0
0
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

TIME TO ESCAPE หนีความวุ่นวาย ไปนอนสบายที่กุยบุรี

calendar_month 26 ธ.ค. 2016 / stylus Admin Chillpainai / visibility 149,018 / สถานที่ยอดนิยม

 


 ยะฮู้ !!~ ทำงานเสร็จแล้ว อยากสูดอากาศหายใจเข้าไปให้เต็มปอดเลย แต่ติดตรงที่ยืนอยู่บน BTS ยามเย็น ที่ผู้โดยสารแน่นขนัด ยังไม่อยากตายเพราะหายใจตอนนี้ ..
 ว่างงานแบบนี้ต้องไปเที่ยวสินะ ช่วงนี้มีแต่คนไปเที่ยวที่เขียวๆ ต้นไม้เยอะๆ เราขอสวนกระแสบ้างดีกว่า เพราะไม่อยากไปแย่งที่กับใคร ไม่อยากเจอรถติด เลยคิดว่าไปนอนเล่นริมทะเลดีกว่า งานนี้เราขับรถลงใต้ แต่ไม่ถึงภาคใต้นะคะ ไปกันที่ 
อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ค่ะ พักกันที่ X2 ครอสทู จะชิลแค่ไหน จะไปสูดหายใจเอาลมทะเลเต็มปอดขนาดไหน ไปดูกันค่ะ
05


ออกจากกรุงเทพฯ กันตั้งแต่เช้าตรู่ ทริปนี้เราจะไปกัน 3 วัน 2 คืนค่ะ ผู้ร่วมทริปมีทั้งหมด 2 คนค่ะ สาวล้วน ว่างงานตรงกันแค่สองคน พวกเราขับรถกันไปใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง แวะปั้ม ซื้อขนมไป 2 ครั้งค่ะ เราไม่ได้ใช้เส้นทางหัวหิน เลยไม่ได้แวะ เที่ยวที่ไหนเลย เดินทางมุ่งตรงไปยังรีสอร์ทอย่างเดียว จุดสังเกตทางเข้า X2 คือ วัดทุ่งมะเม่าค่ะ
 ผ่านสถานีรถไฟทุ่งมะเม่าไป ที่รีสอร์ทมีที่จอดรถให้เพียงพอนะคะ 
เข้าที่พักเช็คอิน เรียบร้อย เราก็ไปเดินเล่นชมทะเล ถ่ายรูปเล่นกับรีสอร์ทกัน



 ที่พักติดทะเล เดินลงไปเดินเล่นได้เลยนะ บรรยากาศกำลังดี ไม่ร้อนมาก



 ห้องพักเป็นแบบพูลวิลล่า มีสระว่ายน้ำส่วนตัว เตียงนอนก็นุ่มสบาย แถมห้องน้ำยังกว้างสุดๆ มีฝักบัวอาบน้ำแยกเป็นสองฝั่ง ทั้งแบบ Indoor และ Outdoor



 ตกเย็นเรารับประทานอาหารเย็นกันที่ที่พักเลยค่ะ ที่ห้องอาหาร 4K ห้องอาหารเป็นแบบเปิดโล่งรับลมเย็น มีที่นั่งตากลมเก๋ๆด้วยล่ะ
 จัดเต็มกันเต็มที่กับมื้อเย็นอสนอร่อย ก่อนจะเข้านอน เติมพลังสำหรับพรุ่งนี้ค่ะ





 ตื่นเช้าไปปั่นจักรยานใกล้ๆกับรีสอร์ท ที่นั่นมีสถานีรถไฟเล็กๆ ชื่อทุ่งมะเม่า ด้านหลังมีภูเขาสีเขียวซ้อนๆกัน บรรยากาศเหมือนประเทศญี่ปุ่นเลย




 ปั่นจักรยานเล่นกันเสร็จแล้ว เราก็ไปรับประทานอาหารเช้า มื้อเช้าจะหมดเวลาตอน 10.30 น. นะคะ

 จัดการอาหารมื้อเช้าเสร็จ เราก็เตรียมตัวออกไปเที่ยวกันที่วัดเขาน้อย
 ที่วัดมีพระนอนองค์ใหญ่อยู่ในถ้ำด้วยค่ะ

 ต้องขึ้นบันไดไป 280 ขั้น ลงอีก 12 ขั้น


 ระหว่างทางขึ้นไป จะเห็นวิวสวยๆแบบนี้

 ในที่สุดเราก็มาถึงปากทางเข้าถ้ำกันแล้วค่ะ ภายในถ้ำจะมีพระนอนโบราณองค์ใหญ่ แล้วถ้าเดินลึกเข้าไปอีกจะพบ...

 นอกจากนี้ยังมีโบสถ์ไม้สักหลังใหญ่ ถือเป็น Unseen อีกอย่างของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เลยค่ะ



 จากนั้นพวกเราขับรถกันไปเรี่อยๆ ผ่านอ่าวน้อย อ่าวประจวบ อ่าวมะนาว แวะลงถ่ายรูปบ้าง เปิดกระจกรถรับลมบ้าง สนุกดีค่ะ




 ถึงเวลานี้ท้องเริ่มประท้วง ด้วยเสียง จ๊อก จ๊อก พวกเราเลยพากันไปทานอาหารที่คลองวาฬ ชื่อ ”ร้านครัวดาว” อาหารอร่อย แซ่บถึงพริกถึงขิง แถมยังบรรยากาศดี ติดริมทะเลด้วยค่ะ



 จากนั้นก็เดินทางกลับที่พักกันค่ะ แต่ก่อนหน้านี้เราเจอสะพานสีแดงๆ ยาวๆ น่าไปเดินเล่นรับลม คิดว่าจะแวะถ่ายรูปกันแต่ว่า ตอนนั้นท้องมันหิว เลยมาแวะตอนนี้ 
สะพานชื่อสะพานสราญวิถี



 นอกจากนี้ยังเจอพี่ๆชาวประมงซื้อขายปลา ปลาหมึกด้วย ขอกระซิบบอกเลยว่าราคาถูกมากค่ะ


 ถึงที่พักพวกก็พักผ่อน นั่งเล่นชิลๆ ที่สระน้ำ ริมทะเลของที่พัก ก่อนจะไปทานมื้อเย็นกันค่ะ มื้อเย็นวันเสาร์จะเป็นปิ้งย่าง ซีฟู้ด มีเพลงเพราะให้ฟังตอนทานด้วยค่ะ แบบนี้จะมีแต่วันเสาร์ ใครที่ไม่ได้พักก็ทานได้นะคะ เป็นบุพเฟ่ต์ คนละ 1,000 บาท


 อิ่มแล้วได้เวลา หนังท้องตึงหน้งตาหย่อน ไปพักผ่อนกันได้แล้วค่ะ


 วันนี้เรานอนพักผ่อนไม่ได้ตื่นเช้ากันค่ะ แต่ก็ตื่นทันอาหารเช้า มีทั้งอาหารเช้าแบบไทยและแบบอเมริกัน เลือกทานได้ตามใจชอบเลย

 และไปเช็คเอ้าท์ตอน 11 โมง ก็ถึงเวลากลับกรุงเทพมหานครแล้วละค่ะ บ๊าย.. บาย...


 ลองดูนะคะเพื่อนๆ บางทีทะเลหน้าฝนก็ดีไม่แพ้หน้าอื่นๆเลย เผลอๆ เราอาจจะชอบทะเลหน้าฝน เหมือนคนที่ใช่ เวลาไหนๆ เราก็ชอบ.
.


 

ถ่ายภาพและเรียบเรียงโดย ชิไปไหน



 

เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai