0
0
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

5 อาการผิดปกติของรถที่ส่งสัญญาณว่า “ยาง” ของคุณมีปัญหา อย่าชะล่าใจ!

calendar_month 13 เม.ย. 2022 / stylus Admin Chillpainai / visibility 185,708 / รีวิวที่เที่ยว

 


 
 วันก่อน สาวสีส้ม นัดกับเพื่อนสาวว่าจะไปช้อปปิ้งแถวรัชดาฯ เพื่อนก็ใจดีอาสาขับรถมารับ ทีแรกก็คิดว่าเยี่ยมเลย งานนี้นั่งรถฟรีมีคนขับ แต่ที่ไหนได้คะ! นั่งรถเพื่อนสาวไปสักพักก็รู้สึกได้ถึงอาการผิดปกติ คือเวลารถเริ่มออกตัว หรือชะลอความเร็วลง รู้สึกได้เลยว่ารถมันเด้งๆ เป็นจังหวะ แถมนางยังบ่นด้วยว่าพวงมาลัยสั่นๆ แปลก  
 
 ฝืนนั่งรถไปกับนางต่อ จนผ่านมาแถว ซ.เสือใหญ่ ถ.รัชดาฯ เจอศูนย์บริการของ A.C.T หรือที่เรียกสั้นๆว่า “แอค” สาวสีส้มเลยบอกให้เลี้ยวไปตรวจสถาพรถเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นไม่ไปไหนด้วยแล้ว!! 


ศูนย์บริการ A.C.T 


ศูนย์บริการ A.C.T 


เลี้ยวเข้าไปปั๊บ พี่เจ้าหน้าที่ของ A.C.T ก็ขับรถเราไปตรวจเช็คอย่างละเอียด และบอกกับเราว่า “ยางเสื่อมสภาพแล้วครับ”
 นั่นไง!! สัญชาตญานความปลอดภัยของสาวกรุ๊ป A อย่างเรายังทำงานได้ดีอยู่ ว่าแล้วก็เกิดความอยากรู้ขึ้นมาทันทีว่า อาการผิดปกติของยางที่ผู้ขับขี่สามารถตรวจเช็คได้เองมีอาการอะไรบ้าง ก็เลยขอคำแนะนำจากพี่เจ้าหน้าที่ของ A.C.T เสียยกใหญ่ และได้ข้อสรุปดีๆ มา 5 ข้อดังนี้ค่ะ ^ ^


 

1 ยางบางเส้น ลมยางอ่อนเร็วผิดปกติ

พูดง่ายๆ ก็คือมีล้อบางล้อที่เราต้องเติมลมยางบ่อยกว่าล้ออื่นๆ แบบนี้ให้ตั้งข้อสันนิษฐานไว้ก่อนเลยนะคะว่าอาจจะมีอาการ “ยางรั่วซึม” เกิดขึ้นแล้ว พี่เจ้าหน้าที่ของ A.C.T บอกเราว่าถ้าพบเจออาการนี้อย่านิ่งนอนใจ เพราะอาจจะนำไปสู่ปัญหาร้ายแรงถึงขั้นยางระเบิดได้!  ซึ่งถ้าอยากรู้ว่ามันเกิดจากอะไรกันแน่ ลองเข้ามาให้ A.C.T ตรวจเช็คดูได้ ซึ่งที่นี่จะตรวจเช็คอาการยางรั่วซึมอย่างละเอียด
 
 เริ่มจากการเช็ค “หน้ายาง” ดูว่ามีรอยถูกของแหลมคมทิ่มตำคาอยู่หรือไม่

เช็คหน้ายาง

 
 ต่อด้วยตรวจเช็ควาล์วเติมลมว่ายังอยู่ในสภาพดีหรือเปล่า

เช็ควาล์วเติมลม

 
 จากนั้นก็ต้องลองเอาไปเช็คหารอยรั่วทั้งหมดด้วยการแช่ล้อรถลงในน้ำ จุดที่รั่วก็จะมีฟองอากาศผุดออกมา อย่างในภาพนี้จะเห็นได้ว่าปัญหารั่วซึมไม่ได้เกิดจากการถูกทิ่มตำ แต่เป็นปัญหาที่วาล์วเติมลม

ฟองอากาศผุดออกมาบริเวณวาล์วเติมลม

 


2 ดอกยางสึกไม่เท่ากัน

อาการนี้สามารถสังเกตได้ง่ายๆ ด้วยตัวเองที่บ้านค่ะ โดยปกติแล้วดอกยางของล้อคู่หน้ากับล้อคู่หลังจะสึกหรอไม่เท่ากัน โดยเฉพาะยางของล้อคู่ที่เป็น “ล้อขับเคลื่อน”จะสึกหรอเร็วกว่ายางล้อคู่ที่ทำหน้าที่หมุนตาม พี่เจ้าหน้าที่ของ A.C.T ก็แนะนำว่าเราควรจะสลับยางทุกๆ 10,000 กิโลเมตร เพราะถ้าไม่สลับยาง มันจะมีผลต่อความสึกหรอที่ไม่เท่ากันของยางทั้ง 4 เส้นได้ ส่วนรูปแบบการสลับยางนั้นก็มีอยู่หลายวิธีตามลักษณะของรถ และประวัติการสลับยางในครั้งก่อนๆ ถ้ากลัวว่าจะวุ่นวายสับสน มาที่ A.C.T ที่เดียวจบค่ะ

ซ้าย:ยางล้อหน้า / ขวา:ยางล้อหลัง
 ดอกยางล้อหน้ากับล้อหลัง สึกหรอไม่เท่ากัน

 

 

3 ขับปล่อยพวงมาลัย รถไถลไปข้างไปใดข้างหนึ่ง

อย่างรถของสาวสีส้มเองก็เคย “ไถลซ้าย” ค่ะ ถ้าเผลอปล่อยพวงมาลัยแค่ 3 วินาทีนี่รถตกข้างทางเลยนะคะ อันตรายมากๆ ซึ่งพี่เจ้าหน้าที่ของ A.C.T ก็บอกว่าอาการไถลนี้เกิดได้หลายสาเหตุ ทั้งจากยาง เพลาล้อ ลูกหมาก และศูนย์ล้อ ถ้าจะให้ชัวร์ต้องลองมาตรวจอย่างละเอียดค่ะ   


ตรวจเช็คอาการรถไถล


ตรวจเช็คอาการรถไถล

 

 

4 ลุยแอ่งน้ำแล้วแฉลบ

ถ้าเราบังเอิญขับรถไปลุยแอ่งน้ำขังบนถนนที่เป็นเพียงแอ่งตื้นๆ รถก็แฉลบแล้ว กรณีนี้อาจเกิดจาก “ดอกยางหมด” หรือดอกยางตื้นเกินมาตรฐานความปลอดภัย จึงทำให้ประสิทธิภาพของการรีดน้ำลดลง แบบนี้อันตรายมากนะคะ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าดอกยางของล้อรถเราตื้นเกินไปรึยัง พี่เจ้าหน้าที่ของ A.C.T ก็แนะนำเราว่าให้ดูที่ “สะพานยาง” ถ้าช่องดอกยางเสมอเท่าสะพานยาง นั่นหมายความว่าดอกยางตื้นเกินไปแล้ว ถึงเวลาเปลี่ยนยางเส้นใหม่แล้วล่ะค่ะ

ดอกยางหมด

 

 

5 รถเด้งหรือพวงมาลัยสั่น ขณะรถเคลื่อนตัวช้า

นี่เป็นอาการที่สาวสีส้มรู้สึกได้จากรถของเพื่อนสาวเลยค่ะ ซึ่งพี่เจ้าหน้าที่ของ A.C.T บอกว่าถ้าพบอาการนี้ ให้ลองตรวจดูว่า “ยางบวม” หรือเปล่า ยางบวมเป็นแบบไหน? สาวสีส้มและเพื่อนก็ยังสงสัย เลยให้พี่เค้าพาไปดูให้เห็นกับตา

ยางบวม

 

 

อ๋อ... ยางบวมเป็นแบบนี้นี่เอง มิน่าล่ะ เวลารถเคลื่อนตัวช้าๆ เราถึงรู้สึกกระเด้งๆ เป็นจังหวะ พวงมาลัยก็จะสั่นๆ เพราะยางมันไม่กลมนี่เอง ซึ่งเกิดจากเวลาที่ขับขี่ ยางนั้นได้ไปกระแทกกับขอบอะไรสักอย่าง แล้วทำให้ยางนั้นเกิดดความเสียหายภายในโครงสร้าง จึงหมดสภาพการใช้งานแล้วนั่นเอง อาการยางบวมไม่ใช่แค่ความน่ารำคาญขณะขับขี่เท่านั้นนะคะ แต่หมายถึงเรากำลังนั่งอยู่บนรถที่มีความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา อาการนี้พี่เจ้าหน้าที่ของ A.C.T แนะนำว่าต้องเปลี่ยนเส้นใหม่ค่ะ


นอกจากนี้ พี่เจ้าหน้าที่ของ A.C.T ยังเตือนสาวสีส้มให้ระวัง “แก้มยาง” เป็นพิเศษ แก้มยางเป็นจุดที่เซนสิทีฟที่สุดของยาง เพราะแก้มยางต้องขยับตัวอยู่เสมอขณะล้อหมุน ถ้าแก้มยางโดนบาดหรือโดนของแหลมคมตำ จะไม่สามารถปะได้ ต้องเปลี่ยนเส้นใหม่สถานเดียวค่ะ

แก้มยางโดนทิ่มตำ

 

 

เลือกยางแบบไหนให้รถคุณ

สรุปว่ารถของเพื่อนสาวสีส้ม ทั้งดอกยางหมด  ยางบวม ยางฉีก ถึงเวลาเปลี่ยนยางแล้วจริงๆ ค่ะ ซึ่งในศูนย์บริการ A.C.T ก็มียางให้เลือกมากมายหลายรุ่น หลังจากเดินดูยางแล้ว สาวสีส้มก็อดสงสัยเรื่องหนึ่งไม่ได้ นั่นคือยาง Bridgestone กับยาง Firestone นั้นเหมือนหรือต่างกันยังไง?

ยาง Bridgestone

 
 
 พี่เจ้าหน้าที่ของ A.C.T ก็ได้อธิบายให้เราเข้าใจได้ง่ายๆ ว่าทั้ง Bridgestone และ Firestone เป็นยางที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานทั้งสองแบรนด์ มียางรุ่นต่างๆ สำหรับรถทุกประเภทเหมือนกัน จะแตกต่างกันอยู่บ้างในเรื่องส่วนผสม ซึ่งเป็นการออกแบบสินค้าให้มีความหลากหลาย เพื่อให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้รถที่แตกต่างกันออกไปของลูกค้าแต่ละคน

ยาง Firestone

 
 
 ซึ่งถ้าลูกค้าต้องการจะเปลี่ยนยางเส้นใหม่ เจ้าหน้าที่ของ A.C.T ก็จะให้คำแนะนำอย่างดี โดยคำนึงถึงความเหมาะสมกับการใช้งานของเจ้าของรถเป็นหลัก เช่น ระยะทางเฉลี่ยในการใช้รถ ความเร็วที่ใช้ น้ำหนักที่บรรทุก ความต้องการพิเศษอื่นๆ เช่น ความนุ่ม ความเงียบ ความประหยัด ฯลฯ สรุปว่าจะ Bridgestone หรือ Firestone ก็มั่นใจได้เหมือนกันค่ะ

ศูนย์บริการ A.C.T

 
 
ขับรถครั้งต่อไป อย่าลืมสังเกตอาการผิดปกติของรถด้วยนะคะ เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง และเพื่อนร่วมทาง แต่ถ้าอยากรู้สึกอุ่นใจด้วยบริการตรวจเช็ครถแบบมืออาชีพ ลองแวะไปที่ A.C.T สาขาใกล้บ้านสิคะ

 



 

เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai