0
0
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

ทริปฉบับเร่งรัด แบกเป้ขึ้นรถไฟไปบุกถ้ำ ดำน้ำ ตะลุยตรัง 2 วัน 1 คืน

calendar_month 17 พ.ค. 2016 / stylus Admin Chillpainai / visibility 132,291 / ทริปตัวอย่าง





 



เรานั่งรถไฟเย็นวันศุกร์ ขบวนที่ 83 ซึ่งไปถึงตรัง จังหวัดเป้าหมายของเราก็จะเป็นเช้าวันเสาร์พอดี สำหรับใครที่กำลังวางแผนจะนั่งรถไฟชิลๆไปแบบพวกเราจะไปซื้อตั๋วที่สถานีหัวลำโพงเลยก็ได้ แต่ถ้าจะไปตู้นอน แนะนำว่าให้จองล่วงหน้าที่ 1690 สายด่วนการรถไฟก่อนดีกว่าค่ะ พนักงานให้บริการดี น่าประทับใจมากๆ 
 




 

 
หลังจากหลับๆตื่นๆกันมาตลอดทาง ไฟนอลลี่ในที่สุดเราก็ถึงสถานีรถไฟตรังแล้วจ้าาา ~ โดยที่หน้าสถานีรถไฟเนี่ยจะมีโต๊ะขายทัวร์เยอะมากกกกก (ก.ไก่ล้านตัว) เป็นแพ็คเกจทัวร์ดำน้ำ 3 เกาะของจารวีทัวร์ ราคา 700 บาท คำนวณคร่าวๆแล้วมันคุ้มมากก็เลยตัดสินใจซื้อแบบไม่ลังเลเลยค่ะ

เมื่อเพื่อนๆมาตรังสิ่งแรกที่จะเจอคือรถตุ๊กๆหัวกบที่จะพาเราไปทุกที่(ที่มีทาง) แต่ตอนนี้เรายังไม่จำเป็นต้องใช้ อิอิ เพราะที่พักสำหรับทริปนี้อย่างไมตรีเฮ้าส์ ที่พักเปิดใหม่อยู่หน้าสถานีรถไฟเลยจ้า เรียกว่าไม่ต้องเสียเวลาเดินหาหรือหลงทางแน่นอน เพราะเดินแว้บเดียวก็ถึงแล้ว

 
 
ข้อดีของที่นี่คือตั้งอยู่ใกล้แหล่งของกิน และบริการทัวร์ต่างๆ จองแถวนี้ได้เลยจะถูกที่สุด จากที่พักสามารถเดินเที่ยวในตัวเมืองหาร้านอร่อยๆกินได้เยอะเลย ราคาห้องพักก็กำลังดี เรียกว่าถูกใจแบ็คแพคเกอร์ทั้งหลายแน่นอนค่ะเริ่ม 750 บาทเท่านั้นเอง แต่บริการนี่ครบถ้วนมากๆ มีไวฟายด้วยนา ส่วนบนชั้นสองของที่พักเองก็มีหนังสือต่างๆให้อ่านเยอะแยะจนเลือกไม่ถูก แต่นอกเหนือจากเป็นที่พักแล้ว ที่ไมตรีเฮ้าส์ยังมีโปสการ์ดขาย มีบริการเช่าจักรยาน เผื่อคนชอบปั่นออกกำลังกายสำรวจเมืองแบบเพลินๆ
 





มาตรังทั้งที จะพลาดหมูย่างของดีขึ้นชื่อไปได้ยังไง หาอะไรอร่อยเติมพลังกันที่ร้านตรังหมูย่างนี่เลย เมนูอาหารแนะนำของที่นี่มีทั้งหมูย่าง บะหมี่ซี่โครง เครื่องในหมู ขนมปอเปี๊ยะ ติ่มซำหลากหลายชนิด และอีกสารพัดเมนูให้เลือกลิ้มลองกันได้ตามใจชอบ
 
 






 
พอท้องอิ่มเราก็มุ่งหน้าไปเที่ยวถ้ำเลเขากอบก่อนเป็นอันดับแรก ถ้ำเลเขากอบเนี่ยเป็นที่เที่ยวอันซีนสุดขึ้นชื่อไม่แพ้ที่ไหน แต่ระยะทางห่างจากตัวเมืองครึ่งชั่วโมงเท่านั้นเอง ซึ่งการจะเข้าชมด้านในถ้ำได้เพื่อนๆต้องจะนั่งเรือเข้าไป โดยมีไฮไลท์อยู่ที่การนั่งเรือผจญภัยลอดท้องมังกรที่จะต้องนอนเอาตัวแนบไปกับเรือเพื่อล่องชมความงามของถ้ำตลอดความยาว 100 เมตร ซึ่งจุดพีคจะอยู่ตรงช่วงกลางๆ เพราะช่องว่างตรงนี้จะแคบสุดอะไรสุดเฉียดหน้าเราไปแค่ปลายจมูก ตื่นเต้นจนไม่กล้าขยับตัวกันเลยทีเดียว ขนาดทำตัวเล็กที่สุดก็แล้ว ผนังถ้ำนี่ก็ยังแทบจะชนหน้าเอาเลยค่ะ บรื๋ออ ~










 
หลังจากออกจากถ้ำเลเขากอบ เวลาเหลือเรานั่งรถย้อนกลับไปเที่ยวอำเภอกันตังกันต่อค่ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึง หลายๆคนยกให้ที่นี่เป็นสถานีรถไฟที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทยด้วยล่ะ เหมาะสำหรับถ่ายรูป แอคท่าเริ่ดๆกับชาวแก๊งไว้เป็นที่ระลึกสุดๆ 
 



 
 

กลับจากถ้ำเลเขากอบและสถานีรถไฟกันตรัง เราไปนั่งชิลที่ร้าน Old Town ร้านกาแฟคูลๆดูคลาสสิคกันต่อ
 



 
นั่งเล่นชมเมืองตรังฆ่าเวลาจนพอใจแล้วค่อยคว้ากล้องคู่ใจออกไปเดินเล่น ชมความเรียบง่ายที่มีเสน่ห์ของตรังกันค่ะ ส่วนคืนนี้หลังจากทานมื้อเย็นเสร็จ เรามีแพลนไปละลายกันที่ถนนคนเดินตรัง ก่อนเข้านอนที่ไมตรีเฮ้าส์กันจ้า
 






 



เช้านี้รถตู้มารับเราไปรวมพลกันก่อนที่จารวีย์ทัวร์ซึ่งทุกทีก็ต้องมาขึ้นที่นี่ค่ะ อย่าลืมนำใบจองจากที่เราซื้อไว้เมื่อวานมาแจ้งเจ้าหน้าที่ด้วยนะคะ ส่วนใครไม่มีเสื้อเล่นน้ำแขนยาวมาซื้อแถวนี้ได้ตัวละ 200 บาท พอได้เวลาราวๆ 10 โมงคนมาครบก็เริ่มทยอยขึ้นเรือกันเล้ยยย ~






 
จุดแรกเราจะได้เล่นน้ำ ดำดูประการังที่เกาะเชือก ทะเลแถวนี้ดูไม่ค่อยต่างกับแถวเสม็ดเท่าไหร่ เล่นได้ประมาณครึ่งชั่วโมง ก็ขึ้นเรือไปเกาะต่อไป ตอนกลางวันที่เรือเค้าจะเตรียมบุฟเฟ่ต์ให้อย่างดี แถมมีของหวานอย่างเค้กและผลไม้ให้ด้วย

