ตะลุย Ocean Park เดินเล่นย่านมงก๊ก 3 วัน 2 คืนที่ฮ่องกง ไปงงๆแต่ฟินเว่อร์ !

calendar_month 28 ก.พ. 2017 / stylus Admin Chillpainai / visibility 54,062 / ทริปตัวอย่าง

เราเชื่อเสมอว่าการได้ออกเดินทาง ก็เหมือนการได้เปิดประตูสู่อะไรใหม่ๆ ได้ออกไปเที่ยวสถานที่ใหม่ๆ ได้เจอผู้คนใหม่ๆ ต่อให้เป็นเมืองเศรษฐกิจที่ได้รับสมญานามป่าคอนกรีตอย่าง “ฮ่องกง” ซึ่งใครต่อใครเคยบอกว่าไม่มีอะไรน่าเที่ยวก็เถอะ ดังนั้น ตอนที่เราได้รับคำเชิญชวน (แบบงงๆ) ว่าจะให้ไปท่องฮ่องกง จึงรีบตอบตกลงไปแบบไม่มีคำว่าลังเล ก็แหม…โอกาสมาถึงขนาดนี้ แอบมั่นใจว่าทริปนี้ต้องมีอะไรดีงามรออยู่ที่ปลายทางแน่นอน อย่างน้อย ถ้าจะไม่ได้อะไรกลับมา ก็ถือว่าได้พักผ่อนเป็นรางวัลให้ตัวเองล่ะน้า…ว่าแล้วก็ไปเลยค่าาาา ฮ่องกง Go go go !!!

รวมตัวชาวแก๊งค์เตรียมเหินฟ้าสู่ฮ่องกงกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เช็คอินโหลดกระเป๋าจนเรียบร้อย ก็ได้เวลาหอบร่างไปเดินเล่นหาอะไรรองท้องเบาๆในช่วงที่กำลังรอขึ้นเครื่อง โดยทริปนี้เราจะออกเดินทางจากกรุงเทพประมาณ 10.30 และจะเดินทางถึงสนามบินนานาชาติฮ่องกงในเวลา 14.20 น.ค่ะ คำนวณคณิตคิดในใจ เป็นอันว่านอนหลับกันได้ยาวปายยย

ตื่นมาทานมื้อเช้า งีบต่อได้อีกนิดหน่อย เสียงตามสายของกัปตันผู้พาเราบินข้ามน้ำข้ามทะเลก็ประกาศแจ้งให้ทราบว่าเตรียมแลนด์ดิ้งลงสู่ประเทศฮ่องกงแล้วจ้า สภาพอากาศวันนี้อยู่ที่ 17 องศา เย็นสบายกำลังดี ขนของขึ้นบัสที่มารอรับเพื่อมุ่งหน้าสู่โรงแรมอีกราวๆ 1 ชั่วโมง ระหว่างนี้ก็ขอตื่นตาตื่นใจ เก็บบรรยากาศ ถ่ายรูปสองข้างทางเป็นการฆ่าเวลาไปก่อน

จากถนนใหญ่สายหลักผ่านทั้งตึกสูงนับร้อย สะพานข้ามแม่น้ำ ลอดอุโมงค์ ตลอดจนท่าเรือสินค้าก็มีให้เห็น ลัดเลาะเข้าซอยเล็กลงเรื่อยๆ ไม่นานป้ายโรงแรม Ovolo Southside ที่พักสุดเท่ของเราตลอด 2 คืนนี้ก็ปรากฎสู่สายตาเป็นอันว่ามาถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ

โรงแรม Ovolo Southside ปรับโฉมจากโกดังเก่าสู่ดีไซน์ทันสมัย จนได้กลายมาเป็นโรงแรมยอดนิยมที่เหมาะสำหรับทั้งชาวฮ่องกงและนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความสงบแต่ก็ไม่ห่างไกลจากตัวเมือง ไฮไลท์ของที่นี่ต้องยกให้รู้ฟท้อปบาร์บนชั้นดาดฟ้า ที่ในตอนกลางวันเราจะสามารถมองเห็นสวนสนุกโอเชียนปาร์คและวิวเคเบิ้ลคาร์ได้ไกลแบบสุดลูกหูลูกตา

แต่พอตกกลางคืนปุ้บ ภาพตรงหน้าก็จะเปลี่ยนไปเป็นวิวสวยๆของแสงไฟให้ได้นั่งจิบค็อกเทลเคล้าลมหนาว โอ้ย บรรยากาศดีอย่าบอกใคร นอกจากนี้ยังตั้งอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าใต้ดิน MTR สถานีหว่อง จุ๊ก ฮั้ง (Wong Chuk Hang) และเซเว่นอีเลฟเว่นด้วยค่ะ

มาดูห้องพักของเราบ้างดีกว่า บรรยากาศรวมแล้วคล้ายกับคอนโดเลยค่ะ ตกแต่งด้วยโทนสีดำดูเขร่งขรึม ด้านในแบ่งออกเป็นสัดส่วนทั้งโซนห้องนั่งเล่น และห้องนอน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ทีวี ตู้เย็น ไดร์เป่าผม อ้อ ! เกือบลืมบอกไปว่า ปลั๊กของที่นี่เค้าใช้แบบสามหัวนะคะ ต้องอย่าลืมพกตัวแปลงไฟมาเชียว ส่วนกำลังไฟฟ้าใช้ 220V เท่ากับประเทศไทยเราเลยค่ะ

ในส่วนของโรงแรม Ovolo Southside ต่อให้ใครเดินทางมาเองจากสนามบินก็หายห่วง เพราะที่ฮ่องกงเดินทางได้สะดวกสบายสุดๆ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการเหล่านี้ได้เลย

MTR (Mass Transit Railway) Fee: MTR 10 HKD
Airport Express 100 HKD
รถบัสธรรมดา(นั่งต่อมาเอง) Metro And Bus
Fee: Bus 4.7 HKD.
หรือแท็กซี่ Taxi Service
Fee: 300 - 400 HKD Travel Time: 45 นาที

ค่ำแล้ว ท้องอิ่ม แต่เรี่ยวแรงยังเหลือเฟือก็อย่ารอช้า เวลานี้ต้องเบิร์น เบบี้เบิร์น ออกไปเดินเล่นเป็นการเบิร์นไขมันที่ย่าน Time Square ฮ่องกงกับเราสิจ๊ะ…

สำหรับย่านไทม์สแควร์ฮ่องกงที่เรากำลังเดินเตร็ดเตร่อยู่นี้ มีทั้งร้านอาหารสตรีทฟู้ด ร้านค้าแบรนด์เนมยี่ห้อดัง รวมถึงร้านเครื่องสำอางค์ให้เลือกช้อปกันเยอะมากตลอดทุกซอกทุกมุมเลยค่ะ อาทิ H&M Forever 21 Uniqlo บางร้านนี่ติดป้ายเซลล์ 50% เด่นหราเลยทีเดียว สาวฮ่องกงเค้าเลยเข้าร้านนู้น ออกร้านนี้ เดินหิ้วกันมาคนละถุงสองถุง ส่วนเราน่ะเหรอ คืนนี้ขอแค่ได้เดินเก็บบรรยากาศและคนหล่อๆก็พอ อิอิ

早晨 โจ๋ว สั่น ! แปลว่า สวัสดียามเช้า วันนี้เราตื่นเช้ามาด้วยความสดชื่นสบายตัวบวกกับมีฝนตกลงมาปรอยๆ เลยทำให้อากาศหนาวเป็นพิเศษ ก่อนจะลงมาทานมื้อเช้าของโรงแรมให้อิ่มท้องเต็มที่ เพราะวันนี้เรามีแพลนไปตะลุยสวนสนุก เล่นเครื่องเล่นกันที่ Ocean Park ค่าาา หากจะพูดว่าฮ่องกงดิสนีย์แลนด์เป็นสวนสนุกแบบน่ารักกุ๊กกิ๊กสำหรับเด็กและคนรักการ์ตูนดิสนีย์ Ocean Park ก็เหมาะสำหรับสายรักความหวาดเสียวท้าทายที่ไม่ควรพลาดอย่างแรง

