0
0
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

ไปเที่ยวกาญจน์มั๊ย 3 วัน 2 คืน เที่ยวน้ำตก พักกกกอด

calendar_month 02 ธ.ค. 2016 / stylus Admin Chillpainai / visibility 149,963 / ทริปตัวอย่าง

 

 

ทริป 2 วัน 1 คืน ของขวัญวันเงินเดือนออก!! ไปนอนชิลๆ ริมน้ำ เที่ยวชิคๆ ที่เมืองกาญฯครอสทูกาญจนบุรี,สะพานข้ามแม่น้ำแคว,เที่ยวกาญจนบุรี,ที่พักกาญจนบุรี,ร้านอาหารกาญจนบุรี



 

 

แคว้นโบราณ ด่านเจดีย์ มณีเมืองกาญจน์
สะพานข้ามแม่น้ำแคว แหล่งแร่น้ำตก (เที่ยวยังไงก็ไม่หมดสักที)


วันหยุดนี้ใครที่กำลังหาที่เที่ยวแบบใกล้ชิดธรรมชาติ พักผ่อนในบรรยากาศเงียบๆ ตั้งแคมป์นอนใกล้น้ำใกล้เขา ระยะทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯ แนะนำให้มาเที่ยว “กาญจนบุรี” จังหวัดที่เที่ยวยังไงก็เที่ยวไม่หมดสักที เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายและเรื่องราวตามประวัติศาสตร์ที่น่าค้นหา ทริปนี้เราจะพาไปดูรถไฟและไหว้พระถ้ำกระแซ ชมหมอกกอดเขาโดดน้ำให้ฉ่ำที่บ้านกกกอด และเล่นน้ำตกที่ขึ้นชื่อว่าสวยเป็นอันดับต้นๆ ของเมืองไทย น้ำตกเอราวัณ - น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น จะชิลมากน้อยแค่ไหนตามไปเที่ยวกาญจน์เลยครับ

06


 


Day 1 : เริ่มเดินทางจากกรุงเทพฯ - กาญจนบุรี - ถ้ำกระแซ - บ้านกกกอด

ก่อนเข้าที่พักวันแรกให้แวะที่สถานีรถไฟถ้ำกระแซหรือทางรถไฟสายมรณะ ชมวิวสะพานไม้ทางรถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทย สร้างในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยใช้เวลาสร้างเพียง 17 วัน ในปี พ.ศ. 2486



 
ในอดีตเคยเป็นที่พักของเชลยศึก สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ระมัดระวังกันสักนิดถ้าหากรถไฟวิ่งมาพอดีเพราะด้านข้างเป็นหน้าผาด้านล่างเป็นลำน้ำแควน้อยแถมยังแลกมาด้วยหลายชีวิตของเชลยศึกหลายคนที่สร้างรางรถไฟแห่งนี้ หลังจากรถไฟวิ่งผ่านไปแล้วก็เดินเข้าถ้ำกระแซไปไหว้ทำบุญสักหน่อย 


 
 
ใครอยากจะนั่งขบวนรถไฟสายธนบุรี-น้ำตกนี้ นั่งได้ตั้งแต่กรุงเทพหรือจะไปนั่งที่ตัวเมืองจังหวัดกาญจนบุรี เป็นขบวนรถไฟฟรี ที่ออกเดินทางทุกวันจาก สถานีธนบุรี (ใกล้โรงพยาบาลศิริราช) สิ้นสุดปลายทางที่สถานีน้ำตก อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี โดยเส้นทางรถไฟสายนี้ ถือเป็นการเดินทางตามรอย “เส้นทางรถไฟสายมรณะ” 

ปัจจุบันทางรถไฟสายนี้สุดปลายทางที่สถานีน้ำตก บ้านท่าเสา อำเภอไทรโยค การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดบริการเดินรถบนเส้นทางสายนี้ทุกวัน และจัดรถไฟขบวนพิเศษสายกรุงเทพฯ-น้ำตก ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690 หรือ 0 2621 8701-9 หรือ www.railway.co.th 

จากหลังนั้นเราก็ไปบ้านกกกอดกันต่อ เดินทางต่อกันอีกประมาณ 30 กิโลเมตร ถึงบ้านกกกอด ที่พักริมน้ำบรรยากาศดีสำหรับคนที่ชอบความสงบ

 


 
 

คืนนี้เราจะพักห้องนี้กัน "บ้านชมดาว" ห้องละ 2000 บาท พักได้ 2 ท่าน เตียงเสริมเพิ่ม 300 บาท มีแอร์ น้ำอุ่น ทีวี พร้อม แถมยังมีดาดฟ้าไว้นั่งชิลด้านบนได้ด้วย
รีบเอาของเข้าห้องแล้วเดินไปชมวิวเขื่อนท่าทุ่งนาข้างหลังก่อนเลยดีกว่า ใครจะพายเรือเล่นก็ชิลหรือจะโดดน้ำก็มันส์ วิวสวยอลังการจนแอบคล้ายคล้ายเขาสก

 

 


บรรยากาศตอนเย็น นั่งมองฟ้า นั่งน้ำ ก็ชิลเหมือนกันน๊ะ 


 

สะพานไม้ทอดยาวไปริมเขื่อนและความเงียบสงบคือเอกลักษณ์ของบ้านกกกอด


 

คืนนี้เราฝากท้องกันที่ร้านอาหารครัวคุณลุง ตั้งอยู่หน้าปากซอยทางเข้าที่พัก เป็นร้านริมแม่น้ำที่ลงมาจากเขื่อน เมนูแนะนำคือผัดผักหวาน ไก่ทอดน้ำป่า ปลาเขื่อนทอด ขอบอกว่าอร่อยมากๆ


Day 2 : น้ำตกเอราวัณ - น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น
ตื่นเช้าเดินออกมาจากห้อง ตรงไปที่เขื่อนเพื่อพายเรือชมหมอก ชมเขา ชมวิวเขื่อน นั่งเล่นที่ท่าน้ำ ดูหมอกลอยไปช้าๆ 








 

เสร็จแล้วทานอาหารเช้า เป็นเมนู ABF และข้าวต้มหมู 

 
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ ก็เดินถ่ายรูปเล่นสักพักมีห่านและเป็ดที่เขาเลี้ยงแบบปล่อย จึงทำให้มันชินคุ้นกับคนพอสมควร น่ารักไปอีกแบบ

 

 
ใครที่อยากมีพักบ้านกกกอด ควรจะโทรมาจองก่อน ห้องมีหลายแบบ หลายราคาให้เลือก สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 
โทร. 085 519 1953, 092 580 0058
www.baankokkod.com

เช็คเอ้าท์กันเสร็จเรียบร้อย เป้าหมายต่อไปเราคือ "น้ำตกเอราวัณ" เดินทางขึ้นไปทางเขื่อนท่าทุ่งนาอีก 30 กิโลเมตร ก็จะถึงน้ำตกเอราวัณ ช่วงนี้น้ำกำลังมีแบบพอดีๆ ไม่เยอะมากแต่ก็ถือว่าไม่น้อยมาก พอเล่นน้ำได้
อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ปรับขึ้นค่าเข้าอุทยานตั้งแต่ปี 58 แล้วนะครับเผื่อใครยังไม่รู้
ผู้ใหญ่ 100 บาท
เด็ก 50 บาท
รถจักยานยนต์ 20 บาท
รถยนต์ 4 ล้อ 30 บาท
น้ำตกเอราวัณมีทั้งหมด 7 ชั้น เดินขึ้นไปเกือบๆ 2 กิโลเมตร กว่าจะถึงชั้น 7
ทางมีชันบ้าง ลื่นบ้าง ใครที่เดินไม่ไหวแนะนำให้เดินถึงแค่ชั้น 2 ก็พอครับ เพราะชั้น 2 ก็ถือว่าสวยสุดๆ แล้ว


เดินเข้ามาสักพักก็จะเจอชั้นแรกก่อน ชั้นที่ 1 "ไหลคืนรัง" ชั้นนี้เหมาะกับการถ่ายรูปมากกว่า น้ำยังไม่ค่อยลึก
 
ชั้นที่ 2  "วังมัจฉา" ชั้นนี้ถือเป็นไฮไลท์ของน้ำตกเอราวัณเลย เพราะทั้งสวยทั้งน่าเล่น คนอาจจะเยอะกว่าชั้นอื่นๆ ด้วย สาวๆ คงจะชอบเพราะฝรั่งเต็มไปหมด แนะนำถ้าจะเล่นชั้นนี้ก็ว่ายน้ำเข้าไปในม่านน้ำตกเลย แต่ถ้าหากช่วงน้ำเยอะคงต้องระมัดระวังอาจจะว่ายเข้าไปไม่ได้




ชั้นที่ 3 "ผาน้ำตก" ชั้นนี้คนไม่เยอะ เพราะส่วนใหญ่มาถ่ายรูปเฉยๆ ชั้นนี้มีปลาเล็กๆ คอยตอดเท้า กินพวกขี้ไคลตามผิวเราด้วย

 
 
ชั้นที่ 4 "อกนางผีเสื้อ"  นั่นแหละครับตามภาพ มีก้อนหิน 2 ลูก คล้ายหน้าอกผู้หญิงจึงเป็นที่มาของชื่อชั้นนี้และก็มีนักท่องเที่ยวชื่นชอบมาเล่นน้ำกันชั้นนี้เยอะด้วย

 
ชั้นที่ 5 "เบื่อไม่ลง" ม่านน้ำตกที่ไหลลงมาเอื่อยๆ จนทำให้เราอยากนั่งเล่นนานๆ 


 

ชั้นที่ 6 "ดงพฤกษา" ชั้นนี้นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายรูปแล้วก็เดินขึ้นไปต่อ เพราะถ้าหากช่วงไหนที่น้ำไม่ค่อยมี ชั้นนี้ก็จะดูไม่ค่อยสวย เพราะมองไม่ค่อยเห็นม่านน้ำตก

มาถึงสักทีชั้นสุดท้าย "ภูผาเอราวัณ" กว่าจะเดินมาถึง ทางลำบากพอสมควรเกือบลื่น ชั้นนี้ก็ถือว่านักท่องเที่ยวเยอะนะครับ เพราะหลายคนก็อยากขึ้นมาพิชิตด้านบนและเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง แต่เพราะช่วงนี้น้ำน้อย จึงไม่ค่อยเห็นม่านน้ำตกจากหน้าผาแบบเต็มๆ แต่ก็ถือว่าดีไปอีกแบบที่ทำให้เราเดินขึ้นไปบนชั้นน้ำตกได้ จะนั่งจะนอนเล่นน้ำตกก็ชิล เพราะถ้าหากน้ำมีเยอะจะทำแบบนี้ไม่ได้

ใครที่ได้เดินทางมายังน้ำตกเอราวัณแห่งนี้แล้วคงประทับใจกับความสวยงามและความสมบูรณ์ของธรรมชาติที่นี่ ขนาดน้ำมีไม่เยอะมากยังสวยขนาดนี้เลย ถ้าเป็นช่วงปลายฝนจริงๆ คงจะสวยกว่านี้มาก น้ำก็น่าเล่น ปลาก็ว่ายไปมา เหมาะที่จะมาพักผ่อนที่สุด มีลานกางเต็นท์อีกด้วย ใครอยากให้มีน้ำตกสวยๆ แบบนี้อยู่ในบ้านเราไปอีกนานๆ ก็ช่วยกันรักษาความสะอาดกันด้วยนะครับ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ โทร. 034-574222 , 034-574288

เอาละเล่นน้ำก็ฉ่ำใจแล้วก็ออกมาทานข้าวด้านหน้าอุทยาน มีไก่ย่างส้มตำอร่อยๆ หลายเจ้ารอเราอยู่
จากนั้นคืนนี้เราจะไปตั้งแคมป์กันที่น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์

เดินทางกันต่ออีก 45 กิโลเมตร ลัดเลาะไปตามสันเขื่อนศรีนครินทร์ ขับไปชมวิวเขื่อนไปแปปเดียวก็ถึง ทางอุทยานก็เก็บค่าเข้าเท่ากับน้ำตกเอราวัณ


พอมาถึงก็จะเจอกับชั้นนี้เลยไม่ต้องเดินไกล ชั้นที่ 4 "ฉัตรแก้ว" ซึ่งเป็นชั้นที่สวยที่สุดของน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นเลยก็ว่าได้ เราก็ตั้งแคมป์กันลานสนามหญ้าเรียบๆ พร้อมวิวเขื่อนแบบนี้เลยวัยรุ่น ส่วนใครอยากนอนบ้านพักก็ติดต่อกับทางอุทยานไว้ก่อนนะครับ โดยเฉพาะช่วงเสาร์ - อาทิตย์


ลืมบอกไปร้านอาหารในตัวอุทยานน้ำตก อาจจะเปิดเร็วสักหน่อย ควรจะจัดเตรียมเสบียงกันให้พร้อมก่อนขึ้นมานะครับ

Day 3 : น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น - กาญจนบุรี - กรุงเทพฯ
เช้าแล้ววววววว ไปนอนแช่น้ำตกกันเถอะ ยิ่งตื่นเช้าคนยิ่งน้อย รีบเดินไปถ่ายรูปให้เสร็จแล้วเล่นน้ำกันดีกว่า น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นมีทั้งหมด 7 ชั้น ชั้นที่ 1-4 เดินลงข้างล่าง ชั้นที่ 5-7 เดินวนไปด้านบน เพราะจุดที่เรากางเต็นท์อยู่คือชั้น 4 "ฉัตรแก้ว"



ไม่ต้องกลัวเหงา เพราะมีเจ้าพวกนี้เดินลงตามไปถ่ายรูปด้วย เดินมาลงสักพักก็เจอกับชั้น 3 "วังหน้าผา" ใหญ่อลังการน้ำไหลเต็มหน้าผา 



ต่อมาชั้นที่ 2 "ม่านขมิ้น" น้ำไหลลงมาหลายม่าน เป็นชั้นๆ สวยมากๆ แถมชั้นนี้ยังเป็นจุดเล่นน้ำด้วย อยากกลับลงไปแช่น้ำนานๆ 



 
ชั้นที่ 1 "ดงว่าน" สามารถมองเห็นน้ำตกจากชั้นที่ 1 ไกลชึ้นไปเป็นชั้นๆ สำหรับใครที่ชอบเล่นน้ำ แนะนำให้เล่นชั้น 2 จะดีที่สุด มีไหลและหินเป็นแอ่งๆ ไม่อันตราย จากนั้นก็ขึ้นมาทานอาหาร อาบน้ำ เตรียมตัวกลับบ้าน อาจจะแวะซื้อของฝากเมืองกาญจน์สักหน่อยจบทริปแบบชิลๆ




น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น มีลานกางเต็นท์ ห้องน้ำ ร้านอาหาร เต็นท์เช่าพร้อมเครื่องนอนอุทยาน บ้านพักอุทยาน
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์

โทร. 082 290 2466 จองบ้านพัก โทร. 02 562 0760

หวังว่าทริปนี้คงเป็นทริปตัวอย่างให้กับใครหลายคนที่อยากมาพักผ่อนในวันหยุด เน้นอยู่กับธรรมชาติ ภูเขา เขื่อน น้ำตก ปล่อยชีวิตให้ไหลไปตามน้ำบ้างเผื่อมันจะกลับมาสดชื่นอีกครั้ง ขอให้สนุกกับการเดินทางครับ

การเดินทาง

เริ่มจากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางถนนบรมราชชนนีตรงจนถึงนครปฐม เข้าสู่เส้นถนน 323 เลี้ยวขวาตรงแยกแสงชูโต เข้าสู่จังหวัดกาญจนบุรี ถึงวัดบ้านทอง (ท่าล้อ) เลี้ยวขวาเลี่ยงเมืองไปถึงสี่แยกแก่งเสี้ยน ตรงไปทางอำเภอไทรโยค - ทองผาภูมิ(หมายเลข 323) เลี้ยวซ้ายก่อนถึงมหาวิทยาลัยมหิดลวิทยาเขตกาญจนบุรีเพื่อไปสถานีรถไฟถ้ำกระแซก่อน จากนั้นกลับขึ้นมาเส้นทางเดิม เลี้ยวซ้ายไปวิ่งตรงไปทางไทรโยคบนถนน 323 ต่ออีกประมาณ 10 กิโลเมตร เจอแยกทับศิลาและป้อมตำรวจเลี้ยวขวาเข้าถนน 3457 ไปทาง อ.ศรีสวัสดิ์ ตรงไปอย่างเดียวเจอร้านอาหารคุณลุงก่อนข้ามสะพาน ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปบ้านกกกอด รวมระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร จากบ้านกกกอด เดินทางไปน้ำตกเอราวัณอีก 30 กิโลเมตร เส้นถนน 3199 ตกไปทาง อ.ศรีสวัสดิ์ จากน้ำตกเอราวัณขึ้นไปทางสันเขื่อน ไปเพื่อน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นอีก 45 กิโลเมตร


 

12
ชิไปไหน
















 

 

เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai