0
0
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

ที่เที่ยวแม่ฮ่องสอน : 10 จุดเช็คอินแม่ฮ่องสอน ไปพักผ่อนใช้ชีวิตช้าๆ

calendar_month 06 ก.ค. 2016 / stylus Admin Chillpainai / visibility 33,826 / สถานที่ยอดนิยม


แม่ฮ่องสอนเป็นเมืองเล็กๆน่ารัก ที่ได้ไปพักผ่อนทีไรก็หายเหนื่อยทุกที
สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่เพิ่งจะไปเยือนเมืองสามหมอกแห่งนี้เป็นครั้งแรก
แล้วยังไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหนดี งั้นลองมาดู 10 จุดเช็คอินแม่ฮ่องสอน ไว้เป็นแนวทางกันดีกว่า....


08
 

วัดพระธาตุดอยกองมู

       เริ่มต้นจุดเช็คอินแรกกันที่นี่เลยค่ะ วัดพระธาตุดอยกองมู หรือชื่อเดิมว่า วัดปลายดอนบนดอยกองมูในอ.เมือง คำว่ากองมูในภาษไทใหญ่ แปลว่า พระเจดีย์ ลักษณะเป็นพระธาตุสีขาวล้วนองค์ใหญ่ ภายในประกอบด้วยพระธาตุเจดีย์ 2 องค์ โดยเจดีย์องค์ใหญ่ เป็นที่บรรจุพระธาตุของพระโมคคัลลานะเถระ ซึ่งนำมาจากพม่าส่วนพระธาตุองค์เล็กสร้างโดยพระยาสิงหนาทราชา เจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนคนแรก ชาวบ้านจึงนับถือเป็นพระธาตุคู่เมืองแม่ฮ่องสอนตลอดมา




ปางอุ๋ง

       ใครมาเที่ยวแม่ฮ่องสอนแล้วไม่แวะมาเช็คอินที่ปางอุ๋ง คงเหมือนมาไม่ถึงแม่ฮ่องสอน เพราะที่นี่มีมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมาย รอให้บรรดาตากล้องและนางแบบทั้งหลาย มาถ่ายภาพเป็นที่ระลึก โดยเฉพาะไฮไลท์อย่างทะเลสาบในช่วงหน้าหนาวที่จะมีสายหมอกลอยอ้อยอิ่งยามเช้า หรือใครอยากสัมผัสบรรยากาศปางอุ๋งแบบเข้าถึง จะนอนพักในเกสต์เฮาส์ริมทะเลสาบ หรือกางเต๊นท์ใต้ทิวต้นสนสักคืนก็กำลังดี ใกล้ๆกันยังมีหมู่บ้านรวมไทยให้ศึกษาวิถีชาวไทยภูเขาที่มีเสน่ห์แบบดั้งเดิมอีกด้วย
 




สะพานไม้ซูตองเป้

       สะพานไม้พาดผ่านทุ่งนาสีเขียวชอุ่มคือ ภาพคุ้นตาของสะพานซูตองเป้ สะพานไม้ไผ่ที่ยาวที่สุดในเมืองไทย สะพานซูตองเป้มีความหมายว่า ความสำเร็จ สร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธาของพระเณร และชาวบ้าน วัสดุที่ใช้จึงเป็นวัสดุที่หาได้ในท้องถิ่น ปูพื้นด้วยไม้ไผ่เพื่อให้พระภิกษุสามเณรได้ออกบิณฑบาต ยิ่งได้เห็นตอนเช้าที่ชาวบ้านมายืนรอตักบาตร เป็นภาพที่น่าประทับใจมากๆ สมกับสมญานามว่า "ซูตองเป้ เป็นสะพานไม้แห่งศรัทธา" จริงๆ


 

ลีไวน์รักไทย

       พูดได้เลยว่าที่นี่อาจจะเป็นจุดเช็คอินที่ฮอตฮิตที่สุดของแม่ฮ่องสอนในเวลานี้ไปแล้ว สำหรับลีไวน์รักไทย รีสอร์ท ที่พักสไตล์จีนยูนนานในอดีตที่สร้างบ้านด้วยดินและฟางอยู่ท่ามกลางไร่ชาพันธุ์ดี ตอนเช้าตื่นมาคุณจะได้เห็นวิวทะเลสาบถูกปกคลุมไปด้วยสายหมอกลอยอ้อยอิ่งอยู่เหนือนำ้ บรรยากาศสวยงามไม่แพ้เมืองจีน โฮมสเตย์แต่ละหลังสร้างลดหลั่นกันลงมาตามไหล่เขา พร้อมกิจกรรมการเก็บชาให้คุณได้เพลินเพลินตลอดการเข้าพัก ไหนจะร้านอาหาร ร้านกาแฟริมทะเลสาบ ไว้ให้คุณจิบชาพักผ่อนชิลๆ หรือจะชวนกันถ่ายรูปท่ามกลางบรรยากาศสุดคูลก็หรูเริ่ดไม่เบา


 

ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาบ้านจ่าโบ่

       ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา จ่าโบ่ ณ อำเภอปางมะผ้า อีกหนึ่งจุดชมวิวสวยๆจากระเบียงที่เรียกได้ว่าอิ่มท้องและอิ่มตาในเวลาเดียวกันกับวิวสวยๆแบบพาโนรามา ที่มีเบื้องหน้าเป็นทะเลหมอกและขุนเขาอันกว้างใหญ่สลับซับซ้อนเรียงรายกันหลายต่อหลายลูก ไฮไลท์นอกจากก๋วยเตี๋ยวที่ต้องนั่งห้อยขาแล้วก็คือ จุดชมวิวบ้านจ่าโบ่ซึ่งอยู่ถัดจากร้านก๋วยเตี๋ยวไปไม่ไกล ลักษณะเป็นระเบียงไม้ ยื่นออกไปจากหน้าผา ถ้าใครอยากรู้ว่าเสียวแค่ไหน ต้องไปลองยืนถ่ายรูป เช็คอินด้วยตัวเองแล้วล่ะ
 

 

ก่อนตะวันจะลับแนวเหลี่ยมภูผา 

       มาเมืองภูเขาทั้งที ต้องไม่พลาดร้านกาแฟวิวดีอย่างก่อนตะวันจะลับแนวเหลี่ยมภูผาเลยค่ะ ก่อนตะวันจะลับแนวเหลี่ยมภูผาเป็นร้านกาแฟตั้งใกล้กับวัดพระธาตุดอยกองมู เพียงแค่ได้ยินชื่อร้านรับรองว่าใครๆ ก็ต้องสะดุดหู นอกจากจะตั้งได้ยาวแล้วยังตั้งได้เห็นภาพของร้านได้ดีทีเดียว สำหรับร้านนี้จะเป็นร้านกาแฟเล็กๆ ที่มีระเบียงยื่นออกไปด้านนอกภูเขา จากจุดนี้เองจะสามารถชมวิวภูเขาได้แบบสุดลูกหูลูกตา ส่วนภายในร้านก็จะมีกาแฟทั้งร้อน และเย็นให้เลือกอร่อยหลายเมนู นอกจากนี้ยังมีของที่ระลึก กระจุกกระจิกให้ซื้อติดมือกลับไปฝากคนที่บ้านอีกด้วย
 
ก่อนตะวันจะลับแนวเหลี่ยมภูผา - แม่ฮ่องสอน
 

จุดชมทะเลหมอกหยุนไหล

       ใครอยากสัมผัสหมอกแบบใกล้ชิด ต้องมุ่งตรงมาที่จุดชมทะเลหมอกหยุนไหลเลยจ้า สำหรับคำว่าหยุนไหลนั้นในภาษาจีนกลาง หมายถึงแหล่งที่เมฆไหลมารวมกัน ซึ่งเปรียบเสมือนคนจีนยูนานที่อพยพมาจากเมืองจีน แต่ในที่สุดก็อพยพย้ายถิ่นฐานมารวมกัน หยุนไหลอยู่บนทำเลที่สามารถมองเห็นทรรศนียภาพของอ.ปายได้อย่างกว้างขวางและงดงามที่สุด สามารถนั่งจิบชาและของว่างร้อนๆไปพร้อมๆกับการรอดูพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่ไหลไปตามสันเขาปกคลุมบ้านเรือนและเรือกสวนไร่นาด้านล่าง โดยเสียค่าเข้าชมคนละ 20 บาท

หยุนไหล จ.แม่ฮ่องสอน
 

สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย

      ขอมาเดินข้ามสะพานประวัติศาสตร์ท่าปายสักหน่อย เพราะถ้ามาปายแล้วไม่ได้เดินข้ามสะพานนี้ เดี๋ยวคนอื่นเค้าหาว่าจะมาไม่ถึง เพราะที่นี่ถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองปายกันเลยทีเดียว ทั้งสวยและคลาสสิคตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เหล็กทุกท่อน ไม้ทุกแผ่นจึงเต็มไปด้วยกลิ่นไอความคลาสสิคและเรื่องราวมากมายจนอดใจไม่ไหวต้องโพสท์ท่าชิคๆ เอาไว้อัพรูปอวดเพื่อนให้อิจฉาเล่นว่ามาถึงปายแล้วนะรู้ยัง ?
 

 

ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ

       แม้จะไม่ได้มีให้เห็นกันตลอดเวลา แต่ถ้าถึงฤดูกาลเบ่งบานเมื่อไหร่เป็นต้องห้ามพลาดมาเช็คอินที่นี่เชียวล่ะกับทุ่งดอกบัวตองบนดอยแม่อูคอ อำเภอขุนยวม ที่ในช่วงเดือน พฤศจิกายน - ธันวาคมจะเบ่งบานชูช่อไปทั่วพื้นที่มากกว่า 500 ไร่บนความสูงกว่า 1,600 เมตรนับเป็นทุ่งดอกบัวตองที่ใหญ่และสวยที่สุดในประเทศไทย ทั้งยังสามารถกางเต็นท์พักแรมรับลมหนาวและชมความสวยงามตามธรรมชาติของทุ่งดอกบัวตองได้อย่างใกล้ชิด บอกได้คำเดียวว่าฟินสุดๆ
 

 

ถ้ำน้ำลอด

       สถานที่เช็คอินแห่งสุดท้ายที่ไม่ควรพลาด และยังเป็นหนึ่งในอันซีนเมืองไทยอยู่ที่ถ้ำน้ำลอด เมืองสามหมอกของเรานี่เองค่ะ ถ้ำน้ำลอดถือเป็นแหล่งโบราณคดีสำคัญอยู่ในความดูแลของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ากลุ่มแม่น้ำปาย มีลำห้วยชื่อน้ำลางไหลผ่านภูเขาทะลุไปอีกด้านหนึ่ง ระยะทางประมาณ 1  กิโลเมตร มีหินงอกหินย้อยสวยงาม และยังพบเครื่องมือเครื่องใช้โบราณภายในถ้ำ นักท่องเที่ยวจะต้องเข้าไปในถ้ำกับไกด์ ซึ่งต้องนั่งแพ ถือตะเกียงลอดเข้าไปชมหินงอกหินย้อยในถ้ำอีกที เป็นบรรยากาศที่สวยแปลกตาไปอีกแบบ เปิดบริการทุกวันเวลา 08.00 - 16.00 น ค่าไกด์นำเที่ยวรวมค่าแพ 550 บาท นั่งได้ 4 คน
 

 

เรียบเรียงโดยชิลไปไหน

 

เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai