0
0
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

รีวิว : ราชบุรีนี่นี้ใครครอง ตอน ปกติศิลป์ 2 (Art Normal 2)

calendar_month 11 มี.ค. 2016 / stylus Admin Chillpainai / visibility 30,082 / รีวิวที่เที่ยว

รีวิว : ราชบุรีนี่นี้ใครครอง ตอน ปกติศิลป์ 2 (Art Normal 2)

 
เมื่อวันที่ 13 - 14 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมา เราและน้องสาวสุดน่ารักที่มักจะพบเจอกันตามงานดนตรี ได้ชักชวนกันไปดูงานนิทรรศการศิลปะร่วมสมัยในชุมชน "ปกติศิลป์ 2 หรือ Art Normal 2" ภายใต้แนวคิด "ทอยบุรี" ซึ่งจริงๆแล้วงานนิทรรศการครั้งนี้มีมาแล้วก่อนหน้านี้ในครั้งแรก (เมื่อ 4 ปีที่แล้ว) และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ทางจังหวัดราชบุรี

ได้จัดนิทรรศการศิลปะขึ้นอีกครั้ง!  เน้นการสื่อสารกับชุมชนระหว่าง ศิลปะ - ชุมชน - ผู้ชม - สถานที่ ให้คู่ขนานไปกับรูปแบบวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ โดยแทกซึมเข้าไปในพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งพื้นที่ส่วนบุคคลและสาธารณะ จำนวน 29 แห่ง อาทิ ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านทำผม ต้นไม้ เรือข้ามฟาก ลานกลางตลาด และพิพิธภัณฑ์ ฯลฯ 

พร้อมจะเดินจะออกเดินทางไปชมงานศิลปะที่จังหวัด "ราชบุรีนี่นี้ใครครอง" (นี่คือชื่อทริปของเราเองค่ะ)กันแล้วยัง...ถ้าพร้อมแล้วตามข้าพเจ้ามาได้เลยคร้า 
เช้าวันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 07.00 น....

เรานัดกับ "น้องกิ๊บ" ที่สถานีรถไฟหัวลำโพงค่ะ การเดินทางครั้งนี้เราจะนั่งรถไฟปู้น...ปู้น ไปด้วยกัน โดยเที่ยวที่เราไปเป็นรถไฟฟรี! ล้อหมุนเวลา 09.20 น. เวลายังมีอีกเหลือเฟือยเลยหาอะไรกินก่อนเดินทางสักหน่อยดีกว่าๆ
 
วันนั้นที่สถานีรถไฟหัวลำโพงผู้คนละลานตา บ้างก็กลับบ้าน บ้างก็ไปท่องเที่ยว 

บรรยากาศบนรถไฟที่เรานั่งค่ะ ผู้คนขวักไขว่กันเลยทีเดียว และรถไฟเที่ยวนี้มีจุดหมายปลายทางสิ้นสุดที่ หัวหินถิ่นมีหอย แต่จุดหมายปลายทางของเราคือจังหวัดราชบุรี แม้จุดหมายปลายทางในการเดินทางของแต่ละคนแตกต่างกัน แต่ทุกคนบนโบกี้รถไฟขบวนนี้ต่างก็มุ่งหน้าตรงไปยังจุดหมายปลายทางของแต่ละคน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายและภารกิจที่พึงมี 

แล่นมาสักพักก็ถึง "โพรงมะเดื่อ" แล้วค่ะ

มาถึงชานชาลาโพรงมะเดื่อ เห็นเจ้าหน้าที่เขาบังคับลวดหรือเหล็กเส้นอะไรสักอย่างที่อยู่บนทางวิ่งรถไฟ เข้าใจว่าน่าจะทำเพื่อควบคุมทิศทางนะ

มีรถไฟวิ่งสวนมาพอดีเลย

นั่งชมวิวข้างทางริมหน้าต่าง ลมเย็นบางๆพัดเข้าหน้า มีหลับบ้างอะไรบ้าง! ตื่นมาอีกทีอ้าว...ถึงสถานี "บ้านโป่ง" แล้ว! 

สถานีคลองตาคต

วิวทิวทัศน์ริมหน้าต่างจ้า
 
กระเป๋าของเราสองคน
 
ผู้คนยังคง ขึ้น - ลง รถไฟอยู่ทุกชานชลา มีป้ามีน้ามีลุงเดินถือตะกร้าหรือถาดขึ้นมาขายอาหารด้วย!
อีกไม่นานเกินรอก็จะถึงอำเภอเมือง จังหวัดราชบุรีแล้ววว
รักเธอคนเดียว...ส้ม พี่ไม่เคยมีใคร พี่จะมีหนูคนเดียวคนสุดท้าย #คืออะไร #บอกรักวันวาเลนไทน์

ถึงแล้วจ้าา...ถึงแบบงงๆเกือบลงไม่ทัน!
ชักภาพร่วมกับสถานที่สักโหน่ยๆ #ฮิ_ฮิ
 
นุ้งกิ๊บเริงร่า
ร้อนไม่กลัว กลัวไม่ร้อน ดำไม่กลัว กลัวไม่ดำ
ที่นี่คืออำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ทำไมมันเงียบแบบนี้?  รู้สึกสงสัย แต่คิดว่าต้องเดินเข้าไปตามชุมชน ตลาด หรือจุดที่สำคัญๆสินะ ถึงจะเจอผู้คนมากมาย
เดินงง ๆ อยู่สักพัก ท้องก็ร้องทักทาย...หิวข้าวแล้ววว! หาอะไรกินสิครัช รออะไรล่ะ เจอร้านนี้ "สุกี้ - ยากี้ หาดใหญ่" พี่มาไกลถึงราชบุรีเลยนะเนี่ย! แวะทันทีค่ะ!
มาร้านสุกี้ แต่สั่งข้าวผัดปู!  คือนาทีนี้ต้องเมนูข้าวค่ะ หิวสุดพลัง สำหรับข้าวผัดปูจานนี้ นอกจากจะเพิ่มพลังให้เราได้เป็นอย่างดี รสชาติยังดีอีกด้วยแฮะ ข้าวร่วน เนื้อปูไม่คาว คืออร่อยถูกใจ ในราคาจานละ 55 บาทค่ะ 
กินเสร็จแล้วก็เดินหาที่พักกันค่ะ สรุปเรา 2 คนเดินเลยมาก่อนที่จะแวะร้านข้าวแล้ว...เย้ๆ

ในที่สุดก็ถึงที่พักสักที "Space 59" ร่มรื่น สงบ และดูดี 
 
ที่พักแบบปูนเปลือยและไม้ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว
เข้ามาด้านในมีหมีขาวตัวใหญ่ยืนต้อนรับพร้อมกับพนักงานที่มีรอยยิ้มและมิตรไมตรีที่ดี 
บรรยากาศภายในค่ะ
 


ด้านในมีมุมนั่งเล่นน่ารักๆด้วย
บันไดทางขึ้นค่ะ ชอบจังๆ 
ถึงห้องพักของเราแล้วค่ะ #ฮิ_ฮิ


ชอบมุมนี้มากค่ะ น่ารักดี

ห้องน้ำห้องท่าสะอาดเข้าตาดูเข้าที 

มุมทางเข้าห้องก็เก๋ไก๋ซะไม่มีเลยจริง ๆ อ้าวๆ เก็บของ พักแปบนึง พร้อมตะลุยชมศิลปะเมืองราชบุรีแล้วๆ 

จุดแรกที่แวะชมใกล้กับเรามาก คือ L.A.S. 12 โรงแรมสเปซ 59 ค่ะ 



ผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานของศิลปิน ปารีส ชื่อผลงานคือ บ้านในฝัน เป็นศิลปะจัดวางน่ารัก ๆ ทีประกอบไปด้วยตุ๊กตา 2 ตัว เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งห้องนอน ดูแล้วอยากจะลดขนาดตัวเองให้มีขนาดเล็กเท่ากับตุ๊กตา เพื่อจะเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนี้เลยล่ะค่ะ! 

น้องกิ๊บ ผู้มีความพยายามและตั้งใจในการดูจุดแสดงงานศิลปะต่าง ๆ เปรียบเหมือนจีพีเอสในการเดินทางครั้งนี้เลยก็ว่าได้ 

จุดที่ 2 ที่เราแวะชมคือ จุดที่ 24 L.A.S. 24 สถานีรถไฟราชบุรี ค่ะ

จุดนี้เป็นผลงานของศิลปิน ถนัดนนท์ ขำพรหมราช ชื่อผลงานคือ เซลฟี่ เป็นงานเซรามิคตุ๊กตาน่ารัก ๆ ที่ยืนเรียงรายกันอยู่ตรงบริเวณป้ายสถานีรถไฟราชบุรีนั่นเอง
สองเท้าพร้อมออกก้าวเดิน
 

พร้อมกับจักรยานขี่เอง ไม่มีใครมา ลากไปทางเดินของใครของมัน กันเลยทีเดียว! ปล. จักรยานฟรี อภินันทนาการจากที่พักครัช 

 
แอบถ่ายน้องในขณะที่กำลังปั่นอยู่เนี่ยล่ะค่ะ #มือนึงจับแฮนด์อีกมือถือกล้อง 
 
เจอระหว่างทาง สวยดี สีสันสดใสสุด ๆ



ถนนรถไฟ 


จุดที่ 3 เป็นจุดแสดงศิลปะชุมชนจุดที่ 11 L.A.S. 11 โบกี้รถไฟ (Train Bogie) 




จุดนี้เป็นผลงานของ วิทยา จันมา ผลงานนี้มีชื่อว่า ไขลานแล้วให้รถไฟพาเราย้อนเวลา อยู่ตรงนั้นรู้สึกเหมือนมีไทม์แมชชินพาเราย้อนเวลาไปสู่ความทรงจำ ณ ช่วงเวลาหนึ่งเลย! (ปล.จริง ๆ แล้วมีภาพฉายอยู่ในห้องโดยสารด้วย แต่เราไปไม่เจอ!) แต่ไม่เป็นไร แค่มาเจอแค่นี้ก็ดีใจแล้ว

จุดที่ 4 คือจุดแสดงศิลปะชุมชนจุดที่ 25 L.A.S.T. 25 รถทัวร์ 76 (ฺฺBus No. 76)



จุดนี้เป็นจุดแสดง หนังสั้นคัดสรร (เราเข้าใจว่ามีหนังสั้นฉายให้ดูในรถทัวร์...แต่สรุปว่าไม่มี!) ไม่เป็นไร ๆ มาถึงตรงนี้ก็ได้เห็นรถทัวร์ที่คนราชบุรีนิยมหนัง และยังได้เห็นวิถีชีวิตในการซื้อตั๋วเพื่อเดินทาง รวมทั้งทัศนีย์ภาพอื่น ๆ ที่น่าสนใจด้วยค่ะ 


จุดนี้เด่นสะดุดตาดีจัง แต่ไม่มีป้าย คิวอาร์โค้ด หรือสัญลักษณ์ใด ๆ บอกเลยว่ามันคือสิ่งใด เราเลยเข้าใจว่า น่าจะเป็นจุดแสดงศิลปะชุมชนจุดหนึ่งแหละน่ะ!! #เป็นจุดที่5ไปเนอะๆ (ใช่รึเปล่า? ถ้าไม่ใช่ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ เพราะหาจุดนี้ไม่เจอจริงๆค่ะ #งง #รอผู้รู้มาช่วยชี้แจงค่ะ 

จุดที่ 6 คือ จุดแสดงศิลปะชุมชนจุดที่ 10 L.A.S.10 ร้านอาภรณ์ภัณฑ์ (Ar Porn Phun Shop)




จุดนี้เป็นผลงานของ นิรัญชา ปูรณโชติ ผลงานนี้มีชื่อว่า เมืองราชบุรีของเรา เป็นสื่อผสมของตัวต่อเลโก้ที่มีทั้งผู้คน บ้าเรือน และสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ที่แสดงความเป็นราชบุรี 

จุดที่ 7 คือ จุดแสดงศิลปะชุมชนจุดที่ 22 L.A.S.T. 22 ท่าเทียบเรือ (Ratchaburi Municipality Pier) 


จุดนี้เป็นผลงานของ มาฆะ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ชื่อผลงานคือ อนุสรณ์ฟองสบู่ เป็นศิลปะจัดวางแบบท่าวร เนื่องจากเป็นท่าเทียบเรือเก่าแกของคนเมืองราชบุรี

ปั่นต่อ ๆ ไม่มีท้อ ๆ 

จุดที่ 8 จุดแสดงผลงานศิลปะชุมชนจุดที่ 19 L.A.S.T. 19 ถนนสฤษดิ์เดช (Saritdet Road) 










ผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานของ กลุ่มจาร์ทาวน์ ชื่อผลงานคือ แคททาวน์ เป็นกราฟิตี้รูปแมวเหมียวหลากหลายแบบ ดูแล้วซุกซน สนุกสนาน ร่าเริงยังไงชอบกลก็ไม่รู้แฮะ เหมือนถนนเส้นนี้แมวครอง #ฮิ_ฮิ 



บังเอิญไปเจอวังจุฑาเทพฯขึ้นมาเฉย! 555+  ไม่ใช่ค่ะไม่ใช่ เพราะนี่คือ "พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติราชบุรี" ต่างหาก

 
จุดที่ 9 จุดแสดงผลงานศิลปะชุมชนจุดที่ 1 L.A.S. 1 หอศิลป์ร่วมสมัยดีคุ้น (d Kunst Gallery)

มาตอนกำลังต่อเติมพอดีเลย!



เป็นรูปที่มีทุกบ้าน ไปไหนมาไหนก็เจอ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน







บรรยากาศภายในค่ะ 



จุดนี้เป็นผลงานของ ทีมนิทรรศการ ชื่อผลงานคือ ที่นี่ไม่ใช่หอศิลป์ เป็นสื่อผสมและการจัดวาง ของเฟอร์นิเจอร์ไม้ ภาพวาด ภาพถ่าย และอื่น ๆ อีกมากมาย เข้ามาในนี้รู้สึกได้ถึงความเป็นไทยดีจัง 



นอกจากนี้ ภายในยังมีเครื่องดื่มและเบเกอร์รี่ไว้บริการผู้ที่มาเยือนด้วยค่ะ 

แค่เพียงเงาสะท้อน

จุดที่ 10 คือ จุดแสดงศิลปะชุมชนจุดที่ 4 L.A.S. 4 ร้านทวีผล (Taweephol Restaurant) 





จุดนี้เป็นผลงานของ อนุชัย ศรีเจริญพู่ทอง ชื่อผลงานคือ ราชรี๊ ราชรี เป็นผลงานภาพถ่ายที่หาดูยากมากในปัจจุบัน หลายปีมาแล้วสินะ! 
 
พักชมสิ่งที่น่าสนใจสักครู่ แล้วค่อยไปหาไปดูจัดที่เหลือต่อ คือจะมึนมาก แค่ผ่านไป 10 จุดยังมึนเลย!

ใครชอบนวดขอบอกว่าน่าจะถูกใจ ราคาย่อมเยาว์และบรรยากาศดีด้วยค่ะ 

มังกรก็มีๆ
 
ต้นคริสมาสก็มาๆ 

ลิงจั๊กจั๊ก ก็คือ รักจริงจริง #จบนะ 555+ 

เจอพวกเดียวกันชักภาพสะโหน่ย ๆ น้องกระต่ายน้อย คนปีเถาะ #ฮิ_ฮิ

พรุ่งนี้ก็วาเลนไทน์แล้วสินะ...แล้วยังไงล่ะ ๆ ก็เฉย ๆ นะ!

จุดที่ 11 คือ จุดแสดงศิลปะชุมชนที่ 5 L.A.S. 5 ตรอกผนังอิฐ (Brick Alleyway)

จุดนี้เป็นผลงานของ วิภาวี คุณาวิชยานนท์ ชื่อผลงานคือ ราชบุรีรอรถ เป็นศิลปะการจัดวางของเก้าอี้ ที่ใช้นั่งรอรถประจำทางนั่นเอง ๆ 

จุดที่ 12 คือ จุดแสดงศิลปะชุมชนที่ 6 ซึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลจากจุดเมื่อกี้เลย! L.A.S. 6 รถประจำทางราชบุรี - โป่งกระทิง (Bus Ratchaburi - Phongrating)


จุดนี้เป็นผลงานของ พงสวัฒน์ ดุษฎีโหนด กับ ส้ม อ้นพันธ์ ชื่อผลงานคือ โป่งน้ำร้อน - โป่งกระทิง เป็นภาพถ่าย? (คือมันอยู่ตรงไหน เราหาไม่เจอ?) เลยเข้าใจเองเลยว่า เจ้าของผลงานน่าจะให้ผู้ที่มาชมผลงาน ณ จุด ๆ นี้ ถ่ายรูปเอง แล้วดูรูปที่ตัวเองถ่าย นี่แหละ ๆ คือ โป่งน้ำร้อน - โป่งกระทิง #มั่วที่สุดไม่มีใครเกิน #ถ้าผิดพลาดไปขออภัยด้วยคร้าบบ

ร้านขายของชำแบบนี้นับวันยิ่งหาดูยากเข้าไปทุกที ๆ

ร้านขายยาก็มีนะจ๊ะ

มาแล้วจ้ากับจุดที่ 13 คือ จุดแสดงศิลปะชุมชนที่ 3 L.A.S. 3 ร้านหม่อง (Mong Salon) 





จุดนี้เป็นผลงานของ ศรินยา จิตติชัย กับ หม่อง บัวพุ่มไทย , มณฑา พวงสุข และ เมย์ ลมเมฆ เป็นสื่อผสมที่นำเอาหลอดด้ายที่ใช้แล้ว วิกผม หุ่นสำหรับช่างทำผม และอื่น ๆ ผสมผสานเข้าด้วยกัน จนเป็นโมเดลแปลกตาแต่แฝงไปด้วยความน่าสนใจ


จุดที่ 14 คือ จุดแสดงศิลปะชุมชนที่ 20 L.A.S.T 20 ต้นสน (Pine Tree)
 


จุดนี้เป็นผลงานของ วรพงศ์ มนูพิพัฒน์พงศ์ ชื่อผลงานคือ ที่ลับ (ลับจริง ๆ ด้วย หาไม่เจอ!) เป็นศิลปะจัดวาง โดยการทำเป็นหน้าต่างวางไว้บนลำต้นของต้นไม้ ทำจากไม้และเศษผ้า มีสองบานคือ หน้าต่างมีไฟสว่าง กับ หน้าต่างไม่มีไฟ เรามาถึงจุดนี้เราตีความไปเองเลยว่า เจ้าของนิทรรศการน่าจะต้องการสื่อสารว่า ศิลปะถ้าคนช่างสังเกตุและสนใจมันจริง ๆ ยังไงก็หาเจอ เพราะถ้าดูเผิน ๆ จะเหมือนไฟประดับต้นไม้ หรือแทบจะมองไม่เห็นเลยว่ามีสิ่ง ๆ นี้อยู่

ปั่น ๆ จักรยานไป ปั่น ๆ จักรยานกัน ล้อจักรยานแตกซะงั้น เลยต้องพักจอดไว้ก่อน! พร้อมกับท้องที่ร้องทักทายว่า...หิวข้าววว! 5555  งั้นพักชมสิ่งที่น่าสนใจระหว่งทางระหว่างท้องสักครู่ แล้วกลับมาลุยต่อ! #ฮิ_ฮิ

แม่ลูกนั่งช่วยกันขายผักยามค่ำคืน

ทุเรียนทองมิวสิค ชิค ชิค อย่าบอกใคร ร้องเพลงได้ เต้นได้ ที่นี่เลย! 

เจอร้านเป้าหมายร้านแรก "โปร์ลิโต้เคบับ"


แม่ค้าเขาบอกว่า คนนี้คือคนมาช่วยขาย ไม่ใช่คนขาย งงไหม ไม่งงเนอะ! 

เคบับชิ้นนี้ เป็นเคบับที่ถูกที่สุดในชีวิตที่กินมา พอลองกัดคำแรกเท่านั้นล่ะ...อืมหืมมม...ร้อน! แต่พอคำที่สองเท่านั้นแหละ อืมหืม...อร่อยอ่ะ คุ้มราคา คุ้มค่า ทั้งเนื้อไก่ที่หมักได้ที่ย่างจนหอมยั่วน้ำลายจีจี กับผักและซอส โอโหถือว่าสุดยอด อิ่มท้องสบายใจ สบายกระเป๋าอีกแล้วสิเรา ๆ 

ที่นี่คือ ตลาดเก่าโคยกี๊ จังหวัดราชบุรีค่ะ

กำลังกินเคบับอยู่เพลิน ๆ เดิน ๆ อยู่ก็เจอจุดที่ 15 คือ จุดแสดงศิลปะชุมชนที่ 21 L.A.S.T 21 เรือข้ามฟาก (Ferry Boat)

จุดนี้เป็นผลงานของ โซยากะ โจเซฟ ชื่อผลงานคือ เป้าหมาย เป็นศิลปะแสดงสด (ไอความสดที่ว่านี้เราว่าน่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ท่าเรือแห่งนี้นี่แหละนะ

ว้าว ๆ บราวนี่น่ากินมว๊ากก ขอสักชิ้นละกันนะจ๊ะ 

เลือกบราวนี่ช็อคชิพมา เพราะอยากจัดเต็มช็อคโกแลตแบบเข้มข้น ทั้งหอมทั้งหวาน อร่อยดีนะ ชิ้นละ 25 บาทเองค่ะ 

มาถึงเมนูสุดประทับใจที่เราไปราชบุรีครั้งนี้เราต้องซื้อกินถึง 2 รอบเลย นั่นก็คือ ลาบไก่ทอดโคยกี๊ 

เนื้อไก่ที่คลุกเคล้ากับเครื่องปรุงและวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ให้ความเป็นลาบอย่างชัดเจน กรอบนอก นุ่มใน รสชาติจัดจ้านถึงใจ กินกับพริกทอดยิ่งฟินเข้าไปใหญ่ อร่อยมว๊ากกกก (ก เยอะ ๆ เลยค่ะ) 

เดินอยู่สักพัก ก็ได้กลิ่นหอมโชยมาจากร้าน ๆ นี้ ปลาจับไม้ ต้องลองซะหน่อย ๆ 

ไม้ละ 10 บาท (แถวบ้านเรียกแจงลอน) ขอบอกว่าหอมอร่อย รสชาติจัดข้านถึงเครื่องดี เนื้อปลานุ่มลิ้น โอ๊ยฟิน อยากกินอีก! 

เดินกินนั่น ชิมโน่น ชิมนี่เพลิน ๆ ก็เจอกับจุดที่ 16 จุดแสดงศิลปะชุมชนที่ 28 L.A.S.T 28 หนังสือพิมพ์ก้าวหน้า (Kao Nah Newspaper) 

บรรยากาศยามค่ำคืน...

ตรงนี้เคยเป็นเขตทหาร แต่ตอนนี้ฝั่งตรงข้ามเป็นสถานีตำรวจ! 

เงียบจริงอะไรจริง

อยากมีรูปคู่ก็มีได้ ไม่ใช่ปัญหา ด้อนวออะรี่ ๆ 


จุดที่ 17 จุดแสดงศิลปะชุมชนที่ 2 L.A.S. 8 โรงแรมกวงฮั้ว (Kuang Hua Hotel) 


จุดนี้เป็นผลงานของ วิทิต จันทรมฤทธิ์ ชื่อผลงานคือ สวัสดีปีใหม่ (2559) เป็นผลงานภาพถ่ายที่ดูเผิน ๆ เหมือนเป็นการแสดงความยินดี ฉลองในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ แต่จริง ๆ แล้วไซร้ใครจะรู้บ้างว่า เมื่อเข้าสู่ปีใหม่ มันทำให้ตอกย้ำถึงเรื่องราวของความทรงจำในปีเก่า ๆ ที่ผ่านมาได้อย่างชัดเจน! 

ก่อนจะปั่นจักรยานกลับที่พัก ขอแวะหาของหวานอร่อย ๆ กินสักหน่อยก็แล้วกัน และร้านนี้นี่เอง "เด่นไทย ไอศครีม" คนเยอะตลอดเลย! 

เราเลือกที่จะสั่งคือ โซดาปั่นไอศกรีม ราคาเพียง 20 บาท ทำจากไอศกรีมปั่นกับน้ำแข็ง โซดาซ่า ๆ และน้ำหวานครีมโซดาสีเขียว ได้กลิ่นรสหอมชื่นใจของน้ำหวานครีมโซดา มีความซ่าสะใจด้วย! 
สรุปค่าใช้จ่ายทริปราชบุรีนี่นี้ใครครอง วันแรก (13 กุมภาพันธ์ 2559) 

- ค่ารถจากบ้านมาสถานีรถไฟหัวลำโพงโป๊งโป๊งชึ่ง 78 บาท
- ค่าข้าวเหนียว+ไก่ทอด ยามเช้า 25 บาท
- ค่าตั๋วรถไฟ ฟรี*
- ค่าข้าวผัดปู ร้านสุกี้ยากี้ หาดใหญ่ 55 บาท
- ค่าที่พัก Space 59 350 บาท 
- ค่าจักรยาน ฟรี*
- เข้าเซเว่น 17 บาท
- ค่าม็อคค่าเย็น ร้านดีคุ้น 60 บาท
- ค่าเคบับ 20 บาท
- ค่าบราวนี่ 25 บาท
- ค่าน้ำจรวด 20 บาท
- ค่าลาบไก่ทอดโคยกี๊ 20 บาท
- ค่าแจงลอน 10 บาท 
- ค่าโซดาปั่นไอศครีม 20 บาท
สิริรวมค่าใช้จ่ายในวันแรก 700 บาท 
วันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป เธอจะเก็บศิลปะครบทั้ง 29 จุดหรือไม่ ต้องติดตามทริปนี้ของเธอ "ราชบุรีนี่นี้ใครครอง" 
 
เช้าวันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 10.00 น. ... วันวาเลนไตน์! วันแห่งความรัก! 


ที่พักเราอยู่ชั้น 2 นะรู้ยัง? 

เดินลงบันไดดี ๆ ระวังตกนะ ไม่ใช่ตกบันไดหรอกน่ะ...ตกหลุมรักเธอต่างหาก! #เสี่ยวดะแหรกตอนสาย

ตื่นเช้ามาชีวิตดี ตื่นสายก็ดี!  มีขนมปังปิ้ง กาแฟ โอวัลตินไว้บริการให้ ฟะรียยย โด้ยยย! 

ปั่น ๆ จักรยานไป ปั่น ๆ จักรยานกัน ไปที่นั่นที่แรกคือ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติราชบุรี ค่ะ 



ในนี้ก็จะมีจำลองแสดงวิถีชีวิตของคนในสมัยก่อนค่ะ 





เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของชนเผ่าต่าง ๆ 

ทีเด็ดเลยของราชบุรี ซึ่งเป็นของคนชื่อขอที่นี่นั่นก็คือ โอ่ง นั่นเอง 

ปั่นจักรยานมุ่งหน้าไปต่อ สถานที่ ๆ เราขอไปเยือนนั่นก็คือ เถ้า ฮง ไถ่ โรงงานเซรามิค ค่ะ 

จุดที่ 18 ของวันแรกคือ จุดแสดงศิลปะชุมชนที่  L.A.S. 17 โรงงานเซรามิค เถ้า ฮง ไถ่  (Tao Hong Tai Ceramics Factory)





 
น่ารัก ๆ ทั้งนั้น รับรองว่าใครที่แวะมาที่นี่ได้รูปสวย ๆ กลับไปแน่นอนค่ะ

เห็นเหา...เอ้ยเงาในตาฉันไหม? เห็นเธออยู่ในนั้นไหม? รู้ใจกันบ้างไหม? ว่าฉันนั้นคิดอะไร? #เพลงแก่มาก



เก็บบรรยากาศและมุมสวย ๆ มาฝากด้วยค่ะ #ฮิ_ฮิ

นุ้งกิ๊บสู้ตายคร้าา

ไม่มีอะไรมาก...แค่อ่านหนังสือพิมพ์กลับด้านเฉยๆ! 


บรรยาเกิดไปอีกสักสองรูปดิ ๆ #บรรยาเกิดอยากจิถ่าย #ฮิ_ฮิ

ภาพนี้ภูมิใจนำสิเหนอมว๊ากก เพราะตั้งไว้บนกระถางต้นไม้และจับเวลา 10 วินาที! เรียกได้ว่า เหมือนไม่ได้มาด้วยกันเลย! 555+ 

ช่วงปลดปล่อยตัวเอง อยู่กับแสงสว่างของตัวเอง ช่วงปล่อยพลังงานภายใน ให้ไหลซึมแทรกไปกับธรรมชาติรอบ ๆ ตัว!  ปล. ถามว่ามีคนมองไหม? ตอบเลยว่ามี! ถามว่าอายไหม? ตอบเลยว่าไม่!  ปล.2 ตั้งกล้องกับโต๊ะไว้ แล้วตั้ง 10 วิ ดะเริ่ม! 




บรรยากาศภายในร้านการแฟ ชิค ชิค ไหมล่ะ ๆ 
 
มาถึงจุดที่ 19 คือ จุดแสดงศิลปะชุมชนที่ 27  L.A.S.T. 17 ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือพริกเผ็ด (Spicy Chili Noodles)


โปรดระวัง...พริกเผ็ดมาก! แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ใส่ปาย ๆ 

เตี่ยวเถอะนะแม่เตี่ยว ชะชะ เตี่ยวเถอะนะแม่เตี่ยว อย่ามัวชะแหงแลเหลียว เดี๋ยวเตี๋ยวจะเข้าปากเอย! 

ถ้วยชามที่ใช้ใส่ก๋วยเตี๋ยวออกแบบโดยศิลปินฮะ ซึ่งผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานของ ณพกมล อัครพงศ์ไพศาล และ นล เนตรพรหม ชื่อผลงานคือ เผ็ดละมุน - เผ็ดถึงพริกถึงชาม เป็นผลงานเซรามิคที่ใช้ถ้วยชามที่ใส่มาทำให้มีสีสันจัดจ้าน ชวนให้อยากรับประทาน บวกกับรสชาติของก๋วยเตี๋ยวที่เรียกได้ว่าเผ็ดจนต้องจือปากกันเลยทีเดียว #เผ็ดมากกก


จุดต่อมาคือจุดที่ 20 คือ จุดแสดงศิลปะชุมชนจุดที่ 16 L.A.S. 16 ร้านสำราญเกษา (Sam Larn Kesa) 





ผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานของ เจษฎา ตั้งตระกูลวงศ์ กับ สงคราม บุตรวงศ์ ชื่อผลงานคือ หัว เป็นสื่อผสม ที่นำเอาภาพถ่ายทรงผมต่าง ๆ และนายแบบแต่ละคน มาจัดเรียงกันให้เห็นถึง ความนิยม ณ ช่วงเวลานั้น ทรงเก่าผ่านไป ทรงใหม่ก็ผ่านมา ทรงใหม่ผ่านไป ทรงเก่าก็ผ่านเข้ามาอีกครั้ง #ชั้บชั้บชั้บ 


จุดที่ 21 เดินทางมาเกินครึ่งแล้ว เย้เย้เย้ คือ จุดแสดงศิลปะชุมชนที่ 15 L.A.S. 15 กำแพงบ้านโรงช้าง (Rong Chang House Wall) 


ผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานของ กวิตาวัฒนะชยังกูร ชื่อผลงานคือ ฝัด เป็นวีดีโอ? (ตอนไปมันมีเครื่องฉาย เข้าใจว่าน่าจะเปิดแล้วฉายไปยังกำแพงนี้ตอนที่เปิดนิทรรศการใหม่ ๆ) แต่ตอนไปปเราไม่ได้ดู! แต่ได้มาให้รู้ให้เห็นก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีแล้วค่ะ 


เจอกระจกเงาไม่ได้เลย ขอชักภาพซะโหน่ยละกัน ๆ เนอะ ๆ #ฮิ_ฮิ


จุดต่อไป จุดที่ 22 ว้าว ๆ คือ จุดแสดงศิลปะชุมชนจุดที่ 14 L.A.S. 14 ร้านพงศ์ศิริ (Phongsiri Shop) 



ผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานของ ชลิต นาคพะวัน ร่วมกับ เด็ก ๆ ในพื้นที่ใกล้เคียง ชื่อผลงานคือ เล่นกับศิลปะ เป็นกิจกรรม - จัดวาง ระหว่างผุ้สร้างสรรค์ผลงานกับเด็ก ๆ ในชุมชน 

และแล้วเราก็กลับมาสู่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ จังหวัดราชบุรีอีกครั้ง เพราะที่นี่มีศิลปะแสดงอยู่อีกจุดหนึ่ง ซึ่งเราหาไม่เจอ? 




หายังไม่เจอ แล้วน้องกิ๊บก็หายหาไม่เจอ เลยเดินเล่นถ่ายรูปเพลิน ๆ ไปก่อนแล้วกันเนอะ 

มีมุม ๆ หนึ่งของพิพิธภัณฑ์ฯ ที่จัดแสดงพวกข้าวของเครื่องใช้ และวิถีชีวิตของคนเมืองราชบุรีด้วยแหละ

แม่หญิงยิงเรือสุด ๆ เลยไหมล่ะ ๆ คำถามคือ ใครถ่ายให้? คำตอบคือหุ่นที่ตั้งอยู่ตรงนั้น! ก็ใช่ไง เราตั้งกล้องไว้บนหุ่น แล้วตั้งเวลาไว้ 10 วิเหมียนดะเริ่มม! 

น้องกิ๊บส่งสัญญาณมาว่า "พี่น่า ๆ เจอแล้วจุดนี้!" จุดที่ 23 คือ จุดแสดงศิลปะชุมชนที่ 2 L.A.S. 2 พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ราชบุรี  (Ratchaburi National Museum) 


จุดนี้เป็นผลงานของ เคนทาโร่ ฮีโรกิ ชื่อผลงานคือ เพลง เป็นปะติมากรรมการดาษ - สีน้ำ (ตอนแรกที่เห็นนึกว่าปั้นจากดิน โว๊ะ!) เจ๋งดีแฮะ 

ระหว่างเดิน ๆ หาจุดที่เหลือก็เจอร้านน่านั่ง ดูแล้วเย็นสบายดีจัง แต่ไม่ได้เข้าไปนั่ง เพราะต้องเดินหาต่อ เวลามีจำกัดค่ะ

มันหลบอยู่ในซอก #ไม่มีอะไรหลบหรอก ถ่ายเล่นเฉย ๆ 

เรากับน้องกิ๊บกำลังตามหาจุดที่ 24 คือ จุดแสดงศิลปะชุมชนที่ 29 L.A.S.T 29 เสาไฟ (Electric Poles) ถามใครก็บอกว่าไม่มี หรือไม่รู้บ้างล่ะนะ เคยจะเข้าใจว่าตรงนี้แหละจ่ะคือจุดแสดงศิลปะจุดนี้! เป็นผลงานของ วศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ ชือผลงานคือ The voice เป็นศิลปะการจัดวางตามพื้นที่ (อันนี้ก็จัดวางอยู่ไงจ๊ะ #รอผู้รู้มาชี้แจงจ้า คือมั่ว! -*-)

ยังมีแรงก็ปั่นต่อไป เจอบ้านไม้สวยดี ถ่ายซะโหน่ย ๆ
 
และแล้วเราก็เจอจุดที่ 25 คือ จุดแสดงศิลปะชุมชนที่ 18 L.A.S.T 18 เคมุท สเปซ - เท็นทาเคิล (KMUTT Space - tentacle) 


อันนี้ไม่เกี่ยวกับนิทรรศการ เห็นแปลกดีเลยถ่ายมา มันมีสนามด้วย อารมณ์เหมือนสนามแข่งรถ แล้วมีจอภาพ พร้อมเสียงบรรยาย (มั้ง)


เจอแมวขู่ใส่ หนูกลัวแล้วว!



ผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานของ ศิลปินชุมชน โดย Tentacles เป็นนิทรรศการร่วมที่แสดงให้เห็นถึงการนำเอาวัสดุเหลือใช้อย่างเศษกระดาษต่าง ๆ กล่อง ลัง ฯลฯ มาทำเป็นอุโมงค์หรือถ้ำ (ตอนเข้าไปให้ความรู้สึกลึกลับ ชวนให้ติดตามและค้นหา และที่สำคัญคือ เงียบมาก #อีกแล้ว!) แต่ก็โอเคนะ ชอบ ๆ เด็ก ๆ น่าจะชอบอะไรทำนองนี้ 

แจวเมอ คือ เจอแมวตัวนั้นอีกแล้ว สรุปมันตามข้าพเจ้ามาเอง หึหึ จะเอายังไงก็ว่ามาเจ้าแมวราชะชะบุรี! 

เหมือนจักรยาน ขี่เองไม่มี ใครมา ลากไป ทางเดินของใคร ของมัน และฉันกับเธอ จะไปด้วยกัน ขี่ไปพร้อมกัน จักรยานสีดำ! 



ปั่นไป ปั่นมา ก็มาเจอจุดนี้ จุดที่ 26 คือ จุดแสดงศิลปะชุมชนที่ 7 L.A.S. 7 ลานกลางตลาด (Market Courtyard) 

ผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานของ สาคริน เครืออ่อน ร่วมกับ ชมรมเต้นแอโรบิค ชื่อผลงานคือ นักเต้นรำตลาดโคยกี้ เป็นกิจกรรมการเต้นแอโรบิคของคนในชุมชนนี้ ที่มีการรวมตัวกันเพื่อออกกำลังกาย ณ ลานแห่งนี้ โดยมีสมาชิกในชมรมอายุน้อยที่สุดคือ 30 ปี และถ้าอายุมากสุดก็ไม่ต้องพูดถึง แข็งแรง ๆ กันทั้งชุมชนกันเลยทีเดียว


จุดต่อมา สร้างความฉงนและความสับสนยิ่งนัก เพราะไม่มีใครรู้จักน้าอ๊อดเลย แต่ในที่สุดความพยายามของเราก็เป็นผล จนสามารถหาจุดที่ 27 เจอ คือ จุดแสดงศิลปะชุมชนที่ 9 L.A.S. 9 บ้านน้าอ๊อด ((Aod's) House)


ผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานของ เฉลิมวุฒิ เจริญวงศากิ และ ฐิตารีย์ บวรชีวะปัญญา ร่วมกับ พุฒินันท์ จิรพุฒินันท์ (น้าอ๊อดนั่นเอง) ชื่อผลงานคือ ใหม่ไปเก่ามา เป็นศิลปะจัดวางโดยนำเอาวัสดุใกล้ตัวอย่างกระดุมหลากหลายสี ลูกปัดต่าง ๆ เส้นเอ็น กระดาษ ฯลฯ นำมาสร้างสรรค์ผลงานตามจินตนาการที่มี 


และไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะคุยไปคุยมาสรุปว่า เรากับน้าอ๊อดรู้จักและเคยพบเจอกันมาตั้งนานแล้ว! เจอกันในฐานะคนทำค่ายอาสา ทำบ้านดินกับเครือข่ายพุทธาธิกา เมื่อหลายปีมาแล้ว ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เจอกันอีกครั้งในวันนี้

พูดคุยกันอยู่พักใหญ่ และแล้วเราก็ต้องโบกมือลาน้าอ๊อดเพื่อเดินทางหาจุดอื่น ๆ ต่อไป จุดที่ 28 คือ จุดแสดงศิลปะชุมชนจุดที่ 26 L.A.S.T 26  ร้านกิติศักดิ์สกรีน และ ไชยยันต์เภสัช (Kittisak Screen Shop and Chaiyunpasuch)  เป็นผลงานของ สุรพร เลิศวงศ์ไพฑูรย์ ชื่อผลงานคือ คนปวดหัว เป็นสื่อผสม ที่เอายาพารามาเปลี่ยนแลากใหม่ แสดงสัญลักษณ์ถึงสิ่ง ๆ นี้ให้ชัดเจนกับคำว่า "ปวดหัว" 


จุดต่อมาจุดที่ 29 (อ้าวมันครบแล้วเหรอ ยังมีอีกจุดนะ! 555+ :3) จุดนี้คือ จุดแสดงศิลปะชุมชนที่ 23  L.A.S.T 23 ตรอกเข้าตลาดสด (Alleyway to Market) 


จุดนี้เป็นผลงานของ กฤษณา หัตถอัจฉรากุล ชื่อผลงานคือ สิบห้านาฬิกา เป็นศิลปะการจัดวางกระดาษ แต่เรามาตอน 16 นาฬิกา เลยไม่เห็นแสงที่ตกกระทบกับกระเบื้องและสาดส่องมายังกำแพงเลย! แต่มาเจอกันก็ถือว่าเป็นเรื่องดี ๆ นะ 

ฝั่งตรงข้ามจุดนี้ นั่งกินก๋วยเตี๋ยวกันอร่อยเลยอ่ะ #ฮิ_ฮิ

จุดสุดท้ายของวันนี้ จุดที่ 30 (เอ๊ะทำไมเกิน! 5555 :3) คือ จุดแสดงศิลปะชุมชนที่ 13  L.A.S. 13 ร้านข้าวหมูแดงนายกี่ (Nai Kee Restaurant) 







ผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานของ พิมพ์พลอย ธีรชัย ร่วมกับ ทิพย์ประภา วงศืมณีประทีป ชื่อผลงานคือ ข้าวของหมูแดง เป็นศิลปะการจัดวางที่นำเอา ภาพวาด โมบาย พร้อมทั้งเซ็ทโต๊ะ เก้าอี้สีสันสดใสขึ้นมา และมีล้ออยู่ด้านล่าง ให้ความรู้สึกทันสมัยที่มีเสน่ห์

มาร้านข้าวหมูแดง แต่มากินหมั่นโถว! 555+  คือป้าเขาเพิ่งทำเสร็จใหม่ ๆ เราเลยขออุดหนุนสักหน่อย รสชาติ หอม หวานกำลังดี มีส่วนผสมของฟักทองด้วยนะ ราคาชิ้นละ 10 บาทเองจ้า 

จะปั่นกลับที่พักแล้ว ๆ เจอร้านไก่ทอดที่อยู่ตรงข้ามโลตัส น่ากินมาก เลยอุดหนุนสักหน่อย ไก่ป๊อบแซ่บทอด 30 บาทเอง #มันเยอะมว๊าก และอร่อยด้วยล่ะ ๆ

ปั่นไปเอาจักรยานคืนที่พัก และกระเป๋า เพื่อตรียมตัวขึ้นรถกลับกรุงเทพฯแล้วล่ะค่ะ! โดยเรานั่งตุ๊กตุ๊กไปลงที่ตลาดโคยกี๊ เพื่อนั่งรถตู้จ้า! (ปล.ลืมบอกไปว่าที่นี่ไม่มีโปสการ์ดจขายนะ อยากได้ต้องทำเอง เราเลยไปร้านถ่ายรูป และล้างรูป เพื่อนำมาทำโปสการ์ด ส่วนแสตมป์หาซื้อยากมว๊ากกก เจอที่เซเว่นที่อยู่ตรงวงเวียนนะมีขาย ๆ ) 

แวะร้านเด่นไทย ไอศครีมอีกแล้ว! 555+ 


คราวนี้ลองกินนมสดปั่นไอศครีมดูบ้าง ๆ 20 บาทเอง! รสชาติหอมนม หวาน อร่อย ชื่นใจ 

เจอน้อง ๆ นั่งวาดรูปก่อนกลับ น่ารักดีอ่ะ ๆ อยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งเลยจริง ๆ

บ๊ายบายทริป "ราชบุรี...นี่นี้ใครครอง" แล้วพบกันใหม่ในวันและเวลาดี ๆ ครั้งต่อไป ปล. งานปกติศิลป์ 2 มีจัดแสดงจนถึงวันที่ 24 กรกฎาคม 2559 นี้นะคะ ใครสนใจก็แวะเวียนกันไปชมไปดูได้ เผื่อได้แรงบันดาลใจและไอเดียดี ๆ กลับมา ชาร์ตพลังงานให้ตัวเองด้วยค่ะ 
 
 
สรุปค่าใช้จ่ายทริปราชบุรีนี่นี้ใครครอง วันสุดท้าย (14 กุมภาพันธ์ 2559) 
 
- ค่าเซเว่น 50 บาท
- ค่าก๋วยเตี๋ยวพริกเผ็ด แบบต้องจือปาก 55 บาท
- ค่าล้างรูป 20 บาท
- ค่าแสตมป์ 20 บาท
- ค่าหมั่นโถวฟักทองร้านข้าวหมูแดงนายกี่ 20 บาท 
- ค่าไก่ป๊อบแซ่บตรงข้ามโลตัส 30 บาท
- ค่าสามล้อ 30 บาท
- ค่าลาบไก่ทอดโคยกี๊ (อีกรอบ!) 555+ 30 บาท
- ค่านมสดปั่นไอศครีม 20 บาท
- ค่ารถตู้ราชบุรี - กรุงเทพฯ 100 บาท

สิริรวมค่าใช้จ่าย 375 บาท 

สิริรวมค่าใช้จ่ายทริปราชบุรีนี่นี้ใครครองทั้ง 2 วันคือ 1075 บาทคร้าาา #ฮิ_ฮิ 
เจอกันทริปต่อไป ขอบคุณที่อ่านจบ ขอบคุณที่ติดตาม สวัสดีค่ะ 



ขอบคุณรีวิวดีๆ จากสมาชิกพันทิป คุณ "สมาชิกหมายเลข 2572706"
 

เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai