calendar_month 25 ก.ค. 2013 / stylus Admin Chillpainai / visibility 22,507 / เที่ยวต่างประเทศ
มาถึงวันที่ 3 กันแล้วนะคะ กับชิลแบ็คแพ็คเกอร์อินโตเกียว ครั้งที่ 1
ซึ่งเดินทางกันไปแล้วเมื่อวันที่ 24-28 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
ฮานะเลยขอมาเล่าเรื่องราวการเดินทางต่อจาก 2 วันแรกที่เราพาไปตะลุยย่านต่างๆ ในโตเกียวมา
คราวนี้ขอพานั่งรถไฟไกลๆ ออกไปเที่ยวดูความงดงามของป่าไม้
และความงดงามของศิลปะญี่ปุ่นบ้างที่นิกโก้
ซึ่งว่ากันว่า Nikko is Nippon (นิกโก้คือญี่ปุ่น)

เราตื่นกันแต่เช้า วันนี้ฮานะบอกให้สมาชิกทุกคนตุนเสบียงอาหารขึ้นไปกินบนรถไฟกันเพราะวันนี้เราต้องนั่งรถไฟนาน
จากสถานีรถไฟเจอาร์มินามิเซนจูเราใช้บัตรเบ่งเล็ก หรือบัตร JR Kanto Area Pass
ที่สามารถใช้เดินทางภายในภูมิภาคคันโต จะขึ้นลงกี่ครั้งก็ได้ภายใน 3 วัน ราคาเพียง 8000 เยน
และยังสามารถนั่งรถไฟชินกันเซ็นได้อีก เรียกว่าคุ้มมากๆ
เรานั่งรถไฟเจอาร์จากมินามิเซนจูไปยังสถานีอูเอโนะ จากนั้นนั่งรถไฟชินกันเซ็นยามาบิโกะไปยังสถานีอุทสึโนมิยะ
แล้วต่อรถไฟสายนิกโก้ไลน์ไปยังนิกโก้
รถไฟของญี่ปุ่นขอบอกว่าเขาตรงเวลามาก หนึ่งนาทีก็คือหนึ่งนาที ไม่เลทไม่ช้า
ยิ่งรถไฟชินกันเซ็นก็นิ่มมาก เบาะที่นั่งกว้างกว่าเครื่องบินที่ฮานะนั่งมาจากไทยอีก
เรานั่งรถไฟชมวิวทิวทัศน์ข้างทางที่ค่อยเปลี่ยนจากเมือง จากตึกสูงที่อัดแน่นกัน เป็นบ้านคนหลังย่อมเยา
และเปลี่ยนเป็นภูเขาที่เต็มไปด้วยต้นไม้ สะพานรถไฟที่วิ่งข้ามลำธาร
ฮานะว่าเส้นรถไฟที่วิ่งไปนิกโก้เป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่มีวิวทิวทัศน์สวยมากๆ
นั่งชมวิว ทานข้าวปั้นที่ซื้อมาจากร้านแฟมิลี่มาร์ท และน้ำผลไม้ของญี่ปุ่นแค่นี้ก็ฟินแล้วค่ะ
เราใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงสถานีเจอาร์นิกโก้ จากนั้นเราซื้อตั๋วรถบัสวันเดย์พาสราคา 500 เยน
เพื่อนั่งรถบัสไปชมสถานที่ที่เป็นมรดกโลก

ศาลาซันบุตซึวัดรินโนจิก่อนปรับปรุง(ภาพจาก Japan-guide.com)

ศาลาซันบุตซึวัดรินโนจิระหว่างปรับปรุง(ภาพจาก Japan-guide.com)
โดยเริ่มจากที่แรกคือวัดรินโนจิ ซึ่งจากที่นี่เราสามารถซื้อตั๋วรวมชมมรดกโลกทั้งหมดประมาณ 4 ที่เพียง 1000 เยนเท่านั้น
วัดรินโนจินี้เป็นวัดพุทธที่สำคัญมากที่สุดในนิกโก้ สร้างเมื่อปี ค.ศ.766 หรือประมาณ 1247 ปีมาแล้ว
ภายในวัดประกอบด้วยศาลาที่สำคัญ 2 ศาลาคือ ศาลาหลังใหญ่ซันบุตซึ และ ศาลาไดโกมะ
ซึ่งภายในศาลาซันบุตสึนั้นเป็นที่ประดิษฐานของพระอมิตพุทธ เจ้าแม่กวนอิมพันกร และพระพุทธรูปม้าอยู่กลางพระนลาต
ตอนที่ไปศาลาหลังใหญ่ซันบุตซึนั้นเขากำลังปรับปรุงตัวอาคารอยู่ซึ่งเริ่มปรับปรุงตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2011
และจะแล้วเสร็จเดือนมีนาคม 2021 ด้านนอกเขาเลยทำเป็นตัวอาคารครอบศาลาหลังใหญ่อีกที
ฮานะเห็นครั้งแรกก็ตกใจเหมือนกันค่ะ เพราะเขาปรับปรุงกันจริงจังและรัดกุมมาก
ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยค่ะเวลาเราไปญี่ปุ่นเราจะเห็นว่าเขาให้ความสำคัญกับสถานที่เก่าแก่เหล่านี้
หรือแม้แต่ต้นไม้ฮานะเคยเห็นเขาเอาผ้ามาห่อต้นไม้กันเลยเพื่อรักษาไม่ให้ต้นไม้ตายเวลาเปลี่ยนผ่านฤดูกาล

จากวัดรินโนจิเราเดินกันไปต่อสู่ศาลเจ้าโทโชกุ
ฮานะชอบต้นไม้ของที่นี่นี่มาก เพราะเคยเห็นภาพนิกโก้เมื่อหลายร้อยปีก่อน
พอมาดูตอนนี้สภาพก็ไม่ต่างจากเดิมเลย ต้นไม้ที่เคยอยู่ตอนนั้น ตอนนี้ก็ยังอยู่
รู้สึกถึงวิญญาณอันสงบเงียบของป่าไม้ ของต้นไม้ ที่ปกป้องสถานที่ศักสิทธิ์เหล่านี้มาโดยตลอด
ซึ่งศาลเจ้าโทโชกุนั้นก็เป็นศาลเจ้าที่มีความสำคัญต่อนิกโก้และต่อญี่ปุ่นมาก
เพราะเป็นสุสานของโชกุน โตกุกาว่า อิเอยาสุ ซึ่งเป็นโชกุนที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นมากๆ
รวมถึงที่นี่ยังมีการอัญเชิญดวงวิญญาณอีกสองดวงคือโตโยโตมิ ฮิเดโยชิ ไดเมียวคนสำคัญ
และมินาโมโตะ โยริโตโมะ ผู้ที่จัดตั้งรัฐบาลทหาร มาสถิตย์ ณ ที่แห่งนี้ด้วย

ศาลเจ้าโทโชกุนี้เขามีชื่อเรื่องภาพแกะสลักลิงซึ่งเป็นปริศานาธรรม
ที่คนญี่ปุ่นเขากำลังมุงถ่ายรูปกันอยู่นี่แล่ะ
เป็นภาพลิงปิดตา ปิดหู ปิดปาก คือไม่พูด ไม่มอง ไม่ฟังในสิ่งที่ไม่ดี

นอกจากนี้ยังมีภาพแกะสลักลิงที่เป็นปริศนาธรรมอีก 4 ภาพ ซึ่งแต่ละภาพมีให้ข้อคิดในการดำเนินชีวิตทั้งสิ้น

จากนั้นเราเดินต่อไปยังประตูโยเมมง

ซุ้มประตูโยเมมงที่ว่ากันว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามมากๆ

ภายในประกอบด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม

พอเดินเข้าไปด้านในก็จะเจอประตูอีกชั้นหนึ่งที่ชื่อว่าคารามง
ซึ่งภายในมีอาคารหลักที่เอาไว้ประกอบพิธีกรรมและไม่ได้อนุญาตให้เราเข้าไป
แต่แค่เดินชมอยู่ด้านนอกก็สัมผัสได้ถึงความสวยงามและยิ่งใหญ่ของศิลปะที่ยืนหยัดผ่านกาลเวลามาเป็นพันปี
ด้านในศาลเจ้ายังมีทางเดินไปยังสุสานโชกุนแต่คราวนี้ฮานะไม่ได้เข้าไปสักการะ
และด้านในยังมีรูปแกะสลักแมวหลับซึ่งโด่งดังอีกด้วย คราวหน้าไม่พลาดแน่ๆ

จากศาลเจ้าโทโชกุเราเดินต่อไปยังศาลเจ้าฟูตาราซัง

ทางเข้าสู่ศาลเจ้า

นิ่งสงบภายใต้สนพันปี

ตามหลักชินโตการจะเข้าศาลเจ้าก็จะต้องมาทำความสะอาดร่างกายกันก่อน
โดยมีผู้สาธิตเป็นผู้ร่วมทริปของเราคือน้องแก้วและคุณเน
โดยเริ่มจากหยิบกระบวยตักน้ำด้วยมือขวาแล้วล้างมือซ้าย จากนั้นเปลี่ยนเป็นถือกระบวยด้วยมือซ้ายแล้วตักน้ำล้างมือขวา
สุดท้ายตักน้ำเทใส่อุ้งมือเพื่อใช้บ้วนปากเป็นอันจบพิธี
แต่ก่อนที่ฮานะไปญี่ปุ่นใหม่ๆ เอ๋อมากๆ ไม่ได้เรียนรู้อะไรไปเลย เห็นกระบวยนึกว่าเอาไว้กิน
ก็กินไปหลายอึก (ซึ่งมันเย็นชื่นใจอร่อยมากๆเหมือนกัน) แต่ในความเป็นจริงไม่ควรทำนะจ๊ะ

ลองเอาภาพมาทำเป็นสีทึมๆ ดู ก็สวยและมีเสน่ห์ไปอีกแบบ

แค่มานั่งเงียบๆ ใต้ร่วมเงาของต้นไม้ ฟังเสียงสายลม และธรรมชาติรอบตัว
เราก็จะสัมผัสได้ถึงเสียงภายในหัวใจ ซึ่งเราอาจจะไม่เคยฟังมันเลย

ที่สุดท้ายของทริปนิกโก้คือไทยูอินเบียวซึ่งเป็นสุสานของโชกุนโตกุกาว่า อิเอมิตสึ
หลานของโตกุกาว่า อิเอยาสุ
ทางเข้าสุสานยังแอบมีใบไม้แดงหนึ่งต้นให้เราได้ถ่ายภาพสวยๆ กัน

ฮานะชอบบรรยากาศของที่นี่มากสมแล้วที่ได้ชื่อว่า Nikko is Nippon

สุสานตั้งอยู่บนเขาเราจึงต้องเดินขึ้นไปเรียกเหงื่อได้นิดนึง
แต่พอขึ้นไปถึงก็หายเหนื่อยเลยค่ะ
เพราะความสวยงามของศิลปะบนซุ้มประตูทางเข้านั้นสวยงามมาก

พอเดินเข้ามาก็จะพบทางเข้าสู่ตัวอาคารหลักเป็นสีทองเหลืองอร่ามท่ามกลางต้นไม้สีเขียว

จิตวิญญาณแห่งป่าและจิตวัญญาณของบรรพชนที่สถิตรวมกัน
ปกปักษ์ดินแแดนแห่งพระอาทิตย์มานานแสนนาน
ฮานะเชื่อว่าแม้ในอนาคตญี่ปุ่นจะพบเจอเรื่องราวภัยพิบัติมากมาย
แต่ความเป็นญี่ปุ่นนั้นก็ไม่มีวันเสื่อมสลาย

จากศาลเจ้าฟูระตะซังเราเดินลงเนินมาพักทานข้าวและซื้อของฝากด้านล่าง
ซึ่งมีร้านอาหารมากมายให้ได้เลือกทาน
ส่วนฮานะขอพักดื่มชาทานขนมที่คาเฟ่น่ารักร้านนี้ละกันค่ะ

คาเฟ่น่ารักราคาไม่แพง แถมชีสเค้กยังเนื้อแน่น อร่อยอีกด้วย
จากนิกโก้เรานั่งรถไฟกลับมายังโตเกียว
แล้วจับรถไฟไปต่อยังเมืองโยโกฮาม่า
ประมาณ 45 นาทีจากโตเกียวเราก็มาถึงโยโกฮาม่า
โดยคราวนี้เราจะมาทานอาหารเย็นที่ชิน โยโกฮาม่า ราเมงมิวเซียม โดยนั่งรถไฟมาลงสถานีชินโยโกฮาม่า
แล้วเดินมาแป๊บนึงก็ถึงราเมงมิวเซียม ค่าเข้าคนละ 300 เยน
และยังมีคู่มือเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เป็นภาษาไทยอีกด้วย (แต่เป็นภาษาไทยแบบใช้อากู๋แปลนะ
)

พอเข้ามาด้านในก็เหมือนย้อนไปในสมัยอดีตเลยล่ะค่ะ
ใครที่เคยดูหนังเรื่อง Always Sunset on the third street
คงจะจำบรรยากาศสุดคลาสสิคในหนังได้ เพราะที่นี่บรรยากาศน่าจะอยู่ยุคเดียวกับในหนังเลย

ตัวมิวเซียมไม่ได้ใหญ่โตอะไรมาก
แต่เขาให้ความสำคัญในรายละเอียดดีมากค่ะ
ภายในมีร้านราเมนประมาณ 9 ร้าน ซึ่งเขาเลือกร้านขึ้นชื่อของญี่ปุ่นตั้งแต่ฮอกไกโดยันคิวชูกันเลยล่ะค่ะ
และที่นี่เขามีทั้งไซส์เล็ก ไซส์ใหญ่ ใครที่อยากชิมให้ครบทุกร้านก็เลือกเป็นไซส์เล็กไปนะคะ

ส่วนร้านที่ฮานะเลือกชิมคือร้านนี้ค่ะ ไซตามะ คาวาโกะ ทสึเคเมง

ทสึเคเมง หรือราเมงแบบจุ่ม
จริงๆ แล้วเส้นเยอะกว่านี้แต่เพราะความหิวเลยรีบทานมารู้ตัวอีกที อ้าว!!! ลืมถ่ายรูป
ความอร่อยขอบอกว่าอร่อยที่สุดที่เคยกินทสึเคเมงมา
ฮานะเคยไปกินทสึเคเมงในไทยก็ยังไม่ได้รสชาตินี้ บางร้านมันไปบ้าง เค็มไปบ้าง
แต่ของร้านนี้ไม่มีที่ติเลยค่ะ เส้นก็นุ่ม น้ำซุปไม่มันเกินไป ไม่เลี่ยน ตัวหมูก็เคี่ยวเปื่อยจนกลายเป็นเหมือนเนื้อทูน่าไปแล้ว
กลับมายังฝันถึงทสึเคเมงของร้านนี้อยู่เลยล่ะค่ะ
ตอนแรกกะว่าจะไปชิมของร้านอื่นต่อแต่เพราะสั่งแบบไซส์ใหญ่ เลยอิ่มจนจุก
เวลาที่เหลือเลยเดินเล่นชมมิวเซียมของที่นี่สักหน่อย

ฟ้าข้างบนที่เห็นนี่ฟ้าปลอมนะคะ แต่พอถ่ายรูปออกมาเหมือนจริงมากๆ

นึกภาพตัวละครใน Always ที่กำลังตื่นเต้นกับโทรทัศน์เครื่องใหม่

จากความคลาสสิคที่เคยดูในหนังตอนนี้ก็มาอยู่ตรงหน้าจริงๆ
อารมณ์ประมานเพลินวานบ้านเราเลยล่ะค่ะ

อยากเข้าร้านไหนเลือกได้เลย

ตู้โทรศัพท์ที่เหมือนนั่งไทม์แมชชีนไปในอดีต
ปลายสายอาจจะมีคนรอเล่าเรื่องราวในอดีตให้ฟัง

แม้รู้ว่าจะเป็นอดีตที่เฟคขึ้นมา แต่เราก็ยังมีความสุขที่เดินย้อนไปในอดีตนั้น
ออกจากชินโยโกฮาม่า ราเมงมิวเซียม ฟ้าก็มืดเสียแล้ว คราวนี้เราเลยขอไปนั่งชิลที่แลนด์มาร์คของเมืองโยโกฮาม่ากันต่อ

กับที่นี่ Minato Mirai ที่สามารถมองเห็นตึกแลนด์มาร์คทาวเวอร์ ตึกควีนส์ทาวเวอร์ และชิงช้าสวรรค์ที่คอสโม่เวิล์ด
แค่ได้นั่งชิลจิบสาเกหรือเบียร์เย็นๆ พูดคุยกับเพื่อนร่วมทริป
เก็บเกี่ยวความสวยงามของภาพตรงหน้าและการเดินทางครั้งนี้เอาไว้
ก็เป็นความสำเร็จที่เราจัดทริปนี้ขึ้นมาแล้วล่ะค่ะ
คราวหน้าเราจะพาคุณไปตามหาคุณฟูจิซัง ณ ชิรากาว่าโก
จะยิ่งใหญ่และงดงามแค่ไหนรอติดตามกันได้เลย
ส่วนใครอยากร่วมทริปชิลแพ็คเกอร์อินโตเกียวครั้งที่ 2 กับฮานะ
ดูรายละเอียดที่นี่ได้เลย ชิลแพ็คเกอร์อินโตเกียวครั้งที่ 2
ติดตามบทความเก่าได้ที่นี่เลย
บันทึกการเดินทางทริปชิลแพ็คเกอร์อินโตเกียว ตอนที่ 1 ญี่ปุ่นและโตเกียวทาวเวอร์ที่คิดถึง
บันทึกการเดินทางทริปชิลแพ็คเกอร์อินโตเกียว ตอนที่ 2 กินช้อปให้จุในในโตเกียว
เรื่องและภาพ นางสาวฮานะ
Tags: ญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่น ทริปญี่ปุ่น แบ็คแพ็คเกอร์ โยโกฮาม่า นิกโก้
เที่ยวต่างประเทศ | 06 พ.ย. 2025 | 97 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 05 พ.ย. 2025 | 204 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 27 ต.ค. 2025 | 491 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 24 ต.ค. 2025 | 305 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 08 ต.ค. 2025 | 623 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 07 ต.ค. 2025 | 506 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 08 ต.ค. 2025 | 836 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 29 ก.ย. 2025 | 710 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 23 ก.ย. 2025 | 530 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 23 ก.ย. 2025 | 659 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 19 ก.ย. 2025 | 604 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 19 ก.ย. 2025 | 804 อ่าน