เที่ยวหลวงพระบาง 4 วัน 3 คืน เที่ยวยังไงดี?

calendar_month 03 พ.ย. 2017 / stylus Admin Chillpainai / visibility 151,801 / ทริปตัวอย่าง , เที่ยวต่างประเทศ

หลวงพระบาง เมืองทางเหนือของประเทศเพื่อนบ้านใกล้ๆ อย่างประเทศลาว เป็นเมืองที่เดินทางไปเที่ยวง่ายมากกก.. ยิ่งในช่วงที่สายการบินมีการแข่งขันสูง..ขึ่งเป็นโชคของคนที่ชอบการเดินทางอย่างเราเลยค่ะ เพราะเหล่าโปรโมชั่นราคาประหยัด เห็นแล้วรู้สึกไปเที่ยวที่ไหน ก็จ่ายเบาๆ ทั้งนั้น โดยเฉพาะเมืองหลวงพระบาง ที่เดี๋ยวนี้เดินทางง่าย สามารถนั่งเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองตรงไปยังเมืองหลวงพระบางกันได้เลย แถมยังเป็นเมืองที่การใช้ภาษาการพูดคุย ไม่ลำบากจนเกินไปเราสามารถพูดภาษาไทยกันได้ หากกำลังมองหาที่เที่ยวเดินทางง่าย ไม่ลำบากในการใช้ภาษา ไม่ไกลจากเมืองไทย ลองตามมาเที่ยวเมืองหลวงพระบางกันดูค่ะ รับรองว่าสนุกครบรสแน่นอน ..

สำหรับเมืองหลวงพระบาง ถึงจะใกล้เมืองไทย แต่ชิลขอแนะนำเพื่อนๆ ว่า ควรใช้เวลามาเที่ยวสักประมาณ 4 วัน 3 คืน จะได้เก็บสถานที่ที่เที่ยว ในเมือง นอกเมืองกันครบเลยค่ะ

การเดินทางทริปนี้เราเลือกนั่งเครื่องจากสนามบินดอนเมือง - หลวงพระบาง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที การเดินทางไปประเทศลาวต้องพกพาสปอร์ตไปด้วยนะคะ เพราะเราต้องผ่าน ตม. เข้าเมืองและปั้มพาสปอร์ตด้วยค่ะ

เที่ยวบินของเราเป็นช่วงบ่าย ทำให้มาถึงหลวงพระบางกว่าจะผ่านตม. รอกระเป๋า จัดการทุกอย่างเสร็จก็เกือบจะเย็นแล้วค่ะ สำหรับการติดต่อสื่อสาร ใครที่ติดโซเซียล ไปเที่ยวทั้งทีอยากลงรูป อวดเพื่อนๆ บนโซเซียลแบบเรียลไทม์กันเนอะ แวะซื้อซิมลาวได้จากสนามบินเลยค่ะ ตอนเราไปเราซื้อของ Unitel ราคาประมาณ 200 บาท เน็ตแรงใช้ได้เลยค่ะ

มาถึงประเทศลาวก็เกือบจะเย็นแล้ว .. เราเช็คอินเข้าที่พัก เอาของไปเก็บ ซึ่งทริปนี้เราพักกันที่ Chit Chareune Mouang Luang (จิตเจริญ เมืองหลวง) เป็นที่พักอยู่ใจกลางเมืองหลวงพระบาง เดินทางไปเที่ยวตามที่เที่ยวต่างๆ ได้สะดวกทั้ง ตลาดมืด พระราชวัง วัดเชียงทอง ตลาดเช้า และที่อื่นๆ

ที่นี่เป็นสไตล์หลวงพระบาง อนุรักษ์ความเก่าแก่แถมยังได้รับรางวัลโรงแรมสีเขียวแห่งอาเซียน ภายในที่พักมี สระว่ายน้ำ ยิม และสปาให้บริการค่ะ

ราคาที่พัก
1 พฤษภาคม - 30 กันยายน เริ่มต้นที่ 75 USD - 190 USD
1 ตุลาคม - 31 เมษายน เริ่มต้นที่ 90 USD - 230 USD
ราคารวมอาหารเช้าแล้ว

เก็บของเข้าที่พักเรียบร้อย เราออกไปหาอาหารมื้อเย็นทานกันที่นี่ "ตลาดมืด" (Night Market ที่คนลาวเรียกว่าตลาดมืดเพราะว่าเป็นตลาดที่เปิดกลางคืน)

ตลาดมืดมีของกินเยอะค่ะ ถ้าไปเมืองหลวงพระบาง อยากลองชิมอาหารพื้นเมืองหลวงพระบาง ไม่รู้จะไปที่ไหน ที่ตลาดมืดก็มีให้ทานค่ะ เมนูแนะนำในตลาดมืดต้องลอง *เฝอ ข้าวซอยแบบลาว

มีร้านบุพเฟ่ต์แบบตักครั้งเดียว ที่ต้องแวะไปลองสักครั้งด้วยนะคะ คือจ่ายเงินประมาณ 60 บาท ตักกับข้าวเท่าไหร่ก็ได้ แต่ตักได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น .. ส่วนรสชาติอาหาร น่าจะถูกใจคนที่ไม่ทานเผ็ดและชอบรสจืด

หรือจะลองแวะเข้าร้านอาหารแถวนั้นไปเลย เราแนะนำร้าน *Coconut Garden ค่ะ เป็นร้านอาหารพื้นเมืองหลวงพระบาง ตั้งอยู่บนถนนเส้นเดียวกับตลาดมืด แต่อยู่โซนเลยตลาดไปแล้วนิดนึงนะคะ

นอกจากอาหารการกินแล้ว ในตลาดมืดยังมีร้านของฝากของใช้ให้ช้อปกันอีกเพียบ !! แต่ของส่วนมากจาะคล้ายๆ กันเกือบทุกร้านเลยค่ะ

เช้าวันที่ 2 วันนี้เราตื่นเร็วนิดนึงเพื่อไปทำกิจกรรมยอดฮิตของเมืองหลวงพระบาง นั่นคือ "การตักบาตรตอนเช้า" ค่ะ เราอาจจะใช้ชีวิตเร่งรีบอยู่ในเมืองกรุงของไทยจนไม่มีเวลาตื่นมาทำบุญใส่บาตร แต่ได้มาเที่ยวเมืองหลวงพระบางทั้งทีเราต้องไม่พลาดตื่นเช้ามาใส่บาตรค่ะ

ในทุกเช้าชาวหลวงพระบางจะตื่นเช้ามาใส่บาตร ซื้อของที่ใส่บาตรจะเป็นขนม ข้าวเหนียว ซึ่งเราเป็นนักท่องเที่ยวเราสามารถซื้อชุดตักบาตรได้จากชาวบ้านเลยค่ะ โดยเราจะได้ชุดใส่บาตร พร้อมเก้าอี้นั่ง (คนหลวงพระบางจะนั่งตักบาตร เหมือนเชียงคานบ้านเราเลยค่ะ)

หลังจากตักบาตรแล้ว เราไปต่อกันที่ตลาดเช้าค่ะ เดินไปได้ไม่ไกลจากจุดที่ตักบาตรเลย ตลาดเช้าของหลวงพระบางเป็นตลาดสดที่ชาวบ้านนำของมาขายกัน ส่วนมากเป็นของที่หาได้เอง ตามแม่น้ำ ตามป่า แน่นอนว่าได้เจออะไรแปลกๆ แน่นอน ทั้งนก หนู งู เป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่อีกแบบค่ะ

เดินชมตลาดจนหนำใจแล้ว เราไปหาข้าวเช้าทานกันค่ะ ไม่ไกลจากตลาดเช้ามีร้านอาหารเช้ายอดฮิตอย่างร้าน "ประชานิยม" อยู่ค่ะ เดินไม่ถูกถามชาวบ้านได้เลย .. ร้านนี้เป็นร้านอาหารเช้าที่อยู่ติดริมแม่น้ำ * เปิด ตี 5 - 12.00น

เมนูอาหารก็จะมี โจ๊ก กาแฟ ปาท่องโก๋ ชาร้อน ไข่ดาว ไข่ลวก เรียกได้ว่าเมนูอาหารเช้าครบเครื่อง !

ทานมื้อเช้ากันเรียบร้อยแล้ว .. เราเดินทางไปเที่ยวกันที่ไฮไลท์เด็ดอีกที่นึงของหลวงพระบาง นั่นก็คือ .... "น้ำตกตาดกวางซี" น้ำตกสวยตั้งอยู่ห่างจากเมืองหลวงพระบางประมาณ 25 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที หากเพื่อนน้อยไปกันสอง คนก็สามารถเช่ามอไซค์ไปเองได้ แต่สะดวกกว่านั้น แนะนำให้ไปรถสกายแลป เหมาไปเลยค่ะ วันละ 700 - 800 เท่านั้นเอง

น้ำตกตาดกวางซี เป็นน้ำตกขนาดกลาง มีทั้งหมด 3 ชั้น ภูมิทัศน์สวยงาม หินปูสีขาว ซ้อนกันเป็นชั้นๆ หากไปในวันที่ฝนไม่ตก จะเห็นน้ำใสเป็นสีฟ้าสวยงาม แต่วันที่เราไปฝนดันตกซะงั้น! น้ำเยอะเลยกลายเป็นสีน้ำตาลเลยค่ะ *ค่าเข้า : 20,000 กีบ หรือ 80 บาท เวลาเปิด - ปิด : 6.00 - 17.00น

ใครอยากลงไปเล่นนำ ก็มีจุดที่ลงเล่นได้ตรงชั้น 1 ค่ะ นอกจากน้ำตกแล้ว ยังมีหมีที่ทางน้ำตกเลี้ยงไว้ด้วยนะคะ ประมาณ 20 ตัวเลย ไปเล่นน้ำ แล้วอย่าลืมเดินตามหาหมีกันด้วยนะคะ

เล่นน้ำ เดินดูหมีแล้ว... ทานอาหารเที่ยงกันที่ร้านอาหาร Green Jungle Cafe & Restaurant ร้านอาหารหนึ่งเดียวที่อยู่ด้านในน้ำตกค่ะ เมนูอาหารมีอาหารไทย อาหารลาว และอาหารตะวันตกด้วยค่ะ

กลับจากน้ำตกทันเวลพระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน เรากลับเข้าเมืองหลวงพระบาง ไปกันที่ตลาดมืด หรือถนนคนเดิน แต่เวลาก่อนพระอาทิตย์ตกแบบนี้ตลาดยังตั้งไม่เสร็จเลยค่ะ จุดหมายปลายทางที่แท้จริงของเราอยู่ที่ "วัดพระธาตุภูสี"

วัดพระธาตุภูสีเป็นวัดที่อยู่ขึ้นเขาสูง 150 เมตร ทางขึ้นอยู่ตรงข้ามกับ พิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง (พระราชวังเก่า) วิธีการขึ้นไปบนพระธาตุคือต้องเดินขึ้นบันไดประมาณ 328 ขั้น เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมักจะขึ้นมาเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก *ค่าเข้า : 20,000 กีบ หรือ 80 บาท

แม่น้ำสายเล็กที่เห็นในภาพคือแม่น้ำคาน ในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นจะขึ้นฝั่งแม่น้ำคาน พระอาทิตย์ตกจะตกฝั่งแม่น้ำโขงค่ะ

หากตื่นเช้าไม่ทันชมพระอาทิตย์ขึ้น ก็มาดูพระอาทิตย์ตกแต่ต้องรีบมาจับจองที่กันหน่อยนะ เพราะนักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ อยากได้มุมดีๆ อยากได้ภาพสวยๆ ต้องรีบขึ้น

ยามเย็นเราจะเห็นพระอาทิตย์ตกไปทางแม่น้ำโขง เป็นภาพที่สวยงามมีแม่น้ำโขงและภูเขาสีเขียวชอุ่มเป็นแบ็กกราวด์ แต่อย่าลืมว่าหากอยากได้ภาพสวยๆ ต้องรีบสักหน่องไม่งั้นเราจะไม่ได้ที่นั่งหน้าสุดนะคะ นอกจากไปชมพระอาทิตย์ตกสวยๆ แล้ว อย่าลืม สักการะพระธาตุ ถวายดอกไม้ จุดธูปเทียนเอาฤกษ์เอาชัยกันด้วยนะคะ

ลงมาจากชมพระอาทิตย์ตก ด้านล่างตลาดมืดก็กำลังคึกคักได้เวลา..ช้อปของฝาก หาของอร่อยทานให้เต็มท้องกันแล้วค่ะ

ตื่นยามเช้า ด้วยความสดใสวิ้งๆ ทานอาหารเช้าจากที่พักให้เรียบร้อย ..วันนี้เราจะไปเที่ยววัง วัดและตามด้วยทำกิจกรรมมันส์ ๆ กันค่ะ เริ่มต้นด้วยเที่ยววังเก่ากันที่ หอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง (พระราชวังเก่า) กลางเมืองหลวงพระบาง

เป็นพระราชวังเก่าและหอพระบางอายุกว่าร้อยปีตั้งอยู่ ซึ่งปัจจุบันที่นี่ได้เปลี่ยนไปเป็น "หอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง" ศิลปะการสร้างการอาคารออกแบบในสไตล์ล้านช้าง มีทรงหลังคาเป็นแบบฝรั่ง แต่มองแล้วกลับเข้ากันได้ดี ผสมผสานกันได้ลงตัวมากเลยค่ะ

ด้านในเปิดให้เข้าไปเพื่อชมพิพิธภัณฑ์ได้ แต่ไม่สามารถถ่ายภาพได้ค่ะ * ค่าเข้า : 30,000 กีบ หรือ 120 บาท เวลาเปิด - ปิด : ปิดวันอังคาร และวันหยุดราชการลาว เวลา 08.00 - 11.30 น. และ 13.30 - 16.30 น.

ชมวัดกันเสร็จแล้ว ไปชมวัดกันบ้างค่ะ หลวงพระบางมีวัดที่สวยงามและเก่าแก่ที่สุด ชื่อว่า "วัดเชียงทอง" อยู่ติดแม่น้ำโขงมีเพียงถนนกั้น เป็นวัดที่สร้างแบบศิลปะล้านช้างได้สวยงามมาก

วัดเชียงทองสร้างขึ้นตั้งแต่สมัย พ.ศ.2103 โดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ด้วยความเก่าแก่ละมีความสวยงามจนได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดสถาปัตยกรรมล้านช้าง

*ค่าเข้า : 20,000 กีบ หรือ 80 บาท เวลาเปิด - ปิด : 06.00 - 17.30น

หลังจากที่ชมวัด กราบพระกันแล้ว เราเดินข้ามถนนจากวัดมาแค่ 20 เมตร เพื่อลงเรือกันค่ะ ช่วงเที่ยง วันนี้เราจะล่องแม่น้ำโขง เพื่อไปยัง Green Jungle Park กันค่ะ เพราะที่นี่มีกิจกรรมมันส์ อย่าง Zip Line ให้เล่นกัน

การเดินทางเราก็ลงเรือ ล่องแม่น้ำโขงไปประมาณ 30 - 45 นาที เมื่อไปถึงก็รับประทานอาหารเที่ยง เมนูแบบหลวงพระบาง แต่ว่าทานง่าย เหมือนอาหารไทยเลยค่ะ

หลังจากทานอาหารเที่ยงกันจนเต็มอิ่มแล้ว เราไปเดินชมสวนดอกไม้ถ่ายรูปสวยๆ กันค่ะ ที่ Green Jungle Park มีโซนพักผ่อน และทำกิจกรรมเยอะ ทั้งสวนดอกไม้ ปิกนิค รีสอร์ท และ Zip Line

ส่วนเราจะไปเล่น Zip Line กันค่ะ ซึ่งลาวเป็นประเทศที่มีต้นไม้สูงเยอะ เราเลยได้เห็นเครื่องเล่นแบบนี้เยอะเลยค่ะ ที่ Green Jungle Park มี Zip Line ทั้งหมด 15 ด่าน และมี Rope Course กิจกรรมวัดใจอีก 14 ฐาน

ราคา
Zip Line อย่างเดียว 30 USD/ท่าน
Rope Course อย่างเดียว 28 USD/ท่าน
Combo Zip & Rope 45 USD ท่าน
Full Combo Package 65 USD/ท่าน

มีเรือจากหลวงพระบาง เวลา 09.00น,11.00น,13.00น
เบอร์โทรติดต่อ +856 586 77 616, +856 71 253 899
www.laogreengroup.com

เป็นกิจกรรมที่เสียเหงื่อเยอะมากเลยค่ะ ทั้งสนุก ทั้งสูง ทั้งเสียว กริ๊ดกันลั่นป่า กริ๊ดกันแบบไม่อายใครเพราะไม่มีใครรู้จักเราแน่นอน 55555 +

กลับมาเหนื่อยๆ มื้อเย็นเรามาหาอะไรทานที่ตลาดมืดกันค่ะ ใครอยากทานอะไรอุ่นๆ ร้อนๆ นอกจากเฝอ และข้าวซอยแบบลาวแล้ว ยังมีอีก 1 เมนูแนะนำนั่นคือ.. เสฉวน ลักษณะเหมือนสุกี้บ้านเรา มีของให้เลือกว่าจะใส่อะไรบ้าง คิดราคาตามจำนวนของที่เลือก ร้านหาง่ายมีอยู่ในถนนคนเดินหลายร้านเลยค่ะ

ได้เวลากลับเมืองไทย ... โบกมือลาหลวงพระบาง เมืองมรดกโลกที่ยังคงมีวัฒนธรรมที่สวยงาม บ้านเมืองยังคงเป็นสไตล์หลวงพระบาง ใกล้ประเทศไทย ได้ไปตะลุยเมือง วัง วัด ตะลุยป่า เที่ยวน้ำตก กินอาหารหลวงพระบาง เที่ยวประเทศเพื่อนบ้านที่แสนจะเที่ยวง่าย ใช้ภาษาเหมือนๆ กับเรา แถมยังใช้เงินไทยได้ (แลกเผื่อไปบ้างค่ะ เผื่อเขาไม่มีทอน) ใครมีเวลาหาที่เที่ยวเมืองนอกใกล้ๆ แบบนี้ ลองไปเที่ยวเมืองหลวงพระบางกันดูค่ะ