แค่ก้าวแรกที่เข้ามาใน Ocean Park ก็เหมือนได้นั่งไทม์แมชชีนของโดเรม่อนย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กอีกครั้งจริงๆนะ ไม่ว่าจะเดินไปมุมไหนก็มีแต่อะไรน่ารัก น่าตื่นตาตื่นใจเต็มไปหมด นักท่องเที่ยวและชาวฮ่องกงเองก็นิยมมาเที่ยวเยอะมากด้วย ซึ่งในปีนี้ทาง Ocean Park เองก็กำลังจะมีอายุครบ 40 ปีค่ะ หากใครมาก็จะได้เจอบรรยากาศคึกคักสุดๆ ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ พร้อมการตกแต่งและสิทธิพิเศษอีกเพียบ

ราคาบัตร :
- ผู้ใหญ่ 12 ปีขึ้นไป 438 HKD (1,971บาท)
- เด็ก 3 - 11 ปี 219 HKD (986บาท)

วิธีเดินทาง :
เดินทางโดย MTR เพียง 4 นาทีจากสถานี Admiralty ถึงสถานี Ocean Park

เรามาเริ่มต้นสำรวจกันที่โซนสัตว์เป็นโซนแรก ไล่ไปเรื่อยตั้งแต่ The Grand Aquarium อควาเรียมขนาดยักษ์ที่ขึ้นชื่อว่าใหญ่ที่สุดในโลก ! ภายในเต็มไปด้วยปลาหลายสายพันธุ์มากถึง 42 ชนิดด้วยกัน ใหญ่โตอลังการสวยงามสมราคา

ก่อนจะแวะมาทักทายเจ้าอ้วนแพนด้า ที่พอเห็นนักท่องเที่ยวก็รีบมาเดินโชว์ตัว นั่งกินต้นไผ่อวดอย่างไว ไม่ไกลกันเป็นเจ้าแพนด้าแดงตัวจ้อยนอนหลับอุตุอวดโฉมอย่างสบายใจ แต่สงสัยพวกเราจะแอบถ่ายรูปนางเยอะไป พี่แกเลยม้วนตัวเอาหน้าซ่อนแอบไปซะงั้น โถ่

จากแพนด้าแวะไปเดินถ่ายรูปชิคๆคูลๆที่ย่านเมืองเก่า โอลด์ทาวน์กันต่อ ถนน รวมถึงร้านค้านี่เรียกว่าเหมือนยกฮ่องกงสมัยก่อนมาไว้ที่นี่แบบไม่มีผิดเพี้ยน ใครเป็นสายถ่ายรูปได้ลั่นชัตเตอร์เพลินแน่นอน ส่วนคนถูกถ่ายก็เพลินไม่ต่างกันเลยจ้า เพื่อนสาวเรานี่แอ็คท่าอย่างกับนางเอกฮ่องกงมาเองเลยทีเดียว

แต่ที่เรียกความสนใจจากทุกคนได้ ต้องเป็นโชว์การแสดงจากสิงโตทะเลซึ่งแต่ละตัวได้รับการฝึกมาอย่างดี เพราะเจ้าอุ๋งเหล่านี้ฉลาดมาก ! มีโชว์สาธิตการแปรงฟัน ให้อาหาร กระโดดน้ำ หรือแม้แต่เล่นเกมทักทายก็ทำได้

หลังจากเดินดูความน่ารัก น่าเอ็นดูของน้องทั้งหลายไปแล้ว คราวนี้ล่ะได้ฤกษ์ให้เราไปมันส์กันแบบจริงจังสักที ซึ่งโซนสวนสนุกเป้าหมายถัดไปของเรานี้ตั้งอยู่บนเขาค่ะ การจะขึ้นไปได้นั้นต้องนั่งเคเบิลคาร์ หรือรถไฟโอเชียนเอ็กซ์เพลสที่เจาะทะลุภูเขาขึ้นไป ด้านบนก็จะมีเครื่องเล่นสำหรับคนรักความหวาดเสียวท้าทายเยอะแยะมากมายให้เลือก

จัดไปอย่าให้เสียกับรถไฟเหาะที่เสียวที่สุดในฮ่องกง ตีลังกากันให้ได้ใจหายใจคว่ำกันสักสามสี่รอบ ตามมาติดๆด้วยไวกิ้ง ชิงช้าสวิง ทิ้งดรอปที่ทั้งสูงและเสียว เรียกว่าดรอปลงมาด้านล่างทีใจนี่หล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม รวมถึงหอคอยชมวิวที่หมุนได้รอบ 360 องศา และอื่นๆอีกมากมาย ถ้าใครอยากจะรู้ว่ามันส์แค่ไหน ต้องลองมาเล่นแล้วถามใจเธอดู๊ววว แต่ถ้าถามเราน่ะเหรอบอกได้คำเดียวว่ามันส์สุดยอด ให้เล่นอีกสักสิบรอบก็ยังไหว !!!

พักหายใจหายคอ ไปเดินย่อยชมความน่ารักกับเจ้าโลมาแสนรู้ที่เราสามารถเข้าไปสัมผัสใกล้ชิดกับโลมาได้แบบตัวเป็นๆ ที่นี่ทุกคนจะได้เรียนรู้ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับโลมา รวมถึงยังได้สวมบทบาทเป็นครูฝึกโลมาได้ด้วยนะ ! เป่านกหวีดก็มาหา ให้หมุนตัวก็หมุน พอเราทำท่าคอนดัคเตอร์เจ้าโลมาก็จะร้องเพลงเป็นทำนอง แต่ที่พิเศษไปกว่านั้นคือ นักท่องเที่ยวสามารถแอ็คท่าถ่ายรูปกับเจ้าโลมาได้อย่างเอ็กซ์คลูซีฟด้วยค่ะ เพราะแบบนี้แหละเลยทำเอาสาวๆที่มาด้วยกรี๊ดกร๊าดกันหนักมาก อยากได้กลับมาเลี้ยงที่บ้านกันทั่วหน้า

สนุกเพลินจนลืมดูนาฬิกา เผลอแว้บเดียวใกล้จะหมดวันอีกแล้ว

แม้วันนี้จะเดินใน Ocean Park ไปมาเป็นระยะทางกว่า 12 กิโลเมตรกว่าๆ แต่ค่ำคืนสุดท้ายที่อยู่ในฮ่องกงเราก็จะไม่พลาดการออกไปเที่ยว ว่าแล้วกระโดดขึ้นแท็กซี่มุ่งสู่ย่านมงก๊กให้ไว ซึ่งการขึ้นแท็กซี่นี่แหละที่นับว่าเป็นเรื่องพีคของทริปนี้เลย เพราะ-เรา-โดน-แท็ก-ซี่-โกง-จ้า เสียตังกันไปหลายบาทด้วยความขี้เกียจหลังจากเดินมาทั้งวัน ทั้งที่จริงแล้ว ถ้าขึ้น MTR ไม่กี่ป้ายก็ถึง ฮาาา

แต่เนื่องจากได้ข่าวมาว่าเด็ดกว่าไทม์สแควร์ฮ่องกง เลยต้องยอมอดทนวิ่งสู้ฟัดเพื่อมาหามงก๊กให้ได้ สำหรับย่านช้อปปิ้งสตรีทขวัญใจนักท่องเที่ยวทั้งหลาย ไม่ว่าคุณจะเป็นสายเครื่องสำอางค์ แฟชั่น รองเท้าผ้าใบ สนีคเกอร์ หรือร้านขายของกิน ของฝาก เค้าก็มีให้เลือกจนตาลายค่ะคู๊ณณ

ไล่ตั้งแต่ Nike Adidas Converse Puma Vans Reebok New Balance ที่มีอยู่แถบทุกหัวมุมถนน เดินไปตรงไหนก็เจอ หรือจะเสื้อผ้าแฟชั่นที่บางร้านราคาถูกมากแบบเหลือเชื่อ แค่ 50 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณสองร้อยกว่าบาทเท่านั้น โอ้โห....เราเดินซ่อกแซ่กไปซอยนั้นซอยนี้ที กระเป๋าเงินนี่สั่นไหวหนักมาก ถ้าไม่ตั้งสติให้มั่น กุมกระเป๋าเงินให้แน่น มีล้มละลายเสียหายหลายแสนกันแน่นอน

ระหว่างเดินดูบ้านเมืองของเค้าไป ก็นึกถึงประโยคที่มีคนเคยกล่าวเอาไว้ว่า ' ฮ่องกงเป็นเมืองหว่องๆ ' ไปด้วย อืมม.... ใช่มาก มงก๊กนี่ให้อารมณ์เหมือนหนังของผู้กำกับอินดี้อย่างหว่องกาไว ที่เราเพิ่งเข้าใจและเข้าถึงก็ตอนมาเดินเล่นที่นี่เนี่ยแหละ สัมผัสได้ถึงความเป็นฮ่องกงแท้ๆแบบในหนังที่เราเคยดู บรรยากาศดราม่าปนหม่นหมอง อบอวลไปด้วยควันบุหรี่ และภาพสีเฟดคล้ายหนังฟิล์ม แต่ใช่ว่าจะอึมครึมซะทีเดียว เพราะเมื่อรวมกับแสงไฟโทนสีส้มอมเหลือง ใบปลิว แผ่นป้ายโฆษณาภาษาจีน ก็ดูจะเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น และแสนมีเสน่ห์ของย่านนี้ไปซะแล้ว

สุดท้ายเราก็ได้รองเท้ากันมาคนละคู่สองคู่ เสื้อผ้า รวมถึงขนมอีกนับไม่ถ้วนตามธรรมเนียมว่าจะต้องไม่กลับบ้านมือเปล่า เป็นอันปิดจ็อบกับทริปฮ่องกงแบบที่ทุกคนเอ่ยปากว่าฟินไปตามๆกัน รวมระยะทางที่เดินไปจนขาลากในวันนี้ 14 กิโลเมตรถ้วน ! และเพื่อป้องกันการโดนแท็กซี่โกงซ้ำสอง ขากลับเลยขอพึ่งพา MTR นั่งชิลๆไม่กี่สถานี คิดเป็นเงินไทยตกคนละ 50 กว่าบาท เดินต่ออีกประมาณ 100 เมตร ก็ถึงที่พักที่รักของเราให้ได้กลับไปนอนฝันดีล้าววว

วันนี้เราตื่นสาย นอนสบายเพราะมีฝนตกเหมือนเดิม เพิ่มเติมคืออากาศหนาวมาก ! ลองคว้าไอโฟนขึ้นมาดู ถึงกับต้องเอามือทาบอก ขุ่นพระ 10 องศาเองจ้า ขอกลับไปม้วนตัวในผ้าห่มอีกสักสองตลบก่อนลุกขึ้นไปอาบน้ำ เตรียมทานข้าวเช้าสักหน่อยเถอะ แล้วค่อยแพ็คกระเป๋าไปด้วยใจห่อเหี่ยว ยังไม่อยากกลับเลยอะ แต่ดันหมดเวลาสนุกแล้วสิ เฮ้อออ 3 วัน 2 คืนมันช่างไวจัง แต่ไม่เป็นไร ไว้เราจะกลับมาเจอกันใหม่นะ ฮ่องกง !