calendar_month 13 พ.ย. 2017 / stylus Admin Chillpainai / visibility 165,824 / รีวิวที่เที่ยว
ช่วงนี้เลื่อนฟีดในเฟซบุ๊คก็เห็นใครๆ พากันไปเช็คอินรับลมหนาวกันเป็นแถบ ทำเอาต่อมเที่ยวของเรากระตุกยุกยิก อยากออกไปพิชิตลมหนาวกับเค้าบ้าง! ไม่รอช้า…รีบกางปฏิทินหาวันหยุด มีวันลาพักร้อนเหลือพอดี แต่จะไปที่ไหนดีล่ะ?...แม่ฮ่องสอนก็ไกลเกินไป ส่วนเชียงใหม่ก็ไปบ่อยแล้ว เลยสรุปลงตัวที่เชียงรายแล้วกัน เพราะเมืองนี้มีทั้งธรรมชาติสวยๆ อย่างภูเขา ทะเลหมอก ไร่ชา แถมได้ข่าวมาว่ามีจุดเช็คอินอย่างคาเฟ่ฮิปๆ ให้ไปเช็คอินเพียบ เหมาะกับทริปเที่ยวชิลๆ รับลมหนาวของเราสุดๆ
เราเลยจัดเป็นทริปเที่ยวเชียงราย 3 วัน 2 คืน เป้าหมายคือเก็บที่เที่ยวแลนด์มาร์คใหม่ๆ และสถานที่ที่เรายังไม่เคยไปให้ครบ ซึ่งด้วยระยะเวลาเท่านี้ การเดินทางด้วยเครื่องบินเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ทริปนี้เราเลือกใช้บริการสายการบิน ไทยสมายล์ (THAI Smile) ซึ่งเพิ่งคว้ารางวัล TripAdvisor Travellers’ Choice Awards ถึง 3 รางวัลด้วยกัน คือ สายการบินยอดเยี่ยมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Best Regional Airline in Asia Pacific), สายการบินยอดเยี่ยมประเทศไทย (Best Airline in Thailand), และยังติดอันดับ 1 ใน 10 สายการบินยอดเยี่ยมระดับโลก (World’s Best Airline) อีกด้วย การันตีด้วยรางวัลจากเว็บไซต์ของชุมชนนักเดินทางระดับโลกขนาดนี้ รีบกดจองตั๋วทันทีแบบไม่ต้องคิดมากกันเลยค่ะ
ทริปนี้เราเลือกเดินทางไฟลท์สายหน่อย เพราะคุณเพื่อนติดเคลียร์งานจนนาทีสุดท้าย แต่ไม่เป็นไร…เพราะเป็นทริปสบายๆ อยากแวะไหนก็แวะ ปรับตารางยืดหยุ่นได้ตามสถานการณ์อยู่แล้ว เราไปเช็คอินรับบัตรโดยสารที่ Check-in Counter สนามบินสุวรรณภูมิกันก่อน ถึงบอกว่าเป็นทริปเที่ยวชิลๆ แต่บอกเลยว่าสัมภาระไม่ชิลตามชื่อทริปนะจ๊ะ!! ไปเชียงรายแค่ 3 วัน แต่ละคนขนกระเป๋ากันมาเต็มพิกัดยังกับจะย้ายบ้าน!! ไหนจะกระเป๋าเสื้อผ้า เครื่องสำอาง กระเป๋ากล้อง และกระเป๋าเป้สำหรับใส่โน้ตบุ๊ค เผื่อสำหรับโดนตามงานด่วนระหว่างไปเที่ยวอีกล่ะ… แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะ THAI Smile จัดเต็ม สามารถโหลดกระเป๋าได้สูงสุด 30 กก. สำหรับบัตรโดยสารชั้น Smile Plus และ 20 กก. สำหรับบัตรโดยสารชั้น Smile Class
รับ Boarding pass เสร็จแล้ว พวกเราก็ไม่โอ้เอ้รีบไปรอที่เกตรอเวลาเครื่องออก ซึ่งไฟลท์นี้ก็ตรงเวลาเป๊ะ…ไม่มีดีเลย์ เพราะฉะนั้นใครจะเดินทางอย่ามัวเดินช้อปในดิวตี้ฟรีกันเพลิน เผื่อเวลามาถึงเกตก่อนเครื่องขึ้นสัก 20 นาทีเป็นอย่างน้อย จะได้ไม่ตกเครื่องกันนะจ๊ะ
พอขึ้นเครื่องไปปุ๊บ ก็เจอกับแอร์โฮสเตสสาวสวยในชุดยูนิฟอร์มสีส้มของ THAI Smile ยืนทักทายต้อนรับ เรียกว่าเป็นการเริ่มต้นทริปด้วยรอยยิ้มหวานๆ และการบริการอบอุ่นแบบไทยๆ ที่เป็นกันเองสมชื่อสายการบิน
ไฟลท์นี้ผู้โดยสารเกือบเต็มลำ แต่ภายในเครื่องไม่อึดอัดเลยค่ะ แบ่งที่นั่งออกเป็นฝั่งละ 3 Seat คั่นด้วยทางเดินตรงกลาง ส่วนเบาะที่นั่งก็กว้างขวางสะดวกสบาย มีพื้นที่ระหว่างเบาะโดยสารให้เหยียดขาได้สบายๆ เลย
พอเครื่องขึ้นได้สักพัก พนักงานต้อนรับก็นำอาหารและเครื่องดื่มมาเสิร์ฟค่ะ ตอนแรกเราก็งงว่าถุงอะไร เพราะแพ็คเกจจิ้งของสายการบินเค้าเก๋ไก๋สะดุดตามาก เปิดถุงข้างในออกมามีกล่องแซนด์วิช ไส้แน่นเว่อร์ กินชิ้นเดียวอิ่ม พร้อมยังมีน้ำดื่มให้อีกหนึ่งขวด ซึ่งหากใครอยากได้เครื่องดื่มอื่นๆ เพิ่มเติม ก็สามารถบอกกับแอร์โฮสเตสที่จะเข็นรถเครื่องดื่ม ทั้งชา กาแฟ น้ำส้ม น้ำอัดลม ฯลฯ มาบริการอีกทีได้ค่ะ
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ เราบินลัดฟ้ากันมาถึงเชียงราย กัปตันประกาศเตรียมแลนดิ้งลงยังสนามบินแม่ฟ้าหลวงกันแล้ว
พอรับกระเป๋าเสร็จ เราก็เช่ารถจากสนามบินขับไปเที่ยวกันเลย จุดหมายแรกของเราก็คือที่นี่ “วัดร่องเสือเต้น” ที่เที่ยวแลนด์มาร์คใหม่ที่ใครมาเชียงรายต้องไม่พลาด ชมความงามของศิลปะแบบไทยประยุกต์ ฝีมือของกลุ่มศิลปินพื้นบ้านเชียงรายผู้เป็นศิษย์ของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ในการสร้างวัดร่องขุ่นที่โด่งดังนั่นเอง
ถ้าวัดร่องขุ่นถือเป็นสถาปัตยกรรมเพชรน้ำเอก ที่วัดร่องเสือเต้นก็เปรียบได้กับอัญมณีเม็ดงามอีกเม็ดที่มาช่วยเติมเต็มเสน่ห์ให้กับเมืองเชียงราย โดยเฉพาะพระอุโบสถหลังใหญ่ที่งดงามวิจิตรหลังนี้
ภายในอุโบสถสีฟ้า มีภาพเขียนจิตรกรรมที่ศิลปินผู้สร้างสรรค์ได้จรดปลายพู่กันลงบนผนังและเสาอย่างวิจิตรบรรจง นับเป็นงานพุทธศิลป์แห่งยุคสมัยที่งดงามควรแก่การมาชมด้วยตาสักครั้ง ทั้งยังมีพระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่ประดิษฐานให้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล
ด้านหลังอุโบสถยังมีพระพุทธรูปปางห้ามญาติองค์ใหญ่และพระธาตุเจดีย์ยอดสีทองตัดสลับกับฐานสีน้ำเงินฟ้า ดูงดงามแปลกตา เป็นมุมถ่ายรูปสวยๆ ที่นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่าน สามารถดื่มด่ำกับความงามได้อย่างเต็มตา
หลังจากชมความงามของวัดร่องเสือเต้นจนเต็มอิ่ม เราก็ไปเช็คอินคาเฟ่เก๋ๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศสวนป่าเล็กๆ ดูลึกลับและน่าค้นหาอย่าง The Wanderer ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำกก ไม่ไกลจากวัดร่องเสือเต้นกันค่ะ
ภายในร้านมีโซนให้เลือกนั่งชิลทานอาหารถึง 4 โซน ทั้งโซนคาเฟ่ ห้องกระจกกลาสเฮาส์ ห้องแอร์ และที่นั่งเอาท์ดอร์ในสวนสีเขียวร่มรื่น ใครชอบมุมไหนก็เลือกนั่งได้เลย มีโต๊ะให้เลือกหลากหลาย จะมาโรแมนติกกับคนรู้ใจ หรือแฮงค์เอาท์จิบกาแฟกับกลุ่มเพื่อนก็จัดไป ชิลได้ทุกมุม
เพราะยังอิ่มจากอาหารบนเครื่องกันอยู่ เราเลยสั่งเมนูเบาๆ จานเดียวง่ายๆ (แต่อร่อยเว่อร์) มากันคนละจาน คือเมนู Smoke Salmon Salad สลัดแซลมอนราดด้วยน้ำสลัดวาซาบิ กับขนมจีนน้ำยาปลาอินทรี ขนมจีนเส้นสดเสิร์ฟพร้อมกับกุ้งแม่น้ำและไข่ต้มยางมะตูม พร้อมเครื่องเคียงทั้งผักสด หัวปลี หอมแดง พริกแห้ง ใบโหระพา รสชาติกลมกล่อมลงตัว ตบท้ายด้วยของหวานอย่างพายเค้กมะพร้าว และเครื่องดื่มสีสวยอย่างโซดาป๊อป ราสเบอร์รี่โซดา ท้อปด้วยไอศครีมราสเบอร์รี่โฮมเมดหอมหวาน ดื่มแล้วสดชื่นสุดๆ
วันนี้เป็นการอุ่นเครื่องเริ่มทริปเบาๆ ไม่แน่นมาก เราเลยไปเช็คอินเข้าที่พักของเรากันก่อน คืนแรกเราเลือกพักที่ Eat Sleep Café & Bed ที่พักน่ารักๆ บรรยากาศอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน ท่ามกลางบรรยากาศสวนสวยสไตล์อังกฤษริมแม่น้ำกก
ตกเย็นแล้วขี้เกียจออกไปไหน ก็สั่งอาหารและเครื่องดื่มจากฝั่งคาเฟ่ในที่พักมานั่งทานได้ มีทั้งกาแฟ เบเกอรี่โฮมเมด และอาหารจานเดียวง่ายๆ อย่างเมนูข้าวแกงฮังเล หรือข้าวผัดล้านนา ข้าวผัดคลุกน้ำพริกหนุ่มรสจัดจ้านสไตล์ชาวเหนือ เสิร์ฟพร้อมกุนเชียง หมูยอ และไส้กรอก ให้กินเป็นเครื่องเคียง
คืนแรกเรารีบเข้านอนแต่หัวค่ำ เพราะพรุ่งนี้เรามีนัดไปดูพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกกันที่ภูชี้ดาว ซึ่งปกติแล้วคนส่วนใหญ่มักจะรู้จักภูชี้ฟ้ามากกว่า แต่ภูชี้ดาวถือเป็นจุดชมวิวแห่งใหม่ของเชียงรายที่สวยงามไม่แพ้กัน บางคนมักจะจัดทริปเที่ยวภูชี้ฟ้า-ภูชี้ดาว-ผาตั้ง ไว้ในทริปเดียวกัน แต่พวกเราเคยไปภูชี้ฟ้ากับผาตั้งมาแล้ว และอยากเที่ยวแถวในเมืองมากกว่า เลยปรับแผนค้างในตัวเมืองแล้วออกเดินทางแต่เช้ามืดแทน ใช้เวลาขับรถประมาณ 3 ชั่วโมงก็ไปทันพระอาทิตย์ขึ้นที่ภูชี้ดาวพอดี
การเดินทางไปภูชี้ดาว เราไม่สามารถขับรถขึ้นไปเองได้ เพราะเป็นทางดินขึ้นเขาที่แคบและชัน ต้องจอดรถไว้ด้านล่างแล้วใช้บริการรถรับ-ส่ง ซึ่งเป็นรถกระบะโฟร์วีลขึ้นไปยังภูชี้ดาวอีกที ถึงแม้การเดินทางจะสมบุกสมบัน แต่พอขึ้นไปถึงด้านบนแล้ว บอกเลยว่าวิวที่เห็นตรงหน้าสวยคุ้มค่าจริงๆ ค่ะ
หลังจากถ่ายรูปคู่ทะเลหมอกสวยๆ กันสมใจแล้ว เราก็ลงจากภูชี้ดาวแล้วขับรถกลับไปเส้นทางเดิม ผ่านอำเภอเทิง แล้วโฉบเข้าตัวเมืองเชียงราย ไปหามื้อสายอร่อยๆ กินกันที่ Melt in Your Mouth คาเฟ่เก๋ๆ ริมแม่น้ำกก ที่ตกแต่งในสไตล์เฟรนช์วินเทจ ได้อารมณ์เหมือนบ้านสวยๆ ในชนบทของฝรั่งเศสเลยค่ะ
อากาศวันนี้ลมหนาวเริ่มพัดมาเย็นสบายกำลังดี เราเลยเลือกที่จะนั่งโซนเอาท์ดอร์ด้านหลังร้านที่สามารถนั่งทานอาหารชมวิวแม่น้ำกกแบบชิลๆ หรือใครอยากไปนอนเล่นรับลมบนเปลตาข่าย ถ่ายรูปชิคๆ ก็จัดไป
มื้อนี้เราจัดเต็มชุดใหญ่กับเมนูฟิวชั่น อย่าง “เมลท์ล้านนา” (Melt Lanna) ออร์เดิร์ฟเมือง ที่ยกขบวนของกินพื้นเมืองเหนือ ทั้งแคบหมู น้ำพริกหนุ่ม ไส้อั่ว แกงฮังเลและลาบคั่ว เสิร์ฟพร้อมผักสดตะกร้าใหญ่ ตอนแรกตั้งใจจะกินเล่นเรียกน้ำย่อยกันขำๆ แต่ปรากฏว่าอิ่มจริงจังกว่าที่คิด (แอบกระซิบว่าเมนูนี้เป็นสูตรต้นตำหรับที่ถ่ายทอดมาจากคุณทวดของตระกูลเจ้าของร้าน ซึ่งเคยเป็นนางต้นห้องของเจ้าดารารัศมีมาก่อนเชียวนะ) ส่วนใครชอบอาหารฝรั่งก็มีพิซซ่าให้เลือกหลากหลายหน้า อาทิ ฮาวายเอี้ยน หรือแม้แต่พิซซ่าแกงฮังเล เราสั่งพิซซ่าผักโขมเบค่อน ซอสขาวสูตรพิเศษของทางร้านมาลองชิม แป้งพิซซ่าบางกรอบ ได้รสชีสและผักโขมกลมกล่อมเต็มๆ คำ ตบท้ายด้วยเครื่องดื่มและของหวานอย่าง “เมลท์ฟินนฟรุตตี้” สตรอว์เบอร์รี่ปั่นเสิร์ฟพร้อมเบอร์รี่สด ท้อปด้วยวิปครีมและไอศกรีมโยเกิร์ตแก้วโต ส่วนโชเฟอร์บ่นง่วงเลยจัดกาแฟร้อนหอมๆ อย่าง “เมลท์ ปิโคโล่ ลาเต้” ซึ่งทางร้านใช้เมล็ดกาแฟชั้นดีมาเบลนด์เอง หอมเข้มกลมกล่อมสุดๆ
จากตัวเมืองเชียงราย เราขับรถไปทางอำเภอแม่จัน จุดหมายต่อไปคือ “ไร่ชาฉุยฟง” แลนด์มาร์คสุดฮ็อตที่ใครมาเที่ยวเชียงรายแล้วไม่มาถ่ายรูปเช็คอินที่นี่ถือว่ามาไม่ถึง
ที่นี่นับเป็นแหล่งผลิตชาชั้นดีอันดับต้นๆ ของเมืองไทย มีขนาดเนื้อที่กว่า 1,200 ไร่ ภายในยังมีคาเฟ่เก๋ๆ ให้เราได้นั่งจิบชาชมวิว โดยเฉพาะชาเขียวและเบเกอรี่ที่นี่ขึ้นชื่อมาก แนะนำสั่งชาเขียวมัตฉะ มาทานคู่กับเครปชาเขียว แค่ตักเข้าปากคำแรกก็ฟินนนน…จนอยากให้ไปเปิดสาขาที่กรุงเทพฯ บ้าง นอกจากชาและเค้กอร่อยๆ แล้ว ยังมีช็อปขายชาและของฝากของที่ระลึกให้เลือกซื้อ หรือใครอยากลงไปเดินเล่นถ่ายรูปเก็บใบชาก็มีหมวกและตะกร้าให้เช่าอีกด้วยค่ะ
ตอนบ่ายเราไปเช็คอินเข้าที่พักคืนนี้ของพวกเรากันที่ “เชียงรายเรียวกัง” บูติครีสอร์ทสไตล์แจแปนิส ที่ได้ฟีลความเป็นญี่ปุ่นทุกตารางนิ้ว โดยได้แรงบันดาลใจมาจากที่พักสไตล์เรียวกังต้นตำรับแท้ๆ ของญี่ปุ่น ทั้งประตูบานเลื่อนโชจิ เสื่อตาตามิ และภายในห้องพักยังมีอ่างออนเซ็นเล็กๆ ให้แช่น้ำร้อนแบบเอาท์ดอร์อีกด้วย
นอกจากห้องพักสวยๆ แล้ว ที่นี่ยังมี “เรียวกังคาเฟ่” ให้เราได้นั่งจิบชา กาแฟ ทานขนม พร้อมกับชมวิวทุ่งนา ฝั่งตรงข้ามยังมี “เรียวกังฟาร์ม” ที่มีแลนด์มาร์คอย่างรูปปั้นโตโตโร่ให้ไปถ่ายรูปคู่เป็นที่ระลึกเก๋ๆ อีกด้วย
ตอนเย็นเราขับรถไปเที่ยวชมธรรมชาติที่ Singha Park ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักของเรา พอดีช่วงนี้ยังไม่ถึงช่วงที่ทุ่งดอกคอสมอสบาน เราเลยไปเดินเล่นถ่ายรูปชมวิวริมทะเลสาบ มีหลายครอบครัวมาเที่ยว ปั่นจักรยาน และทานมื้อเย็นที่ “Silver Bird” ฟู้ดทรักเปิดใหม่ที่หน้าตาคล้ายเครื่องบิน ซึ่งตอนเย็นที่นี่ก็บรรยากาศสวยงามโรแมนติกไปอีกแบบ
เช้าวันสุดท้าย เป็นวันสบายๆ เราเช็คเอาท์จากที่พักตอนสายๆ แล้วไปหาคาเฟ่น่ารักๆ ในเมืองนั่งชิลจิบกาแฟกันก่อนกลับ จนไปเจอเข้ากับร้านนี้ “Figure and Ground” มิวเซียมคาเฟ่สุดคูล ที่เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงหุ่นโมเดลจากการ์ตูนและภาพยนตร์ดังๆ มากมาย เรียกว่าเป็นสวรรค์ของคนที่ชอบสะสมหุ่นฟิกเกอร์ต่างๆ ก็ว่าได้
ดูฟิกเกอร์กันจนเพลินแล้วเกิดหิว ก็สามารถสั่งอาหารและเครื่องดื่มมากินได้เลย เมนูแนะนำที่นี่ อาทิ สลัดผักน้ำฟักทองสูตรบ้านม่อนม่วน ผักสดกรอบๆ ปลอดสารจากฟาร์มเกษตรกรในเชียงราย นำมาราดด้วยน้ำสลัดฟักทองสูตรบ้านม่อนม่วนอันโด่งดัง พร้อมเครื่องดื่มอย่างกรานิต้าชาไทย ชากุหลาบ และโอเลี้ยง อร่อยหวานมันเข้มข้น ตบท้ายด้วยของหวานอย่าง “บานาน่าฟลิตเตอร์" ราดด้วยน้ำผึ้งไซรัป อร่อยติดใจจนอยากใส่กล่องกลับบ้านกันเลยทีเดียว
นั่งเล่นเพลินๆ ก็ได้เวลาเดินทางไปสนามบินกันแล้ว เราคืนรถเช่าแล้วไปเช็คอินขากลับ โหลดกระเป๋าเสร็จสรรพแล้วก็เดินสวยๆ ไปรอเวลาขึ้นเครื่องที่เกต เหินฟ้ากลับกรุงเทพฯ ด้วยสายการบิน ไทยสมายล์ เช่นเคย บอกเลยว่าทริปนี้สนุกและประทับใจสุดๆ คิดไม่ผิดที่เลือกบินไปกลับ ขับรถเที่ยวกันชิลๆ ไม่ต้องเสียเวลาขับรถทางไกลให้เปลืองพลังงาน เราโบกมือลาท้องฟ้าเชียงรายหน้าหนาว แล้วสัญญาว่า…ลมหนาวคราวหน้าเราจะมาแอ่วใหม่ รอหน่อยนะเจียงฮายยยย!!
Tags: เชียงราย เที่ยวเชียงราย ไร่ชาฉุยฟง ภูชี้ดาว วัดร่องเสือเต้น The Wonderer Eat Sleep Cafe & Bed Melt in Your Mouth เชียงรายเรียวกัง เรียวกังคาเฟ่ สิงห์ปาร์ค Figure and Ground
รีวิวที่เที่ยว ที่เที่ยว | 03 ก.ค. 2024 | 1,723 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว | 28 เม.ย. 2024 | 2,601 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว | 08 มี.ค. 2024 | 2,658 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว | 06 ก.พ. 2024 | 3,553 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว ที่เที่ยว | 29 ม.ค. 2024 | 4,264 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว | 24 ม.ค. 2024 | 3,170 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว ที่เที่ยว | 22 ม.ค. 2024 | 5,974 อ่าน