จัดเต็มกับบุฟเฟ่ต์ทุเรียนกินได้ไม่อั้นในงาน Bangkok Amazing Durian Fest 2016 ที่ เซ็นทรัลเวิลด์

calendar_month 13 Aug 2016 / stylus นางสาวฮานะ ชิลไปไหน / visibility 32,467 / travel-review

ได้ข่าวว่าทางเซ็นทรัลเวิลด์จะจัดงานเทศกาลทุเรียนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและไฮไลท์คือบุฟเฟ่ต์ทุเรียนที่กินได้ไม่อั้น

สาวสีส้มก็นับวันรอและเตรียมล้างท้องรองานนี้เอาไว้เลยค่ะ

แล้ววันที่เฝ้ารอก็มาถึงวันที่ 13 สิงหาคมคือวันแรกที่จัดงาน
Bangkok Amazing Durian Fest 2016 โดยงานนี้จัดขึ้นที่
ลานสแควร์เอ ด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
ระหว่างวันที่ 13-17 สิงหาคม นี้เท่านั้น

สาวสีส้มเลยไปเก็บบรรยากาศ
ความฟิน ความอิน ความอร่อยมาให้เพื่อนๆ ชม ตามไปชมกันเลยค่ะ

มาถึงแล้วค่ะงาน Bangkok Amazing Durian Fest 2016 ภายในงานมีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่ให้ความสนใจเขามาชิมมาช้อปทุเรียนและผลไม้ไทยกันมากมาย โดยงานนี้เขาจะแบ่งเป็น 2 โซนค่ะ คือโซนบุฟเฟ่ต์ทุเรียนที่เป็นไฮไลท์และโซน Farmer’s market จำหน่ายสินค้าผลไม้ไทยสดๆ

ไม่พูดพร่ำทำเพลงสาวสีส้มขอพุ่งไปโซนบุฟเฟ่ต์ทุเรียนกันก่อนเลยเพราะใกล้เวลาที่เขาจะเปิดให้เข้าแล้ว ก่อนอื่นก็ต้องไปซื้อบัตรเข้างานก่อนค่ะ ราคา 599 บาทโดยมีระยะเวลา 1 ชั่วโมงครึ่งในการทาน และแต่ละวันเขาจะเปิดเพียง 5 รอบเท่านั้น คือรอบ 10.00-11.30 น., 12.15-13.45 น., 14.30-16.00 น., 16.45-18.15 น. และ 19.00 -20.30 น. และสาวสีส้มได้ข่าวดีมาว่าเขามีการเปิดจำหน่ายบัตรล่วงหน้าในราคา 499 บาท เฉพาะรอบ 10.00 น. เปิดจำนวนจำกัดรอบละ 50 ที่นั่งเท่านั้น โดยเปิดจำหน่ายที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา หรือที่เว็บไซต์ www.thaiticketmajor.com

หลังจากซื้อบัตรแล้วก็รอเวลา ไม่นานประตูก็เปิดให้เราเข้าไป โดยเราจะได้ wristband ของงาน และต้องฝากกระเป๋ากับเจ้าหน้าที่ด้วยค่ะ

ก้าวแรกที่เข้าไปก็พบกับความละลานตาของบรรดาทุเรียนที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ โดยเป็นทุเรียนหมอนทองจาก 4 ภาค 11 จังหวัดได้แก่ตราด จันทบุรี ระยอง ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช ชุมพร สุราษฎร์ธานี ยะลา ปัตตานี ศรีษะเกษ และอุตรดิตถ์ ที่เขาปอกใส่จาน เหลือง กำลังน่าทาน โดยเราสามารถหยิบไปทานเท่าไรก็ได้เท่าที่แรงของเรามี

สาวสีส้มตั้งใจมาทานทุเรียนในงานนี้โดยเฉพาะเลยจัดไปเลยคนเดียว 3 จาน นั่งทานไปเรื่อยๆ เพราะทุเรียนของเขาหวานมัน สุกกำลังดี กรอบนอก นุ่มใน เนื้อเยอะ เม็ดลีบ อร่อยมากๆ ค่ะ

จากทุเรียนก็ขอดับร้อนต่อด้วยมังคุดเนื้อขาว หวาน อร่อย ช่วยดับร้อนจากทุเรียนได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

ทานผลไม้เสร็จก็ขอไปชิมอาหารที่ทำจากทุเรียนที่ทานได้ไม่อั้นเหมือนกัน เริ่มจาก พิซซ่าทุเรียน ตอนแรกสาวสีส้มจินตนาการรสชาติไม่ออกเลยค่ะว่าจะเป็นแบบไหน แต่พอชิมแล้วชอบมากๆ เพราะตัวแป้งบางกรอบ และชีสกับ ทุเรียนก็เข้ากันได้เป็นอย่างดี เค็มๆ หวานๆ มันๆ ติดใจเลยค่ะ

ต่อด้วยขนมครกทุเรียนที่ตัวแป้งเขาก็ผสมทุเรียนและใส่เนื้อทุเรียนไปด้วย ส่วนตัวสาวสีส้มเป็นคนชอบทานขนมครกและทุเรียนอยู่แล้วพอมาอยู่ด้วยกันก็หวาน มัน อร่อยสุดๆ

รับข้าวเหนียวทุเรียนน้ำกะทิกันอีกสักถ้วยไหมคะ ตัวข้าวเหนียวเขาทำเป็นสีๆ ค่ะ น่าทานมากๆ ทุเรียนก็ชิ้นโต หอมน้ำกะทิและทุเรียน รสชาติหวาน มัน

ปิดท้ายด้วยไอศกรีมทุเรียนกันหน่อย หวานๆ เย็น ช่วยคลายร้อนได้ดีเลยค่ะ

ส่วนน้ำดื่มเขามีบริการมะพร้าวน้ำหอมเย็นๆ แก้ร้อนและน้ำเปล่าให้บริการแบบไม่อั้นอีกด้วย

ระว่างที่กำลังทานก็มีการเล่นเกมค้นหาผู้โชคดีที่จะได้เมนูพิเศษค่ะ โดยวันนี้เป็นทุเรียนหมอนทองจากป่าละอูสุดพิเศษแจกให้กับผู้โชคดีได้ไปทานกันถึงโต๊ะเลย

หลังจากทานบุฟเฟ่ต์กันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขอออกมาชิมอาหารด้านนอกในโซน Farmer’s market กันบ้าง โซนนี้ก็มีอาหารจากทุเรียนให้เราได้เลือกชิมอีกมากมาย อาทิ ทาโกยากิทุเรียนที่หอมหวานมันแตกต่างจากทาโกยากิที่เราเคยกิน

ไอติมไนโตรเจนเหลวรสทุเรียนหวานปานกลางกำลังดี

เครปทุเรียนที่ขายดีมากๆ ตอนเราไปเหลืออันเดียว ตัวเครปจะมีครีมที่ผสมเนื้อทุเรียน หวานๆ เย็นๆ มันๆ อร่อยมากๆ ค่ะ

ชีสเค้กทุเรียนเนื้อนุ่มละมุนลิ้นมากๆ

ทุเรียนเชื่อมหอม หวาน อร่อย

ไอศกรีมทุเรียนยี่ห้อ Ize Coco หวานเย็น

ทุเรียนทอด ของชอบของสาวสีส้ม เวลากินทีไรจะหยุดกินไม่ได้ทุกทีเลย จะซื้อกลับไปทานหรือซื้อเป็นของฝากก็ได้เลยค่ะ

ใครที่อยากซื้อทุเรียนกลับบ้าน ก็มีทุเรียนพันธุ์ให้เลือกซื้อมากมาย อาทิ ทุเรียนหมอนทอง(ป่าละอู ทรายขาว คีรีวง) ก้านยาว หลวงลับแล หลินลับแล ชะนี และพวงมณี พร้อมบริการปอกและแพ็คใส่กล่องเป็นอย่างดีถือขึ้นรถไฟฟ้าได้ไม่มีกลิ่นค่ะ

ส่วนใครที่ไม่ทานทุเรียนภายในงานนี้ยังมีผลไม้ ขนม อาหารแปรรูปให้เลือกซื้อเลือกชิมมากมาย ทั้ง เงาะ มังคุด มะพร้าวน้ำหอม เมล่อน มะม่วง ที่เขาคัดเลือกมาเป็นอย่างดีหน้าร้อนๆ แบบนี้มาเดินชิมผลไม้ก็ฟินแล้วล่ะค่ะ