โตเกียวในวันที่ซากุระบาน

                หลายคนบอกว่าอยากไปดูซากุระที่ญี่ปุ่นต้องเตรียมตัวกันเป็นปี คำพูดนี้ถูกต้องที่สุดค่ะ เพราะช่วงเวลาที่ซากุระจะบานเต็มที่นั้นจะเป็นช่วงระหว่างวันที่ 10-20 เมษายน และมันดันมาตรงกับเทศกาลหยุดยาวของบ้านเรานั่นก็คือสงกรานต์ จึงเป็นเหตุให้ช่วงนี้นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยจะแห่กันไปชมความงามของดอกซากุระ แล้วถ้าคุณไม่เตรียมตัวล่ะก็ สิ่งที่จะเกิดข้นคือตั๋วเต็ม ตั๋วแพง ทัวร์เต็ม

                ส่วนฮานะนั้นด้วยความที่อยากไปชมซากุระเอามากๆ เพราะมีคนบอกว่ามันสวยมากๆ ยิ่งนั่งดูซีรีส์ญี่ปุ่นที่นางเอกจะทำเบบนโตะมานั่งโอฮานามิ(ชมซากุระ) กับพระเอกใต้ต้นซากุระ สีชมพู โอ๊ย!! คิดแล้วก็โรแมนติก ฮานะเลยเตรียมการจองตั๋วล่วงหน้า 1 ปี โดยไม่คิดว่าอนาคตในหนึ่งปีนั้นฉันจะเป็นอย่างไร จะเกิดเหตุการณ์อะไร เอาฟระ!! อยากไปแบบถูกๆ ก็ต้องลุ้น ต้องเสี่ยงกันซักหน่อย (ใครที่ไม่บ้าขนาดฮานะอย่าได้ทำตามเป็นอันขาดนะคะ เพราะถ้าจองตั๋วไปแล้วคุณทำวีซ่าไม่ผ่านความซวยจะมาเยือน)

            1 ปีที่เฝ้ารอ เร่งวันเร่งคืนให้ผ่านไปเร็วๆ จนสุดท้ายวันเดินทางก็มาถึงค่ะ ผู้ร่วมเดินทางคือน้องสาวตัวดีผู้กรี๊ดหนุ่มญี่ปุ่นเหมือนกัน กับเจ้สาวคนสนิท

                6 ชั่วโมงเครื่องบินก็พาเราบินสู่สนามบินนาริตะ ความตื่นเต้นของเราเกิดขึ้นตั้งแต่ไม่ลงจากเครื่องเลยค่ะ เพราะเจ้าดอกต้นซากุระนั้นมาทักทายเราตั้งแต่ตอนที่กำลังแลนดิ้ง พื้นดินของญี่ปุ่นที่อีกไม่กี่วินาทีเรากำลังแตะนั้นถูกประดับประดาไปด้วยต้นซากุระที่กำลังบานเต็มที่ เหมือนมีหญิงสาวในชุดกิโมโนกำลังอ้าแขนแล้วบอกกับเราว่า ยินดีต้อนรับเข้าสู่ความงดงามของดินแดนซากุระแห่งนี้

                เมื่อมาถึงสนามบินนาริตะเรานั่ง Narita Express เพื่อเดินทางเข้าสู่โตเกียว คุณผู้อ่านขาอยากบอกว่าความฟินจากบนเครื่องที่รู้สึกว่ามากแล้ว บนรถไฟตลอดเวลา 45 นาทีนี้ยิ่งฟินมากขึ้น เพราะตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยซากุระ และบ้านเรือนแบบในซีรีส์หรือในการ์ตูน แต่วันที่เรามาถึงฝนตกปรอยๆ อยู่ตลอดเวลาจนเราได้แต่คิดในใจว่าฝนจ๋าอย่าตกหนักจนทำให้แม่ซากุระร่วงหล่นจากต้นหมดจนไม่มีให้เราได้ชมเลยนะ

                ที่พักของเรานั้นอยู่ย่านอาซากุสะค่ะ อยู่ริมแม่น้ำสุมิดะ พอเราเก็บกระเป๋ากันเสร็จก็เลยมีเวลาออกมาชมเมืองในยามเย็น เราเดินเข้าสู่สวนสาธารณะสุมิดะ ที่อยู่ริมแม่น้ำสุมิดะ ก็ต้องตะลึงเป็นครั้งที่สามเมื่อพบกับต้นซากุระมากมายที่พากันเบ่งบาน แม้ฟ้าจะเริ่มมืดลงแล้ว แต่ความสวยงามของซากุระก็ยังคงเปล่งประกาย เราทั้งสามคนยืนมองต้นซากุระด้วยความอิ่มเอมใจ แล้วบอกกันว่าพรุ่งนี้เช้าจะต้องมาชมความงดงามของซากุระในยามเช้ากันให้ได้

                เช้าวันรุ่งขึ้นเรารีบออกจากที่พักมาชมซากุระที่สวนสาธารณะสุมิดะตั้งแต่เช้า ก็เลยเห็นวิถีชีวิตของชาวโตเกียวในยามเช้าตรู่ไปด้วย พนักงานบริษัทหรือเหล่าซาลารี่แมนที่ใส่สูทเต็มยศกำลังขี่จักรยานเรียงแถวกันไปทำงาน (เป็นภาพที่เราจะไม่เห็นเลยในกรุงเทพมหานคร) ชายแก่คนไร้บ้านที่แหงนหน้ามองซากุระที่กำลังร่วงหล่วน เด็กมัธยมที่ขี่รถจักรยานไปโรงเรียน หญิงสาวจูงเจ้าหมาชิบะออกมาวิ่งยามเช้า และเราสามสาวไทยที่บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อชมดอกซากุระ ต่างก็อยู่ใต้ร่มเงาเจ้าดอกซากุระสีชมพูกันทุกคน ฮานะชอบตอนที่สายลมพัดทำให้กลับซากุระร่วงปลิดปลิวอยู่รอบตัวเรามันเป็นความรู้สึกที่ยากจะบรรยายเหมือนกัน แต่แค่ช่วงเวลานั้นก็ทำให้เราตื้นตันจนมีน้ำใสๆ แอบซึมอยู่ริมขอบตา

                จากสวนสาธารณะสุมิดะ เรานั่งรถไฟไปยังสวนอูเอโนะ ซึ่งเป็นสวนสุดฮอตในการชมซากุระ วันนี้ผู้คนมากมายบ้างมาเป็นครอบครัว บ้างมาเป็นกลุ่มเพื่อน บ้างมากันยกออฟฟิศ นั่งชมดอกซากุระ พูดคุยกันอย่างสนุกสนานบางคนก็จิบเบียร์กันไปทานเบนโตะกันไป กลุ่มไหนสนุกสนานหน่อยก็ออกมาเต้นกัน หรือร้องเพลงกันเสียงดัง นักท่องเที่ยวอย่างเราก็เดินชมซากุระ และชมคนที่มาสนุกสนานฮาเฮกันใต้ต้นซากุระ

                จากสวนสาธารณะอูเอโนะ เรานั่งรถไฟไปที่นาคะเมะกุโระ ย่านนี้ฮานะขอเรียกว่าย่านสุดฮิป เพราะคนที่มาเดินที่นี่ส่วนมากจะออกเป็นแนวคนวัยทำงานตอนต้นที่แต่งตัวดูเท่ห์ ดูเก๋ แตกต่างจากคนทำงานทั่วไป บางคนก็เป็นครอบครัวคุณพ่อคุณแม่ในวัยหนุ่มสาวที่แต่งตัวฮิปๆ กันอยู่ จุดเด่นของที่นี่นอกจากจะมีร้านเสื้อผ้า ร้านอาหารเก๋ ๆ ยังมีต้นซากุระที่เรียงรายไปตามสองฝั่งคลองเล็กๆ แบ็คกราวด์เบื้องหลังคือความเป็นเมือง และรถไฟของเมืองที่วิ่งผ่าน ก็เป็นจุดชมซากุระแห่งหนึ่งของโตเกียวที่สวยงามมาก

                เคยมีคนบอกว่าคนญี่ปุ่นนั้นเขาก็เฝ้ารอเพื่อที่จะได้ชมซากุระเหมือนเป็นสิ่งที่บอกเขาว่าปีนี้อายุยืนขึ้นหนึ่งปีแล้วนะ ฮานะไม่รู้เลยว่าวัฒนธรรมการชมซากุระนั้นของเขามีมาตั้งแต่เมื่อไร แต่คิดว่าคงจะนานพอควร และการที่เขารักษาสิ่งหนึ่งให้มันยังคงอยู่นาน โดยมันเป็นเหมือนจิตสำนึกร่วมกันของคนในชาติ ไม่ใช่สิ่งที่ทำโชว์คนอื่นแล้วล่ะก็ คงต้องอาศัยความแข็งแรงของคนในชาติมากมายที่จะรักษาสิ่งเหล่านี้ให้อยู่มานานได้ถึงวันนี้

เรื่องและภาพ นางสาวฮานะ

Tags: ซากุระโตเกียว

เขียนโดย

Admin Chillpainai

แชร์บทความนี้