เกาะนาวโอพี Feat. เกาะสอง เที่ยวเมียนมาร์ 3 วัน 2 คืน หน้าร้อนก็ต้องนอนริมทะเล

เริ่มจากออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปที่จังหวัดระนอง เพื่อไปทำเรื่องข้ามแดนและขึ้นเรือ หลายๆ คนกลัวความยุ่งยากและมีคำถามมาบ่อยๆ ว่าจะปลอดภัยหรือเปล่า? ครั้งนี้เราเดินทางไปกับ “Victoria Cliff” ซึ่งเป็นเจ้าของสัมปทานเกาะนาวโอพีเองเลยค่ะ ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยเลย ทางเจ้าหน้าที่จะเตรียมเอกสารไว้ให้ เราเตรียมบัตรประชาชนไปยื่น ไม่ต้องใช้พาสปอร์ตก็ได้นะคะ
  

ขึ้นเรือกันแล้ว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาทีก็ถึงเกาะนาวโอพีแล้วค่ะ ที่นี่เงียบสงบเหมือนเป็นเกาะส่วนตัว เพราะที่นี่เขาจำกัดคนเข้าเกาะ ทรายขาวละเอียด มองลงไปจากเรือ น้ำใสจนมองเห็นพื้นด้านล่างเลยค่ะ

ใจนี่ไม่ได้สนแดดที่มันจะเผาร่างเลย อยากกระโดดลงไปเอาเท้าสัมผัสกับทรายนิ่มๆ แล้ววววววว...

เรือเทียบท่าปุ๊ป ..กระโดดลงปั๊ป โหวววววว.. มันนิ่มเท้าสุดๆ สวรรค์เลย~ อดใจไว้ก่อน เราต้องไปเช็คอินเข้าพักก่อนค่ะ ก่อนจะมาถึงเราเคยจินตนาการว่าต้องเป็นที่พักเล็กๆ ไม่มีอะไรมาก เพราะเกาะนาวโอพีค่อนข้าง เงียบสงบ และไกลจากเกาะอื่นๆ ของพม่า แต่จริงๆ แล้วบนเกาะมีที่พักทั้งแบบเต้นท์หรู มีห้องน้ำในตัว
 

และยังมีห้องแอร์ให้เลือกพักด้วย โซนนี้จะมีต้นไม้น้อยหน่อยนะคะ เป็นบ้านไม้ติดกันค่ะ
 

เราแนะนำเป็นห้องแบบเต้นท์มากกว่า เพราะอากาศตอนกลางคืนไม่ร้อนอยู่แล้ว กลางวันมีลมตลอด แต่ละห้องตั้งอยู่ท่ามกลางต้นไม้เขียวๆ ร่มรื่นมากค่ะ
 

หลังจากเช็คอิน เอาของไปเก็บในห้อง ได้เวลาทานอาหารเที่ยง อาหารทุกมื้อที่นี่เป็นแบบบุพเฟ่ต์นะคะ จะเป็นอาหารไทย ทานง่าย
 

หลังจากทานอาหารมื้อเที่ยงเสร็จแล้ว..ถึงเวลาเล่นน้ำของเราแล้วค่ะ จุดดำน้ำของนาวโอพี มีทั้งหมด 4 จุดค่ะ ไปค่ะลงเรือไปดำน้ำกัน

จุดแรกชื่อว่า The Letter นั่งเรือไปไม่ถึง 5 นาทีเลยค่ะ เป็นเกาะหินปูน ไม่มีชายหาด มีต้นไม้ขึ้นอยู่ต้นเดียว เดี่ยวๆ เหมือนหนังเรื่อง The Letter เกาะเลยได้ชื่อนี้ไปเลยค่ะ จุดเด่นของเกาะนี้คือใต้น้ำเลย เป็นจุดที่มีปะการัง Coral ปะการังอ่อนสีสวย ใครไม่ได้ดำน้ำพลาดมากค่ะ
 

อยู่จุดแรกประมาณ 30 นาที ไปต่อจุดที่ 2 กันที่ “หาดมาดาม” เป็นหาดที่อยู่อีกด้านนึงของเกาะนาวโอพี เป็นหาดที่สวยน้ำใสแจ๋ว ดำน้ำเล่นได้จากหน้าหาดเลยค่ะ 

ตรงจุดนี้มีปะการังเขากวางที่สวย และมีเยอะด้วย หรือใครดำน้ำเสร็จแล้วอยากไปเดินเล่นถ่ายรูป บนหาดมีหินภูเขาไฟเก๋ๆ ด้วยค่ะ ที่พีคคคคคคค..ไปกว่านั้นบนหาดมีหอยนางรมเกาะหินอยู่ พี่แซมไกด์ของเรา เอามีดไปกระเทาะๆ เจ้าหอยนางรมให้พวกเราได้ลองชิมกันแบบสดๆ เลยค่ะ 

จุดที่สามเป็นจุดที่เรียกว่าภูเขาไฟ เป็นเกาะขนาดกลาง เราดำน้ำกันที่รอบๆเกาะเฉยๆ ค่ะ ไม่ขึ้นบนเกาะเป็นจุดที่ปะการังสมบูรณ์อีกจุดหนึ่ง สวยงามตามท้องเรื่อง ใครโชคดีได้เจอเจ้าปลาไหลมอเร่ย์อีกด้วยค่ะ เราจะอยู่แต่ที่ประมาณ 30 นาทีค่ะ
หลังจากนั้นเราก็กลับไปยังที่พัก ใครแรงยังเหลือก็ไปพายคายัคชิลๆ 

หรือจะไปเดินป่าเพื่อขึ้นไปจุดชมวิวดูพระอาทิตย์ตก ส่วนเราอยากไปอาบน้ำเดินเล่น ถ่ายรูปริมหาดชิลๆ รอเวลาทานอาหารเย็นมากกว่าค่ะ

มื้อเย็นวันนี้มีซีฟู้ดปิ้งย่างปลาหมึกและกุ้ง นั่งรอได้พี่เค้ามาเสิร์ฟเลยค่ะไม่ต้องไปย่างเอง นอกจากนี้ยังมีบุพเฟ่ต์กับข้าวให้ตักกันเองอีกด้วยค่ะ

ตอนกลางคืนของที่นี่มีการแสดงโชว์ด้วยนะคะ เป็นโชว์ของหนุ่มๆ สาวๆ ชาวพม่าที่เป็นเจ้าหน้าที่ของทางโรงงแรมนี่แหละค่ะ ไฮไลท์ของโชว์ที่นี่ต้องเป็นโชว์ควงไฟเลยค่ะ แต่ละคนหุ่นแซ่บมว๊ากก..เอ้ยย ไม่ใช่แต่ละคนเก่งมากเลยค่ะ ไม่น่าเชื่อว่าตอนกลางวันเขาจะรดน้ำต้นไม้ ตอนกลางคืนกลายร่างมาโชว์ควงไฟกันได้แบบนี้ อิ่มกับมื้อเย็นและเต็มอิ่มกับโชว์แล้ว ไปนอนพักผ่อนเอาแรงกันค่ะ
 

ตื่นมาตอนเช้าแต่งชุดว่ายน้ำสวยๆ มาถ่ายรูปเล่นกันค่ะ อาหารมื้อเช้าวันนี้เป็นบุพเฟ่ต์เหมือนเดิมค่ะ เป็นอาหารไทยเหมือนเดิม หลังจากที่ทานอาหารเสร็จแล้ว ใครอยากจะไปดำน้ำจุดที่ 4 ซึ่งเป็นจุดที่อยู่หน้าที่พักก็ได้ค่ะ จุดนี้พี่แซมบอกเป็นบ้านของลูกชายพี่แซม ..ชื่อน้อง "ทองสุข" น้องทองสุขเป็นปลาไหลมอเร่ย์อยู่ปะการังหน้าที่พักเป็นที่อยู่ประจำไปเลยค่ะ ถ้าใครไม่อยากไปดำน้ำแล้วอยากใช้เวลาชิลๆ บนเกาะก็สบายๆเลยค่ะ เพราะเราจะเดินทางออกจากเกาะกันตอน 14.00น. เลยทีเดียว

หมดเวลาสนุกบนเกาะสวรรค์ ที่ทำให้เราลืมความร้อนกันแล้ว กระซิกกระซิก T____T แต่เรายังไม่กลับบ้านกันค่ะ เพราะเรามาทริป 3 วัน 2 คืน อิอิ กลับจาก “เกาะนาวโอพี” เราไปต่อกันที่ “เกาะสอง”

เกาะสองไม่ใช่เกาะอย่างที่เข้าใจกันหรอกค่ะ แต่เกาะสองเป็นแผ่นดินพม่า อยู่ใต้สุดติดทะเลและเป็นจังหวัดที่อยู่ตรงข้ามกับระนองบ้านเราค่ะ แบบ “บ้านพี่อยู่ฝั่งทางโน้น บ้านน้องอยู่ฝั่งทางนี้”

คืนนี้เรานอนกันที่ “Victoria Cliff Hotel & Resort” ที่พักสุดหรูบนเกาะสอง ที่พักของที่นี่ตั้งอยู่บนเนินสูง มองเห็นวิวทะเลพม่า ไฮไลท์ของที่นี่ต้องเป็นสระว่ายน้ำที่เป็นแบบ Infinity Pool มองเห็นวิวทะเลแบบพาโนราม่า และยังมีสะพานไม้ทอดยาวลงไปในทะเล ตอนเย็นบรรยากาศโรแมนติกสุดๆ น่าเสียดายค่ะ ที่มากับเพื่อน มากับหวานใจคนสวีทน่าดูเลย
 

เรามาทานอาหารเย็นกันที่นี่ ห้องอาหารของ Victoria Cliff มีทั้งโซนห้องแอร์ และชมวิวรับลมด้านนอก อาหารที่นี่ก็จะเป็นอาหารไทยรสชาติถึงพริกถึงขิง จัดกันแน่นท้องเต็มอิ่ม เข้านอนเอาแรงกันค่ะ ห้องพักของเราเป็นห้องที่มองเห็นวิวทะเล ในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้งทีวี ตู้เย็น ตกแต่งได้หรูหรา นอนหลับฝันหวาน ..พรุ่งนี้เช้าก่อนกลับไทยเราไปตะลุยเกาะสองกันค่ะ
 

เราเริ่มตะลุยเกาะสองที่แรกกันที่ “เจดีย์ปิ ดอ เอ” เป็นเจดีย์สำคัญของพม่า หมายถึงเจดีย์แห่งความสงบร่มเย็น ตั้งอยู่บนเนินเขามองเห็นบ้านเรือนของชาวพม่าและทะเล วิวสวยเชียวค่ะ ซึ่งเจดีย์ปิดอเอ จำลองมาจาก เจดีย์ชเวดากองค่ะ เป็นเจดีย์ประจำวันเกิด เหมือนที่ไทยมีพระธาตุประจำปีเกิดเลยค่ะ
 

ความแปลกของที่นี่คือตอนเราไป แดดร้อนเปรี้ยงๆ แต่พื้นที่เราเหยียบไม่ร้อนเลยค่ะ สามารถถอดรองเท้าเข้าไปได้สบายๆ ส่วนใครที่ใส่กระโปรงสั้น หรือกางเกงขาสั้นจะมีผ้าถุงให้ใส่ ไม่มีค่าเข้าค่ะ แต่จะมีค่าถ่ายรูป คิดเป็นกล้อง ทางไกด์จะจัดการให้เรานะคะ

เสร็จจากไหว้พระขอพรที่เจดีย์กันแล้ว เราไปกันที่ อนุเสาวรีย์บุเรงนอง กษัตริย์ที่มีฉายาว่าผู้ชนะสิบทิศของพม่า
 

จากนั้นเราไปต่อกันที่ตลาดใกล้ๆ กับท่าเรือที่เราจะต้องขึ้นกลับเลยค่ะ เดินเล่นลัดเลาะ แวะซื้อของฝากติดไม้ติดมือไปฝากคนที่บ้านกันค่ะ

จบทริปนี้ขึ้นเรือข้ามฝั่งกลับบ้าน เป็น 3 วัน 2 คืน ทัวร์พม่าและเกาะพม่าเบาๆ แต่อยากจะกดเลิฟให้หนักๆ ทั้งสนุกจนลืมแดดลืมดำ ทั้งยังได้ไปเปิดหูเปิดตากับเมืองพม่า ที่ไม่ใช้เวลาเดินทางนานๆ เลยค่ะ ใกล้นิดเดียว หลังจากกลับจากทริปนี้ หลงรักทะเลหน้าร้อนไปเลยค่ะ ชอบที่สุดคือเรากล้าวิ่งลงทะเล ตากแดดร้อนหน้าไหม้ก็ยังตากได้ เพราะทะเลสีฟ้า น้ำใสๆ เห็นแล้วอยากวิ่งเข้าใส่มากกว่านั่งในร่มจริงๆ ค่ะ ไปเจอลมทะเลบ้าง รู้สึกดีกว่าลมแอร์ที่บ้านเหมือนกันนะ 

ราคาทริป 3 วัน 2 คืน พักนาวโอพี และเกาะสอง ราคา 9,400 บาท เด็ก 6,580 บาท
ติดต่อทาง LINE ID : 0942242473
โทรศัพท์ : 089 - 7517777,089 - 7527777

****** เกาะปิดในช่วงเดือน พ.ค. - ต.ค
 ------- เกาะเปิดในช่วงเดือน พ.ย - เม.ย

 

เรียบเรียงโดย ชิลไปไหน

Tags: ที่เที่ยวพม่า ทะเลพม่า เกาะนาวโอพี เกาะสอง

เขียนโดย

Admin Chillpainai

แชร์บทความนี้