0
0
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

ทำบุญไปไหน : 10 วัดยอดฮิตสำหรับคนเที่ยวเหนือ ไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยรับปีใหม่

calendar_month 11 ธ.ค. 2015 / stylus Admin Chillpainai / visibility 31,704 / สถานที่ยอดนิยม




       นอกเหนือจากการเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนก็ดูเหมือนจะมีเรื่องของการทำบุญที่หลายคนถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไปซะแล้ว บวกกับอากาศเย็นๆของภาคเหนือที่ทุกคนใฝ่ฝันถึง ถ้างั้นตามรอยพวกเราไปชิลกันที่ 10 วัดยอดฮิตสำหรับคนเที่ยวเหนือ ไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยเสริมสิริมงคลกันดีกว่า...


วัดพระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่


 
       ใครมาเชียงใหม่ต้องมากราบไหว้สักการะพระธาตุดอยสุเทพ วัดเก่าแก่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ให้ได้สักครั้ง ไม่งั้นคนอื่นเค้าจะหาว่ามาไม่ถึงเชียงใหม่เอาได้ พระธาตุดอยสุเทพก่อสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1929 ตั้งอยู่บนยอดดอยสุเทพ โดยเจดีย์ของวัดเป็นรูปทรงเชียงแสน ก่อสร้างตามแบบศิลปะล้านนาโบราณ ก่อนจะปิดด้วยทองคำจนเหลืองอร่อมไปทั้งองค์ นอกจากนี้บริเวณรอบองค์พระธาตุยังเป็นจุดชมวิวมุมกว้างอันสวยงามตัวเมืองเชียงใหม่ท้าทายให้นักเดินทางทั้งหลายฝ่าบันไดหลายร้อยขั้นขึ้นมานยลโฉม โดยเฉพาะคนที่เกิดในปีมะแมที่มีพระธาตุดอยสุเทพเป็นพระธาตุประจำปีเกิด
 

วัดพระธาตุดอยกองมู จ.แม่ฮ่องสอน


       พระธาตุดอยกองมู หรือชื่อเดิมว่า วัดปลายดอน ตั้งอยู่บนดอยกองมูในอ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน คำว่ากองมูในภาษไทใหญ่ แปลว่า พระเจดีย์ ลักษณะเป็นพระธาตุสีขาวล้วนองค์ใหญ่ ภายในประกอบด้วยพระธาตุเจดีย์ 2 องค์ โดยเจดีย์องค์ใหญ่ เป็นที่บรรจุพระธาตุของพระโมคคัลลานะเถระ ซึ่งนำมาจากพม่า ส่วนพระธาตุองค์เล็กสร้างโดยพระยาสิงหนาทราชา เจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนคนแรก ชาวบ้านจึงนับถือเป็นพระธาตุคู่เมืองแม่ฮ่องสอน เมื่อช่วงฤดูหนาววนมาถึง ณ พระธาตุดอยกองมู นอกจากจะมองเห็นสภาพตัวเมืองแม่ฮ่องสอนในมุมที่สวยงามที่สุดแล้ว คุณยังจะได้สัมผัสกับหมอกที่อยู่รอบๆตัวอีกด้วย


วัดพระธาตุแม่เย็น จ.แม่ฮ่องสอน 


       วัดพระธาตุแม่เย็น อีกหนึ่งไฮไลท์สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาอ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอนจะพลาดไม่ได้เช่นกัน ณ จุดนี้เราสามารถมองเห็นวิวสวยๆของอ.ปายได้ในมุมกว้างแบบพาโนรามา ถัดไปอีกไม่ไกลเป็นจุดชมวิวแห่งใหม่ที่มีพระพุทธรูปสีขาวล้วนองค์ใหญ่อย่างพระพุทธโลอุตรมหามุนีประดิษฐานอยู่ที่ด้านบนสุด สำหรับใครที่เดินฝ่าฟันบันไดหลายเกือบร้อยขั้นมาถึงด้านบนได้ ก็อย่าลืมมาไหว้องค์พระขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วยนะ จากปากทางเข้านักท่องเที่ยวสามารถเลือกขึ้นไปได้ 2 วิธี จะขับรถขึ้นก็สะดวก หรือจะเดินขึ้นบันไดพญานาคเป็นการออกกำลังกายที่น่าสนใจ
 

วัดร่องขุ่น จ.เชียงราย



(ภาพจาก : คุณ Wc Wuttichai Manowong กลุ่มใครชอบเที่ยวชิลๆโพสต์เลยชิลไปไหน)
 
      วัดร่องขุ่น ถือเป็นวัดชื่อดังแห่งจังหวัดเชียงรายที่สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก จากประดับตกแต่งด้วยลวดลายของวัดไม่ว่าจะเป็นศิลปะการวาด ปั้น หรือการใส่ลูกเล่นอย่างกระจกเล็กๆมากมายจนออกมาสวยงามราวกับอยู่บนสวรรค์ ทั้งยังเชื่อมโยงกับภาพวาดภายในอุโบสถงานสถาปัตยกรรมอันเกี่ยวข้องนรกและ สวรรค์ โดยฝีมืออาจารย์เฉลิมชัย โฆษิต-พิพัฒน์ ศิลปินที่มีความมุ่งมั่นในการรังสรรค์งานศิลปะที่งดงามแปลกตาผสานวัฒนธรรมล้านนาได้อย่างกลมกลืน


วัดพระธาตุหริภุญชัย จ.ลำพูน



(ภาพจาก : FB วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร)

       วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลำพูน สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1651 ในสมัยพระเจ้าอาทิตยราช กษัตริย์แห่งราชวงศ์จามเทวีวงศ์ ก่อนที่จะเข้าถึงบริเวณตัววัด ต้องลอดผ่านซุ้มประตูก่ออิฐถือปูนประดับลวดลายสวยงาม ฝีมือช่างโบราณสมัยศรีวิชัยซะก่อน ภายในวัดประกอบด้วยเจดีย์ซุ้มยอดเป็นชั้นๆ เบื้องหน้าซุ้มประตูมีสิงห์ใหญ่คู่หนึ่งยืนเด่นเป็นสง่าอยู่บนแท่น ความสำคัญของวัดพระธาตุหริภุญชัยนั้น นอกจากจะเป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยโบราณแล้วยังเป็นวัดที่มีการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า และเป็นพระธาตุประจำตัวคนที่เกิดปีระกาอีกด้วย
 


วัดพระธาตุช่อแฮ จ.แพร่



(ภาพจาก : www.phrae.go.th)

       วัดพระธาตุช่อแฮ เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองจ.แพร่ และเป็นวัดพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีขาล ตามตำนานกล่าวว่าพระธาตุช่อแฮถูกสร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระเกศธาตุและพระบรมสารีริกธาตุพระกัประ (ข้อศอก) ด้านซ้าย ส่วนคำว่า ช่อแฮ มาจากคำว่า ช่อแพร อันหมายถึง ผ้าแพรชั้นดีที่ผู้สร้างพระธาตุนำมาผูกถวาย นอกจากจะมีหลวงพ่อช่อแฮเป็นพระประธานประดิษฐานในพระอุโบสถแล้ว ที่พระธาตุช่อแฮยังมีหลวงพ่อทันใจ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่มีผู้นิยมมากราบไหว้ บนบานศาลกล่าวอยู่เสมอ เนื่องจากเชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปที่ใครมาขอพรแล้ว จะได้สิ่งนั้นสมหวังตามที่ขอ
 

วัดพระธาตุเขาน้อย จ.น่าน

       วัดพระธาตุเขาน้อย แลนมาร์คสำคัญของจังหวัดน่าน ซึ่งเป็นปูชนียสถานเก่าแก่แห่งหนึ่งที่อยู่บนดอยเขาน้อย มีขั้นบันไดนาค 303 ขั้นให้เดินขึ้นไป หากใครไม่อยากเดินขึ้นก็สามารถขับรถขึ้นถึงตัววัดได้เช่นกัน เมื่อมาถึงควรไปนมัสการพระพุทธมหาอุตมมงคลนันทบุรีศรีเมืองน่าน พระพุทธรูปปางลีลาองค์ใหญ่ ที่นี่ถือเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามเพราะเห็นเมืองน่านจากมุมสูงได้กว้างถึง 180 องศา ใครที่ชอบถ่ายภาพนั้นห้ามพลาดเด็ดขาด
 

วัดพระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง



(ภาพจาก : FB วัดพระธาตุลำปางหลวง)
 
       วัดพระธาตุลำปางหลวงเป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง ซึ่งประดิษฐานพระแก้วดอนเต่า พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจ.ลําปาง ตามตํานานกล่าวว่า วัดพระธาตุแห่งนี้มีมาตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี ราวพุทธศตวรรษที่ 13 ตัววัดตั้งอยู่บนเนิน มีบันไดนาคทอดขึ้นสู่ตัววัด ตัววัดมีสถาปัตยกรรมที่งดงาม และมีความสําคัญทางด้านประวัติศาสตร์ซ่อนอยู่มากมายในพิพิธภัณฑ์ของวัด ซึ่งรวบรวมศิลปวัตถุจากที่ต่างๆ ที่หาชมได้ยาก เช่น สังเค็ดธรรมาสนเทศน์ คานหาบ ตู้พระไตรปิฎกและอีกมากมาย วัดพระธาตุลำปางหลวงเลื่องลือในปาฏิหาริย์ของพระธาตุที่ท้อนเป็นภาพกลับหัวในพระวิหารและมณฑป นอกจากนี้ยังเป็นวัดพระธาตุประจำปีนักษัตรฉลูอีกด้วย


วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.พิษณุโลก



(ภาพจาก : FB พิษณุโลกบ้านเรา)

       วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือที่ชาวบ้านในพื้นที่เรียกกันติดปากว่า วัดใหญ่ ตั้งอยู่ในจ.พิษณุโลก ไม่เพียงแต่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพิษณุโลกเท่านั้น แต่วัดใหญ่ยังถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนทั้งประเทศที่สำคัญอีกวัดหนึ่งในเมืองไทย หลายต่อหลายคนตั้งใจเดินทางมาถึงพิษณุโลกก็เพื่อสักการะพระประธานองค์ใหญ่สีเหลืองอร่ามที่ประดิษฐานในวิหารอย่าง "พระพุทธชินราช" พระพุทธรูปปางมารวิชัยที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในประเทศไทยโดยเฉพาะ เรียกได้ว่าเป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมอันล้ำค่าของเมืองพิษณุโลกตั้งแต่สมัยสุโขทัยเลยทีเดียว
 

วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว จ.เพชรบูรณ์




 
       วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว วัดที่เป็นแลนด์มาร์คจุดสำคัญของจ.เพชรบูรณ์ มีธรรมชาติโดยรอบเป็นภูเขาสูงใหญ่ สลับซ้อนกันเป็นทิวเขาเรียงรายโอบรอบบริเวณศาลาปฏิบัติธรรม และบนยอดเขาสูงตระหง่านนั้น มีถ้ำอยู่บนปลายยอดเขา ซึ่งมีชาวบ้านทางแดงหลายคน ได้เห็นลูกแก้วลอยเหนือฟากฟ้า และลับหายเข้าไปในถ้ำบนยอดผา ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมา และต่างถือว่าเป็นสถานที่มงคล มีความศักดิ์สิทธิ์และเรียกตามๆ กันว่า “ผาซ่อนแก้ว” พร้อมสามารถชมวิวบนวัดของอำเภอเขาค้อได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียว ถือว่าควรค่าแก่การไปเยือน


เรียบเรียงโดยชิลไปไหน

เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai