calendar_month 08 ส.ค. 2017 / stylus Admin Chillpainai / visibility 32,986 / ทริปตัวอย่าง
หลายทริปที่ผ่านมาเราอาจเคยเดินทางไปไหนใกล้-ไกลด้วยรถยนต์ รถไฟ เรือ หรือแม้แต่เครื่องบิน แต่ไม่มีครั้งไหนจริงๆที่เราจะเดินทางด้วยรถบ้านแบบครั้งนี้ ใช่แล้ว ! รถบ้านแบบที่ทุกคนเคยเห็นแบบในหนังที่ตัวเอกมักจะขับไปเที่ยวโร้ดทริปต่างประเทศหรือในเว็ปชิคคูลอย่างพินเทอเรสนั่นแหละแกรรร อยากรู้แล้วอะดิว่าจะเป็นไง ไปไหนมาบ้างใช่มะ ? งั้นก็เตรียมตัวเก็บกระเป๋าแล้วโดดขึ้นรถตามเรามาเล้ยยย....
เราออกเดินทางกันตั้งแต่เช้า เรียกได้ว่าขึ้นรถปุ้บ หัวถึงหมอนปั้บ หลับลงในทันใด ปล่อยให้รถพาเราแล่นไปเรื่อยๆอย่างไม่รีบร้อนจนถึงจุดหมายแรก ณ เวลาสายหน่อยๆที่วัดขุนอินทประมูล จ.อ่างทอง เพื่อทำการไหว้พระขอพรพระนอน ปางไสยาสน์ที่ขึ้นชื่อว่ายาวเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทยกับความเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยานู่นแน่ะ
จากวัดขุนอินทประมูล เมื่อเวลายังเหลือเลยขอแวะไปถ่ายรูป ชมความสวยงามของเฟิร์นหลากหลายสายสายพันธุ์ที่ ตะนาวสีเฟิร์นการ์เด้น สวนเฟิร์นเอกชนใหญ่ที่สุดของประเทศไทยกันหน่อย ด้านในมีเฟิร์นนานาชนิดมากถึง 500 สายพันธุ์ ทั้งพันธุ์ที่หายากแปลกตา พันธุ์จากต่างประเทศ และพันธุ์ลูกผสมที่เพาะได้เป็นครั้งแรกที่นี่ รวมถึงยังเปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้สำหรับนักเรียนนักศึกษา และบุคคลที่สนใจเกี่ยวกับชีววิทยาของพืชอีกด้วยค่ะ
เดินทางมากันตั้งแต่เช้ามันก็ชักหน้ามืดตาลาย คล้ายว่าจะเริ่มหิว ร้านปิ่นโต ร้านอาหารชื่อดังริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ใครๆก็บอกเราว่าห้ามพลาดนี่แหละจึงเป็นเป้าหมายในเวลากลางวันของเราในวันนี้ ว่าแล้วก็หักเลี้ยวเข้ามาให้ไว เตรียมไปเติมพลังกัน !
บรรยากาศในร้านคลาสสิกสุดๆ ทั้งความเก่าแก่ของบ้านไม้ และของตกแต่งสไตล์วินเทจที่วางอยู่ตามมุมนั้นมุมนี้ นอกจากนี้ถ้าลูกค้าที่มาทานอยากได้ของเล่น หรือของเก่าชิ้นไหน ทางร้านก็ยินดีขายให้เหมือนกันจ้า
มีแต่เมนูเแซ่บๆน่าทานทั้งนั้น แล้วจะรออะไร รีบจับช้อนส้อม ตักข้าวกันโลดดด
จากอ่างทองมุ่งสู่จังหวัดพิจิตร เราเดินทางไปยัง วัดวังกลม อ.เมือง เพื่อชม "เรือศรทอง" หรือ "เรือเทวีนันทวัน" เรือยาวในตำนานนามที่โด่งดังจากการแข่งขันเรือยาว ผู้ชนะเดิมพันมูลค่าสูงลิบถึง 30 ล้านบาท !! เห็นแล้วถึงกับร้องว้าว เป็นเรือยาวที่ยาวสมชื่อจริงๆ
และในคืนแรกนี้ รถบ้านของเราจะจอดค้างคืนกันที่บึงสีไฟเป็นการปิดจ้อบสำหรับวันแรกจ้า
อรุณสวัสดิ์ยามเช้าด้วยแสงแรกส่งตรงจาก บึงสีไฟ บึงน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศรองจากบึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์และหนองหาน จ.อุดรธานี ด้านข้างบึงมีรูปปั้นจระเข้ยักษ์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่ชวนให้นึกถึงวรรณคดีชื่อดังอย่างไกรทองที่เราเคยเรียนกันในสมัยเด็กด้วยล่ะ เลยทำให้หลายคนเรียกจังหวัดพิจิตรในอีกชื่อหนึ่งว่า เมืองพญาชาละวันนั่นเอง
นอกจากจะเป็นที่เที่ยวชื่อดังของจังหวัดพิจิตรแล้ว ในยามเย็นบึงสีไฟยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยไม่แพ้ที่ใด รวมถึงใช้เป็นสวนสาธารณะให้ชาวบ้านที่นี่ได้มาใช้ออกกำลังกาย และพักผ่อนหย่อนใจด้วยนะ มีสะพานไม้สีขาวเป็นมุมถ่ายรูปชิคๆท่ามกลางศาลากลางน้ำ บรรยากาศชิลสุดอะไรสุดจริง ยิ่งมีลมเย็นๆพัดมาด้วยนี่เลิฟเลย
จากบึงสีไฟในเวลาสายๆ เรานั่งรถรางมาต่อกันยัง วัดท่าหลวง ที่ประดิษฐานหลวงพ่อเพชร พระพุทธรูปชื่อดังคู่บ้านเมืองพิจิตร ศิลปะเก่าแก่สมัยเชียงแสน อายุกว่า 800 ปี เพื่อไหว้พระขอพรเป็นที่ระลึก ไม่งั้นเดี๋ยวจะโดนหาว่ามาไม่ถึงพิจิตรเอาได้
นอกจากนี้ บริเวณด้านหน้าแม่น้ำของทางวัดยังใช้เป็นสถานที่สำหรับแข่งขันเรือยาว ประเพณีประจำจังหวัดอันโด่งดังอีกด้วยค่ะ ใครมาช่วงที่เค้ากำลังมีประเพณีแข่งเรือก็จะเห็นความคึกคัก สนุกสนานปะปนกันไป
ก่อนจะไปต่อยังเป้าหมายต่อไป เราแอบแวะมาบันทึกภาพความประทับใจกันที่กำแพงแห่งควาภักดีที่เต็มไปด้วยภาพวาดพระบรมสาทิสลักษณ์ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ความยาวกว่า 80 ภาพ บริเวณถนนสายวัฒนธรรมกัน แต่ละภาพนี่รู้เลยว่าวาดออกมาด้วยใจ เพราะมันสวยและละเอียดบรรจงมากกกก เห็นแล้วคิดถึงความทุ่มเทให้ลูกๆของพ่อจัง
เดินสายเข้าวัดเก็บแต้มบุญมาเยอะแล้ว คราวนี้เปลี่ยนบรรยากาศมาทำอะไรที่มันตื่นเต้นเข้ากับหน้าฝนกันหน่อยดีกว่า จัดไปเลยจ้า... กิจกรรม ล่องแก่งลำน้ำเข็ก ในจังหวัดพิษณุโลก การล่องแก่งที่ถือว่าน่าตื่นเต้นและหวาดเสียวเป็นอันดับต้นๆของบ้านเรา
โชคดีที่วันนี้น้ำไม่ค่อยรุนแรงและเชี่ยวมากนักระดับความมันส์เลยอยู่ที่ 60% เท่านั้น พอให้ซอฟท์ๆใสๆ แต่ขนาดยังไม่เต็มสตรีมยังสนุกมากขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าระดับความมันส์ขยับขึ้นไปเป็น 100% จะสนุกขนาดไหน บอกเลยว่าคราวหน้าต้องกลับมาโดนอีกให้ได้ !!
เราออกเดินทางกันมาเรื่อยๆโดยมีเป้าหมายสุดท้ายอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ค่ะ ซึ่งวันที่เรามาเที่ยวเนี่ยที่ Jolly Land เขาค้อเค้ากำลังจัดงานเทศกาลดนตรีฤดูฝนอย่าง Raincoat Music Festival 2017 อยู่พอดี ที่สำคัญเป็นงานฟรีด้วยนาจา แฮปปี้เข้าทางพวกเราสุดๆ ภายในงานก็จะมีทั้งซุ้มขายของกิน ของฝาก ซุ้มกิจกรรม และเวทีคอนเสิร์ตจากศิลปินดังๆมากมาย
อาทิ Chilling Sunday , Fellow Fellow , Mild ก่อนจะปิดท้ายด้วย Tattoo Color บอกได้คำเดียวว่าคุ้ม !!
แม้ฝนตกก็ไม่หวั่น คว้าเสื้อกันฝนสีสันสดใสขึ้นมาใส่ให้เข้ากับชื่องาน Raincoat กันไปเลย
ทำมื้อเช้ากินกันง่ายๆ จัดการอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อยเมื่อพร้อมแล้วเราก็ออกเดินทางต่อ กว่าจะมาถึง The Blue Sky Resort รีสอร์ทกึ่งร้านอาหารชื่อดังประจำอำเภอเขาค้อกินเวลาเข้าไปใกล้เที่ยงพอดี เลยถือโอกาสฝากท้องที่นี่สำหรับมื้อกลางวันนี้ซะเลย
บรรยากาศนี่พูดได้คำเดียวเลยค่ะว่าพรีเมียมดีต่อใจเรามากๆๆๆๆ อากาศยิ่งแทบไม่ต้องพูดถึง เพราะมันดีสุดอะไรสุด เหมือนทานกลางวันอยู่ที่ประเทศอังกฤษเลยค่ะ วิวสวย อาหารอร่อย แถมมุมถ่ายรูปเพียบครบเครื่องแบบนี้ ถูกใจสาวๆในทริปเค้าล่ะ เดินถ่ายรูปกันซะเกือบลืมเวลา
แต่นอกจากอาหารจะหน้าตาน่าทานแล้ว รสชาติก็อร่อยไม่แพ้กันนาจา ดีเยี่ยมไม่เสียชื่อรีสอร์ทในเครือนี้เลยจริงๆ อร่อยทุกอย่าง ทุกเมนูทั้งของคาวและของหวาน พุงกางกันไป
จากนั้นแวะมาต่อกันที่ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว เพื่อไหว้พระขอพรกันสักนิด นักท่องเที่ยวก็จะเยอะหน่อย เพราะเป็นวันเสาร์ค่ะ แต่อากาศด้านบนนี้คืออากาศเย็นสบายมาก ทั้งฝน ทั้งหมอกจัดเต็มหนานุ่มยิ่งกว่าขอบพิซซ่า (?)
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วนั้นตั้งอยู่ด้านบนเขาสูงจึงสามารถมองเห็นวิวสวยๆของขุนเขาได้โดยรอบ ตัววัดประดับไปด้วยกระเบื้องสีสันสวยงามคล้ายอัญมณี ทั้งยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ พระพุทธรูปสีขาวล้วนองค์ใหญ่ที่สร้างซ้อน 5 องค์ลดหลั่นตามขนาดน้อยใหญ่โดดเด่นเป็นสง่ามองเห็นมาแต่ไกล ถือเป็นอีกหนึ่งแลนมาร์กที่นักท่องเที่ยวต้องห้ามพลาด
กระโดดขึ้นรถบ้านมุ่งหน้ามายัง Pino Latte ร้านกาแฟบรรยากาศหลักล้านในดวงใจของใครหลายๆคน จากตัวร้านสามารถมองเห็นวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วอยู่ไกลๆ
ได้จิบกาแฟท่ามกลางธรรมชาติและอากาศดีๆแบบนี้ ชิลจนไม่อยากไปไหนเลย ~
พูดก็พูดเถอะเขาค้อเนี่ยมีที่เที่ยวให้ตามไปเก็บเยอะแยะจริงๆนะ เพราะขนาดเป้าหมายต่อมาของเรายังได้ชื่อว่าเป็นแลนมาร์กแห่งใหม่ของเขาค้อด้วยเหมือนกัน ซึ่งคงจะเป็นที่ไหนไม่ได้ถ้าไม่ใช่ ทุ่งกังหันลม แห่งนี้นี่เอง
แต่นอกจากจะเป็นทั้งแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานลมแหล่งใหญ่ของจังหวัดแล้ว ทางด้านบนยังเปิดเป็นจุดชมวิวสวยๆ มีทั้งสวนดอกไม้ ชิงช้า และฟอมูล่าม้งให้เล่นท่ามกลางทิวเขากว้างไกลสุดลูกหูลูกตาด้วยนะ แอบกระซิบดังๆไปเลยว่าไม่เสียค่าเข้าด้วยล่ะ
ตะลอนเที่ยวกันจนหมดแรง ค่ำคืนสุดท้ายเรามาลงหลักปักฐานกันที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง อ.หนองแม่นา ทุ่งหญ้าสะวันนาขนาดใหญ่ของเมืองไทย ที่ยังคงความสวยงามและอุดมสมบูรณ์เอาไว้ได้เป็นอย่างดี
ภายในมีพื้นที่สำหรับจอดรถบ้าน ห้องน้ำ ลานกางเต็นท์ รวมถึงบ้านพักอุทยานไว้บริการด้วยค่ะ หรือหากใครอยากชิลกว่านี้ จะเช่าจักรยานปั่นชมแสงเย็น หรือหมอกยามเช้าก็ได้เช่นกัน ส่วนคืนนี้เราเข้านอนพร้อมกับสายฝนรับฤดูกรีนซีซั่นเลยค่ะ ชุ่มฉ่ำถึงใจกันไป
วันนี้ไม่ต้องรีบไปไหนพวกเราเลยตื่นสายกว่าปกติ ทำอาหารกินเองเป็นมื้อสุดท้ายเตรียมส่งตัวเองกลับบ้าน เห็นอาหารเยอะแยะแบบนี้ แต่บอกเลยว่าเผลอแป้บเดียวหมดเกลี้ยงนาจา ไม่รู้ว่าอร่อยหรือหิวหนักมากเพราะรอเชฟทำอาหารนานกันแน่ ฮาาา
ยังไงก็ตาม แม้ว่าเราจะต้องจำใจเดินทางกลับบ้าน และความสนุกที่ผ่านมา 4 วัน 3 คืนกำลังจะหมดลง แต่บอกเลยว่าเรื่องเม้าท์ๆและความทรงจำระหว่างพวกเราที่มีร่วมกันในหลายคืนที่ผ่านมา จะเป็นอะไรที่ต้องถูกคิดถึงบ่อยๆแน่นอน
แล้วเจอกันใหม่โอกาสหน้าน้าาา :)
เรียบเรียงโดยชิลไปไหน
Tags: ทริปตัวอย่าง รถบ้าน พิจิตร เพชรบูรณ์ จุดเช็คอินเพชรบูรณ์ เที่ยวหน้าฝน กรีนซีซั่น ที่เที่ยวหน้าฝน ทุ่งกังหันลม พระธาตุผาซ่อนแก้ว blueskyresort บลูสกายรีสอร์ท บึงสีไฟ พีโนลาเต้ pinolatte ทุ่งแสลงหลวง ลำน้ำเข็ก ล่องแก่ง ล่องแก่งลำน้ำเข็ก พิษณุโลก เขาค้อ Jollyland ที่เที่ยวเพชรบูรณ์ ที่เที่ยวพิจิตร ร้านอาหารปิ่นโต ที่เที่ยวพิษณุโลก อ่างทอง ที่เที่ยวอ่างทอง ร้านอาหารเพชรบูรณ์ ร้านอาหารเขาค้อ
ทริปตัวอย่าง | 11 พ.ย. 2024 | 415 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 พ.ย. 2024 | 361 อ่าน
ทริปตัวอย่าง เที่ยวต่างประเทศ | 15 ต.ค. 2024 | 885 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 ต.ค. 2024 | 1,201 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 07 ต.ค. 2024 | 882 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่กิน ทริปตัวอย่าง | 11 ก.ย. 2024 | 2,239 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 05 ส.ค. 2024 | 1,983 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 31 ก.ค. 2024 | 1,440 อ่าน
ทริปตัวอย่าง ที่เที่ยว | 25 ก.ค. 2024 | 1,325 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 23 ก.ค. 2024 | 2,116 อ่าน