มาต่อกันกับจุดที่ 2 เกาะกระดานค่ะ เกาะกระดานตั้งอยู่ในเขตความรับผิดชอบของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมที่ 3 (เกาะกระดาน) ที่นี่ถือเป็นเกาะที่ได้ชื่อว่ามีชายหาดมีความสวยงามมากที่สุดจากบรรดาทะเลตรังทั้งหมด ด้วยความที่อยู่ไกลจากชายฝั่งจึงทำให้น้ำทะเลของเกาะกระดานมีสีเขียวใส ตลอดจนมีแนวชายหาดเกือบรอบเกาะเหมาะกับการเล่นน้ำมว๊ากกกก และแน่นอนว่ามาเกาะกระดานทั้งทีคงพลาดไฮไลท์ของทริปนี้ไม่ได้การดำน้ำดูปะการังนั่นเอง เพราะใต้ท้องทะเลของเกาะกระดานนั้น ยังคงรักษาแนวปะการังใต้ทะเลที่สวยงาม สมบูรณ์ไว้ได้อย่างดีเยี่ยม จนครั้งหนึ่งเกาะกระดานเคยถูกเลือกให้เป็น "เกาะแห่งความรัก" เพราะเคยใช้จัดงานวิวาห์ใต้สมุทรสุดอลังการมาแล้วด้วยนะคะ

 


 

ในที่สุดเราก็มาถึงไฮไลท์ของวันนี้กันแล้ว แท่น แท๊นนน ! ถ้ำมรกตที่เกาะมุกนั่นเอง จุดนี้ไม่เน้นน้ำใสแต่เน้นผจญภัย เกาะเชือกกันไปลอดเข้าถ้ำเพื่อไปโผล่อีกฝั่งนึง ถ้ำนี้แหละที่เราต้องลอดเข้าไปห้ามแตกแถว พี่ๆบนเรือเล่าให้เราฟังต่ออีกว่าสมัยก่อนที่ตรงนี้เป็นที่หลบซ่อนของพวกโจรสลัดด้วยค่ะ ฟังแล้วเหมือนอยู่ในหนังเลยเนอะ ฟังคนอื่นเล่ามาบ่อยแล้ว แต่พอได้ลองไปด้วยตัวเองจริงๆนี่มีความตื่นเต้นหนักมากกว่าที่ฟังเยอะ
 




 
หลังจากทัวร์ 3 เกาะเสร็จทางทัวร์ก็จัดเราะขึ้นรถตู้ส่งกลับเข้าที่พักในตัวเมืองราว ๆ 5 โมงเย็นค่ะ ด้วยความหิวเราเลยไม่รอช้า จัดไปที่ร้านนี้ ปูม้าปาร์ตี้ จริงๆมีหลายร้านให้เลือกมากเช่นเรือนไทยติ่มซำ หรือเลตรัง2 ก็อร่อยนะคะเป็นร้านขึ้นชื่อเลยด้วย ยังไงก็เลือกกินกันได้ตามสะดวกเลยค่ะ เพราะที่ตรังเนี่ยไม่ว่าจะร้านไหนก็อร่อยทั้งนั้น
 





 
ก่อนกลับเราต้องแวะร้านของฝากขึ้นชื่อของที่นี่คือขนมเปี๊ยะซอย 9 ของฝากยอดฮิตที่โด่งดังในจังหวัดตรังมาหลายสิบปี ใครมาที่นี่เป็นต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านกันทุกคน ถึงจะติดหวานไปหน่อยแต่ก็อร่อยดีค่ะ ส่วนเค้กเมืองตรังคนที่นี่แนะนำเค้กเบญจมิตร 
 





เป็นอันจบทริปฉบับกระทัดรัดของเรา ส่วนใครที่มีเวลามากกว่านี้ก็อาจจะแวะไปเที่ยวเกาะลิบงหรือเกาะสุกรสักหนึ่งคืนก็ได้ค่ะ ไปสัมผัสวิถีชาวประมงท้องถิ่น หรือจะเลือกไปทัวร์เกาะรอกแบบ One day trip ก็ได้เหมือนกัน และเกาะรอกนี้ต้องบอกเลยว่าของจริงทะเลใส น้ำสวย ดอกไม้ทะเล ปลานีโม่ มาเต็ม แต่ตอนนี้จะเที่ยวได้อีกทีก็ต้องรอเปิดหลัง 15 ตค. นะคะ ยังไงช่วงนี้ก็เตรียมตัวจองตั๋วโปรไว้แต่เนิ่นๆก็ดีค่ะ
 

เรียบเรียงโดยชิลไปไหน

 
 
 


 

เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai