเราก็ต้องเที่ยวให้คุ้ม!! เพราะฉะนั้นโจทย์ของเราก็ต้องหาที่พักที่เดินทางไปเที่ยวที่ไหนก็ง่าย เดินทางสะดวก ที่สำคัญที่พักก็ต้องดีทั้งด้านการบริการ คุณภาพและมีความน่าเชื่อถือ ใช้เวลาอยู่พอสมควรสุดท้ายทริปนี้เราจึงเลือกพักที่ “โรงแรมแคนทารี 304 ปราจีนบุรี” โรงแรมสุดหรูในเครือ เคป แอนด์ แคนทารี โฮเทล แน่นอนว่าแค่ได้ยินชื่อโรงแรมเราก็มั่นใจได้เลยว่าที่นี่ไม่ได้มีดีแค่ภายนอกแน่นอน
โรงแรมแคนทารี 304 ปราจีนบุรี (KANTARY 304 PRACHINBURI) ตั้งอยู่ที่อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี อยู่ห่างจากกับนิคม304 และนิคมโรจนะเพียง 15 นาที และถือเป็นเส้นทางผ่านไปแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ของจังหวัดปราจีนบุรีด้วยด้วยมาตรฐานการบริการ และการจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครันนี่เอง ถ้าให้ชาวญี่ปุ่น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้บริหาร นักธุรกิจที่มาติดต่อหรือทำงานในนิคมเลือกที่พักที่นี่เป็นประจำ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลว่าทำไมเราถึงเลือกพักที่นี่ ถ้าอยากรู้ว่ามีดียังไงตามไปเช็คอินกันเลยค่า
เมื่อเข้ามาถึงโรงแรมเราเข้ามากันที่อาคาร A ซึ่งเป็นอาคารด้านหน้าสุดสำหรับต้อนรับลูกค้าที่มาเช็คอิน ตัวอาคารตกแต่งด้วยโทนสีขาวน้ำตาลสไตล์โมเดิร์นมีความเรียบหรูและทันสมัย โดยมีทั้งหมด 6 ตึก 297 ห้อง มีห้องพักทั้งหมด 4 แบบ คือ Studio Room, One Bedroom, Deluxe Room และ Two Bedroom ซึ่งมีเพียง 3 ห้องเท่านั้น ส่วนใหญ่จะเป็นห้องพักระยะยาวสำหรับชาวญี่ปุ่นที่ทำงานในนิคม
เรามาเช็คอินกันที่ล็อบบี้ก็ได้รับการต้อนรับจากพนักงานเป็นอย่างดี ใช้เวลาไม่นานก็เช็คอินเสร็จเรียบร้อยไปดูห้องพักกันค่ะว่าที่นี่เขามีดีอย่างที่บอกไว้ยังไงบ้าง เริ่มกันที่ห้องพักของเรา ห้อง Studio Room ห้องพักขนาด 45 ตารางเมตร ตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นแบบเรียบง่าย ให้ความรู้สึกสบายๆ ที่มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะพบกับโซนทำอาหารที่มีเครื่องครัวให้ครบ ตั้งแต่เตาไฟฟ้า ไมโครเวฟ อ่างซิงค์ล้างจาน ตู้เย็น กระติกน้ำร้อน เครื่องปิ้งขนมปัง อุปกรณ์ทำอาหารอย่างหม้อ กระทะ และชุดจานชามที่วางไว้บนโต๊ะให้เรียบร้อยเรียกได้ว่าพร้อมสำหรับทำอาหารมากๆ
ถัดมาที่บริเวณด้านในของห้อง ก็มีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งเอาไว้ครบเครื่องเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกมากๆ ไม่ว่าจะเป็นเตียงนุ่มๆ ชุดโซฟา ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง โทรทัศน์จอแบนพร้อมเคเบิลทีวี ชุดเครื่องเสียงแบบสเตอริโอและมีระเบียงให้เราได้ออกไปสูดอากาศรับลมอีกด้วย
ส่วนภายในห้องน้ำแบ่งโซนอ่างอาบน้ำและและโซนฝักบัวไว้อย่างชัดเจน มีผ้าเช็ดตัวและเซตสำหรับอาบน้ำอย่างสบู่ แชมพู คอนดิชั่นเนอร์ โลชั่น ไว้ให้ครบ และความพิเศษสำหรับห้องน้ำที่นี่คือ โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติเหมือนที่ญี่ปุ่นเลย บอกเลยว่าสะดวกสบายมากๆ แต่ถ้าใครไม่ถนัดใช้ปุ่มกดอัตโนมัติเขาก็มีสายฉีดชําระไว้ให้ด้วย ตอบโจทย์ทั้งคนไทยและญี่ปุ่นเลยค่ะ
พามาดูกันต่อที่ห้อง One Bedroom ห้องพักขนาด 68 ตารางเมตร ห้องนี้จะมีขนาดใหญ่กว่า ห้อง Studio Room มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มมากขึ้นเหมาะสำหรับพักเป็นครอบครัว เพราะแบ่งออกเป็น 1 ห้องนอนและ 1 ห้องนั่งเล่น เมื่อเข้าไปด้านในห้องจะพบกับโซนห้องครัวที่มีอุปกรณ์ครบครันเหมือนกับห้องสตูดิโอ ทั้งเตาไฟฟ้า ไมโครเวฟ อ่างซิงค์ล้างจาน ตู้เย็น โต๊ะรับประทานอาหารที่ใหญ่กว่าเดิมพร้อมชุดจานชาม รวมถึงชุดโซฟาและทีวีจอแบน ในส่วนที่เพิ่มขึ้นมาก็จะมีเครื่องซักผ้าซึ่งเป็นอีกหนึ่งอย่างที่ตอบโจทย์ในเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่มาพักแบบรายเดือนและแบบครอบครัวได้มากๆ
พาไปดูภายในห้องนอนกันบ้างค่ะ มาพร้อมเตียงนุ่มๆ แบบคิงไซส์ ทีวีจอแบนอีกหนึ่งเครื่อง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง และยังมีห้องน้ำในตัวซึ่งเราชอบมากๆ เพราะที่นี่เขาแบ่งโซนระหว่างอ่างอาบน้ำและฝักบัวไว้อย่างชัดเจน รวมถึงโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติแบบญี่ปุ่น แต่ถ้าใครไม่อยากกดปุ่มเพราะชินแบบบ้านเราเขาก็มีสายฉีดให้ด้วยน้า
พาไปดูกันอีกหนึ่งห้องที่พึ่งเปิดใหม่ล่าสุดสำหรับห้อง Deluxe Room ห้องขนาด 38 ตารางเมตร มีห้องน้ำในตัว ถึงแม้เป็นห้องไซส์เล็กสุดสำหรับที่นี่แต่ก็ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเหมือนเดิม แค่ไม่มีเตาไฟฟ้าสำหรับประกอบอาหาร เพราะเน้นผู้เข้าพักแบบรายวันเป็นส่วนใหญ่ หรือสำหรับลูกค้าที่ไม่ชอบทำอาหารก็ถือเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งเพราะราคาห้องก็ลดลงด้วย
ดูห้องกันเรียบร้อยแล้วเราจะพาเพื่อนๆ ไปชม Facilities อื่นๆ ภายในโรงแรมกันบ้างค่ะ บอกเลยว่าสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ส่วนกลางจัดเต็มมากๆ ทั้งสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ สระจากุซซี่ ห้องฟิตเนส ห้องซาวน่า และห้องสตีม ให้เราได้เลือกใช้บริการกันได้โดยไม่มีค่าบริการเพิ่มเติม โดยเปิดให้บริการตั้งแต่เช้าตรู่ เวลา 06.00 - 22.00 น. เลยค่า
อีกหนึ่งความพิเศษของที่นี่เพื่อตอบสนองนักธุรกิจและผู้บริหาร รวมทั้งชาวญี่ปุ่นก็คือ ห้อง Golf Simulator การซ้อมกอล์ฟเสมือนจริงภายในห้องแอร์เย็นฉ่ำโดยไม่เสียค่าบริการเพิ่ม เพียงแต่ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าไว้แค่นั้นเอง ไฮไลท์อีกอย่างก็คือ ออนเซ็นแยกหญิงชาย ซึ่งส่วนนี้รองรับสำหรับผู้เข้าพักแบบรายเดือนและรายปีเท่านั้น แต่ถ้าใครมาพักรายวันแล้วอยากใช้บริการออนเซ็นก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มท่านละ 300 บาทเท่านั้นค่ะ
เดินดูโรงแรมกันทั่ว ท้องก็เริ่มร้องกันแล้ว เราไปแวะกินอาหารเที่ยงกันที่ห้องอาหาร The Orchard (ดิออร์ชาร์ด) โรงแรมแคนทารี 304 ซึ่งจะเปิดให้บริการอาหารแบบ A La Carte ตั้งแต่เวลา 10.30 - 23.00 น.เมนูอาหารก็มีให้เลือกหลากหลายทั้งอาหารไทย อาหารฝรั่งและอาหารญี่ปุ่น เมนูแนะนำที่เราสั่งมาวันนี้ก็มี สเต็กหมูพอร์คชอป โดยใช้เนื้อหมูส่วนสันนอกหมักด้วยเกลือ พริกไทย กินคู่กับสลัดผักสดเสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งทอดและซอสเห็ด ต่อด้วยสปาเก็ตตี้หอยลาย กระเทียมพริกแห้งซอสไวน์ขาว, พิซซ่าซีฟู้ด แป้งบางกรอบท็อปปิ้งด้วยหอยแมลงภู่ ปลาหมึกและกุ้งโรยด้วยมอสซาเรลล่าชีส และสุดท้ายกับชุดอาหารญี่ปุ่น Sake Teriyaki Set ภายในเซ็ตจะมีแซลมอนย่างซีอิ้ว สลัดกุ้ง ไก่ต้มราดไข่ ข้าวสวยญี่ปุ่น ผักดองและซุปเต้าเจี้ยว บอกเลยว่าทุกเมนูจัดเต็มความอร่อยมากๆ เลย
อีกหนึ่งความพิเศษสุดๆ ของที่นี่ ที่ขอบอกเลยว่าไม่ได้มีดีแค่อาหาร A La Carte นะคะเพราะทุกวันอังคารที่นี่จะมีบุฟเฟต์เมนูนานาชาติมื้อค่ำ (International Buffet Dinner) ที่ห้องอาหาร The Orchard (ดิออร์ชาร์ด) ซึ่งจะทำให้ทุกคนได้ฟินกับอาหารสารพัดเมนูจากนานาชาติซึ่งแบ่งโซนไว้อย่างชัดเจน ทั้งจากโซนยุโรปที่นำเสนอขาหมูและไส้กรอกเยอรมัน รวมถึงสปาเก็ตตี้ให้เลือกสั่งตามสไตล์คุณ
ในโซนอาหารญี่ปุ่นก็ยกเรือมาทั้งลำเพื่อจัดวางปลาดิบ ซูชิ ข้าวปั้นไว้ให้คุณเลือกตามใจชอบ รวมถึงโซนเอเชียที่จัดเมนูมาหลากหลายไม่ซ้ำอาทิตย์และของหวานก็ไม่น้อยหน้ามีให้เลือกทั้งเค้กนานาชนิด ฟองดูว์ ไอศกรีมและผลไม้ ราคาบุฟเฟต์อยู่ที่ 490 บาทเท่านั้น (เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีลดครึ่งราคา) โดยจะรวมเครื่องดื่มเป็นน้ำเปล่าและน้ำบลูฮาวายที่จะเปลี่ยนไปทุกอาทิตย์เช่นกัน บอกเลยว่าอิ่มคุ้ม ตั้งแต่ 6 โมงเย็นจนถึง 4 ทุ่มเลย
ตัดภาพมาที่มื้อเช้า มื้อที่สำคัญที่สุดของเราซึ่งไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าบุฟเฟต์เมื่อคืนเลย เพราะยังคงไว้ซึ่งอาหารฝั่งยุโรปทั้งเมนูสารพัดไข่ที่สามารถสั่งเชฟได้ตามใจชอบ รวมถึงไส้กรอก เบคอน ขนมปัง หรืออาหารไทยๆ อย่างข้าวผัด ข้าวต้ม ผัดผัก และอาหารเช้าแบบญี่ปุ่น ซึ่งห้องอาหารเช้าที่นี่จะเปิดตั้งแต่ตีห้าครึ่งจนถึง 10 โมงเลยจ้า
ก่อนที่เราจะออกจากโรงแรมก็ขอแวะไปเช็คอินชิลๆ กันที่ Cafe Kantary 304 Prachinburi กันหน่อย เปิดให้บริการตั้งแต่ 07.00 - 22.00 น. เป็นคาเฟ่ 2 ชั้นสุดเก๋สไตล์โมเดิร์นเน้นโทนสีสว่าง จุดเด่นของร้านเป็นภาพวาดผนัง “น้องมาดี เด็กสามตา” ขนาดใหญ่ฝีมือของคุณอเล็กซ์ เฟส ศิลปินกราฟิตี้ชื่อดังของเมืองไทยอยู่ที่ชั้น 2 ไว้ให้ลูกค้าที่มากินอาหารได้ถ่ายรูปเช็คอินเก๋ๆ สำหรับเมนูที่นี่จะออกแนวสไตล์ฟิวชั่นผสมผสาน มีให้เลือกทั้งของคาวและหวานเลยค่ะ
ส่วนเมนูวันนี้ที่เราอยากนำเสนอเลยก็มี Hokkaido Sashimi Salad สลัดปลาดิบรวมมีปลาทูน่าแซลมอน หมึกและสาหร่ายญี่ปุ่นโรยหน้าด้วยไข่กุ้งและราดน้ำสลัดงาญี่ปุ่น บอกเลยว่าต้องถูกใจคนชอบกินสลัดแน่นอน มาต่อกันอีกหนึ่งเมนูฟิวชั่นอาหารไทยบ้านเราบ้าง กับข้าวหน้ากะเพราขาหมูเยอรมันทอด โดยใช้ขาหมูเยอรมันทอดกรอบนำไปทอดจนกรอบแล้วนำมาผัดกับกะเพราเสิร์ฟคู่กับไข่ดาวและน้ำซุป ขาหมูเยอรมันกรอบนอกนุ่มในรสชาติเผ็ดกำลังดีกินกับข้าวสวยนุ่มๆ จานนี้ยกให้เป็นจานโปรดเลย
มีของคาวแล้วคนหวานๆ อย่างเราจะขาดเมนูของหวานไปได้ยังไงใช่ไหมคะ เริ่มกันที่ Ice Kantary Coffee กาแฟสูตรพิเศษของทางร้านที่มีส่วนผสมของ Hazelnut Syrup และ Vanilla Syrup ท็อปด้วยวิปปิ้งครีมโรยด้วยผง Crumble อบกรอบ รสชาติหอมหวานกำลังดีมีความกรุบๆ นิดๆ คอกาแฟต้องถูกใจแน่นอน และแล้วก็มาถึงเมนูของหวานอย่างสุดท้ายของเรา ซึ่งมาแบบอลังการมากๆ กับ Berry Berry เครปหน้าผลไม้สดตระกูลเบอร์รี่ มีทั้งสตรอว์เบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ทานกับไอศกรีมวานิลลาท็อปด้วยวิปปิ้งครีม แยมสตรอว์เบอร์รี่และบลูเบอร์รี่ เมนูนี้ฟินมากๆ เพราะได้ทั้งความหวานมันจากเครปและไอศกรีมตัดกับความเปรี้ยวของผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ได้อย่างลงตัวมากๆ เลย
เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับ โรงแรมแคนทารี 304 ปราจีนบุรี (KANTARY 304 PRACHINBURI ) ที่พักสุดหรูที่ตอบสนองความสะดวกสบายใกล้นิคม 304 และไม่ได้ตอบโจทย์แค่เหล่านักธุรกิจ ผู้บริหารและคนที่ทำงานใกล้นิคมเท่านั้น นักท่องเที่ยวอย่างเราก็สามารถไปใช้บริการได้ ที่สำคัญที่นี่ยังอยู่ห่างจากตัวเมืองปราจีนบุรีและโบราณสถานสระมรกต-รอยพระพุทธบาทคู่ เพียง 30 นาที หรือถ้าอยากไปเที่ยวเขาหินซ้อนก็ห่างจากโรงแรม เพียง 20 นาทีเท่านั้น บอกเลยว่าสะดวกสบายสุดๆ ทั้งเรื่องของการเดินทางและสิ่งอำนวยความสะดวก ใครมาเที่ยวปราจีนบุรีอย่าลืมแวะมาเช็คอินที่โรงแรมแคนทารี 304 ปราจีนบุรี กันนะคะ
โรงแรมแคนทารี 304 ปราจีนบุรี
ที่ตั้ง : 689 ม.10 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
ราคา : เริ่มต้น 2,400 - 3,500 บาท
เบอร์โทร : 037-239-777
GPS : https://goo.gl/maps/Dz6k3YkMDwFSdNRp6
Tags: KANTARYPRACHINBURI แคนทารี304 แคนทารีปราจีนบุรี ที่พักปราจีนบุรี ที่พักหรูปราจีนบุรี ที่พักใกล้นิคม304 ที่พักใกล้เมืองปราจีนบุรี
รีวิวที่พัก | 17 ธ.ค. 2024 | 149 อ่าน
รีวิวที่พัก | 21 พ.ย. 2024 | 525 อ่าน
รีวิวที่พัก | 25 พ.ย. 2024 | 720 อ่าน
รีวิวที่พัก | 19 พ.ย. 2024 | 3,941 อ่าน
รีวิวที่พัก | 18 พ.ย. 2024 | 511 อ่าน
รีวิวที่พัก | 11 พ.ย. 2024 | 1,513 อ่าน
รีวิวที่พัก | 08 พ.ย. 2024 | 1,153 อ่าน
รีวิวที่พัก | 05 พ.ย. 2024 | 1,178 อ่าน