calendar_month 15 พ.ย. 2017 / stylus นางสาวฮานะ ชิลไปไหน / visibility 77,009 / รีวิวที่กิน
ถ้าถามว่าร้านอาหารร้านไหนที่เติบโตมากับเรา ก็ต้องร้านนี้เลยค่ะ "ร้านเสวย" ร้านอาหารไทยที่เราทานมาตั้งแต่เด็กๆ ตั้งแต่คุณพ่อคุณแม่พามาทาน จนวันนี้กลายเป็นเราที่พาคุณพ่อคุณแม่มาทาน ซึ่งสิ่งที่ยังคงเดิมคือรสชาติที่อร่อยไม่เปลี่ยน แต่สิ่งที่เสวยเปลี่ยนไปคือรูปแบบร้านที่ดูทันสมัยขึ้น เข้าถึงคนทุกเพศทุกวัย และวันนี้เราได้มีโอกาสมาสัมผัสรสชาติที่คุ้นเคยอีกครั้งที่ร้านเสวย ท่ามหาราช ซึ่งเป็นหนึ่งในสาขาที่วิวดีที่สุดอีกแห่งหนึ่ง
การเดินทางไปยังร้านเสวย ท่ามหาราชนั้นสามารถทำได้หลายทางเลยค่ะได้ทั้งทางรถยนต์ และทางเรือ โดยทางรถยนต์สามารถนำรถส่วนตัวมาจอดที่นี่ได้ค่าจอดรถชั่วโมงละ 40 บาท ซึ่งถ้ามีตราประทับจากร้านอาหารสามารถลดราคาเหลือชั่วโมงละ 20 บาท สำหรับ 2 ชั่วโมงแรก ส่วนใครที่ไม่ได้นำรถส่วนตัวมาสามารถมาใช้บริการรถประจำทางสาย สาย 32, 53, 124, 203, 201, ปอ.32, ปอ.524 มาลงที่ท่ามหาราชได้ หรือจะนั่งรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีตากสิน (S6) ต่อเรือด่วนเจ้าพระยาที่ท่าเรือสาทร (ธงแดง เหลือง เขียว ส้ม) ลงท่าพรานนก/วังหลัง (N10) แล้วนั่งเรือข้ามฟากที่วังหลังมายังท่ามหาราช
เดินทางสะดวกสบายมาได้ทั้งทางบกและทางน้ำ
เรือข้ามฟากที่แล่นจากท่าวังหลังมายังท่ามหาราช พอลงเรือปุ๊บก็จะเจอร้านเสวยซึ่งอยู่บริเวณชั้น 2 ของท่ามหาราชเลยค่ะ โดยสามารถขึ้นลิฟต์หรือขึ้นบันไดมาก็ได้ ร้านจะอยู่ฝั่ง Building G ด้านริมสุดของโครงการ
ตัวร้านจะแบ่งเป็น 2 โซนคือโซนด้านในห้องแอร์ และโซนด้านนอกริมน้ำรับลมชิลๆ ถ้าเป็นตอนกลางวันจะมีหลังคาปิดกันความร้อน ส่วนตอนเย็นจะเปิดโล่งชิลมากๆ ค่ะ
ปีนี้ร้านเสวยอายุครบ 45 ปีแล้วค่ะ โดยสาขาแรกนั้นเริ่มต้นในปี 2515 ที่ห้างไทยไดมารู จนในปัจจุบันมีทั้งหมด 8 สาขา ได้แก่ จามจุรีสแควร์, ออลซีซั่นส์ เพลส,เดอะเมอร์คิวรี่วิลล์ ชิดลม,เบลล์แกรนด์พระราม 9,ท่ามหาราช,เอ็มไพร์ทาวเวอร์,เซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า, Savoey Seafood Co. ที่โครงการ A-Square สุขุมวิท 26 และมีแผนขยายร้านเพิ่มมากขึ้นซึ่งร้านเสวยในปัจจุบันนั้นได้รับการปรับโฉมให้เข้ากับคนรุ่นใหม่ ดีไซน์สมัย น่านั่ง แต่ยังคงรสชาติดั้งเดิมแบบเสวยที่หลายคนติดใจ
ส่วนร้านเสวย ท่ามหาราชนั้นจุดเด่นคือทำเลที่ยอดเยี่ยมติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นจุดที่สามารถชมพระอาทิตย์ตกดินได้อย่างสวยงาม และจากร้านยังสามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญได้มากมาย อาทิ พระบรมมหาราชวัง วัดพระแก้ว วัดระฆังฯ วัดโพธิ์ วัดอรุณฯ ใครที่มาเที่ยวสถานที่เหล่านี้ตอนกลางวัน ตอนเย็นก็สามารถแวะมาทานอาหารชมบรรยากาศดีๆ ที่ร้านเสวยได้
จากด้านนอกเราจะขอพาไปชมบรรยากาศด้านในกันบ้างค่ะ ด้านในตกแต่งสไตล์โมเดิร์น เน้นความเรียบง่าย ผนังปูนทาสีเทา เพดานเปิดเปลือยให้เห็นโครงสร้างสลับกับงานไม้ที่มาช่วยเพิ่มความเก๋ ความโมเดิร์นให้กับร้าน เพิ่มความอบอุ่นด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ และใช้เฟิร์นตกแต่งทำให้บรรยากาศดูสดชื่น
ใครอยากมาสังสรรค์ หรือจัดงานเลี้ยงที่นี่ก็มากันได้เลยค่ะ ทางร้านสามารถรองรับได้ประมาณ 200 คน ซึ่งสามารถเลือกปิดโซนเอาท์ดอร์จัดงานเก๋ๆ ริมน้ำได้ หรือจะเลือกใช้บริการจัดเลี้ยงนอกสถานที่ (outside catering )ทางเสวยก็มีบริการให้เลือกทั้งงานบุฟเฟต์ งานค็อกเทล คอฟฟี่เบรก ไปจนถึงอาหารกล่อง และขนมกล่อง
ไม่เพียงคนไทยเท่านั้นที่ติดใจในรสชาติของเสวย เพราะตอนนี้เสวยได้นำรสชาติของไทยออกสู่ต่างประเทศ โดยได้ร่วมกับทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในโครงการ Amazing Thai Test และ ได้รับรางวัล Thailand Tatler Best Restaurants 2017 การันตีมาตรฐานในการให้บริการอาหารไทย พร้อมเผยแพร่รสชาติแบบไทยแท้ๆ ให้ชาวต่างชาติได้ชิม จนติดอก ติดใจและตามมาทานถึงประเทศไทย ซึ่งกลุ่มลูกค้าของร้านเสวย ส่วนมากจะเป็น ชาวฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่น และจีน ซึ่งล่าสุดทาง Ctrip Gourmet List คู่มือแนะนำร้านอาหารและแบรนด์ในเครือ Ctrip ผู้ให้บริการด้านการเดินทางและการท่องเที่ยวชั้นนำของจีน ได้เปิดเผยรายชื่อสุดยอดร้านอาหาร 200 แห่งของประเทศไทยซึ่งหนึ่งในนั้น ร้านเสวย ก็ติดอันดับรวมอยู่ด้วย
ชมบรรยากาศร้านกันไปแล้วก็ถึงเวลาทานอาหารอร่อยกันค่ะ ซึ่งจุดเด่นของร้านเสวยที่หลายคนพูดถึงคืออาหารทะเลของที่นี่สดอร่อยมากๆ เราเลยไปสอบถามถึงเคล็ดลับความอร่อยก็ได้ข้อมูลว่าทางเสวยนั้นใช้วัตถุดิบที่สดใหม่ส่งตรงมาจากแหล่งวัตถุดิบธรรมชาติ โดยเฉพาะทางภาคใต้ เพราะทางเจ้าของร้านยังมีธุรกิจโรงแรมทางภาคใต้จึงสามารถเข้าถึงแหล่งวัตถุดิบและคัดเลือกวัตถุดิบจากฟาร์มคุณภาพส่งตรงมาปรุงเป็นเมนูอาหารไทย จีน ซีฟู้ดสุดอร่อยให้ลูกค้าเสวยได้ทานกัน เราเริ่มต้นสั่งเมนูปลามาทานก่อนค่ะกับเมนูปลากะพงทอดน้ำปลา (ราคา 420 บาท) ปลากระพงตัวใหญ่มากๆ ที่ถูกทอดด้านนอกให้กรอบ สีเหลืองทอง ส่วนด้านในเนื้อขาวนุ่ม ราดด้วยน้ำปลาที่เคี่ยวได้ที่รสชาติกลมกล่อม เสิร์ฟมาพร้อมกับยำมะม่วง เวลาทานจะเลือกราดบนตัวปลา หรือตักเนื้อปลามาวางบนข้าวสวยร้อนๆ แล้วนำยำมะม่วงราดน้อยๆ คลุกเคล้ากับน้ำปลาเคี่ยวสักหน่อย โอ๊ยยย อร่อยฟินมากๆค่ะ
ต่อด้วยเมนูเด็ดของร้านข้าวอบสับปะรด (ราคา 250 บาท) ที่เสิร์ฟมาพร้อมเนื้อปูชิ้นใหญ่ หมูหยอง กุ้งตัวโต และกุนเชียง เป็นเมนูที่กินได้ทุกเพศทุกวัยรสชาติกลมกล่อมอร่อยสุดๆ
มาเจอเมนูนี้แล้วอยากจะกรี๊ดกับเมนูกุ้งแม่น้ำไซส์ยักษ์ขนาด 3 ตัวกิโล (ตัวละ 900 บาท) ที่อัดแน่นไปด้วยมันสีเหลืองข้นๆ เยิ้มๆ ที่หัวกุ้ง เนื้อแน่นหวาน เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสชาติ เปรี้ยว หวาน เผ็ดกลางๆ กำลังดี ทานกับเนื้อกุ้งแล้วมันฟินสุดๆ
มันกุ้งเยิ้มๆ แบบนี้มาคลุกกับข้าวสวยร้อนๆ โอ๊ยยยย เห็นแล้วอยากจะกลับไปทานอีก
ต่อด้วยยอดมะระผัดน้ำมันหอย (130 บาท) ยอดมะระสดๆ อ่อนๆ นำมาผัดกับน้ำมันหอย จะทานเล่นหรือจะทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ก็อร่อยทั้งสองแบบเลยล่ะค่ะ
จานนี้ก็อร่อยไม่เบากับ ต้มยำกุ้งแชบ๊วย(ราคา 260 บาท) ที่เสิร์ฟมาในหม้อไฟ หลายคนอาจเห็นสีสันในหม้อและคงจินตนาการว่าต้องเผ็ดร้อนแน่ๆ แต่ผิดคาดค่ะ เพราะรสชาติของต้มยำจานนี้ไม่เผ็ดจนเกินไป รสกลมกล่อม ซดแล้วโล่งคอเลยค่ะ
และมาถึงอีกหนึ่งเมนูสุดฮอตฮิตติดลมบนของร้านนั่นก็คือปูผัดผงกะหรี่(ราคา 695 บาท) ที่ใช้ปูทะเลตัวโตนำไปต้ม แล้วนำมาผัดกับผงกะหรี่ ซึ่งความแตกต่างของเมนูปูผัดผงกะหรี่ของร้านเสวยกับร้านทั่วไปนั้นคือไม่มันเยิ้ม รสชาติกลมกล่อม อร่อยมากๆ
ทานของคาวแล้วก็มาทานของหวานกันบ้างกับเมนูเฉาก๊วยนมสดภูเขาไฟ(ราคา 80 บาท) ที่มีเฉาก๊วยเนื้อหนุบหนับ เม็ดบัว ถั่วแดง มะพร้าวกะทิ โรยด้วยน้ำตาลทรายแดง หอมหวาน
ต่อด้วยเมนูของหวานที่เราชอบมากๆ กับบัวลอยเสวยทรงเครื่อง(ราคา 80 บาท) บัวลอยเผือกและบัวลอยใบเตยเนื้อหนุบหนับ ในน้ำกะทิคั้นสด เสิร์ฟมาพร้อมไอศกรีมกะทิ และท็อปปิ้งด้านบนด้วยข้าวตัง เป็นเมนูไทยๆ ที่อร่อยมากๆ ค่ะ
ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มสองแก้วนี้ที่เราอยากนำเสนอมากๆ นั่นก็คือ คะน้าปั่น (ราคา 55 บาท) และชามะนาวกุหลาบ ( ราคา 45 บาท) ซึ่งตัวคะน้าปั่นนั้นทางร้านเล่าว่าเริ่มจากเจ้าของร้านลองทำกินเองที่บ้านแล้วมีรสชาติอร่อยเลยนำมาเป็นเมนูในร้าน เป็นเมนูที่ทานง่ายมากๆ ใครไม่ทานผักก็สามารถดื่มได้ มีกลิ่นคะน้าอ่อนๆ ผสมผสานกับรสชาติเปรี้ยวของมะนาว เป็นเมนูเครื่องดื่มที่เราขอยกให้เป็นที่หนึ่งในใจเลยค่ะ ส่วนอีกเมนูก็อร่อยไม่แพ้กันกับชามะนาวกุหลาบหอมกลิ่นกุหลาบผสมผสานกับรสชาติเปรี้ยวหวานของชามะนาวอร่อยชื่นใจคลายร้อนได้อย่างดี
และสำหรับลูกค้าที่มีบัตรเครดิต KTC รับส่วนลดไปเลย 10% เฉพาะค่าอาหารและเครื่องดื่มราคาปกติ ยกเว้นเครื่องดื่มที่มีแอลกฮอลล์ (ราคาก่อนรวมค่าบริการ 10% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) เพียงทานครบ 1,000 บาทขึ้นไป/เซลส์สลิป โปรโมชั่นนี้ KTC เค้าจัดให้ไปจนถึง 31 ธ.ค. 60 นี้ ที่ร้านเสวยทั้ง 8 สาขา
บรรยากาศดีๆ แบบนี้เหมาะกับการมาใช้เวลากับคนรู้ใจ หรือคนในครอบครัว นั่งชมพระอาทิตย์ที่กำลังตกดิน และลิ้มรสอาหารสุดอร่อย
เมื่อพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าแสงไฟภายในร้าน และแสงไฟจากร้านรวงริมน้ำก็ส่องสว่างให้แม่น้ำเจ้าพระยาสวยงามยิ่งขึ้น
ใครที่อยากมาสัมผัสช่วงเวลาดีๆ แบบนี้ก็มากันได้เลยค่ะที่ร้านเสวย ท่ามหาราช หนึ่งในร้านอาหารที่เติบโตมากับเราและจะยังคงเป็นร้านในดวงใจของเราตลอดไป
ที่ตั้ง : ร้านเสวย ตึก G ท่ามหาราช ถนน มหาราช แขวง พระบรมมหาราชวัง เขต พระนคร กรุงเทพมหานคร
เปิดบริการ : ทุกวันเวลา 11.00-22.00 น.
โทร : 0-2024-1317, 0-2024-1320
ติดต่องานจัดเลี้ยง
โทร 0955141141
FB / IG / LINE : @savoeycatering
Tags: กรุงเทพฯ ที่กิน ร้านอาหาร เสวย ร้านเสวย ร้านอาหารไทย ร้านริมน้ำ ร้านวิวดี ร้านบรรยกาศดี ท่ามหาราช ร้านอาหารจีน ร้านซีฟู้ด
รีวิวที่กิน | 07 ต.ค. 2024 | 516 อ่าน
รีวิวที่กิน | 01 ส.ค. 2024 | 684 อ่าน
รีวิวที่กิน | 10 ก.ค. 2024 | 1,517 อ่าน
รีวิวที่กิน | 30 เม.ย. 2024 | 6,044 อ่าน
รีวิวที่กิน | 30 เม.ย. 2024 | 4,681 อ่าน
รีวิวที่กิน ที่กิน | 02 เม.ย. 2024 | 2,944 อ่าน
รีวิวที่กิน | 26 ธ.ค. 2023 | 2,607 อ่าน
รีวิวที่กิน | 08 ธ.ค. 2023 | 9,751 อ่าน
รีวิวที่กิน | 21 มิ.ย. 2023 | 23,813 อ่าน
รีวิวที่กิน | 12 มิ.ย. 2023 | 42,409 อ่าน
รีวิวที่กิน | 24 พ.ค. 2023 | 11,465 อ่าน