เที่ยวกาญจนบุรี : ทริปหารเฉลี่ยขับรถเที่ยวกาญจน์ 2 วัน 1 คืน งบ 2,500 บาท(รวมทุกอย่างแล้ว)

calendar_month 18 ก.ย. 2017 / stylus นางสาวฮานะ ชิลไปไหน / visibility 209,743 / ทริปตัวอย่าง

มีเวลาวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ชวนแก๊งค์เพื่อนสาวขับรถไปเที่ยวกาญจนบุรีกันค่ะ โดยทริปนี้เรารวมแก๊งค์ได้ 8 สาว ขับรถไป 2 คัน พักที่ไทรโยค วิว รีสอร์ท ค่าที่พักเราจองกับทางชิลไปไหนที่ตอนนั้นจัดโปรโมชั่นคนละ 1,000 บาท (จากปกติ 1,200 บาท) ราคานี้รวมอาหารเย็น อาหารเช้า และกิจกรรมล่องแพเปียกแล้วด้วย ซึ่งทริปนี้เป็นทริปหารเฉลี่ยที่เราตั้งงบไว้คนละไม่เกิน 2,500 บาท ตามไปชมกันว่าภารกิจเที่ยวกาญจนบุรีในงบ 2,500 บาทของเรานั้นจะทำได้จริงไหม

จากกรุงเทพเราใช้เส้นบรมราชชนนี ไปยังถนนเพชรเกษม เข้าสู่ถนนแสงชูโต แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนสาย 3209 เพื่อมุ่งหน้าไปยังต้นจามจุรียักษ์ที่เที่ยวของเราในวันนี้ค่ะ (GPS : 13.955188, 99.526962) โดยทางไปต้นจามจุรียักษ์นั้นจะอยู่ทางเดียวกับวัดถ้ำเสือค่ะ

มาถึงแล้วค่ะต้นจามจุรียักษ์ ใหญ่โตมโหฬารมากๆ ซึ่งต้นจามจุรีหรือต้นก้ามปูยักษ์ต้นนี้อายุอานามก็ 100 กว่าปีแล้วค่ะ มีขนาดเส้นรอบวงลำต้น 7.83 เมตร และมีพื้นที่พุ่มประมาณ 1 ไร่เศษเลยทีเดียว

ซึ่งเขาบอกว่าต้นจามจุรียักษ์ต้นนี้ขนาดเท่ากับ 10 คนโอบ แต่เราลองไปโอบดูแล้วค่ะ ผู้ใหญ่อย่างเราสามารถโอบได้ 8 คนโอบ (ถ้า 10 คนนี่คงต้องสลับเด็กด้วยล่ะมั้ง)

มีม้าให้ขี่ด้วยค่ะ เก็บค่าบริการรอบละ 50 บาทเท่านั้น

จากต้นจามจุรียักษ์ก็ขับรถไปแวะวัดถ้ำเสือต่อค่ะ (GPS : 13.953267, 99.605429) อีกหนึ่งวัดสวยของกาญจนบุรี ประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทานพรขนาดใหญ่พร้อมด้วยพระอุโบสถอัฏฐมุขทรงไทยประดับลวดลายสวยงาม และเจดีย์เกษแก้วมหาปราสาทสูง 69 เมตร กว้าง 29 เมตร สูงใหญ่โดดเด่นอลังการ อยู่บนเนินเขา ใครที่ข้อเข่าดีแนะนำว่าค่อยๆ เดินขึ้นบันไดไปค่ะ ส่วนใครที่ข้อเข่าไม่ดีแล้วเขามีบริการลิฟต์ด้วยนาจา พอขึ้นไปด้านบนปุ๊บยังไม่จบต้องขึ้นบันไดเจดีย์เกษแก้วมหาปราสาทไปชมวิวสวยๆ จากมุมสูงด้านบนที่สามารถมองเห็นวิวท้องนาสีเขียวขจี และมองไปไกลถึงเขื่อนวชิราลงกรณ์ได้เลย

จากวัดถ้ำเสือเราก็ขับรถเข้าเมืองไปยังสะพานข้ามแม่น้ำแคว ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของกาญจนบุรีใครไม่ได้มาถ่ายรูปที่นี่ถือว่ามาไม่ถึงค่ะ

ระหว่างยืนถ่ายรูปบนสะพานนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ของการรถไฟเดินมาให้สัญญาณธงเพื่อนแสดงว่ารถไฟสายน้ำธนบุรี - น้ำตก กำลังจะวิ่งผ่านสะพานแห่งนี้ เราเลยต้องรีบหาหลบเพราะเคยมีเคสที่รถไฟชนนักท่องเที่ยวตกสะพานหลายเคสแล้วแม้ว่ารถไฟจะวิ่งช้า ดังนั้นใครจะมาถ่ายรูปก็ต้องดูแลตัวเองกันด้วยนะคะ

จากสะพานข้ามแม่น้ำแคว เราก็ไปแวะทานอาหารกลางวันที่ร้านคีรีธารา(GPS : 14.042490, 99.503141) ซึ่งตั้งอยู่ริมน้ำแควใกล้กับสะพานข้ามแม่น้ำแควเลยล่ะค่ะ

อาหารของที่นี่คอนเฟิร์มเลยว่าอร่อยมากๆ การบริการดี ราคาก็ไม่แพงมากค่ะ เราสั่งเมนูทั้งหมดนี้ทานกัน 8 คน ประมาณ 2 พันกว่าบาท ตกคนละ 200 กว่าบาทเท่านั้น

ร้านคีรีธาราเปิดบริการ 11.00 - 23.00 น. สามารถโทรไปสอบถามรายละเอียดได้ที่ 034-513-855

จากคีรีธาราเราขับรถมุ่งหน้าไปยังไทรโยค กาญจนบุรีค่ะ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง พอถึงแยกบ้านบ้านแก่งจอก็เลี้ยวซ้าย ขับเข้าไปตามทางก็จะพบไทรโยค วิว รีสอร์ท (GPS : 14.515573, 98.817616) ตั้งอยู่ริมน้ำ สามารถโทรสอบถามรายละเอียดที่พักและเส้นทางได้ที่ 087-399-9964

โดยที่นี่เขาแบ่งเป็นโซนวิลล่าและโซนแพซึ่งคืนนี้เรานอนบนแพกันค่ะ

มีสระว่ายน้ำทั้งแบบบนฝั่งซึ่งเป็นสระขนาดใหญ่ใกล้กับโซนวิลล่า และสระว่ายน้ำบนแพเกร๋ๆ ชมธรรมชาติ

ไปชมบรรยากาศภายในห้องพักกันค่ะ ห้องพักของเราพักได้ 2 คนเป็น มีเครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น ผ้าขนหนู สบู่ แชมพู น้ำดื่มบริการ ขาดแต่ทีวีเท่านั้นเพราะที่นี่เขาต้องการให้ลูกค้าได้สัมผัสกับธรรมชาติที่แท้จริง แต่ยังมีสัญญาณอินเตอร์เน็ตไวไฟให้บริการในที่พักนะคะ

ทางเดินจะอยู่บริเวณหน้าห้องพัก ส่วนทางด้านหลังจะมีที่นั่งให้ชมวิวชิลๆ ริมน้ำ เป็นส่วนตัวดีมากๆ ค่ะ

หลังจากเก็บของในห้องพักเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาไปล่องแพเปียกกันแล้วค่ะ

โดยแพจะพาเราล่องไปทางสะพานปูนทูบีนัมเบอร์วันด้านเหนือของแพแล้วก็จะให้เราใส่เสื้อชูชูพแล้วลอยคอตามน้ำมาเรื่อยๆ ไม่ต้องกลัวอันตรายค่ะเพราะเขาจะมาดักรับเราตอนท้าย

อากาศร้อนๆ แบบนี้ได้มาลอยตัวในน้ำ เล่นน้ำกับเพื่อนๆ บอกเลยว่าสนุกมากๆ

ใครที่ไม่อยากลงเล่นน้ำก็สามารถนั่งบนแพชิลๆ ถ่ายรูปสวยๆ ได้

เล่นน้ำกันจนเหนื่อยก็ถึงเวลาอาหารเย็นแล้วค่ะ โดยอาหารเย็นของที่นี่จะเป็นบุฟเฟ่ต์ มีเมนูอาหารให้เลือกมากมาย ตักได้ไม่อั้นและรสชาตยังอร่อยอีกด้วย

ค่ำคืนนี้ของเราผ่านไปอย่างมีความสุข เราหลับสบาย ฟังเสียงน้ำ และเสียงสายฝนพรำเบาๆ ในยามค่ำคืน

ตื่นมาในตอนเช้า ก็รีบเดินออกไปตรงหน้าที่พัก ฟ้ายังไม่สว่าง แต่มีสายหมอกบางๆ ที่ปกคลุมสายน้ำ

ทานมื้อเช้าแบบบุฟเฟ่ต์มีทั้งอเมริกันเบรคฟาสท์ และข้าวผัดแบบไทยๆ พร้อมด้วยเครื่องดื่มน้ำผลไม้ ชา กาแฟ เติมได้ไม่อั้นอีกเช่นเดียวกัน

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จก็เตรียมเช็คเอาท์ไทรโยค วิว รีสอร์ทเพื่อเดินทางต่อไปยังสวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค แอนด์ แคมป์ ตั้งอยู่ที่ อ.บ่อพลอย กาญจนบุรี (GPS : 14.252217, 99.500171) โดยการเดินทางจากไทรโยคขับมาตามถนนแสงชูโต พอเลยเมืองมัลลิกามาได้สักพักจะพบทางซ้ายไปยังถนนลาดหญ้า-บ่อพลอย ขับตรงไปประมาณ 30 กิโลเมตรก็จะพบกับทางเข้า สวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค แอนด์ แคมป์ ค่ะ ค่าเข้าคนละ 200 บาท และมีบริการอาหารสัตว์ชุดละ 100 บาท โดยจะได้อาหารสัตว์ทั้งหมด 4 ตะกร้า

โดยเราสามารถนำรถยนต์ส่วนตัวขับไปด้านใน หรือจะใช้บริการรถบัสของทางสวนสัตว์ก็ได้ค่ะ ส่วนเราเลือกใช้บริการรถบัสของสวนสัตว์

รถจะขับเข้าไปทีละโซนโดยมีประตูเปิดปิดเพื่อคอนดูแลความปลอดภัยโซนแรกเป็นโซนกวางค่ะ

น้องกวางที่นี่เชื่องมากๆ เห็นรุปุ๊บก็กรูเข้ามารอกันเลย

ชะเง้อคอมองหาอาหาร

ให้อาหารแด่น้องๆ ผู้หิวโหย

โซนหมี พี่หมีที่นี่ดูไม่สนใจรถเลย นั่งแช่น้ำริมน้ำตกกันเฉยเลยค่ะ

โซนพี่เสือ แอบหลอนนิดๆ

พี่เสือดูท่าทางจะร้อนไปหาที่หลบแดดกันใหญ่เลยค่ะ

เห็นไหมว่ามีตัวอะไรนอนแช่น้ำอยู่

มาดูพี่สิงโตกันบ้าง

พี่แค่หาวนะเนี่ยยยยย ใจเราก็ตกไปที่ตาตุ่มแล้วล่ะค่ะ

พี่เสือดาว เหมือนแมวเลยค่าาา

แล้วก็มาถึงโซนไฮไลท์ของที่นี่แล้วค่าพี่ยีราฟฟฟฟ

ยีราฟที่นี่เฟรนด์ลี่มากๆ มุดเข้ามากินอาหารถึงในรถเลยค่ะ

มันก็จะแบ๊วๆ หน่อย

สาวๆ ในกรุ๊ปเรากรี๊ดกร๊าดดดกันใหญ่เลยค่ะ ต้องคอยดูแลกระเป๋าให้ดีเพราะถ้าเผลอเมื่อไรพี่ยีราฟจะคาบไปเลย

ให้จับได้ด้วยนะ

เจ้าตัวนี้มากินในตะกร้าเลยล่ะคะ

ในโซนเดียวกันนี้มีน้องม้าลายด้วย แต่อาหารหมดแล้วเพราะโดนยีราฟแย่งกินหมด น้องม้าลายเลยทำตาละห้อยแบบนี้

ระหว่างจะให้อาหารม้าลายพี่ยีราฟก็มาแย่งอีก น้องม้าลายเลยยืนทำหน้าเซ็งเลยล่ะค่ะ

มีพี่ช้างด้วยนะ

การแสดงโชว์จระเข้ แอบโหดอ่าาาาา

หลังจากออกจากซาฟารีเราก็แวะทานข้าวกลางวันกันที่ร้านป้าแอ๊ดก๋วยเตี๋ยวปลาคัง ซึ่งตัวร้านตั้งอยู่ทางเข้าของซาฟารี ปาร์ค แอนด์ แคมป์ เลยค่ะ (GPS : 14.252017, 99.503790)

ราคาอาหารไม่แพงมาก อาหารรสชาติจัดจ้าน

ก๋วยเตี๋ยวต้มยำปลาคัง เนื้อปลาสดอร่อยมากๆ ค่ะ ต้มยำรสจัดไม่ต้องปรุงเลยค่ะ ส่วนใครไม่ทานเผ็ดสามารถบอกกับทางร้านได้ค่ะ

ทานเสร็จแล้วก็เตรียมตัวขับรถกลับบ้านค่ะ โดยทริปนี้เราใช้น้ำมันแค่ถังเดียว 4 คนหารเฉลี่ยประมาณ 200 กว่าบาทเท่านั้น รวมแล้วทั้งหมดใช้ไปแค่ประมาณ 2,500 บาท/คนเท่านั้นเรียกว่าเป็นทริปที่อิ่มใจ และราคาประหยุัดอีกด้วย

สรุปค่าใช้จ่าย

ค่าอาหารเช้าวันแรก 100 บาท

ค่าอาหารกลางวันที่คีรีธารา 250 บาท

ค่าที่พักที่ไทรโยค วิว รีสอร์ท 1,000 บาท

ค่าเข้าซาฟารี ปาร์ค แอนด์ แคมป์ 200 บาท

ค่าอาหารสัตว์ 100 บาท

ค่าอาหารที่ร้านป้าแอ๊ดก๋วยเตี๋ยวปลาคัง 100 บาท

ค่าน้ำมันรถหารกัน 4 คน คนละ 250 บาท

ค่าของฝาก 500 บาท

รวม 2,500 บาท