0
0
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

ทริป 2 วัน 1 คืน เวลาเดินช้าที่ภูทับเบิก... หน้าฝนไม่เหงา ไปกอดเขากันมั้ย ?

calendar_month 16 มิ.ย. 2016 / stylus Admin Chillpainai / visibility 256,689 / ทริปตัวอย่าง



 

 

ฝนตก.. ยิ่งนึกถึงทีไรก็ยิ่งชุ่มฉ่่ำ อุ่นในหัวใจ ~ 

หน้าฝนมาเมื่อไหร่เป็นต้องถึงนึกเพลงฤดูที่ฉันเหงา พอๆกับนึกถึงความ สดชื่นเขียวชอุ่มของต้นไม้ใบหญ้าทุกที
 หลายคนบอกไว้ว่าฤดูฝนเป็นฤดูหงาว คือมีทั้งหนาว ทั้งเหงา ปะปนกันไป 
เมื่อก่อนเราก็เคยคิดแบบนั้นค่ะ
 จนได้มาตกหลุมรักการท่องเที
่ยวช่วงกรีนซีซั่นโดยเฉพาะเส้นทางเขาค้อ ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์
 จากความเหงาก็เลยเปลี่ยนมาเ
ป็นความฟินกับอะไรสวยๆงามแทนที่
 หลังจากนั้นเป็นต้นมา หน้าฝนของเราก็เลยไม่เคยเหง
าอีกต่อไป
 เพื่อนๆคนไหนไม่อยากเหงา ก็ตามเราไปฟินกันได้เล้ยยย

03



เราออกเดินทางกันตอนกลางคืน ใช้เวลา 6 ชั่วโมงโดยประมาณค่ะ เรียกว่าไปถึงภูทับเบิกก็เช้าสมกับที่เรารอคอยพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกหนาๆหลังจากสายฝนหอบเอาความชุ่มฉ่ำผ่านไปพอดี ต้องบอกเอาไว้ตรงนี้ก่อนว่า สำหรับใครที่ขับรถไม่คล่องหรือไม่ชำนาญเส้นทาง สามารถค้างคืนได้ที่รีสอร์ทบริเวณด้านล่างของภูทับเบิก แล้วค่อยขับขึ้นมาชมวิวยามเช้าก็ได้ หรือถ้าใครขับรถจนคล่องแล้ว จะขึ้นมากางเต็นท์ตั้งแต่ตอนกลางคืนให้หมอกมาเคาะประตูกันถึงหน้าเต็นท์ก็ได้เช่นกัน



 






 

หลังจากให้ทะเลหมอกโอบกอดจนหนาวสั่น เราต้องไม่พลาดที่นี่เลย ~ ไร่กะหล่ำปลีสวยๆ ไฮไลท์ของภูทับเบิกจ้า ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็ล้วนแต่เห็นกะหล่ำปลีเต็มไปหมดทั่วทั้งหุบเขา ให้เราได้ชมธรรมชาติ และสัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้านที่นี่ได้อย่างใกล้ชิด บรรยากาศนี่สวยงามเหมือนสวรรค์ขนาดย่อมๆเชียวค่ะ 








 

เป้าหมายต่อไปเราแวะไปไหว้พระกันที่แลนมาร์คสำคัญของจังหวัดเพชรบูรณ์อย่างวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว วัดบนยอดเขาที่ถูกรายล้อมด้วยไปภูเขาสูงใหญ่ เรียงสลับซ้อนกันตามทิวเขาเรียงรายรอบศาลาปฏิบัติธรรม และยังเป็นจุดชมวิวชมวิวของอำเภอเขาค้อได้แบบ 360 องศาอีกด้วย






 

กินที่ไหน : พีโน่ ลาเต้แน่นนอนค่ะ เพราะที่นี่เหมือนเป็นร้านกาแฟที่ใครไปแล้วต้องไปถ่ายรูป เช็คอิน จิบกาแฟ ชมวิวสวยๆกันแทบทุกคน จากมุมมองของพีโน่ ลาเต้ สามารถมองเห็นวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วและหมอกจางๆได้ด้วยนะ เรียกว่าเป็นจุดชมวิวหลักล้านกันเลยทีเดียว 











พักที่ไหน : ทริปนี้เราเลือกกางเต็นท์กันที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ฝั่งหน่วยหนองแม่นาค่ะ จุดกางเต็นท์จะอยู่บริเวณด้านหน้าทุ่งหญ้าสะวันนาริมป่าสน เป็นทุ่งกว้าง ก็เลือกทำเลกางเต็นท์และตั้งแคมป์กันได้ตามสบาย เสร็จแล้วสามารถเดินถ่ายรูปเล่นได้เลย เพราะมองเห็นวิวทุ่งสะวันนาแบบพาโนราม่ากว้างๆ สุดสายตา ทุ่งหญ้าเขียวขจี บรรยากาศดีเวอออออร์







 



ลงทุนตื่นเช้ากันสักนิด แล้วกระเตงกันไปต่อที่ศาลาดุสิตา เพื่อชมวิวทะเลหมอกบนยอดหญ้า และบางส่วนที่ปกคลุมยอดเขา เคล้ากาแฟร้อนๆ สบายตาสบายใจ 


 









 

ท้องอิ่มแล้วเราก็นั่งรถกระบะของเจ้าหน้าที่มุ่งหน้าไปยังทุ่งนางพญา ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากอุทยาน 14 กิโลเมตร โดยระหว่างทางจะมีวิวต้นสนสองใบเรียงราย เหมือนทุ่งสะวันนาของต่างประเทศให้ชมกันเพลินๆกันตลอดแนว







กินที่ไหน : ต้องไม่พลาดเส้นทาง Route 12 เส้นทางสายโรแมนติกพิษณุโลก-หล่มสักเลยค่ะ เพราะที่นี่เป็นทั้งจุดพักรถ ร้านขายของที่ระลึก และร้านอาหารให้เลือกอร่อยกันได้อย่างหลากหลาย แต่วันนี้เราเลือกฝากท้องกันไว้ที่ร้าน Eating Out ร้านสเต็กสุดแนว สไตล์วินเทจ ตบท้ายด้วยไอติมบานาน่าชีสนุ่มๆก่อนกลับบ้านเป็นการส่งท้ายทริปนี้ เย้ !










 

เรียบเรียงโดยชิลไปไหน




 

เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai