เที่ยวเขาค้อแบบครบรส จิบกาแฟชมวิวสุดชิล ไหว้พระธาตุบนเขา และมันส์ไปกับการล่องแก่งน้ำเข็ก

หากคุณมีเวลาสักวันสำหรับการเที่ยวเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์

ก็อยากจะแนะนำให้คุณได้ลองเที่ยวแบบครบรสชาติดูสักครั้ง

เส้นทางหลวงหมายเลข 12 ถนนเส้นหลักที่ทำให้การเที่ยวเขาค้อครึกครื้น

ยังเปิดรอให้คุณได้มาเที่ยว ไม่เฉพาะแค่ในหน้าหนาวหรือช่วงไฮซีซั่น

ในหน้าฝนแบบนี้ ก็สามารถเที่ยวได้ แถมยังสดชื่นกว่าด้วยซ้ำ

เที่ยวเขาค้อแบบครบรสตามที่บอก นั่นมีอะไรบ้าง

ก็ทั้งมันส์ๆ กับกิจกรรมกลางแจ้งแนวผจญภัย ที่ภูแก้วแอดเวนเจอร์ปาร์ค

เท่านั้นยังเสียวไม่พอก็ต้องไปล่องแก่งลำน้ำเข็ก

ที่ใครๆ ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามันส์ที่สุดของการล่องแก่ง

เปลี่ยนบรรยากาศมาชิลกันสุดๆ กับที่พักสวยๆ อย่าง The Blue Sky เขาค้อ

ต่อด้วยชิมกาแฟและเครื่องดื่มกัน นั่งชิลในร้านสวยชื่อว่า Story Cup

อาหารอร่อยๆ ในรีสอร์ทร่มรื่นริมแม่น้ำที่ Rain Forest Resort

และไหว้พระบรมสารีริกธาตุที่วัดพระธาตุผาแก้วพร้อมชมวิวจากบนเจดีย์สีทอง

แค่ฟังก็น่าเที่ยวแล้ว เราไปดูรายละเอียดแต่ละที่กันเลยดีกว่า 

การออกเดินทางเริ่มต้นขึ้นที่พักของเรา ที่ภูแก้วแอดเวนเจอร์ปาร์ค

หลังจากการนอนพักอย่างเต็มอิ่มก็มาเล่นเครื่องเล่นต่างๆในรีสอร์ท

ที่นี่ได้รวบรวมเอากิจกรรมสนุกๆ ท้าทายความกล้า

ไว้รอให้คุณมาสัมผัสกับประสบการณ์ที่แปลกใหม่เร้าใจ

ไม่ว่าจะเป็น "High Flying" กับการโรยตัวตามเชือกสลิง

ความยาวกว่า 150 เมตร ข้ามทะเลสาบใจกลางภูแก้วรีสอร์ท

ใครจะพลิกแพลงตีลังกาขณะโรยตัวก็ทำได้นะ

“Giant Swing” หวาดเสียวสุดๆกับการโล้ชิงช้าขนาดใหญ่

แกว่งไปแกว่งมาจากระดับความสูง 20 ฟุต วัดใจกันไปเลย

อันนี้ได้ลองเล่นแล้ว การันตีความสูงและเสียวมากค่าาา

แต่ว่ายังไงก็น่าหวาดเสียวไม่เท่าเครื่องเล่นใหม่ล่าสุด

“Tower Jump” กับการกระโดดดิ่งแบบ Free fall จากหอสูงกว่า 50 ฟุต

และถูกดีดเด้งลอยสู่อากาศอีกครั้ง และอีกครั้ง

จะคล้ายกับการเล่นบันจีจัมพ์ แค่ต่างกันตรงที่ไม่ได้ใช้หัวลงสู่พื้นดิน

อันนี้เสียวสุด ยกให้ไปเลย 5 ดาว!! 

“Rock Climbing” ไต่หน้าผาจำลองสูงถึงความสูงระดับ 50 ฟุต

เครื่องเล่นอื่นๆ ที่ไม่ได้แอดเวนเจอร์มากนักก็มีเช่นกัน

เช่น "Trampoline Bungee” กระโดดตัวลอย ตีลังกาม้วนหน้ามัวนหลัง

เด้งดึ๋งดึ๋ง บนเตียงสปริงที่สามารถโดดได้สูงถึง 20 ฟุตเลยนะ

“Super Slider" พรมวิเศษ รองนั่งด้วยเบาะชนิดพิเศษ ไหลลงมาตามเนินเขายาวกว่า 70 เมตร ต่อด้วย Mountain Speed Luge “เลื่อนภูเขาความเร็วสูง” พาหนะ 4 ล้อ ไม่มีเครื่องยนต์ แต่แล่นลงมาตามความลาดชันของไหล่เขาระยะทาง 800 เมตร แต่ถ้าเป็นเด็กน้อยอายุ 3-7 ปี ก็สามารถเล่นได้ กับ Baby Racing “รถแข่งดุ๊กดิ๊ก” รถจะเคลื่อนไปข้างหน้าได้เพราะการส่ายรถซ้ายขวานั่นเอง

นอกจากนี้ยังมีเครื่องเล่นอื่นๆอีกมากมาย ชมรายละเอียดได้ที่ http://www.phukaew.com

ออกเดินทางกันต่อ เราจะเปลี่ยนบรรยกาศพาคุณไปชม

รีสอร์ทน้องใหม่แห่งเขาค้อ แต่กำลังมาแรงค่ะ

"เดอะ บลูสกาย รีสอร์ท เขาค้อ" (The BlueSky Resort)

ใครที่เคยได้ยินชื่อ "The BlueSky Resort เกาะพยาม"

ที่ได้รับฉายาว่า "มัลดีฟส์เมืองไทย" ในจังหวัดระนอง

แต่ตอนนี้ The BlueSky Resort ได้ขึ้นมาอยู่เขาค้อแล้ว

โดยเปลี่ยนแนวการตกแต่งเป็นที่พักอบอุ่นสไตล์ชนบทอังกฤษ

The BlueSky Resort เขาค้อ ตั้งอยู่บนจุดชมวิว "ผาซ่อนแก้ว"

ซึ่งเป็นจุดที่มีวิวทิวทัศน์สวยอีกแห่งหนึ่งในเขาค้อ และที่สำคัญคือ

ทุกห้องพักสามารถมองเห็นวิวผาซ่อนแก้วได้อย่างชัดเจน บอกได้คำเดียวว่าโรแมนติกสุดๆ 

ภายในรีสอร์ทมีห้องอาหารขนาดใหญ่ไว้คอยให้บริการ

แก่ผู้มาพักในรีสอร์ททั้งแบบ Indoor และ Outdoor

เหมาะมากกับการนั่งจิบชากาแฟในยามบ่ายสไตล์อังกฤษ

ห้องพักแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ Suite (สวีท) และ Deluxe (ดีลักซ์)

ห้อง Suite จะพิเศษกว่าเพราะเป็นห้องหัวมุม

ซึ่งบางห้องมีห้องใต้หลังคาน่ารักๆ และบางห้องก็มีระเบียงขนาดใหญ่

ตกแต่งภายในสีเหลืองหวานๆ (Diva Blossom) สาวๆ มักจะชอบ

ห้อง Deluxe จะมีชั้นเดียว มีระเบียงด้านนอกไว้ชมวิวสวยๆ

ตกแต่งภายในสีฟ้าแนวบ้านชนบท (Country Lover)...หนุ่มก็ชอบสาวก็ชอบ

สามารถดูรายละเอียดและบรรยากาศเพิ่มเติมของ "เดอะ บลูสกาย รีสอร์ท เขาค้อ" (The BlueSky Resort) ได้ที่ https://www.chillpainai.com/scoop/776/

เป้าหมายต่อไป เราเปลี่ยนบรรยากาศไปไหว้พระบรมสารีริกธาตุที่วัดพระธาตุผาแก้ว

องค์พระเจดีย์ใหญ่สีสดใสตั้งตระหง่านท่ามกลางทิวเขาและไอหมอก

มาจากกระเบื้องสี เซรามิก ลูกปัด ถ้วยชามเบญจรงค์ ฯลฯ

นํามาปะติดปะต่อเป็นลวดลายงามๆ แถมยังแฝงไปด้วยหลักธรรมคําสอน

และนอกจากจะมาสักการะบูชาพระธาตุ ที่นี่ยังเป็นสถานปฏิบัติธรรมชั้นเยี่ยมด้วยค่ะ

ชิลๆกันต่อที่ร้านกาแฟน่ารักๆ ริมทางหลวงหมายเลข 12 ตรงข้ามปั้มบางจาก

ที่มีชื่อว่า Story Cup (การกลับมาอีกครั้งของร้าน Coffee Hill)

ร้านกาแฟวิวงามที่ไม่ได้ขายแค่ความสวยงามของสถานที่เท่านั้น

แต่ยังมุ่งเน้นความอร่อยถูกปากของกาแฟสด และอาหารภายในร้านหลากหลายเมนู

พลาดไม่ได้คือของหวานและเค้กที่ได้รับการการันตีมาแล้วว่าอร่อยสุดๆ

แต่ละมุมในร้าน แต่ละโต๊ะ ก็จะมีบรรยากาศ และการตกแต่งที่ไม่ซ้ำกัน

เจ้าของร้านเขาบอกมาว่า แบบนี้เรียกว่า "เท่ห์ทุกมุม"

ไม่ว่าจะเป็นมุม Retro กับเฟอร์นิเจอร์ย้อนยุค

มุมชมวิวริมหน้าต่างกับกาแฟแก้วโปรด

มุมโมเดิร์น โซฟาสีแดงสดกับฉากไม้สีสันสวยงาม

หรือจะเป็นมุมระเบียงภายนอกร้าน ท่ามกลางสวนเล็กๆ และสนามหญ้าสีเขียว

กับที่นั่งชิลๆบนดาดฟ้าชั้นบน มองเห็นวิวได้ครบ 360 องศา

เป้าหมายต่อไปคือการไปล่องแก่งลำน้ำเข็ก จ.พิษณุโลก

ที่ใครๆ ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามันส์ที่สุดของการล่องแก่ง

แต่ก่อนอื่นเราขอไปเติมพลังกันก่อน กับอาหารอร่อยๆ

ในรีสอร์ทร่มรื่นริมแม่น้ำเข็ก บนถนนสาย 12 อ.วังทอง จ.พิษณุโลก

ที่ เรนฟอเรสท์ รีสอร์ท (Rain Forest Resort)

เรามาทานอาหารมื้อเที่ยงกันภายในรีสอร์ท มีชื่อว่าร้านอาหารเรนเฟิร์น

ท่ามกลางความร่มรื่นของแมกไม้ในบรรยากาศสบายสุดๆ

ให้บริการอาหารและเครื่องดื่มแก่ผู้มาพัก เป็นอาหารไทยสไตล์ฟิวชั่น

ที่ทั้งรสชาติและคุณภาพรับประกันว่าอร่อย สด และสะอาดได้มาตรฐาน

แถมยังใส่ใจเรื่องสุขภาพเพราะเป็นผักปลอดสารพิษ

เมนูแนะนำเช่น เห็ดทอด ต้มยำปลาสลิด กะหล่ำทอด น้ำพริกดอกอัญชัน

ใครแวะมาก็ลองมาทานกันได้ค่ะ

นอกจากนี้ เรนฟอเรสท์ รีสอร์ท ยังฝากข่าวมาว่า

ทางรีสอร์ทได้จัดคอร์สสุขภาพ เข้าค่ายล้างพิษตับ ถุงน้ำดี และลำไส้

โดยจะจัดกันเรื่อยๆทุกๆเดือน ใช้เวลา 3 วัน 2 คืน พร้อมที่พัก

ใครสนใจก็ลองติดต่อได้กับทางรีสอร์ทเลย ที่ https://www.facebook.com/rainforestthailand

หรือ ติดต่อ คุณณัฐวัฒน์ วัฒนาประสิทธิ์ 081-395-9575

และแล้วโปรแกรมสุดท้ายของวันที่สุดพิเศษก็มาถึง 

กับหนึ่งในกิจกรรม Aventure ยอดฮิตช่วงหน้าฝน

“ล่องแก่งน้ำเข็ก” แม้จะมีขนาดของลำน้ำที่ไม่ใหญ่นัก

แต่ด้วยระดับความแรงของสายน้ำที่ไต่ระดับตั้งแต่ระดับ 1 ไปจนถึงระดับ 5

หมายความว่ามีทั้งความเสียวมาก เสียวน้อยครบรส ทำให้ “ลำน้ำเข็ก จ.พิษณุโลก”

จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ติดอันดับท๊อปฮิตของนัก ล่องแก่งในเมืองไทย

เพราะสนุกสนานปนหวาดเสียว ไปตามแก่งต่างๆ ที่เรียงรายอยู่เบื้องหน้า

ก่อนลงล่องแก่งน้ำเข็ก ต้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม

โดยทางบริษัททัวร์ที่นำลงล่องแก่งจะมีเสื้อชูชีพพร้อมนกหวีด

และหมวกกันน๊อคให้ทุกคนค่ะ และยังอธิบายวิธีการนั่งเรือ

การจับพาย ลักษณะการป้องกันตัวต่างๆ ขณะล่องแก่ง... รับรองว่าปลอดภัยหายห่วง!!

แก่งแต่ละแก่งที่ผ่านไปก็จะมีความยากง่ายที่แตกต่างกัน

โขดหินและสายน้ำต่างก็ขวางกั้นทิศทางเรือของเราเอาไว้

และการพยายามช่วยกันพายของคนในเรือลำเดียวกันเพื่อให้ผ่านพ้นแก่งไปได้

ในลีลาและการแก้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น มันคือเสน่ห์และความสนุกของการล่องแก่งนี่แหละ

(ขอบคุณภาพจากคุณ YaiPearn Suphasawat)

หากคุณเป็นคนที่รักการท่องเที่ยวแบบผจญภัย และเร้าใจสุดๆ

เห็นทีจะพลาดไม่ได้กับการท่องที่ยวล่องแก่งน้ำเข็กแบบนี้

เพราะไม่ว่าใครที่มีโอกาสไปสัมผัสที่นี่ ต่างบอกเล่าเป็นเสียงเดียวกันว่า “มันส์มากกกกก”

สำหรับช่วงเวลาล่องแก่งที่เหมาะสมจะอยู่ตั้งแต่ เดือนกรกฎาคม – ตุลาคม

โดยผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ ททท.ภาคเหนือเขต3

โทร. 0-5525-2742-3หรือที่0-2917-3098, 0-2433-2760

หรือสามารถติดต่อบริษัทที่จัดกิจกรรมล่องแก่ง รวมไปถึงรีสอร์ทที่อยู่ริมน้ำเข็ก

ก็ล้วนมีแพคเกจที่พักพร้อมพาล่องแก่งเช่นกันค่ะ

เขาค้อยังมีที่เที่ยวอีกมากมายรอให้คุณได้มาสัมผัส... แล้วคุณจะหลงรักได้ไม่ยาก

สำหรับทริปหน้าเราจะไปชิลกันที่ไหน ติดตามกันได้ค่ะ

อ่านสกู๊ปย้อนหลัง "เที่ยวเมืองพิจิตร เยี่ยมชมตลาดเก่าวังกรด แล้วจับรถไฟไปพิษณุโลก" ได้ที่นี่

อ่านสกู๊ปย้อนหลัง "ภูหินร่องกล้า-ภูทับเบิก เส้นทางน่าเที่ยวในช่วงกรีนซีซั่น" ได้ที่นี่

เรื่องและภาพ This road is mine

Tags: เขาค้อ เพชรบูรณ์ ภูทับเบิก พิษณุโลก ล่องแก่งน้ำเข็ก ภูแก้วแอดเวนเจอร์ปาร์ค BlueSkyเขาค้อ storycup

เขียนโดย

Admin Chillpainai

แชร์บทความนี้