calendar_month 21 มิ.ย. 2016 / stylus Admin Chillpainai / visibility 1,084,229 / สถานที่ยอดนิยม
ใครที่อดใจรอวันหยุดยาวไม่ไหว วันนี้ชิลไปไหนได้รวบรวมที่เที่ยวพร้อมแผนการเดินทางให้คุณได้ออกเดินทางกันง่ายขึ้น กับ 5 ทริปเที่ยวน่าเที่ยว เมื่อวันหยุดมันน้อยๆมาวางแผนเที่ยวศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ซึ่งแต่ละทริปที่เราได้นวบรวมมาฝากในครั้งนี้มีทั้งเส้นทางใกล้ๆ เที่ยวง่ายๆ และเส้นทางไกลๆ ที่ต้องนั่งหลายชั่วโมงแต่ก็สามารถไปเที่ยวได้ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวกันอยู่ต้องไม่พลาดสกู๊ปนี้... ตามไปเที่ยวพร้อมกันเลย
เกาะล้าน เป็นเกาะสุดฮอต สุดฮิตที่หลายๆ คนเลือกเป็นเมืองท่องเที่ยวในดวงใจ การเดินทางไปเที่ยวเกาะล้านก็แสนสะดวกสบาย สามารถไปได้ทั้งแบบเช้าไป เย็นกลับ แต่ถ้าใครกลัวที่จะเหนื่อยเกินไปก็ปรับเปลี่ยนเป็นทริป 2 วัน 1 คืน นอนพักสักคืนให้หายเหนื่อย โดยวันแรกเราก็ออกกันแต่เช้า ใครที่ไม่มีรถส่วนตัวก็มีรถตู้สามารถมาขึ้นได้ที่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิจะมีรถตู้ไปส่งถึงท่าเรือแหลมบาลีฮาย ใช่เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง
จากนั้นก็หาซื้อตั๋วเรือข้ามฟากไปยังเกาะล้าน และจากเกาะล้านจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที โดยท่าเรือจะไปจอดที่บริเวณท่าหน้าบ้าน ซึ่งในบริเวณนี้จะมีที่พัก ร้านอาหารให้เราเลือกมากมาย
ใครที่เช็คอินแล้วอยากเอนหลังพักผ่อนกันสักแป้บ ตกเย็นค่อยไปเดินเล่นชายหาด ขับมอไซต์รอบเกาะก็สามารถทำได้ตามไลฟ์สไตล์ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะล้านนั้นก็หลายจุด ใครที่อยากนอนเล่น อาบแดดก็มีหาดสวยทรายขาว หรือใครอยากเช็คอินร้านกาแฟ ร้านคาเฟ่ก็มีให้เลือกอีกเช่นกัน ซึ่งคุณสามารถนำมาปรับใช้ได้ตามความชอบว่าอยากกิน เที่ยว นอน
ส่วนวันที่สองก็ตื่นเช้าสักหน่อย มาชมพระอาทิตย์ยามเช้า เดินเล่นออกกำลังกายกันเบาๆ หรือจะตื่นมากินเบรคฟาสต์ในที่พัก พอช่วงสายๆ ได้เวลาเช็คเอ้าท์ก็เดินทางนั่งเรือกลับฝั่ง เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ หากใครขับรถมาก็ยังสามารถแวะเที่ยวที่ต่างๆ ในช่วงบ่ายๆ เย็นๆ ที่พัทยา บางแสนได้อีกด้วย
เชียงคาน เมืองท่องเที่ยวสุดสโลว์ไลฟ์ ที่ยังคงวัฒนธรรมความเป็นอยู่ที่งดงาม แม้กาลเวลาจะผ่านไปแต่ตึกรามบ้านเรือนริมน้ำโขงที่เชียงคานก็ยังคงความสวยงามและให้ความรู้สึกถึงความเก๋าของอดีตได้ดีทีเดียว และนอกจากความเป็นเมืองสโวล์ไลฟ์แล้วผู้คนที่นี่ก็แสนจิตใจดี ที่พักส่วนใหญ่ในเชียงคานจะเป็นบ้านพักแบบโฮมสเตย์ของคุณลุง คุณป้า คุณตา คุณยาย ใครที่ได้พักบ้านไหนก็เป็นต้องผูกพันธ์กับเจ้าของกับเกือบทั้งนั้น สำหรับการเดินทางจากกรุงเทพฯไปเชียงคาน ทางรถยนต์อาจใช้เวลานาน เพราะต้องนั่งรถกันนาน 9-10 ชั่วโมง ซึ่งทริปนี้เราจะขอแนะนำเป็นการเดินทางโดยรถสาธารณะ
วันแรกเราออกเดินทางใช่วงค่ำของคืนวันศุกร์หลังเลิอกงาน ซึ่งตั๋วที่สามารถหาซื้อได้จะเป็นช่วงสามทุ่ม ซึ่งจะไปถึงเชียงคานประมาณ 7 โมงเช้าของวันรุ่งขึ้น การเดินทางตอนกลางคืนจึงเป็นเปลี่ยนการเแปลี่ยนที่นอนในอีกบรรยากาศหนึ่ง
หลังจากเดินทางมาถึงเชียงคาน เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะจับจองที่พักมาล่วงหน้า แต่ถ้าใครยังไม่มีที่พัก ถนนเส้นเลียบริมโขงจะมีบ้านพักโฮมสเตย์ให้บริการหลายหลัง และหลังจากเก็บสัมภาระกันเรียบร้อยใครอยากจะหาซื้อโปรแกรมนั่งเรือเที่ยวชมวิวแม่น้ำโขง เดินเล่นถ่ายรูปในเมือง ก็สามารถทำได้กันตามความชอบ แต่ตกดึกต้องไม่พลาดมาเดินเล่นที่ถนนคนเดิน ซึ่งในตลาดก็จะของอร่อยๆ ให้ได้กินกันเพียบ จะว่าไปวันนี้จึงเป็นเหมือนวันที่ต้องเก็บเกี่ยวความสุขกันให้เต็มที่ไม่ว่าจะกิน เที่ยว เพราะวันรุ่งขึ้นหลังจากตื่นเช้ามาตักบาตรข้าวเหนียว กินข้าวเช้า ดูพระอาทิตย์ขึ้น คุณอาจจะต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยรถจากเชียงคานกลับกรุงเทพฯ จะมีให้เลือกเป็นช่วงเช้าประมาณ 8.00 น. กับรอบ 18.00,19.00 น. ใครที่อยากถึงกรุงเทพช่วงค่ำๆ ของวันอาทิตย์ก็ต้องจองตั๋วในรอบเช้า แต่ถ้าใครอยากเที่ยวต่ออีกวัน ก็เปลี่ยนไปจองตั๋วรอบเย็นและถึงกรุงเทพฯในช่วงวันจันทร์เช้า
หัวหิน เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สามารถไปได้ทุกเมื่อที่ใจอยาก เมืองนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ที่พักมากมาย และในทริปสั้นสำหรับวันเสาร์ อาทิตย์หลายคนก็สามารถเที่ยวกันได้แบบไม่ต้องเหนื่อยมาก ซึ่งในทริปนี้เราจะเริ่มออกเดินทางกันในวันเสาร์ช่วงเช้า จากกรุงเทพฯ ไปหัวหินใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ใครที่อยากแวะเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวระหว่างทางก็มีกันหลากหลายที่ ทั้งสวนน้ำ ห้าง ร้านคาเฟ่ หรือจะแวะนั่งชายหาดบรรยากาศชิลๆ ก็ได้
และสำหรับที่พักในครั้งนี้เราเลือกเป็นย่านเขาตะเกียบ กับที่พักบรรยากาศสบายๆ ได้อารมณ์การพักผ่อนริมหาด หลังจากเช็คอินเข้าที่พัก ใครอยากจะนอนเล่น นั่งเล่นในที่พักก็สามารถเลือกพักผ่อนกันได้ตามสบาย
หรือถ้าใครอยากขับรถหาร้านอร่อยๆ แวะกินและแวะเช็คอิน ก็ต้องไม่พลาดที่แวะไปในย่านแนบเคหาสน์ ซึ่งในย่านนี้จะมีร้านกิน ดื่มทั้งแบบโซนริมหาดและโซนฝั่งตรงข้าม ใครที่ขับรถมาย่านนี้แล้วเลือกไม่ถูกก็คงต้องหาโอกาสแวะกลับไปเที่ยวหัวหินบ่อยๆ แล้วเปลี่ยนร้านไปทีละร้าน
และนอกจากที่กินจะเยอะแล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ใครชอบเล่นน้ำก็มีทั้งชายหาดให้ได้เล่นน้ำทะเล หรือถ้าใครอยากเพิ่มความสนุกก็มีสวนน้ำหลายแห่งด้วยกันให้คุณได้เพิ่มความสุขในทริปวันหยุดนี้
กาญจนบุรี เมืองนี้ใครๆ ก็อยากมา และยิ่งในช่วงหน้าฝนแบบนี้แล้ว เมืองนี้ก็ยิ่งเขียวสดชุ่มชื่นจนน่าเที่ยว โดยทริปเมืองกาญฯ นั้นสามารถแบ่งออกเป็นทั้งทริปเที่ยวแบบธรรมชาติ เที่ยวแบบเน้นพักผ่อน หรือจะเน้นกิจกรรม หรือใครจะอยากมาเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่นี่ก็มี แต่ในทริปนี้เราจะเที่ยวกันแบบสบายๆ เน้นพักผ่อนให้สมกับวันหยุด
โดยวันแรกเราออกเดินทางกันแต่เช้า มุ่งหน้าสู่อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เพื่อมุ่งหน้าไปยังที่พักของเรา เมื่อไปถึงไทรโยคก็คงหนีไม่พ้นที่พักสไตล์เรือนแพริมน้ำบรรยากาศสุดชิล และสำหรับแพที่พักไทรโยคหลายๆ ที่ก็จะบรรยากาศคล้ายๆ กัน แค่ต้องรีบจอง รีบโทรหาที่พักที่มีห้องว่างให้ตรงวันที่เราอยากเที่ยว
สำหรับที่พักของเราในทริปนี้เป็นไทรโยค วิว หรือ ไทรโยควิวราฟ ที่พักที่นี้จะขายเป็นแพคเก็จ ที่พัก อาหาร 2 มื้อ และกิจกรรมล่องแพ ในราคาคนละ 1200-1700 บาท ทริปนี้เราจึงเน้นทำกิจกรรมและรับประทานอาหารกันในที่พักเป็นหลักสำหรับวันแรกที่เดินทางมาถึง
และในวันที่สองก็ตื่นเช้าสักหน่อยเพื่อมารับประทานอาหารเช้า และเก็บกระเป๋า เตรียมเช็คเอ้าท์ เพื่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ จากที่พัก ซึ่งอ.ไทรโยคนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นน้ำตก ถ้ำ อุทยานฯ สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ หรือถ้าใครเที่ยวจนครบแล้วยังพอมีเวลาเหลือๆ ระหว่างเดินทางกลับกรุงเทพฯ อาจจะแวะหาอาหารอร่อยๆ ในตัวเมืองรับประทาน ซึ่งร้านอาหารในตัวเมืองกาญฯ ก็มีให้เลือกทั้งแบบร้านชมวิวสะพานข้ามแม่น้ำแคว ร้านชิลๆ ริมแม่น้ำกับบรรยากาศห้อยขา หรือจะเป็นร้านชิคๆ สไตล์คูลๆ ก็มีให้เลือกเช็คอินเพียบ
ภูทับเบิก อีกหนึ่งเมืองที่หลายๆ คนวางแผนและเตรียมตัวเที่ยวในช่วงหน้าฝน ไปจนถึงปลายฝนต้นหนาว หรือจะไปเที่ยวช่วงหน้าหนาวก็ได้อีกบรรยากาศ และสำหรับทริปภูทับเบิกในรีวิวนี้ อาจจะเหมาะสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบในการผจญภัย รักและแสวงหาความสุขจากธรรมชาติ โดยวันแรกเราออกเดินทางกันในช่วงดึก เพื่อที่จะได้ไปถึงภูทับเบิกในช่วงเช้าพร้อมชมวิวทะเลหมอก ซึ่งจากรุงเทพฯ ไปภูทับเบิกจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง
หลังจากชมหมอกที่ภูทับเบิกกันจนอิ่มเอมความสุข แนะนำให้เดินทางไปชมความสวยงามของน้ำตกหมันแดง ซึ่งจากภูทับเบิกจะต้องเดินทางต่อไปอีกประมาณ 1 ชั่วโมง หรือหากใครอยากชิลๆ พักผ่อนที่ภูทับเบิกก็สามารถจับจองพื้นที่สำหรับกางเต็นท์กันได้ ซึ่งจะเสียค่าบำรุงสถนานที่คนละ 50 บาท สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในช่วงหน้าฝนไปจนถงหน้าหนาว สามารถเดินชมไร่กะหลำปลี ถ่ายรูปได้เพลิน นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ร้านคาเฟ่ให้คุณได้เช็คอินพร้อมชมวิวสวยๆ ของเมืองนี้ได้อีกด้วย
และนอกจากจุดกางเต็นท์ที่ภูทับเบิกแล้ว ที่นี่ยังมีจุดกลางเต็นท์สวยในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง สำหรับที่นี่ก็จะให้ความรู้สึกที่ต่างออกไปจากที่ภูทับเบิก เพราะบริเวณนี้เป็นทุ่งหญ้าสะวันนา ที่มาสามารถทองเห็นวิวทุ่งหญ้าและวิวทิวทัศน์ของภูเขาได้แบบสุดสายตา
Story by : ชิลไปไหน
Tags: ที่เที่ยววันหยุด ที่เที่ยวเสาร์อาทิตย์ ที่เที่ยววันหยุดน้อย ที่เที่ยวเมืองกาญ ที่เที่ยวเกาะล้าน ที่เที่ยวหัวหิน ที่เที่ยวภูทับเบิก ที่เที่ยวเชียงคาน ที่กินกาญจนบุรี ที่กินหัวหิน ที่กินเกาะล้าน ที่กินเชียงคาน ที่กินภูทับเบิก ที่พักเกาะล้าน ที่พักหัวหิน ที่พักภูทับเบิก ที่พักเชียงคาน ที่พักกาญจนบุรี
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 15 พ.ย. 2024 | 830 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 05 พ.ย. 2024 | 3,964 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 07 พ.ย. 2024 | 2,717 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 15 พ.ย. 2024 | 440 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 01 พ.ย. 2024 | 872 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 08 พ.ย. 2024 | 1,628 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 27 ต.ค. 2024 | 3,002 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่กิน | 15 พ.ย. 2024 | 238 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่กิน | 03 พ.ย. 2024 | 1,035 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 30 ต.ค. 2024 | 1,246 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 06 พ.ย. 2024 | 383 อ่าน