5 ร้านนั่งชิล 5 สไตล์ สำหรับคนรักเสียงเพลง

calendar_month 17 ต.ค. 2016 / stylus นางสาวฮานะ ชิลไปไหน / visibility 110,861 / รีวิวที่กิน

(อาหารอร่อย) + (บรรยากาศดี) + (ดนตรีเพราะ) = ความชิล

สมการคลาสสิกที่หลายคนใช้ในการเลือกร้านกินดื่ม ยิ่งถ้าใครชอบร้านแนว "นั่งนาน" ด้วยแล้ว เรื่องของดนตรี เสียงเพลง ยิ่งเป็นตัวแปรสำคัญ บางคนจริงจังถึงขั้นเจาะจงแนวดนตรี ยุคสมัย หรือศิลปินในดวงใจ เราเลยตั้งใจไว้นานแล้วว่า วันหนึ่งจะรวมร้านกินดื่มที่กล่าวขานกันว่าเปิดเพลงดี มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มาฝากกัน

เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ Panasonic ได้เปิดตัวลำโพงแบบ All in One รุ่น Urban Audio SC-UA7 และส่งมาให้ ชิลไปไหน ลองฟัง ลำโพงตัวนี้ออกแบบด้วยดีไซน์ที่เรียบง่าย แต่ดูหรูหรา ทันสมัย บรรจุลำโพงไว้ทั้งหมด 10 ตัว จัดวางตำแหน่งที่กระจายเสียงออกไปด้านหน้า 180 องศา ทำให้ได้ยินทั่วทั้งห้อง ให้สัดส่วนเสียงสูงและเบสที่ฟังสบาย

มีช่องเสียบที่รองรับการเชื่อมต่อหลายรูปแบบทั้ง USB เปิดเพลงที่เก็บไว้ในแฟลชไดร์ฟได้เลย, ช่องรับสัญญาณเข้า(AUX) ได้ทั้งแบบแจ็ค 3.5 mm. และแบบ RCA แยกสัญญาณเสียงซ้าย-ขวา, ที่เสียบเสาอากาศวิทยุ และช่องเสียบไมค์อีก 2 ช่อง ใช้ร้องคาราโอเกะได้สบายๆ

นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนด้วยสัญญาณ Bluetooth ได้อีกด้วย

เราก็เลยเกิดไอเดียว่า ไหนๆก็ได้ลำโพงมาแล้ว น่าจะหาเพื่อนพูดคุยเรื่องดนตรีกันสักหน่อย จึงเลือก 5 ร้านสำหรับคนรักเสียงเพลงที่เจ้าของร้านมีความชอบในเสียงดนตรี และยกลำโพงตัวนี้ไปให้เจ้าของร้านลองฟัง พร้อมๆ กันกับเราเลย มา...มาดูกัน

TUBA Design Furniture & Restaurant

เรามากันที่ร้านแรกทูบาฯเอกมัย ใครเป็นนักสะสม นิยมของเก่า และเป็นคอเพลง Oldies ต้องรู้จักร้านนี้แน่นอน ทูบาฯคือร้านขายเฟอร์นิเจอร์สไตล์เรโทร นำเข้าจากประเทศแถบสแกนดิเวเนียเป็นหลัก และเปิดเป็นร้านอาหารอิตาเลียน-ไทย การันตีคุณภาพด้วยอายุของร้านที่เปิดมานานกว่า 10 ปีในย่านเอกมัย-ทองหล่อ

สไตล์ดนตรีที่ทูบาฯเปิด จะเป็นเพลง Oldies ในยุค 50s - 60s - 70s ซึ่งแนวเพลงในยุคนั้นจะเป็น Rock 'n Roll , Funk และ Disco ยิ่งทำให้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งในร้านดูกลับมามีชีวิตอีกครั้ง และกำลังพาเราย้อนกลับไปสู่อดีตอย่างมีมนตร์เสน่ห์

เดินชมบรรยากาศร้านสักพัก เราก็ชวนพี่โจ้ผู้จัดการร้าน มาดูลำโพง Panasonic SC-UA7 ที่เรายกมา พี่โจ้บอกว่าเป็นลำโพงที่กระทัดรัด ใช้งานง่าย ถ้าใช้งานในบ้านหรือคอนโด มีตัวเดียวก็อยู่เลย และน่าสนใจตรงที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้

ลักษณะของร้านทูบาฯมีความคล้ายบ้าน คือกั้นแบ่งเป็นห้องๆ มีเฟอร์นิเจอร์เป็นมุมๆ เราลองเอาลำโพงไปตั้งตามมุมต่างๆ ของร้าน และจินตนาการว่าถ้าเอาลำโพงนี้ไปใช้งานในบ้านคนจริงๆ จะสามารถกระจายเสียงได้ครอบคลุมไหมนะ ปรากฏว่าจะตั้งมุมไหนก็สามารถได้ยินเสียงจากลำโพงตัวนี้ได้ทั่วถึง

หลังจากลองฟังเสียงจาก Panasonic SC-UA7 กันหลายๆมุมแล้ว พี่โจ้ก็ชวนทานอาหาร และบอกว่ามาทูบาฯห้ามพลาดเมนูซิกเนเจอร์อย่าง Pizza Seafood Squid Ink พิซซ่าซีฟู้ดหมึกดำ มีพริกสดเพิ่มความจัดจ้านให้กับเมนูนี้อย่างลงตัว ใครชอบทานพิซซ่าแป้งบาง ต้องยกนิ้วให้ เพราะมันอร่อยมาก คอนเฟิร์ม

ตามมาด้วยเมนูสลัดซิกเนเจอร์อย่าง Grand Salad TUBA สลัดสูตรลับของทางร้าน ผักออร์แกนิคสดทานคู่กับน้ำสลัดสูตรเด็ด

และเมนู น่องแกะตุ๋น เสิร์ฟคู่กับเส้นพาสต้า เนื้อแกะของที่นี่ตุ๋นข้ามคืน นุ่มมาก ได้รสสัมผัสของความเป็นเนื้อแกะแบบอร่อยฟินทุกคำ ใครชอบทานเนื้อแกะ เป็นอีกหนึ่งเมนูห้ามพลาดเลยค่ะ

นอกจากอาหารอร่อยแล้ว ค็อกเทลที่นี่ก็เด็ดไม่แพ้กัน อย่างเมนู Tsunami และ Fullmoon TUBA ที่พี่เจ้าของร้านกระซิบบอกว่าใครมาต้องสั่ง อยากรู้จะฟินแค่ไหน ต้องมาลองแล้วล่ะ

เมื่ออาหารพร้อมแล้ว เราก็เลือกโต๊ะที่ชิลที่สุดในร้าน พร้อมกับตั้งลำโพง Panasonic SC-UA7 ไว้ในมุมที่พร้อมจะเสริมบรรยากาศให้อาหารมื้อนี้สุนทรียิ่งขึ้น ฟินเลย...

ร้าน TUBA

ที่ตั้ง : 34 ซอยเอกมัย 21 (แจ่มจันทร์) สุขุมวิท 63 แขวงคลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ

เบอร์โทร : 02-711-5500

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 11:00 - 02:00 น. (ครัวเปิด 12:00 น.)

TREAT Cafe & Hangout

จากแนว Oldies เราลองเปลี่ยนมู้ดมาเป็นแนว Britpop กันบ้าง ที่ร้าน TREAT Cafe & Hangout คาเฟ่เก๋ไก๋ย่านเสนานิคม ที่ดัดแปลงบ้านเก่ามาทำเป็นร้าน เปิดประตูเข้ามาก็จะได้ยินเสียงเพลงจังหวะฟังสบายที่เลือกโดยเจ้าของร้านซึ่งชอบฟังเพลง และให้ความสำคัญกับการเลือกเครื่องเสียงและลำโพง เพื่อให้ลูกค้าได้ฟังเพลงที่ดีที่สุดระหว่างทานอาหาร

ร้านนี้ตกแต่งสไตล์ Casual House แบ่งเป็น 2 โซน คือโซนอินดอร์ในตัวบ้าน และโซนในสวน การตกแต่งใช้คอนเซ็ปต์ 3 สี คือสีขาวจากตัวร้าน สีเขียวจากสวน และสีดำจากไอเทมของตกแต่ง

สำหรับโซนในสวนจัดเป็นสวนสไตล์อังกฤษ มีกลาสเฮ้าส์แบบไพรเวตที่สามารถจองมาปาร์ตี้ และประชุมกลุ่มย่อยๆ ได้

นอกจากนี้ยังมีมุมพิเศษคือบ้านต้นไม้ที่เป็นเรือนกระจกใส เห็นแล้วน่าปีนบันไดขึ้นไปนั่งชิลๆ บนเบาะบีนแบ้ก

หลังจากเดินดูรอบๆแล้ว เราเลือกนั่งในโซนอินดอร์ ซึ่งทาผนังสีขาวทั้งร้าน แซมกับสีเอิร์ธโทนของงานไม้ ทำให้ร้านดูโดดเด่นราวกับว่าอยู่ในสตูดิโอของศิลปินยุโรปเท่ๆ จนคิดว่าถ้าลองวางลำโพง Panasonic SC-UA7 ไว้ห้องนี้ คงจะเท่สุดๆ

จริงด้วย... มันดูเท่และลงตัวกับสไตล์ของร้าน ยิ่งพอเชื่อมต่อลำโพงกับสมาร์ทโฟนแล้วเสิร์ชหาเพลง Pop มาเปิดด้วยแล้ว ยิ่งทำให้บรรยากาศของห้องนี้สดใสและมีชีวิตชีวา

เอาล่ะ..เพลงพร้อม บรรยากาศพร้อม คนก็พร้อม สั่งเมนูเด็ดๆ มาลองชิมกันเลยดีกว่า ซึ่งวันนี้ทางร้านนำเสนอ สปาเก็ตตี้คาโบนาล่า เสิร์ฟมาพร้อมไข่ออนเซ็น

ต่อด้วย Egg Benedict เมนูอาหารเช้าสุดอร่อยที่เสิร์ฟมาพร้อมผักสลัด

และ Buffalo Wings ปีกไก่ทอดซอสรสเผ็ดนิดๆ

ส่วนของหวานวันนี้คือ บานอฟฟี่ พาย เมนูซิกเนเจอร์สุดอร่อยของร้าน หวาน มัน กำลังดี

และปิดท้ายด้วย Victoria Mocha เครื่องดื่มของคนรักกาแฟ ที่ใช้มอคค่าร้อนเสิร์ฟมาพร้อมไอศกรีมวานิลลา ตัดขมด้วยโซดาที่เสิร์ฟมาให้เราได้ดื่มปิดท้ายหลังดื่มกาแฟ

เพลงเพราะๆ กับอาหารอร่อยๆ บอกเลยว่าอยากนั่งต่อแบบนี้...ไปทั้งวัน

TREAT Cafe & Hangout

ที่ตั้ง : 563/1 ซอย พหลโยธิน 32 แขวง เสนานิคม เขต จตุจักร กรุงเทพมหานคร
เบอร์โทร : 093 264 9292

เวลาเปิด-ปิด : 11.30-23.00 น.

REC. Vinyl Records and Café

อีกหนึ่งร้านสำหรับคนรักเสียงดนตรี ร้านนี้มีจุดเริ่มต้นจากเป็นร้านขายแผ่นเสียง จนกลายมาเป็นร้านคาเฟ่ๆ เก๋ๆ ของคนรักเสียงเพลง ณ ห้าแยกลาดพร้าว เจ้าของร้านนี้คือคุณปอและคุณจิ๊ก หนุ่มสาวที่รักในการฟังเพลง จากแผ่นไวนิล

ท่ามกลางยุคดนตรีดิจิตัลที่การฟังเพลงเป็นเหมือนการทานอาหารฟาสท์ฟู้ด แต่เจ้าของร้านเลือกที่จะหยิบแผ่นเสียง สำรวจรอยฝุ่นที่ติดอยู่บนแผ่น วางแผ่นเสียงลง บนเครื่องเล่นแผ่นเสียง แล้วค่อยๆ ให้เข็มเคลื่อนผ่านแผ่นเสียงส่งผ่านมาเป็นบทเพลงเพราะๆ

ต้วร้านแบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นโซนคาเฟ่ ตกแต่งสไตล์กึ่งลอฟต์กึ่งอินดัสเทรียล เน้นใช้งานไม้โชว์เทกเจอร์แบบดิบๆ เพิ่มความสดชื่นด้วยสีเขียวของบรรดาต้นไม้ และเฟิร์นที่ตกแต่งภายในร้าน

ส่วนชั้น 2 เป็นโซนจำหน่ายแผ่นเสียง และมีโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งจิบกาแฟ ใครอยากมาเลือกชมแผ่นเสียงหรือขอคำแนะนำเกียวกับการฟังเพลงทางคุณปอและคุณจิ๊กก็ยินดีให้คำแนะนำ ในส่วนแนวเพลงของร้านนี้จะเป็นการผสมผสานความชอบของคุณจิ๊กที่ชอบแนวเพลง อินดี้ ป๊อบ ร็อค และคุณปอที่ชอบแนวโซล แจ๊ส และบลูส์ เลยทำให้คนฟังเพลงอย่างเราได้ฟังเพลงดีๆ เพราะๆ จากทั่วโลกที่ทั้งสองได้คัดเลือกมาเปิดในร้านด้วย

จังหวะลูกค้าในร้านบางตา เราชวนคุณปอขึ้นมาลองฟังเพลงจากลำโพง Panasonic SC-UA7 ดูบ้าง ซึ่งคุณปอก็บอกว่าลำโพงตัวนี้มีพลังเสียงและรัศมีการได้ยินที่ถือว่ากว้าง สามารถใช้งานกึ่งๆ เอ้าท์ดอร์ อย่างเช่นการออกบูธได้สบายๆ เลย

ฟังเพลงชั้นบนกันสักพัก ก็ได้เวลาที่คุณจิ๊กเตรียมเมนูแนะนำมาให้เราลองชิม สำหรับเมนูที่คุณจิ๊กทำมาให้ชิมคือ ยำทูน่า รสชาติจัดจ้าน ทานกับผักสดกรอบอร่อย ส่วนเครื่องดื่มแนะนำเป็น บลูเลม่อนอิตาเลี่ยนโซดา เครื่องดื่มสีฟ้าหวานเย็นชื่นใจ และ ไอซ์ม็อคค่า ม็อคค่าเย้นรสชาติเข้มข้น

ได้เวลาชิมแล้ว!!! พวกเราก็เลยยกลำโพงลงมาตั้งเปิดเพลงชั้นล่างดูบ้าง การออกแบบของลำโพงทำให้เสียงสามารถกระจายได้ทั่วทั้งร้านสบายๆ งานนี้ฟินไปอีก...

REC. Vinyl Records and Café

ที่ตั้ง : MRT พหลโยธินทางออกที่ 2
เบอร์โทร : 085 366 9116

เวลาเปิด-ปิด : อังคาร - พฤหัสบดี เปิดเวลา 15.00-24.00น. / ศุกร์-อาทิตย์ เปิดเวลา 13.00-24.00 น.

High Thyme cafe

ขยับมาใจกลางเมืองกันบ้างกับ High Thyme Cafe ในโครงการ I'm Park ซอยจุฬาฯ22 คาเฟ่สุดเก๋ตกแต่งสไตล์ Rustic Luxury ดิบแต่ยังหรู ผสมผสานระหว่างความดิบเท่จากโต๊ะไม้ยาวที่ไม่ได้ผ่านการเคลือบสีใดๆ กับความหรูหราจากโซฟาที่นั่งสบาย

เติมความอบอุ่นไปด้วยแสงไฟสีเหลือง และสวนแคคตัสในโหลแก้วลอยฟ้า ที่ช่วยทำให้ร้านดูมีเสน่ห์มากขึ้นไปอีก

แถมร้านนี้เค้ายังชิคสุดๆ กับคอนเซ็ปต์ห้องทดลองวิทยาศาสตร์ ให้ลูกค้าได้ทดลองครีเอทเมนูใหม่ๆ จนบางเมนูก็กลายเป็นเมนูประจำของทางร้านไปเลย

ส่วนเรื่องเสียงเพลงและดนตรี ร้านนี้มีความพิเศษตรงที่ลูกค้าสามารถขอเปิดเพลงเองจากเครื่องเสียงที่ทางร้านเตรียมไว้ให้อีกด้วย ใครอยากฟังเพลงแนวไหน สไตล์ไหน จัดไปเลย

เราเลยลองหามุมดีๆ จัดวางลำโพง Panasonic SC-UA7 และลองเปิดเพลงกล่อมลูกค้าซะหน่อย ซึ่งดีไซน์เรียบหรูของลำโพงทำให้วางมุมไหนก็ลงตัว กลมกลืนกับทุกสไตล์การตกแต่ง

มาถึงเรื่องอาหาร วันนี้เราขอลองเมนูแนะนำจากทางร้านอย่าง Dried Chilli Bacon Spaghetti สปาเกตตี้ผัดพริกแห้งใส่เบคอน ความหอมและเผ็ดจากพริกแห้งเข้ากันได้ดีกับเบคอนกรอบและเส้นสปาเก็ตตี้เหนียวนุ่ม

ส่วนเครื่องดื่ม เมนูแรกขอบอกว่าเซอร์ไพรส์สุดๆ กับ Black Hole Glaze กาแฟน้ำผึ้งมะนาวโซดา หนึ่งในเมนูที่มาจากการรีเควสของลูกค้า นำมาปรับสูตรจนลงตัวและกลายเป็นเมนูประจำของทางร้าน ยังไม่หมดเท่านั้นไปลองเมนูหวานอมเปรี้ยวกับ Green Peace Soda ใครชอบเมล่อนห้ามพลาด
อ้อ...ถ้าจะมาร้านนี้เตรียมเพลงโปรดมาด้วยล่ะ

ร้าน High Thyme

ที่ตั้ง : ชั้น 3 I'm Park จุฬา ซอยจุฬาฯ 22 สามย่าน กรุงเทพฯ

เบอร์โทร : 02-214-4221

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 11:00 - 0.00 น.

Soul Bar

ปิดท้ายกันด้วยร้านแฮงค์เอาท์สุดชิล ย่านตลาดน้อย ที่ใครชอบแนวเพลง Soul ต้องมาเช็คอินฟังดนตรีสดฟินๆ ด้วยบรรยากาศเป็นกันเองของเจ้าของร้าน ทำให้ร้านดูอบอุ่น น่านั่ง น่ามาย้อนวันวาน พูดคุยเรื่องดนตรีกับคนที่ชอบอะไรเหมือนๆกัน

ร้านตกแต่งเป็นสไตล์อินดัสเทรียลในมู้ดโทนเท่ๆ ลดความดุดันของงานเหล็กผสมผสานด้วยงานไม้ จากเฟอร์นิเจอร์ที่ตกแต่งภายในร้าน มีโปสเตอร์นักร้องดังในยุคเพลง Soul เพิ่มความวินเทจ เหมือนได้มานั่งอยู่ในร้านสตรีทของเมืองนอกเลย

เรามาถึงร้านก่อนเวลาที่วงดนตรีสดจะขึ้นเล่น เลยมีเวลาได้พูดคุยกับเจ้าของร้านและอวดโฉมลำโพง Panasonic SC-UA7 เป็นการทักทาย

เจ้าของร้านบอกว่าเป็นลำโพง All In One ที่กระทัดรัดดี ลงตัวกับการใช้งานในบ้านหรือคอนโด รองรับอุปกรณ์เชื่อมต่อภายนอกได้หลายอย่าง เหมาะสำหรับคนชอบฟังเพลงในบ้าน มีตัวนี้ตัวเดียว จบเลย

ระหว่างที่เราลองเปิดเพลงด้วย Panasonic SC-UA7 จนดังกระหึ่มร้าน เจ้าของร้านมาดเท่ก็กำลังผสมเครื่องดื่มให้เรา แหม...ลีลาเขย่าช่างเข้ากับจังหวะเพลง

แนะนำเมนูค็อกเทลสูตรเฉพาะมีที่ Soul Bar เท่านั้นอย่าง Let get nuts หอมหวานเได้สัมผัสรสชาติที่แปลกใหม่ มีกลิ่นละมุนของเฮเซลนัทในทุกอึกที่ดื่ม

เอาใจคุณผู้หญิงเป็นพิเศษกับเมนู Stevie ค็อกเทลเฉาก๊วย สูตรเด็ดของทางร้าน หวาน หอม ได้เทกเจอร์ของเนื้อเฉาก๊วยหนึบๆ แปลกแต่เข้ากันดีสุดๆ หลงรักเลย ฟินมาก เพลงเด็ด เครื่องดื่มดี รับรองคืนนี้ อีกยาวจ้า...

ร้าน Soul Bar

ที่ตั้ง : 945 ถนนเจริญกรุง เขตสัมพันธวงศ์ ตลาดน้อย กรุงเทพฯ

เบอร์โทร : 093-220-0441

เวลาเปิด-ปิด : พุธ-เสาร์ 18:00 - 01:00 น. (ดนตรีสดเริ่ม 21:00 น.)

ถ้าสมการ (อาหารอร่อย) + (บรรยากาศดี) + (ดนตรีเพราะ) = ความชิล หมายความว่าถ้าเราสามารถทำให้ 3 สิ่งนี้ให้เกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะที่ไหน เมื่อไหร่ ความชิลก็เกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา แม้แต่บ้านของคุณเอง..จริงมั้ย

แต่ถ้าจะให้เพอร์เฟคขึ้นไปอีก ลองเติม +(คนรู้ใจ) ในสมการสิ แล้วเพลงไหนๆ ก็จะเพราะไปหมดเลย...^^