Nowhere (โนแวร์-นาวเฮียร์) รูฟท็อปที่เก๋และเท่มาก

วันนี้ไปกินที่ไหนดี (No where To Go)??? คือคำถามยอดฮิตที่ผมมักจะถามเหล่าเพื่อนฝูง เพื่อหาสถานที่สำหรับสังสรรค์ ทานอาหาร หรือปาร์ตี้

ก็กินที่นี่สิ (I am now here) ซึ่งคำว่า "ที่นี่" ที่ผมจะพาไปนั้นคือร้าน Nowhere (โนแวร์ นาวเฮียร์) เป็นร้านที่มีคอนเซ็ปต์สุดเก๋ คือมีที่นี่ที่เดียว ไม่ว่าจะสไตล์การตกแต่งร้านหรืออาหาร คุณจะไม่สามารถหาที่ไหนได้เลย

Nowhere รูฟท็อปบาร์สุดเก๋ที่ซ่อนตัวอยู่ใจกลางกรุงในซอยเอกมัย ผมรู้จักร้านนี้ครั้งแรกเพราะกลุ่มเพื่อนที่ชวนผมมาปาร์ตี้หลังเลิกงาน หลังจากนั้นสถาปนาตัวเองเป็นแฟนประจำของร้านมีเวลาว่างเมื่อไรก็ต้องชวนเพื่อน พาแฟนและครอบครัวมาชิลที่ร้าน โดยที่ตั้งของร้านตั้งอยู่ชั้น 6 ของโรงแรม THA City Loft Hotel ปากซอยเอกมัย 6 ทางเข้าร้านจะแยกออกมาจากทางเข้าโรงแรม มีป้ายบอกทางไปยังร้าน แล้วขึ้นลิฟต์กดไปยังชั้น 6 เลยครับ

พอเดินเข้ามาในร้านปุ๊บก็สะดุดตากับบันไดปูนเปลือยภายในร้าน โดยเป็นบันไดที่ทอดตัวมาจากเพดาน และมาเชื่อมต่อกลายเป็นโต๊ะนั่ง เป็นเก้าอี้ ไปทั่วร้าน และที่ชอบที่สุดคือมีบันไดตรงกลางร้านที่เชื่อมต่อกับเพดานที่เปิดออก ใช้กระจกใสกั้นมองเห็นท้องฟ้าภายนอก ทำให้รู้สึกว่าการก้าวเดินไปบันไดอันนี้คงไม่มีที่สิ้นสุด

ผมได้คุยกับคุณแพร หนึ่งในหุ้นส่วนของร้านที่ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของร้านว่าเกิดจากการอยากทำร้านรูฟท็อปที่มีบรรยากาศเป็นกันเองสบายๆ ใส่กางเกงขาสั้นมาได้ และสามารถพาครอบครัวมาได้ตอนกลางวัน ส่วนตอนกลางคืนก็สามารถมาแฮงเอาท์ปาร์ตี้กับเพื่อนได้

ในส่วนของชื่อร้าน Nowhere (โนแวร์-นาวเฮียร์) มาจากเวลาเราเลือกร้านทานข้าวเราไม่รู้ว่าจะไปไหนดี ภาษาอังกฤษมันจะเป็น Nowhere to go  พอเราเลือกร้านได้แล้วเราก็จะบอกว่าโอเค I am at nowhere มันก็เลยกลายเป็นชื่อร้านเก๋ๆ ว่า โนแวร์-นาวเฮียร์

คอนเซ็ปต์ Nowhere นั้นถูกตีโจทย์เป็นการทำงานของที่นี่ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบร้าน การออกแบบเมนูอาหารที่คุณสามารถพบได้ที่นี่ที่เดียว เช่น บันไดที่มีอยู่ทั่วร้านนั้นสื่อถึงการเดินทางของลูกค้าที่เดินมาที่จุดเริ่มต้นของร้านแล้ววนไปรอบร้าน จากนั้นบันไดก็ทำหน้าที่เป็นฟังก์ชั่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเคาน์เตอร์บาร์ เป็นเก้าอี้นั่ง เป็นโต๊ะ เชื่อมต่อทุกคนในร้านเข้าด้วยกัน แล้วสุดท้ายบันไดมันก็จะมาจบที่เดิมแล้วหายไปในอากาศ

ในส่วนของเมนูอาหารและเครื่องดื่มเป็นสไตล์ Eurasian Food เป็นการผสมผสานระหว่างอาหารยุโรปกับวัตถุดิบจากทั่วโลกทั้ง เอเชีย แอฟริกา เม็กซิกัน เมดิเตอร์เรเนียน และตะวันออกกลางเป็นต้น เริ่มต้นด้วยเมนูแรก Moo-Ping Pate หมูปิ้งสไตล์ปาเต้แบบฝรั่งเศส นำไปบดละเอียดเหมือนกับตับบดคลุกเคล้ากับผักชี โรยด้วยถั่วพิสตาชีโอให้ความกรุบๆ มันๆ ทานคู่มัฟฟิน และมีอาจาดช่วยตัดเลี่ยน เป็นเมนูที่มิกซ์ยุโรปและไทยได้เข้ากันสุดๆ

ส่วนเมนูนี้คือ Watermelon Salad ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอาหารไทยโบราณ อย่างแตงโมปลาแห้ง แต่เปลี่ยนมาเป็นปลาแห้งของญี่ปุ่น เฟต้าชีส และ Baby Spinach ราดด้วยน้ำสลัดซูแมคซึ่งทำมาจากผงซูแมคเครื่องเทศจากตะวันออกกลาง รสชาติคล้ายบ๊วย  อร่อยมากๆ ครับ เพราะความหวานของแตงโมผสมกับความหอมของปลาแห้งญี่ปุ่นยิ่งทำให้อร่อยยิ่งขึ้นส่วนประกอบต่างๆ ผสมผสานกันได้ลงตัว

ต่อด้วย Hoi-sin Beef สเต็กเนื้อริบอายนุ่มหมักด้วยฮอยซินซอสของจีน โดยเขาคัดสรรเนื้อริบอายคุณภาพจากวัวที่เลี้ยงด้วยหญ้า หมักด้วยฮอยซินซอสรสเผ็ดร้อน เสิร์ฟพร้อมมะเขือเทศ เห็ด ต้นหอมญี่ปุ่น ผัดซอสซัลซ่าเวอร์เต้แบบเอเชีย ทานคู่กับผักสลัด ขอบอกเลยว่าเนื้อนุ่มมากๆ อร่อยสุดๆ เป็นอีกเมนูที่ขอยกนิ้วให้เลย

ปิดท้ายด้วยของหวานที่ขอแนะนำเลยเพราะอร่อยมากๆ กับ Apple Crisp แอปเปิ้ลคริสป์กับไอศกรีมโฮมเมดซอลต์คาราเมล โดยนำแอปเปิ้ลไปอบกับครีมชีสและโอ๊ตครัมเบิลร้อนๆ เสิร์ฟมาพร้อมวานิลลา และไอศกรีม ซอลท์คาราเมลหอมหวานรองด้วยครัมเบิลกรุบๆ เป็นเมนูที่ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ถ้าได้ทานแล้วจะวางช้อนไม่ลงเลยล่ะครับ

ใครกำลังหาร้านรูฟท็อปบรรยากาศเป็นกันเอง อาหารอร่อย แบบนี้ก็มากันได้เลยที่ร้าน Nowhere (โนแวร์-นาวเฮียร์) พิเศษสุดสำหรับลูกค้าที่ใช้แอปพลิเคชัน FWD MAX รับส่วนลดเฉพาะค่าอาหาร 10% ตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.60 - 25 มี.ค.61 ชมรายละเอียดเพิ่มเติมคลิกเลย>>https://www.chillpainai.com/fwdmaxprivilege/#FWD

สมัครรับสิทธิพิเศษ FWD MAX ได้ง่ายๆ
iOS: https://goo.gl/c1PwMq
Android: https://goo.gl/RVJ6Kl

ที่ตั้ง : ร้าน Nowhere ชั้น 6 อาคาร THA City Loft Hotel เอกมัยซอย 6 (ติดกับบิ๊กซี ซูปเปอร์เซ็นเตอร์ เอกมัย)
เวลาเปิด : จันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.00 - 24.00 น. และ เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 11.00 - 24.00 น.
ราคา : เริ่มต้นที่ 200-1,000 บาท
เบอร์ติดต่อ : 099-394-4417

Tags: กรุงเทพ ที่กิน ร้านอาหาร ดาดฟ้า ร้านวิวดี ร้านกลางคืน Nowhere โนแวร์ นาวเฮียร์ FWD FWDMAX

เขียนโดย

นางสาวฮานะ ชิลไปไหน

แชร์บทความนี้