ญี่ปุ่นไปเองได้ง่ายมว้ากกกก ตอนที่ 5 JR-Pass สำคัญไฉน

                หลายคนถามฮานะมาว่าถ้าจะไปเที่ยวญี่ปุ่นควรซื้อเจอาร์พาสดีไหม 

ครั้งนี้ฮานะเลยใช้พื้นที่สกู๊ปนี้มาชี้แจงแถลงไขเรื่องการใช้เจอาร์พาส 

รวมทั้งวิธีการเดินทางมากมายในญี่ปุ่น

                คงทราบกันแล้วว่าการเดินทางในญี่ปุ่น โดยเฉพาะเจ้ารถไฟชินกันเซ็นนั้นต่อเที่ยวก็ปาเข้าไปเกือบ 10,000 เยนแล้ว ไหนจะค่าเดินทางไปโน่นไปนี่ในญี่ปุ่นอีก จึงสรุปว่าคนที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นส่วนมากหมดเงินไปกับการเดินทางนี่แล่ะค่ะ ซึ่งถ้าไม่วางแผนการเดินทางดีๆ นี่มีจนกันเลยทีเดียว แต่ประเทศนี้ก็ไม่ใจจืดใจดำโดยเฉพาะนักท่องเที่ยว เพราะเขารู้ว่าการเดินทางบ้านของเขาแพงเลยออกพาสโน่นพาสนี่มาเพื่อประหยัดเงินในกระเป๋าเราและยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของเขาให้เพิ่มขึ้นอีกด้วย พาสบางพาสคนญี่ปุ่นเองก็ซื้อไม่ได้นะคะ อย่างบัตร JR-Pass ที่เราเรียกกันว่าบัตรเบ่งนี่แล่ะค่ะ คนญี่ปุ่นไม่สามารถซื้อได้ ใช้ได้เฉพาะนักท่องเที่ยวเท่านั้น

                แล้ว JR-Pass คืออะไร สำคัญไฉน? JR-Pass (Japan Rail Pass)คือบัตรโดยสารที่นักท่องเที่ยวสามารถใช้นั่งรถไฟในค่ายของ JR (JR Lines) และกลุ่มบริษัทในเครือข่ายเกือบทั่วประเทศรวมกว่า 6 บริษัท ได้แก่ JR-Kyushu, JR-Shikoku, JR-West, JR-Central, JR-East, JR-Hokkaido รวมถึงรถบัส และรถโดยสารในเครือเจอาร์อีกมากมาย โดยมีให้เลือกทั้งแบบ 7วัน,14วัน, 21 วัน โดยต้องซื้อในตัวแทนจำหน่ายภายนอกประเทศญี่ปุ่น ที่เมืองไทยก็มีตัวแทนจำหน่ายตั๋วเจอาร์หลายที่นะคะ พอซื้อแล้วเขาจะให้คูปองมา เมื่อเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นก็เอาคูปองที่เราซื้อมาไปแลกตั๋วเจอาร์ที่เคาน์เตอร์ของเจอาร์ ตามสถานีรถไฟอีกทีค่ะ (เพื่อนๆงงกันไหมคะ) โดยที่เราสามารถวางแผนการเดินทางได้ที่เว็บนี้นะคะ http://www.hyperdia.com/  ในนี้จะบอกว่าสถานที่ที่เราจะไปเราควรนั่งรถอะไร อ้อ!! JR-Pass ใช้ไม่ได้กับสายรถไฟบางสายอย่างชินกันเซ็นสายโนโซมินะคะ เข้าไปอ่านรายละเอียดตามลิงค์นี้ได้เลยค่ะ http://www.japanrailpass.net/  ส่วนราคาก็ตามตารางนี้เลยค่ะ

              อยากรู้ว่าเป็นเงินไทยเท่าไรก็คูณด้วย 0.34 (เรตเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2556) สำหรับคนที่มีทุนทรัพย์มากคูณออกมาแล้วอาจจะไม่ตกใจ แต่สำหรับคนที่มีเบี้ยน้อยอย่างฮานะ คูณมาแล้วแทบผงะนี่ฉันต้องเสียเงินเกือบ 10,000 เลยเหรอเนี่ย ไหนจะต้องบวกค่าเครื่อง ค่าที่พัก ค่ากิน สุดท้ายงบบานตะไทเลยล่ะค่ะ และข้อเสียของเจอาร์พาสนั้นคือเราต้องใช้ติดต่อกัน 7 วัน ตัวฮานะนั้นเป็นคนที่ชิ๊ลลลลล ชิล ชอบแบบค่อยๆ เดิน ค่อยๆ ทำความรู้จักเมืองและขี้งกเป็นที่หนึ่ง คงไม่เหมาะกับอะไรที่แพงๆ และเที่ยวแบบรีบๆ เพราะการเดินทางแต่ละเที่ยวแม้จะใช้เจอาร์พาสแต่ถ้าคุณเดินทางข้ามภูมิภาคอย่างโตเกียวไปเกียวโตก็ต้องใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมงแล้วล่ะค่ะ 

               สรุปว่าเจอาร์พาสนั้นเหมาะกับคนที่ค่อนข้างมีทุนในการเดินทาง ไปญี่ปุ่นไม่บ่อยแต่ไปทีก็อยากไปให้คุ้ม และมีเวลาการเดินทางท่องเที่ยวแต่ละทีค่อนข้างเยอะ(มากกว่า 7 วันเป็นต้นไป) 

              ส่วนใครที่เบี้ยน้อยอย่างฮานะจะมีวิธีในการเดินทางแบบไหน ขอบอกว่าญี่ปุ่นนอกจากเจอาร์พาสแล้วเขายังมีพาสเยอะมากมาย แถมราคาไม่แพง แค่ศึกษากันให้ดี เพราะแต่ละพาสก็จะมีเงื่อนไขในการใช้แตกต่างกันไป โดยฮานะขอยกตัวอย่างพาสที่น่าใช้ดังนี้นะคะ

1. JR Kanto Area Pass พาสนี้น่าใช้มากๆ ใช้เที่ยวในโตเกียว และภูิมิภาคคันโต ราคา 8,000 เยน ต้องใช้ติดต่อกัน 3 วัน สามารถนั่งชินกันเซ็นไปนิกโก้ได้ หรือสามารถนั่งรถไฟสาย Fuji Kyuko Line ไปคาวากูจิโกะได้ เป็นพาสที่คุ้มมากๆ ค่ะ เพราะปกตินั่งรถไฟไปกลับนิกโก้ก็หมื่นกกว่าเยนแล้ว เหมาะกับคนที่เที่ยวโตเกียวและเมืองรอบๆ โตเกียวในภูิมิภาคคันโต 

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.jreast.co.jp/e/kantoareapass/ 

2. Seishun 18 Kippu ตั๋วนี้ฮานะมักจะเรียกว่าตั๋ววัยรุ่น เพราะเขาจะออกช่วงปิดเทอมเพื่อให้เด็กมัธยมได้เดินทางไปเที่ยวกัน ส่วนใครที่แม้วัยจะเลยคำว่าวัยรุ่นแต่หัวใจยังวัยสะรุ่นอยู่ก็สามารถใช้ได้นะคะ ดูวันเวลาในการซื้อและใช้ตั๋วนี้ตามตารางนี้ได้เลยค่ะ 

                   โดยสามารถใช้เดินทางด้วยรถไฟหวานเย็นไปทั่วญี่ปุ่น ย้ำว่ารถไฟหวานเย็นนะคะ เหมาะกับคนที่ชอบชิลๆ ดูเทือกสวน ไร่นา ของญี่ปุ่นไปเรื่อยๆ ถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง ใช้ได้ 5 วันไม่ต้องติดต่อกัน แล้วยังสามารถใช้ 5 วันต่อคน หรือ ถ้ามีเพื่อนเยอะๆ ก็สามารถใช้ 5 คนใน 1 วัน โดยขึ้นลงได้ไม่จำกัด อธิบายแบบนี้เพื่อนๆ จะงงกันไหมคะ คือเขานับตามจำนวนคนที่ใช้นะค่ะ ราคาเพียง 11,500 เยนเท่านั้น 

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยค่ะ http://www.jreast.co.jp/e/pass/seishun18.html 

3. Hokkaido and East Japan Pass ตั๋วนี้จะคล้ายกับ Seishun 18 Kippu ค่ะ  แต่ใช้ได้เฉพาะบริเวณโตเกียว โทโฮคุไปจนถึงฮอกไกโดเลยล่ะค่ะ ใช้ได้ 7 วันติดต่อกัน ราคา 10,000 เยน เท่านั้น ใช้ได้เฉพาะรถไฟธรรมดาหรือรถไฟหวานเย็นเหมือนกัน

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยค่ะ http://homepage3.nifty.com/gogo-happytrip/passinfo/en.html 

4. JR West Kansai Area ข้ามมาที่ภูมิภาคคันไซกันบ้างค่ะ ใครที่ชอบเที่ยวเกียวโต โอซาก้า นารา โกเบ ก็ลองใช้พาสนี้ของค่ายเจอาร์ ที่ใช้เดินทางในภูมิภาคคันไซ ดูราคาและวันตามตารางข้างล่างนี่เลยค่ะ 

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ http://www.westjr.co.jp/global/en/travel-information/pass/kansai/

5. Kansai Thru Pass ใช้ในภูมิภาคคันไซเหมือนกันค่ะ แต่ฮานะชอบพาสนี้มากกว่า เพราะครอบคลุมทั่วภูมิภาคคันไซมากกว่า ดูราคาได้ตามตารางนี้เลยค่ะ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ http://www.surutto.com/tickets/kansai_thru_english.html 

6. Japan Bus Pass ส่วนใครชอบความประหยัด นั่งรถนานๆ ได้ แล้วไม่จะำเป็นต้องนั่งรถไฟ เพื่อเที่ยวข้ามเมืองข้ามภูมิภาค อย่างโตเกียว จะไปเกียวโต ไปฮิโรชิม่า นาโกย่า ฮานะแนะนำว่าลองนั่งรถบัสไหมคะ ฮษนะเคยใช้บริการของบริษัท willerexpress เป็นไนท์บัสนั่งจากโตเกียวไปเกียวโต ก็สะดวกสบายเหมือนกัน ประหยัดค่าโรงแรมไปได้คืนนึง อารมณ์นั่งรถทัวร์จากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่เลยล่ะค่ะ ดูเส้นทางได้ตามนี้เลยค่ะ 

               ซึ่งเขาก็มีให้เลือกทั้ง แบบ 3 วัน ราคา 10,000 เยน, 4 วัน ราคา 12,000 เยน และ 5 วัน ราคา 14,000 เยน

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ http://willerexpress.com/en/

               นี่แค่เบื้องต้นนะคะ ยังมีพาสเดินทางอีกเยอะ แต่ละเมืองแต่ละภูมิภาคก็ต่างกันอีก เพราะประเทศนี้เขาเอาใจนักท่องเที่ยวสุดๆ เลยล่ะค่ะ ฮานะยังยืนยันว่าญี่ปุ่นไปเองได้ง่ายมว้ากกกก ถ้าศึกษาหาข้อมูลให้ดีๆ โอกาสหน้าจะเล่าเรื่องการสื่อสารในญี่ปุ่น ซึ่งตอนนี้เขามีให้เช่าทั้งโทรศัพท์ เช่าซิม เช่าพ็อคเก็ตไวไฟ ไม่ต้องกลัวขาดการติดต่อสื่อสารเลยล่ะค่ะ

ติดตามอ่านเรื่องราวย้อนหลังได้ที่

Tags: ญี่ปุ่น เจอาร์พาส JR-Pass การเดินทางประหยัดในญี่ปุ่น

เขียนโดย

Admin Chillpainai

แชร์บทความนี้