0
0
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

ทริปเที่ยวน่าน : เที่ยวน่าน 4 วัน 3 คืน เที่ยวน่านยามฝนพรำ ม่วนไม่แพ้ตอนหน้าหนาว

calendar_month 25 เม.ย. 2016 / stylus Admin Chillpainai / visibility 123,751 / ทริปตัวอย่าง



ตื๊อดึ๊ง .. ตื๊อดึ๊งง...

17
 
สียงโปรแกรมแชทดัง ชิลกำลังนั่งเล่นเพลินๆ ถึงกับสะดุ้งเฮือกกกก...
 
ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกค่ะ เพื่อนสาวตัวดี ทักมาแบบนี้ต้องชวนไปเที่ยวแน่ๆ
"แก ชั้นอยากไปเที่ยวอะ" นั่นไง ถ้าทายหวยแม่นแบบนี้รวยไปนานแล้ว
ไอ้เราก็ใจง้ายยยยยย ง่ายยยยย.. เพื่อนอยากไปเที่ยวเราต้องไม่ขัด
แต่งานนี้มาแปลก นางอยากไปเที่ยวภาคเหนือหน้าฝน !!
ด้วยเหตุผลที่ คนไม่น่าจะเยอะ ไม่อยากไปแย่งที่พัก ตั๋วเครื่องบินกับคนอื่นๆ แถมยังสีเขียวๆ หมอกหนา.. น่าจะสวย
คุยกันไปคุยกันมา ก็สรุปกันว่าเราจะไปจังหวัดน่าน ... เพราะนอกจากจะมีหลายที่น่าสนใจแล้ว
มันมีตั๋วราคาประหยัด !!!
 
ทริปเราไปกัน 3 คนค่ะ เป็นผู้หญิงล้วนๆ เราจะไปที่ไหนกันบ้างตามไปดูกันค่ะ
 
..................

03
 
เริ่มแรกพวกเราขึ้นเครื่องบินกันที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ไปเที่ยวแรกกันเลยค่ะ 07.30น มีเวลาหลับไป ชั่วโมงกว่า ลืมตามาอีกทีเครื่องก็ลงสนามบินน่านแล้วค่ะ เหยียบเมืองน่านปุ๊ป.. ความหิวก็มาต้อนรับพวกเราปั๊บ จากสนามบินเราพาตัวเองไปหาของกินกันในตัวเมืองน่าน ชื่อร้าน เลิศรส จัดต้มเลือดหมู โจ๊ก ติ่มซำ กันไปสบายท้อง..
 

 
งานนี้ชิลถามเพื่อนว่าโปรแกรมเป็นยังไง คำตอบที่ได้คือ "ไม่มี" สนุกเลยค่ะแบบนี้ เที่ยวแบบไม่ได้คิดอะไรกันมาสักคน กินข้าวเสร็จแต่ละคนยืนมองหน้ากัน ว่าจะเอายังไงต่อ (มากันยังไง -*-) เราก็เลยไปเริ่มต้นกันที่การเปิดมือถือสมาร์ทโฟนหาข้อมูล

ตบตี เอ้ยยยย..ลงความเห็นกันว่าเราจะไปเที่ยวดอยเสมอดาว วิธีการเดินทางพวกเราเลือกเช่ารถไปกันเลยค่ะ เพราะดอยเสมอดาว การเดินทางไม่ได้โหดมากนัก พวกเราขับกันไปเองได้ แถมยังห่างจากตัวเมืองไปแค่ 80 กิโลเมตร เราใช้เวลาในการเดินทาง 2 ชั่วโมงค่ะ ไปถึงเราไปติดต่อที่อุทยานเลยค่ะ เพื่อติดต่อขอเช่าเต้นท์ แต่เพราะเราไม่ได้ติดต่อมาก่อนเลยค่อยข้างขลุกขลักนิดหน่อย (อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะคะ) โชคดีที่คนไม่เยอะ ยังมีเต้นท์เหลือสำหรับเรา เราเลือกเช่าเต้นท์ ขนาด 3 คนนอนค่ะ ราคา ไม่แพงเลย แค่ 450 บาทเท่านั้นค่ะ อากาศค่อนข้างหนาวใช้ได้เลย ตอนกลางคืนจะหนาวเป็นพิเศษ .. ยิ่งวันไหนฝนตก พี่ๆเจ้าหน้าที่บอกจะหนาวกว่านี้ 



 
ตื่นมาตอนเช้ามืด พวกเราถึงกับตาสว่าง หายง่วงกันเป็นปลิดทิ้ง เพราะภาพที่พวกเราเห็นด้านหน้า ..หมอกสีขาวหนาๆ คลอเคลียอยู่กับทิวเขา ยืนดื่มดำกันอยู่พักนึง พวกเราก็พร้อมใจกันล้วงกล้องออกมากดชัตเตอร์ แชะแชะ แชะ ! รัวกันเลยค่ะ เราถ่ายรูปเล่น ดื่มดำกับบรรยากาศกันสักพัก 
 


 
ฝนตกค่ะ เลยไปนั่งเล่นกันอยู่ที่ทำการอุทยาน เหมือนอย่างที่วลีนึงบอกว่า "ฟ้าหลังฝนสวยงามเสมอ " ..ใช่ค่ะ สวยงามมากเพราะหลังจากที่ฝนหยุดตก เราเจอสายรุ้งโค้ง พาดข้ามขอบฟ้า สวยมาก !! รู้สึกว่างานนี้ พวกเราพกดวงกันมาจริงๆ ดีใจที่ได้ออกทางครั้งนี้จริงๆ เราเดินถ่ายรูปเล่นกันเพลินเลยค่ะ 
 


พวกเราอยู่บนดอยเสมอดาวกันจนถึงบ่ายๆ ก็ได้เวลากลับค่ะ มาถึงในตัวเมืองน่านตอนเย็นๆ พวกเราเข้าที่พัก แล้วออกไปหาอะไรทานกันก่อนเข้ามาพักผ่อน 

เช้าวันรุ่งขึ้นเราตกลงกันว่าจะไปที่วัดภูมินทร์  ไปถึงวัดภูมินทร์ ไม่ทันได้เข้าไปในวัด ก็ไปสะดุดตากับ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ที่นั่นมีรถรางคอยให้บริการ !! (เปลี่ยนใจทุกวินาที จริงๆ)
โดยวันจันทร์ - ศุกร์ จะมี 2 รอบ 9.30น กับ 15.30น เสาร์ - อาทิตย์ มี 4 รอบ 9.30น 10.30น 13.30น และ 15.30น โชคดีที่เรามาทันรอบ 9.30น เราเลยรีบไปขึ้นรถรางก่อน โดยราคาอยู่ที่คนละ 30 บาท เด็กและผู้อายุ 15 บาท ถ้าเหมานอกเวลาปกติ จะราคา 1,000 บาท
 
 
รถรางพาพวกเราชมเมืองน่าน ผ่าน วัดภูมินทร์
 
 
 
วัดมิ่งเมือง เป็นวัดที่ประดิษฐานเสาหลักเมือง เป็นศิลปะแบบปูนปั้น ต้นแบบของการสร้างวัดร่องขุ่น
 
 
วัดศรีพันต้น ด้านซ้ายของวัดศรีพันต้น เป็นร้านขนมหวานป้านิ่ม ร้านของหวานชื่อดังของเมืองน่านแต่เสียดายพวกเราไม่ได้ไปลองชิม
 

 
ผ่านบ้านเก่าอายุ 100 ปี
 
 
วัดหัวข่วง
 

 
พี่ไกด์ใจดีที่นำเที่ยวเราค่ะ 
 
 
ร้านบุญช่วยการเงิน เป็นร้านเครื่องเงินของศิลปินแห่งชาติ
 

 
ผ่านโฮงเจ้าฟองคำ แล้วพวกเราก็หมายมั่นปั้นมือว่าจะมาที่นี่อีกที่นึงแล้วค่ะ
พอครบรองของรถรางก็วนกลับมาที่วัดภูมินทร์ .. เราเลยแวะไป ไหว้พระ และไปเก็บภาพกระซิบรักบรรลือโลก ปู่ม่าน ย่าม่าน ภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังชื่อดัง เหมือนเป็นกิมมิกของจังหวัดน่านที่ใครไปใครมาต้องแวะไปชม นอกจากนี้ที่ซุ้มพญานาคหน้าทางเข้าโบสถ์มีความเชื่อว่า ใครลอด 1 รอบจะได้กลับมาน่านอีก 1 ครั้ง ใครลอดครบ 3 รอบ จะได้เป็นเขยเป็นสะใภ้เมืองน่าน ใครอยากลองว่าจะจริงมั้ย ต้องลองไปลอดกันดูค่ะ
 


 
ผ่านการชมเมืองน่านมา สายแข็ง อย่างพวกเราเริ่มจะหิวกันอีกรอบแล้วค่ะ พวกเราเลย แว๊บบบ.. กันไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวสุราษฎร์ธานี @น่าน หลายคนอาจจะงงว่าชื่อร้านนี้ได้มาอย่างไร .. เราเองก็สงสัยเลยถามเจ้าของร้านได้ความว่า เดิมทีเจ้าของร้านเป็นคนสุราษฎร์ธานีค่ะ แต่มีภรรยาเป็นคนเหนือ ส่วนก๋วยเตี๋ยวเป็นสูตรโบราณที่สืบทอดต่อๆกันมากว่า 6 รุ่นแล้ว เรื่องรสชาติ เพื่อนๆ สาวแต่ละคน รวมถึงตัวชิลเอง ขอการันตีความอร่อย เพื่อนถึงกับบอกว่า อร่อยที่สุดที่เคยกินมาแล้ว แถมยังให้เยอะซะจนกินกันไม่หมด ในราคาแค่ 60 - 70 บาทต่อชาม เท่านั้นค่ะ
 

 
อย่างที่ได้ตั้งใจกันไว้ค่ะ พอออกจากร้านก๋วยเตี๋ยวเราก็ไปต่อกันที่ โฮงเจ้าฟองคำ ไปถึงก็เจอพี่ๆกำลังทำขนมและทำกระสวยดอกไม้สำหรับไปไหว้พระเลยค่ะ ไม่รอช้า สามสาวสวย แถมยังเป็นแม่ศรีเรือนอย่างพวกเรา (หราาาา?) ก็ขอลองทำบ้าง พี่ๆก็ใจดีสอนพวกเราจนทำตามได้ น่ารักมากๆเลยค่ะ
 



 
เสร็จจาก โฮงเจ้าฟองคำ เริ่มจะเย็นๆแล้วค่ะ พวกเรายังมีเวลาเหลือเลยไปไหว้พระธาตุเขาน้อยกัน พระธาตุเขาน้อย เป็นวัดที่อยู่บนดอยสูงของจังหวัดน่าน มองลงมาจากพระธาตุมองเห็นเมืองน่านทั้งเมือง ยิ่งตอนค่ำๆ เห็นไฟของเมืองน่าน.. สวยงามเชียวค่ะ


 
หลังจากทานอาหารมื้อเย็น เราก็เข้าที่พัก ที่โรงแรมมีโชค เป็นโรงแรมขนาดเล็ก เปิดตลอด 24 ชั่วโมง มี สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แอร์ ทีวี ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น ติดต่อสอบถามและสำรองห้องพักโทร 054-783984 , 081-7642123

* ใครอยากไปชมเมืองน่าน ตอนกลางคืน ลองไปเดินที่ กาดน่าน ย่านกลางคืนที่ชาวน่านไปรวมตัวกัน แต่เรากับเพื่อนๆติดละคร นอนดูกันอยู่ที่ห้องจนดึก อดไป!!

ตอนเช้าก่อนจะไปทานอาหารเช้า พวกเราไปไหว้พระธาตุแช่แห้ง เป็นพระธาตุพระจำปีเกิดของคนเกิดปีเถาะ ได้ไปนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์แถมยังได้ไปชมพญานาคที่บันไดวัดที่เหมือนของจริงมากๆ ขอให้ทุกๆวันเป็นวันที่ดีนะคะ 




จากวัดพระธาตุแช่แห้ง ถึงเวลามื้อเช้า เราไปจัดเข้ามันไก่ชุดใหญ่ 



 
ก่อนจะกลับกรุงเทพกัน เราไปร้านขานของฝาก สินค้าโอท๊อป ที่อยู่ใกล้ๆกันกับวัดมิ่งเมือง สาวๆ อย่างพวกเราช้อปปิ้งกันลืมเวลาเลยค่ะ ที่บ้านอยากได้หรือเปล่าไม่รู้ แต่พวกเราอยากซื้อ ฮ่าๆ พอได้ขอกันเต็มไม้เต็มมือ ก็ถึงเวลา โบมือลาเมืองน่าน เดินทางกลับกรุงเทพฯ เราเลือกเดินทางเที่ยวกลับแบบไม่เย็นมากเพราะกลัว รถในกรุงเทพจะติด.. 

บ๊ายย.. บาย เมืองเก่า ที่ยังมีชีวิต และดอยเสมอดาว ธรรมชาติที่ให้เราได้ชาร์จแบตชีวิต เราขอกลับไปทำงานก่อนนะ เดี๋ยวจะกลับไปเที่ยวอีก (แอบลอดซุ้มพญานาคมาแล้ว 2 รอบ อิอิ)

เอาจริงๆ แล้วหลงเสน่ห์เมืองน่านมากๆ ค่ะ เพราะเป็นเมืองน่ารัก เล็กๆ เรียบง่าย แถมยังคงคุณค่าวัฒนธรรมเดิมเอาไว้ มีเวลามากว่านี้อยากไปเที่ยวอีกจริงๆค่ะ



ขอบคุณเพื่อนร่วมทางนะคะ ขอบคุณที่ชวนกันว๊าว... ตื่นเต้นกับทุกๆอย่างทั้งทริป ฮ่าๆ 

26

 

เรียบเรียงโดย ชิไปไหน

 

เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai