เที่ยวเชียงราย : เที่ยวดอยตุง สวนแม่ฟ้าหลวง พระตำหนัก และ DoiTung Tree Top Walk

calendar_month 14 ธ.ค. 2017 / stylus นางสาวฮานะ ชิลไปไหน / visibility 72,016 / รีวิวที่เที่ยว

อากาศหนาวแล้ว ไปแอ่วเหนือกันเจ้า โดยทริปนี้เราจะพาขึ้นเหนือไปเที่ยวเชียงราย ไปชมดอกไม้สวยๆ ที่ดอยตุง จังหวัดเชียงรายกันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปชมกันเลย

การเดินทางไปดอยตุง

ดอยตุงนั้นตั้งอยู่ในอำเภอแม่ฟ้าหลวงจังหวัดเชียงราย จากตัวเมืองเชียงรายขับรถไปประมาณ 1 ชั่วโมงโดยใช้ถนนพหลโยธิน แล้วเลี้ยวซ้ายตรงแยกดอยตุง ขับไปตามถนนหมายเลข 1149 ขับตรงไปเลื่อยๆ ทางจะค่อยๆ ชันขึ้น แต่ถนนทางขึ้นดอยตุงค่อนข้างดีทีเดียวค่ะ ขับรถไม่ยากมาก แต่ช่วงที่เราไปเป็นช่วงที่หมอกลงจัดเลยต้องใช้ความระมัดระวังในการขับ อีกเส้นหนึ่งสำหรับขึ้นดอยตุงคือเส้น 1388 ซึ่งจะใช้เวลามากกว่า 1149 แต่ทางคดเคี้ยวจะน้อยกว่า

แวะจอดที่จุดชมวิว กม.12 มีแต่หมอกสีขาว มองไม่เห็นอะไรเลย T_T

วันที่เราไปเป็นวันอาทิตย์ค่ะ รถค่อนข้างเยอะ เจ้าหน้าที่ให้เราจอดรถไว้ด้านล่างแล้วใช้บริการรถสองแถวฟรีขึ้นไปแทนโดยเราจะต้องจำว่าเต็นท์ที่เราขึ้นเต็นท์ที่เท่าไร เพราะตอนลงเราจะต้องมาลงเต็นท์เดิมซึ่งเป็นจุดที่เราจอดรถเอาไว้

หมอกเยอะมากๆ ตอนเราไปถึงประมาณ 10 โมงแล้วหมอกก็ยังลงหนาอยู่

มีกาดเล็ก ขายอาหาร พร้อมที่นั่ง ขันโตก และร่มแบบล้านนาได้ฟีลชาวเหนือมากๆ

ตั๋วเข้าชมดอยตุง

มาซื้อตั๋วกันค่ะ โดยตั๋วของที่นี่เขาจะแบ่งเป็นแบบตั๋วรวมเข้าชมได้ทั้ง 4 ที่ ได้แก่ หอแห่งแรงบันดาลใจ, พระตำหนักดอยตุง, สวนแม่ฟ้าหลวง และสวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง(ดอยช้างมูบ) ราคาผู้ใหญ่ 220 บาท /ผู้สูงอายุ นักเรียน ผู้พิการ 110 บาท แต่ถ้าซื้อแบบแยกก็ที่ละ 90 บาท(ผู้ใหญ่) และ 45 บาท (ผู้สูงอายุ นักเรียน ผู้พิการ)

เวลาเปิดให้บริการเข้าชมดอยตุง

โดยแต่ละสถานที่นั้นเขาจะมีเวลาเปิด ปิดแตกต่างกันไป หอแห่งแรงบันดาลใจ เปิดบริการเวลา 8.00-17.00 น.,พระตำหนักดอยตุง เปิดบริการเวลา 7.00-17.30 น.(หยุดพักเวลา 11.30-12.30 น.) สวนแม่ฟ้าหลวง เปิดบริการเวลา 6.00 -18.00 น. และ สวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวงเปิดบริการเวลา 7.00-17.30 น. โดยสวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวงหรือดอยช้างมูบนั้นตั้งอยู่ห่างจากดอยตุงไปประมาณ 8 กิโลเมตร โดยจะมีรถบริการรับส่งฟรีจากดอยตุงไปยังดอยช้างมูบ

สวนแม่ฟ้าหลวงดอยตุง

เราเริ่มต้นที่แรกที่สวนแม่ฟ้าหลวงซึ่งเป็นสวนดอกไม้เมืองหนาวที่สวยงามมากๆ กว้างขวางถึง 25 ไร่ให้เราเดินชมดอกไม้ได้อย่างเพลินใจมากๆ

ประติมากรรมชื่อ "ความต่อเนื่อง" ที่อยู่ตรงกลางสวน โดยเป็นรูปเด็ก 17 คน ต่อตัวกันในกลางอากาศ ผลงานของ มีเซียม ยิบอินซอย ศิลปินสาขาจิตรกรรมชั้นเยี่ยม คนแรกของไทยเป็นผู้ออกแบบประติมากรรมชิ้นนี้โดยสอดคล้องกับกระแสรับสั่งของสมเด็จย่าที่ว่า ทำงานอะไรก็ตามจะสำเร็จได้ต้องมีความเนื่อง

ดอกไม้สวยๆ กับลมหนาวและหมอกยามเช้าคือความสวยงามที่เราได้มาสัมผัสที่นี่

ทางเดินไม้ไผ่ที่ทำไว้รอบบ่อน้ำประดับประดาด้วยดอกไม้สวยงามมากๆ

ดอกไม้หลากหลายสี หลากหลายพันธุ์ภายในสวนแม่ฟ้าหลวง

จิบกาแฟดอยตุง

มาดอยตุงก็ต้องมาลิ้มรสกาแฟดอยตุงเราสั่งแมคาเดเมียนัทลาเต้ปั่นใช้แมคาเดเมียที่ปลูกที่นี่ปั่นเข้ากับกาแฟรสนุ่ม ท็อปด้วยวิปครีมและเม็ดแมคาเดียมันๆ กรุบๆ ทานคู่กับไวท์ช็อคโกแลตครีมชีสเนื้อเนียนนุ่มอร่อยมากๆ

ดอยตุงทรีท็อปวอล์ค (DoiTung Tree Top Walk)

จากนั้นเราจะไปสัมผัสความเสียวกันที่ที่เที่ยวแห่งใหม่ของดอยตุง ดอยตุงทรีท็อปวอล์ค (DoiTung Tree Top Walk) ทางเดินบนเรือนยอดไม้ที่สูงและเสียว โดยจะต้องเสียค่าเข้าเพิ่ม 150 บาท และทางเจ้าหน้าที่เขาจะเปิดให้เข้าเป็นรอบๆ รอบละประมาณ 30 นาที

โดยก่อนขึ้นจะมีเจ้าหน้าที่มาอธิบายวิธีการใช้อุปกรณ์ซึ่งก็คือ Harness ที่เป็นอุปกรณ์สำหรับปีนผา และ Hook ซึ่งเป็นเหมือนตาขอที่รั้งเราเอาไว้กับเชือก

เส้นทางของดอยตุงทรีท็อปวอล์คยาวประมาณ 300 เมตร และจูดที่สูงที่สุดประมาณ 30 เมตร การเดินทางเราจะต้องเดินไปบนสะพานเชือกเล็กๆ แบบนี้ โดยที่แต่ละคนจะไม่สามารถแซงกันได้เลยค่ะ เพราะมีอุปกรณ์ที่คอยรั้งเราเอาไว้

แอบเสียวอ่ะ

ระหว่างทางจะเต็มไปด้วยต้นไม้มากมายที่บางต้นอายุเกือบร้อยปีเลยล่ะค่ะ

บางจุดจะค่อนข้างชัน แต่ไม่ต้องกลัวค่ะจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูและเราตลอด และทางเจ้าหน้าที่จะคอยเตือนว่าห้ามกระโดดหรือสั่นสะพานแกล้งเพื่อนเด็ดขาด

ประมาณ 30 นาทีเราก็เดินมาถึงปลายทางแล้ว

พระตำหนักดอยตุง

สถานที่สุดท้ายที่เราจะพามาชมนั้นก็คือพระตำหนักดอยตุง ในอดีตนั้นเป็นที่ประทับของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จ) พ.ศ. 2530 และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยพระตำหนักแห่งนี้เริ่มสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2530

ซึ่งอาคารของพระตำหนักนั้นเป็นการผสมผสานระหว่าง สถาปัตยกรรมล้านนา บ้านปีกไม้ และบ้านแบบพื้นเมือง ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มี 2 ชั้น และชั้นลอยที่ประทับ โดยการเข้าชมนั้นเราไม่สามารถถ่ายรูปภายในได้ เก็บเพียงความประทับใจที่สมเด็จย่าท่านได้ทรงงานมากมายให้กับพวกเรา เช่น โครงการพัฒนาดอยตุง ที่มีการปลูกป่าฟื้นฟูสภาพพื้นที่แล้วยังมีการฝึกอาชีพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวเขาบนดอยตุงอีกด้วย

ภายในพระตำหนักยังจัดแสดง ห้องพระบรรทม ห้องทรงงาน ห้องพระโรง และห้องเตรียมพระกระยาหาร ที่สิ่งของต่างๆ ในห้องเป็นของใช้ส่วนพระองค์ทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงรัลกาลที่ 9 และสมเด็จย่าที่แสดงถึงความรัก ทำให้ผู้เข้าชมอย่างเราเห็นแล้วซาบซึ้งใจมากๆ ค่ะ