0
0
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

ทริปปั่นสองล้อตะลุยย่านเก๋า แฮงเอาท์ย่านอาร์ตสุดฮิปในเมืองกรุง 2 วัน 1 คืน

calendar_month 08 เม.ย. 2016 / stylus Admin Chillpainai / visibility 71,418 / ทริปตัวอย่าง

สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศมาเที่ยวพักผ่อนชิลๆ ในกรุงเทพฯ แต่ไม่อยากเผชิญปัญหารถติด วันนี้ชิลไปไหนมี ทริปปั่นจักรยานซอกแซกตะลุยกรุงเทพฯ แบบ 2 วัน 1 คืน สำหรับใครที่อยู่ต่างจังหวัด แล้วอยากนำเอาจักรยานสองล้อคู่ใจเข้ามาปั่นตะลุยเมืองกรุง บอกเลยว่าไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด เพราะเดี๋ยวนี้มีสายการบินที่ให้เราโหลดจักรยานขึ้นเครื่องฟรี!! ได้แล้ว
แจ๋วสุดๆ ไปเลย ลองตามไปชมกันเลยค่ะว่าทริปนี้จะสนุกสนานกันขนาดไหน


26
 




Day 1
 
09.00 น.  ถึงกรุงเทพฯ โดยสายการบินนกแอร์ รับสัมภาระและจักรยานที่เราโหลดขึ้นเครื่องมา เตรียมพร้อมไปปั่นเที่ยวกรุงเทพฯ กัน

ปล. ก่อนโหลดจักรยานขึ้นเครื่อง ควรแพ็คใส่กระเป๋าและปล่อยลมจักรยานทั้งสองล้อออกให้เรียบร้อยก่อนนะคะ

 

10.30 น. เอาสัมภาระไปฝากไว้ที่พักที่ Loftel 22 ที่พักสุดฮิปใจกลางเมืองบนถนนเจริญกรุง 22 ซึ่งมีพื้นที่จอดจักรยานปลอดภัย


11.00 น. ปั่นจักรยานเที่ยวชุมชนตลาดน้อย ชุมชนเก่าแก่ในกรุงเทพฯ ตั้งแต่สมัยต้นรัตนโกสินทร์ และยังมีเส้นทางปั่นจักรยานสำหรับชมวิถีชุมชนชาวตลาดน้อย



11.30 น. ทานมื้อเที่ยงที่ร้านเป็ดตุ๋นเจ้าท่า ซอยวานิช 2 อิ่มอร่อยกับเมนูเป็ดพะโล้และก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋นเนื้อนุ่มละมุนลิ้น


13.00 น. แวะชมธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อย อาคารอนุรักษ์ที่เก่าแก่มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5


13.30 น. เที่ยวชมโบสถ์กาลหว่าร์ โบสถ์คริสต์สไตล์กอธิคงดงาม


14.00 น. ปั่นจักรยานชมงานศิลปะบนกำแพง ในโปรเจคบุกรุก (Bukruk) ซอกแซกค้นหาสตรีทอาร์ทสุดเจ๋งที่วาดบนกำแพงตึกในชุมชนตลาดน้อย ในย่านเจริญกรุง ยาวจนถึงถนนทรงวาด


14.30 น. แวะชมบ้านโซวเฮงไถ่ คฤหาสน์เก๋งจีนสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ที่มีอายุมากกว่า 200 ปี ปัจจุบันนี้เปิดเป็นโรงเรียนสอนดำน้ำ



15.00 น. กลับไปเช็คอินที่เข้าที่พักที่ Loftel22 ภายในที่พักมีคาเฟ่เล็กๆ ให้เรานั่งจิบเครื่องดื่ม ทานขนมนั่งพักเหนื่อย ก่อนไปปั่นจักรยานต่อ

 

15.30 น. ปั่นจักรยานไปเที่ยวย่านซอยนานา เจริญกรุง แหล่งรวมอาร์ตและเป็นย่านฮิปแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ พักเหนื่อยนั่งแฮงค์เอาท์ชิลๆ ในร้านเก๋ๆ ที่มีให้เลือกมากมาย 




 

16.00 น. ใครชอบคาเฟ่สไตล์น่ารักๆ แนะนำให้ไปเช็คอินที่ Nahim Cafe (นะฮิมคาเฟ่) คาเฟ่สุดเก๋ที่มีมุมน่ารักๆ ให้ถ่ายรูปเพียบเลยค่ะ

 

17.00 น. มาซอยนานาต้องไม่พลาด ไปนั่งจิบเครื่องดื่มชิลๆ ในบาร์ชิคๆ ที่อยู่ในตึกแถวเก่าสไตล์โคโลเนียลเก๋ๆ เริ่มต้นเช็คอินร้านแรกกันที่เทพบาร์ บาร์สุดคัลท์ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายความเป็นไทยทุกอณู นับตั้งแต่ประตูทางเข้า เมนูอาหารและเครื่องดื่มที่ใส่ความเป็นไทยให้กลายเป็นความชิคร่วมสมัยได้อย่างลงตัว
 



18.00 น. ถ้าอยากเข้าถึงบรรยากาศซอยนานา แนะนำให้แวะไปนั่งจิบเครื่องดื่มเบาๆ ปิดท้ายที่ El Chiringuito (เอล ชิรินกิโต้) ซึ่งนับเป็นบาร์แรกที่บุกเบิกสร้างสีสันให้กับซอยนานาแห่งนี้ ข้างๆ ยังเป็นคาเฟ่และที่พักเก๋ๆ อย่าง "บ้านหยก" ที่เหมือนยกเอาเยาวราชผสมกับบรรยากาศจีนคลาสสิคแบบเมืองเซี่ยงไฮ้ให้เราได้มาเช็คอินกันชิลๆ
 


 

18.30 น. ปั่นจักรยานไปเที่ยวหาของกินอร่อยๆ ต่อแถวเยาวราช อย่าพลาดร้านขนมปังเจ้าอร่อยเด็ดเยาวราช หน้าธนาคารออมสิน ซึ่งจะเปิดขายตอนเย็นตั้งแต่หกโมงครึ่งไปจนถึงเที่ยงคืน แนะนำให้มารอคิวแต่เนิ่นๆ เพราะคนเยอะมากกก..จริงๆ ค่ะ


 

19.00 น. จัดหนักมื้อเย็นที่ร้านซีฟู้ดแถวเยาวราช ที่มีให้เลือกมากมายหลายร้าน ร้านเด็ดที่นักท่องเที่ยวนิยมมากินกันมาก คือร้านชื่อดัง 2 ร้านอย่างร้านต๋อย&คิด ซีฟู้ด และร้านเล็ก&รัตน์ ซีฟู้ด เยาวราช อร่อยสูสีกันทั้งสองร้านเลยค่ะ

 
 

20.00 น. กลับที่พัก พักผ่อนเอาแรงเตรียมลุยต่อวันพรุ่งนี้

 

Day 2
 
09.00 น. กินซาลาเปามื้อเช้าที่ร้าน Take a Bao ร้านขายซาลาเปาที่อยู่ใกล้ที่พักในซอยเจริญกรุง 22 ซาลาเปาแป้งนุ่ม ไส้แน่น มีทั้งไส้หมูแดง หมูสับไข่เค็ม ไส้ครีม ฯลฯ บิออกมาเจอไส้เต็มๆ คำ เติมพลังมื้อเช้าได้อย่างดี

 

10.00 น. ปั่นจักรยานชมตึกเก่าบนถนนทรงวาด แวะชิมของอร่อยข้างทาง อาทิ ขนมจีบเจ้าเก่าทรงวาด, ไอติมเกาลัด ฯลฯ จากนั้นไปถ่ายรูปมัสยิดหลวงโกชาอิศหาก (มัสยิดวัดเกาะ) มัสยิดเก่าแก่ที่สร้างตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 และเป็นมัสยิดแห่งเดียวในเมืองไทย ที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์ตะวันตก 

 
 

10.30 น. แวะพักเหนื่อยจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ที่ร้าน ซังเส็ง คาเฟ่

 
 

11.00 น. เช็คเอาท์ฝากของไว้ที่ที่พัก แล้วนั่งเรือข้ามฟากไปเที่ยว The Jam Factory แหล่งแฮงค์เอาท์สุดฮิปริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยู่ใกล้กับท่าเรือคลองสาน

 

ถ้าหากใครมาตรงกับช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์สิ้นเดือน ที่นี่จะมี The Knack Market ตลาดนัดสไตล์ฮิปๆ ให้เดินเล่นช้อปปิ้งของกิน ของใช้ ของฝากเก๋ๆ กันด้วยค่ะ


  

12.00 น. ทานมื้อเที่ยงที่ร้าน The Never Ending Summer ร้านอาหารไทยสุดชิคที่ตกแต่งในสไตล์ Industrial Loft

 
 

13.00 น. เดินเล่นดูงานศิลปะในแกลเลอรี่ หรือจะไปเลือกซื้อของแต่งบ้านสไตล์เก๋ๆ ที่ร้าน anyroom โชว์รูมเฟอร์นิเจอร์ของสถาปนิกระดับประเทศอย่างดวงฤทธิ์ บุนนาค


14.00 น. ใครเป็นหนอนหนังสืออย่าพลาดเลือกซื้อหนังสือดีๆ ติดมือไปอ่านสักเล่มที่ร้านหนังสือก็องดิด (Candide) ที่มีหนังสือให้เลือกอ่านมากมาย ทั้งวรรณกรรม สารคดี หนังสือท่องเที่ยว ฯลฯ และยังเป็นแหล่งชุมนุมของเหล่าศิลปิน นักคิด นักเขียน ที่มาจิบชา ดื่มกาแฟ พบปะสนทนาแลกเปลี่ยนมุมมองกันอีกด้วย


  

ถ้าเกิดเจอหนังสือถูกใจแล้วอ่านติดลม แนะนำให้สั่งเครื่องดื่มมานั่งจิบระหว่างอ่านหนังสือในร้านกาแฟ ไล-บรา-รี @ ก็องดิด ที่อยู่ในบริเวณติดกันกับร้านหนังสือก็ได้ เช็คอินแบบสโลว์ไลฟ์เบาๆ ในวันพักผ่อน


 

15.00 น. กลับที่พักไปเอาสัมภาระ

16.00 น. เตรียมตัวไปเช็คอินขึ้นเครื่องสายการบินนกแอร์กลับที่สนามบินดอนเมือง

สำหรับใครที่ช้อปปิ้งเพลินจนกระเป๋างอกขึ้นมาขากลับก็ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะบินมาเที่ยวกรุงเทพฯ กับนกแอร์ เที่ยวหนักแค่ไหนยังไงก็สบายหายห่วงเรื่องของฝาก จะหิ้วขึ้นเครื่องทำไมให้วุ่นวาย เพราะนกแอร์มีให้โหลดกระเป๋ากลับบ้านฟรีได้ถึง 15 กิโลกรัม แบบนี้เดินตัวปลิวขึ้นเครื่องสบ๊ายสบาย...
 
ที่สำคัญ สายการบินนกแอร์ยังใจดีอนุญาตให้สามารถโหลดจักรยานได้ฟรีอีก 1 คัน โดยไม่นับรวมกับน้ำหนักกระเป๋า และอย่าลืม! แพ็คจักรยานคันโปรดใส่กล่องหรือกระเป๋าให้เรียบร้อยก่อนโหลดขึ้นเครื่อง เพื่อความปลอดภัยของสัมภาระกันด้วยนะคะ ดูข้อมูลเพิ่มเติมคลิก http://goo.gl/9k7e75

 

เพียงเท่านี้ เราก็สามารถสนุกกับทริปปั่นจักรยานเที่ยวกรุงเทพฯ ได้แบบชิลๆ แถมยังมีของกลับไปฝากคนที่บ้านอีกเพียบ! น่าจะเป็นไอเดียสำหรับคนที่อยากปั่นจักรยานเที่ยวต่างถิ่นแบบบินไปพร้อมกับจักรยานคู่ใจได้ไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ
 

 
03

 


เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai