calendar_month 11 ส.ค. 2013 / stylus Admin Chillpainai / visibility 40,070 / รีวิวที่กิน
คัมปายยยยยย.....
ภาษาญี่ปุ่นแปลว่า อ้าวชนแก้ว
เพื่อนๆ ท่องกันไว้ให้ขึ้นใจนะคะ
เพราะวันนี้สาวสีส้มจะพาทุกคนไป คัมปายยยย กันที่ร้าน อิซากะยะ โอริว (Izakaya O Ryu)
ร้านกินดื่มสไตล์ญี่ปุ่น ที่ตั้งอยู่ภายในตึกฟิฟตี้ฟิฟท์พลาซ่า ทองหล่อซอย 2
คำว่า “ Izakaya” หมายถึงบาร์ดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น ที่ให้บริการอาหารรสดั้งเดิมแบบญี่ปุ่นแท้ๆ
และเครื่องดื่มแอลกอฮลล์ ทุกชนิด ทั้งสาเก เหล้าโชจู
และยังมีความหมายว่า “สถานที่ ที่แสนสบาย”
Izakaya จึงเป็นร้านที่คนญี่ปุ่นมักนิยมมาใช้บริการพักผ่อนกันหนาแน่น
ส่วนคำว่า โอริว หมายถึง “มังกร”
โดยที่มาของร้านนั้นเกิดจากคุณนกเจ้าของร้านเดินทางไปญี่ปุ่น
และประทับใจกับร้านกินดื่มของคนญี่ปุ่น
ที่คนจะมานั่งกันช่วงหลังเลิกงาน สั่งเบียร์ สั่งสาเก แล้วค่อยทยอยสั่งอาหาร
พร้อมกับพูดคุยกับเจ้าของร้านอย่างสนุกสนาน
คุณนกเลยตั้งใจกลับมาทำร้านแบบนี้ที่เมืองไทย
โดยเลือกทองหล่อ ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีคนญี่ปุ่นอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
รวมทั้งพนักงานออฟฟิศชาวไทยที่หาร้านแฮงค์เอาท์หลังเลิกงาน
ร้านตั้งอยู่ ชั้น 1 ฟิฟตี้ฟิฟท์พลาซ่า ซอยทองหล่อ 2
แค่เดินเข้ามาก็พบกับบรรยากาศญี่ปุ่นแต่เป็นสไตล์โรดไซด์
ใช้โคมไฟสีเหลืองที่มีคำพูดภาษาญี่ปุ่น อย่าง น่ารักยินดีต้อนรับ ติดอยู่ทั่วร้าน
ส่วนเครื่องดื่มที่นี่มีทั้งเบียร์ เบียร์สด เหล้าญี่ปุ่น สาเก โชจู ครบเลยล่ะค่ะ
แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุดเวลาเดินเข้ามาในร้านคือวอลล์เปเปอร์ขนาดใหญ่
ซึ่งเป็นภาพย่านชินจูกุ
นั่งไป มองภาพไป เลยทำให้ได้บรรยากาศเหมือนกำลังนั่งอยู่กลางย่านชินจูกุุก
และภาพวอล์เปเปอร์ภาพนี้ก็จะมีการเปลี่ยนทุก 3 เดือน
เพื่อให้ได้บรรยากาศแตกต่างออกไป ไม่จำเจ
เป็นสิ่งหนึ่งที่สาวสีส้มฟังแล้วยังอึ้งในความเอาใจใส่ของเจ้าของร้าน
ส่วนอีกด้านหนึ่งก็เป็นเคาน์เตอร์
สามารถมานั่งพูดคุยกับพ่อครัว ฟังเรื่องราวของอาหาร
จิบเครื่องดื่มเย็นๆ เคล้าไปกับความสนุกสนานภายในร้านอิซากะยะ โอริว
อ้อ ในร้านเขายังมีคาราโอเกะ มีทั้งเพลงไทยและเพลงญี่ปุ่นให้ได้ร้องกันอีกด้วยนะคะ
ส่วนด้านนอกจะเป็นส่วนเอาท์ดอร์
ซึ่งในอนาคตทางเจ้าของร้านเล่าว่าจะเปลี่ยนเป็นนั่งโต๊ะแบบญี่ปุ่น
ให้อารมณ์ญี่ปุ่นมากๆ
ส่วนเรื่องเมนูอาหารนั้น
คุณนกเล่าว่าที่นี่พิถีพิถันเรื่องวัตถุดิบ การปรุง และการเสิร์ฟอาหารมากๆ
อาหารของที่นี่จะเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลของคนญี่ปุ่น ที่มี 4 ฤดู
คือ ฤดูร้อน ฤดูหนาว ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูใบไม้ผลิ
ในทุกๆ 3 เดือนจะมีการเปลี่ยนเมนูประมาณ 5 เมนูู
เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกไม่จำเจ
และจุดเด่นของร้านนี้อิซากายะ โอริว เรื่องของปลาค่ะ
คุณนกเจ้าของร้านเล่าให้เราฟังว่า
ปลาของที่นี่มีความสดมาก ส่วนมากจะนำเข้ามาจากนอร์เวย์ อย่างปลาแซลม่อน ปลาหิมะ ปลาไข่
โดยจะไม่ใช้ปลาที่แช่ฟรีชเพราะจะทำให้เนื้อปลาไม่สด มีกลิ่น
แต่จะใช้ปลาที่เพิ่งจับมา ใส่เข้าตู้เย็น
หลังจากนั้นเดินทางส่งตรงมาถึงร้านคำนวณเวลา ไม่เกิน 24 ชั่วโมงเท่านั้น
ทำให้ปลาของที่นี่สด อร่อย ข้อนี้สาวสีส้มขอการันตีเลยค่ะว่าปลาเขาสดและอร่อยจริงๆ
และขนาดชิ้นก็จะตัดพอดีคำ เท่ากับที่คนญี่ปุ่นทาน
ส่วนเนื้อเป็นเนื้อออสเตรเลีย และวากิว หมูก็ใช้หมูคูโรบูตะ ส่วนไก่ก็มาจากซีพี
เรียกได้ว่าวัตถุดิบทั้งหลายคัดสรรมาอย่างดี
ส่วนการเสิร์ฟและการบริการนั้น ต้องมีการเติมน้ำตลอดไม่ให้พร่อง มีการจัดวางจาน ตะเกียบในแบบคนญี่ปุ่นจริงๆ
ทำให้ร้านนี้ได้รับความนิมยมในหมู่คนญี่ปุ่นถึง 50 % ส่วนอีก 50 % คือชาวไทย
ฟังมาเยอะแล้วมาดูหน้าตาเมนูอาหารที่สาวสีส้มนำมาฝากทุกคนกันเลยค่ะ
เริ่มจากแบล็ค แซลม่อนจานนี้อร่อยมาก
เป็นมากิโรล ข้างในเป็นแซลม่อนที่ย่างได้ที่ ไม่แข็งจนเกินไป
ทานกับซอสเทอริยากิ เนื้อปลา กับข้าวนุ่ม ผสมผสานกันดีมากเลยค่ะ
ส่วนจานนี้คือยากิโซบะ ที่ทางร้านบอกว่าฮอตฮิตมากๆ
เพราะเป็นยากิโซบะสไตล์คันไซ
โดยเส้นเขานำเข้ามาจากโอซาก้า
ผัดรวมกับปลาหมึกและเบคอน โรยหน้าด้วยสาหร่ายโนริ ขิงดอง ปลาแห้ง(ปลาคัตซึโอะ)
ต่อด้วยทาโกะ วาสะ ปลาหมึกสดคลุกกับน้ำยำและวาซาบิสด
ปลาหมึกกรุบๆ รสจัดจ้าน ได้ใจ
เหมาะกับการกินคู่กับสาเกหรือเบียร์เย็นๆ มากๆ เลยล่ะค่ะ
จานนี้ชื่อว่า Season Change Tonkatsu (ทงคัทสึ 3 ฤดู)
หมูทอดทงคัทสึห่อไส้ 3 แบบ คือ เห็ดเข็มทอง ขิงดองและวาซาบิสด เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม 3 รส
สาวสีส้มชอบตัววาซาบิมาก จี๊ดจ๊าด สะใจมาก
อีกจานที่ขอกดไลค์สักล้านครั้ง
คือเมนู Eihire Shioquki
หรือ ครีบปลากระเบนย่างซอส
ตอนแรกที่เข้าปากเหมือนจะเหนียว แต่พอเคี้ยวไปแล้วนุ่ม กรุบๆ หวานนิดๆจากซอส
พระเอกของร้านที่สาวสีส้มรอคอยก็มาถึง
กับซาชิมิรวมจานนี้ค่ะ
มีทั้งปลาฮามาจิ ปลาแซลม่อน มากุโร่ ปลาไท้หรือปลากระพง
ปกติไปตามร้านอาหารญี่ปุ่นสาวสีส้มก็จะทานแต่แซลม่อน
เพราะปลาชนิดอื่นมีกลิ่น ทานยาก ไม่อร่อย
แต่พอมาร้านนี้ขอบอกว่าอร่อยทุกชิ้นค่ะ โดยเฉพาะฮามาจิที่แพงมาก
มากุโร่กับปลาไท้ร้านนี้เขาก็อร่อย สด ไม่มีกลิ่น แทบจะละลายในปากเลยล่ะค่ะ
ส่วนน้องสมรหรือแซลม่อนนั้นอร่อยอยู่แล้ว
คุณนกบอกเราว่าคนไทยขอบทานแซลม่อนแต่ไม่รู้ว่าความจริงแล้วนั้น
แซลม่อนราคาถูกที่สุด
คุณนกยังสอนวิธีการกินปลามากุโร่ ซึ่งเคยเป็นปลาที่สาวสีส้มไม่ชอบว่า
การจะดูว่ามากุโร่ร้านไหนกินได้ไม่ได้ให้ดูว่าเนื้อปลาด้านไหม ถ้าด้านก็กินได้แปลว่าสด
แต่ถ้ามันวาวแปลว่าไม่สดอย่ากิน เพราะไม่อร่อย
แตกต่างจากแซลม่อนที่ยิ่งสดก็จะยิ่งมันวาว
เป็นความรู้ใหม่ที่สาวสีส้มก็เพิ่งรู้วันนี้เหมือนกัน
ต่อด้วยยากิโทริ มีทั้งตับไก่ หนังไก่ เนื้อไก่ หัวใจ และกึ๋น
ปิดท้ายด้วยปลาทรายแดงย่าง
โดยที่เขาใช้ปลาทรายแดงสด ย่างให้ได้ที่
แค่เพียงบีบมะนาวลงไปไม่ต้องจิ้มซอสใดๆ ก็อร่อยแล้วล่ะค่ะ
เย็นนี้ถ้าใครกำลังหาร้านแฮงค์เอาท์อยู่
ก็ลองมาร้านนี้ได้เลยค่ะ
ส่วนสาวสีส้มคงจะมาบ่อยๆ เพราจะได้มาคัมปายกับหนุ่มๆ ญี่ปุ่นหน้าตาดียามเย็น
อ้าวคัมปายยยย
ที่อยู่ : ชั้น 1 ฟิฟตี้ฟิฟท์พลาซ่า ซอยทองหล่อ 2 ถนนสุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
ราคาเฉลี่ยต่อคน: 300-500 บาท
เวลาเปิด : จันทร์-ศุกร์ 11.30-14.30 น และ 16.30 – 22.00 น เสาร์-อาทิตย์ 11.30 - 22.00 น
เบอร์โทรศัพท์ : 081-209-6565
ดูแผนที่และการเดินทางได้ ที่นี่
เรื่อง สาวสีส้ม
ภาพ This road is mine
รีวิวที่กิน | 07 ต.ค. 2024 | 931 อ่าน
รีวิวที่กิน | 01 ส.ค. 2024 | 840 อ่าน
รีวิวที่กิน | 10 ก.ค. 2024 | 1,975 อ่าน
รีวิวที่กิน | 30 เม.ย. 2024 | 6,588 อ่าน
รีวิวที่กิน | 30 เม.ย. 2024 | 5,140 อ่าน
รีวิวที่กิน ที่กิน | 02 เม.ย. 2024 | 3,213 อ่าน
รีวิวที่กิน | 26 ธ.ค. 2023 | 2,756 อ่าน
รีวิวที่กิน | 08 ธ.ค. 2023 | 10,025 อ่าน
รีวิวที่กิน | 21 มิ.ย. 2023 | 25,077 อ่าน
รีวิวที่กิน | 12 มิ.ย. 2023 | 43,926 อ่าน
รีวิวที่กิน | 24 พ.ค. 2023 | 11,914 อ่าน