ทริป 2 วัน 1 คืน ของขวัญวันเงินเดือนออก!! ไปนอนชิลๆ ริมน้ำ เที่ยวชิคๆ ที่เมืองกาญฯ

กาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก ไม่ว่าจะน้ำตก ภูเขา แม่น้ำ สถานที่ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ ทะเล(น้ำจืด) ที่นี่ก็มี แถมยังใช้เวลาเดินทางจากรุงเทพฯ ประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ (แบบรถไม่ติด) กาญจนบุรีจึงกลายเป็นเมืองพักผ่อนสำหรับหลายๆ คนที่มีเวลาน้อยอย่างเราๆ และอย่างที่รู้กันดีว่าเวลาพักเรามันน้อย ทริปนี้เราจึงขอเปลี่ยนที่นอน เน้นการพักผ่อนในรีสอร์ท เที่ยวบ้างเพื่อให้ได้รูปโปรไฟล์ใหม่ไปกับทริปนี้ 2 วัน 1 คืน ของขวัญวันเงินเดือนออก!! ไปนอนชิลๆ ริมน้ำ เที่ยวชิคๆ ที่เมืองกาญฯ

จากกรุงเทพฯ เราออกเดินทางมุ่งหน้าสู่จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งใช้เวลาไม่นาน ก่อนเข้าเช็คอินที่พัก เราเลยแวะเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ โดยจุดแรกที่เราก็แวะอินกันในย่านตัวเมืองเก่า

ถนนสายนี้เป็นถนนสายเก่า ที่มีมาตั้งแต่ก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตลอดสองฝั่งยังคงมีบ้านเรือนสไตล์โคโลเนียล บ้านบ้างหลังได้เปิดให้เป็นสถานที่ศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ บ้างหลังก็เปลี่ยนเป็นร้านกาแฟชิคๆ แต่ก็ยังคงกลิ่นอายความเก๋าในวันเก่าๆ ได้ดีทีเดียว

เราเลยไม่พลาดที่จะเข้าสูดกลิ่นอายเก๋าๆ ให้สมกับมาเที่ยวเมืองแห่งประวัติศาสตร์สักหน่อย สำหรับร้านนี้ชื่อว่าร้านสิทธิสังข์ ภายในร้านมีของฝากกระจุกกระจิกให้ได้เลือกซื้อติดไม้ติดมือทั้งขนมนมเนย โปสการ์ด เสื้อยืด ฯลฯ

หรือถ้าใครอยากพักเหนื่อย หลบลมร้อนก็นั่งชิลๆในห้องแอร์ก็หายเหนื่อยไปด้วยเบอเกอรี่นุ่มๆ เครื่องดื่มเย็นๆ ให้ได้ดับร้อน พร้อมกับการชมภาพเก่าที่ประในร้าน ที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ

จากร้านกาแฟไปไม่ไกล เราแวะไปเช็คอินในสถานที่ห้ามพลาด เพราะถ้าไม่แวะถ่ายรูปตรงนี้ เขาว่ากันว่าเหมือนมาไม่ถึงนั้นคือ สะพานข้ามแม่น้ำแคว นั้นเอง

สำหรับสะพานนี้หลายๆ คนคงทรายดีว่าเป็นสะพานที่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเชลยศึก และในปัจจุบันสะพานแห่งนี้ก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ของกาญจนบุรี 

ใครที่มาเที่ยวสามารถเดินเล่น ถ่ายรูปบนสะพานได้ หากข้ามแม่น้ำไปยังฝั่งตรงข้ามก็จะมีวัดจีน มีตลาดพลอยจากชาวบ้านให้เราได้เลือกซื้อเลือกหาติดไม้ติดมือไปฝากคนที่บ้านด้วยค่ะ แต่เนื่องจากตอนที่เรามาถึงบ่ายแล้ว ครั้งนี้เลยขอแชะภาพเก๋ๆ บนสะพาน แล้วรีบหนีร้อนเข้าที่พัก รีบไปเช็คอินกันที่ ครอสทู ริเวอร์แคว รีสอร์ท...

จากสะพานข้ามแม่น้ำแคว เราขับรถเลียบถนนแม่น้ำแคว แล้วเลี้ยวข้ามสะพานสุดใจ แล้วใช้ทางหลวงชลบท 3305  จนถึงบริเวณแยกเขาเตาปูนเลี้ยวเข้าถนนทางหลวงชนบทหมายเลข 3228 แล้วขับตรงไปเรื่อยๆ จะมีป้ายบอกทางครอสทู ริเวอร์แคว รีสอร์ท ตลอดเส้นทางค่ะ รับรองว่าไม่หลงแน่นอน... จากสะพานข้ามแม่น้ำแคว เราใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 กว่านาทีก็ถึงที่พักแล้วค่ะ สำหรับที่พักครั้งนี้ถือว่าเป็นโบนัสสำหรับการทำงานหนักของเรามาตลอดเดือน เราเลยตั้งใจว่าจะนอนชิลๆ และทำกิจกรรม เล่นน้ำ นอนฟังเสียงธรรมชาติให้คุ้มค่าไปกับ (ค่าห้อง)

และนี้คือห้องที่เราพัก ภายในห้องตกแต่งในสไตล์อินดัสเทรียสเท่ห์ๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกินคำว่าเพียบพร้อม และที่ถูกใจสุดๆ คือระบบสิ่งอำนวยความเอ็นเตอร์เทน!!  ทีวีจอยักษ์ วิทยุ เครื่องเล่นซีดี และที่สำคัญ wifi แยกห้องใครห้องมัน สัญญาณจึงแรงเวอร์!!

ตั้งแต่เข้าห้องพักเราก็หมดเวลาไปกับการชื่นชมบรรยกาศรอบๆ ที่พัก และห้องพักของเรา จนถึงเวลาอาหารเย็น

เลยขอใช้สิทธิการพักผ่อนด้วยการรับประทานอาหารในที่พัก เพราะที่นี่เข้ามีห้องอาหารชิลๆ ริมน้ำด้วยนะ

เมนูอาหารก็มีทั้งอาหารไทย ฝรั่ง ฟิวชั่น ใครอยากรับประทานอะไรก็สามารถเลือกสั่งกันได้เลย ส่วนราคานั้นไม่ต้องพูดถึงค่ะ เพราะถือว่าเป็นรางวัลให้กับการทำงานหนัก!!

วันนี้เราตื่นเช้ากันหน่อยค่ะ เมื่อมารับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร

 

แล้วช่วงสายๆ ก็พักผ่อนชิลๆ เล่นน้ำกันให้ชื่นใจ ก่อนจะเตรียมตัวเก็บกระเป๋าเช็คเอาท์...


 

และก่อนกลับกรุงเทพฯ เลยขอแวะไปชมอีกหนึ่งความมหัศจรรย์ ของต้นไม้ที่เขาว่ากันว่าใหญ่ที่สุดในกาญจนบุรี นั่นคือต้นจามจุรียักษ์ นั่นเอง

การเดินทางจากที่พักมายังต้นจามจุรียักษ์ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาทีนิดๆ เราก็ได้ชมความยิ่งใหญ่ ที่ไม่ว่าใครจะถ่ายรูปมาสวยแค่ไหน สิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นสวยงามและยิ่งใหญ่กว่า!!

ทริปนี้จึงเป็นอีกหนึ่งทริปเบาๆ ที่เน้นการพักผ่อน ใครที่ทำงานเหนื่อยๆ มาทั้งเดือน ทั้งปี
 ลองมองหาที่พักชิลๆ บรรยากาศดีๆ สถานที่ที่เราไปแล้วได้พักผ่อนจริงๆ เป็นของขวัญตอบแทนการทำงานให้กับตัวของเราเองดูค่ะ...
 

Tags: ครอสทูกาญจนบุรี สะพานข้ามแม่น้ำแคว เที่ยวกาญจนบุรี ที่พักกาญจนบุรี ร้านอาหารกาญจนบุรี

เขียนโดย

Admin Chillpainai

แชร์บทความนี้