จิบกาแฟในวันสบายที่คาเฟ่ เดอ ลา เฟลอร์ (Cafe d'La Fleur)

calendar_month 15 ม.ค. 2013 / stylus Admin Chillpainai / visibility 18,005 / รีวิวที่กิน

ช่วงนี้ชาเย็นว่าอากาศบ้านเรากำลังดีเลยนะคะ

ไม่ร้อนจนเกินไป บางวันแอบมีฝน(หลงฤดู)มาให้ชุ่มฉ่ำใจ

อากาศดีๆ แบบนี้ชาเย้นเลยหาร้านกาแฟน่ารัก

เพื่อนั่งจิบกาแฟและทานขนมอร่อยๆ

ซึ่งจุดหมายปลายทางของชาเย็นก็คือร้านนี้ค่ะ

คาเฟ่ เดอ ลา เฟลอร์ (Cafe d'La Fleur)

คาเฟ่ เดอ ลา เฟลอร์ (Cafe d'La Fleur)

คาเฟ่ เดอ ลา เฟลอร์ (Cafe d'La Fleur)เป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่าร้านคาเฟ่แห่งดอกไม้

โดยร้านนี้เขาตั้งอยูที่ชั้น 1 ของตึกฟิฟตี้ฟิฟท์ พลาซ่า ทองหล่อซอย 2

ถ้าขึ้นบันไดเลื่อนมาก็จะเห้นร้านนี้อยู่ติดบันไดเลื่อนพอดีเลยล่ะค่ะ

คาเฟ่ เดอ ลา เฟลอร์ (Cafe d'La Fleur)

เจ้าของร้านคือคุณนกที่เปิดร้านอิซากะยะ โอริว ภายในตึกนี้เช่นเดียวกันเล่าว่า

ที่เปิดร้านนี้เพราะตอนมาคุมงานทำร้านอิซากะยะ โอริวนั้น

ไม่มีสถานที่คุยงาน บวกกับตัวเองเคยทำงานทางสายบริษัทเบเกอรี่ชื่อดังแห่งหนึ่งมา

จึงอยากเปิดร้านคาเฟ่ที่สามารถนั่งคุยงาน และจิบกาแฟในบรรยากาศร้านที่น่ารัก

คาเฟ่ เดอ ลา เฟลอร์ (Cafe d'La Fleur)

ชาเย็นชอบบรรดาโต๊ะเก้าอี้ของร้านนี้มาก

เพราะคุณนกเล่าว่าทางร้านสั่งทำและยังจำหน่ายให้กับผู้ที่สนใจด้วยค่ะ

โต๊ะ เก้าอี้ และดอกไม้เล็กๆ บนแจกันก็ทำให้ร้าน คาเฟ่ เดอ ลา เฟลอร์ (Cafe d'La Fleur)

ดูสดชื่นทีเดียวค่ะ

คาเฟ่ เดอ ลา เฟลอร์ (Cafe d'La Fleur)

ข้อดีของร้านนี้คือทำเลที่หาง่ายขึ้นบันไดเลื่อนมาก็เจอเลย

แต่ในเรื่องความร้อนอาจจะมีบ้างเล้กน้อยซึ่งทางร้านก็ใช้พัดลมไอน้ำ

ช่วยให้คลายร้อนได้มากขึ้น

ส่วนเมล็ดกาแฟเขานำเข้ามาจาก 2 แหล่ง คือแทนซาเนียทวีปแอฟริกาใต้

ซึ่งปลูกอยู่บนความสูง 4000 ฟุตทำให้ได้เมล็ดกาแฟที่แข็งแรง

สามารถทนความร้อนได้ดี ให้กลิ่นที่หอม(ยิ่งเมล็ดกาแฟที่ทนความร้อนได้ดี ใช้เวลาคั่วนานจะทำให้ได้กาแฟที่หอม)

ส่วนอีกที่คือประเทศบราซิล ปลูกอยู่บนความสูง 2500-3000 ฟุต ข้อดีคือจะให้ในเรื่องรสชาติ

เมื่อทั้งสองมารวมกันจะได้ทั้งเรื่องรสชาติและกลิ่นโดยนำมาคั่วบดในไทย

แล้วชงมือทุกแก้ว ทำให้ได้กาแฟที่หอม รสชาติกลมกล่อม

คาเฟ่ เดอ ลา เฟลอร์ (Cafe d'La Fleur)

เช่นเมนูนี้ค่ะลาเต้โรเซ่

กาแฟเข้มข้นมีกลิ่นกุหลาบจางๆ ที่ค่อยๆ ปรากฎขึ้นมาเมื่อเราจิบกาแฟ

คาเฟ่ เดอ ลา เฟลอร์ (Cafe d'La Fleur)

ต่อด้วยคาปูชิโน่โร่เซ่

ฟองนมนุ่มๆ และได้กลิ่นกุหลาบจางๆ เช่นเดียวกัน

คาเฟ่ เดอ ลา เฟลอร์ (Cafe d'La Fleur)

ใครไม่ชอบกาแฟก็ลองสั่งราสป์เบอร์รี่โรส หวานเย็น เปรี้ยวนิดๆ ชื่นใจ

แถมได้กลิ่นหอมจางๆ จากกุหลาบอีกด้วย

คาเฟ่ เดอ ลา เฟลอร์ (Cafe d'La Fleur)

ส่วนเบเกอรี่คุณนกเล่าว่าเพื่อนของคุณนกที่เคยเรียนจากเลอ กอร์ดอง เบลอ ประเทศฝรั่งเศส

เป็นผู้ผลิตและส่งให้กับร้าน ซึ่งเมนูเบเกอรี่ทุกเมนูในร้านเป็นแบบโลว์แฟต

อย่างเช่นเมนูนี้ กับเลม่อน นัวร์

ข้างบนเป็นเลม่อนเปรี้ยวนิดๆ ข้างล่างเป็นช็อกโกแลตสุดเข้มข้น

อร่อยเต็มปากเต็มคำมากๆ เลยค่ะ

คาเฟ่ เดอ ลา เฟลอร์ (Cafe d'La Fleur)

เมตูต่อมากับคอฟฟี่ช็อคกี้

โลว์แฟตเหมือนกัน ส่วนข้างบนมีเมล็ดกาแฟให้เคี้ยวเล่นๆ อีกด้วย

คาเฟ่ เดอ ลา เฟลอร์ (Cafe d'La Fleur)

ปิดท้ายด้วยช็อคโกแลตดังโงะ

โดยเลียนแบบขนมดังโงะของญี่ปุ่น

โดยนำช็อตโกแลตทรัฟเฟิลมาเสียบไม้

เก๋ไปอีกแบบ

ใครผ่านแวะเวียนไปแถวทองหล่อซอย 2

อยากหาร้านนั่งชิลๆ ก็ลองมาแวะที่ คาเฟ่ เดอ ลา เฟลอร์ (Cafe d'La Fleur) ได้แลยค่ะ

ที่ตั้ง : ชั้น 1 ฟิฟตี้ฟิฟท์พลาซ่า ซอยทองหล่อ 2 ถนนสุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
ราคา : 100-200 บาท
เปิดบริการ : ทุกวัน 9.00-21.00 น.
โทร.: 085 918 0762
ดูแผนที่และรายละเอียดการเดินทางได้ ที่นี่

เรื่อง : ชาเย็น

ภาพ : This road is mine