0
0
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

รีวิว กรูเมท์ ดิสทริกซ์ พระราม 2 (Gourmet District) แหล่งรวมความอร่อยแห่งใหม่ในย่านพระราม 2

calendar_month 14 เม.ย. 2022 / stylus Admin Chillpainai / visibility 167,650 / รีวิวที่เที่ยว

 




 

เมื่อวันหยุดที่ผ่านมาระหว่างที่สาวสีส้มขับรถลงใต้โดยใช้ถนนพระราม 2 ก็บังเอิญไปพบกับคอมมูนิตี้มอลล์ดีไซน์เก๋ไก๋สไตล์ทัสคานี่เหมาะกับการไปถ่ายรูปมากๆ หลังจากกลับมากรุงเทพฯ ก็เลยหาข้อมูลว่าเป็นคอมมูนิตี้มอลล์เปิดใหม่ล่าสุด และที่เด่นคือร้านอาหารของที่นี่มาจากเชฟชื่อดังของเมืองไทยอีกด้วย งานนี้สาวสีส้มก็ไม่พลาดรีบไปอัพเดตมาให้เพื่อนๆ ชมก่อนใคร กับทีนี่ กรูเมท์ ดิสทริค พระราม 2 (Gourmet District)

กรูเมท์ ดิสทริค พระราม 2 (Gourmet District) นั้นตั้งอยู่ที่พระราม 2 กม.15 การเดินทางจากกรุงเทพฯ เราใช้ทางด่วนข้ามสะพานพระราม 9 เพื่อไปถนนพระราม 2 แล้วขับตรงไปเรื่อยๆ ผ่านเซ็นทรัลพระราม 2 ผ่านวงแหวนกาญจนาภิเษกไปประมาณ 6 กิโลเมตร แล้วใช้ทางออกคู่ขนานจุดสังเกตุคือตรงร้านโชคชัยค้าถัง จากนั้นขับไปเรื่อยๆ กรูเมท์ ดิสทริค จะตั้งอยู่ติดกับบุญถาวร บริเวณทางเข้าหมู่บ้านณุศาศิริ


 
พอมาถึงสาวสีส้มกับเพื่อนก็รีบแชะภาพสวยๆ ก่อนเลยค่ะ ตัวอาคารดีไซน์สไตล์ทัสคานี่ มีทั้งหมด 3 ชั้น โดยจะมีมุมให้เราถ่ายรูปเก๋ๆ เหมือนอยู่เมืองนอกเลยล่ะค่ะ 

 

มุมถ่ายรูปเก๋ๆ ที่เขาเพนท์ภาพเมืองท่องเที่ยวของยุโรปเป็นภาพสามมิติ เวลาเราไปยืนถ่ายเหมือนกับเราได้ไปเดินอยู่ที่สถานที่จริงเลยค่ะ สวย เก๋มากๆ

  

ผนังแต่ละมุมเขาก็จะมีภาพเขียนที่เปี่ยมไปด้วยเรื่องราว จินตนาการ และความสนุก ให้เราได้แชะภาพสวยๆ มากมาย

 

นอกจากสไตล์การตกแต่งที่เป็นจุดเด่นแล้ว อีกไฮไลท์สำคัญของที่นี่คือร้านอาหาร ซึ่งมีทั้ง อาหารไทย อาหารญี่ปุ่น อาหารจีน อาหารเวียดนาม อาหารอิตาลี และแต่และร้านสร้างสรรค์ความอร่อยโดยเชฟชื่อดังระดับประเทศ และที่สำคัญราคาไม่แพงด้วย วันนี้สาวสีส้มก็ขอเลือกชิมอาหารอร่อยจาก 4 ร้านที่เรายกนิ้วให้ว่าเด็ดสุดๆ ลองไปชมกันเลย

 

 

เริ่มจากร้านแรกค่ะร้าน Nogano โดยชื่อร้านนั้นเลียนเสียงมาจากชื่อเมืองนากาโนะของญี่ปุ่น ซึ่งเมืองนากาโนะนั้นจุดเด่นคือเรื่องวัตถุดิบแนวออร์แกนิก ซึ่งร้านนี้จุดเด่นก็คือใช้วัตถุดิบแบบปลอดสารพิษเช่นเดียวกัน อาหารที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่คือชาบูค่ะ โดยมีน้ำซุปให้เลือกมากมายเช่นน้ำซุปสุกี้ญี่ปุ่น น้ำซุปคอมบุ นอกจากนี้ยังมีน้ำซุปสไตล์ไทย เช่น น้ำซุปแกงเหลืองใต้ น้ำซุปแจ่วฮ้อนให้เลือกทานอีกด้วย ส่วนเนื้อของที่นี่จะเป็นเนื้อนำเข้า เช่น เนื้อสตริปลอยด์ เนื้อโกเบ เนื้อยูเอส เนื้อหมูคุโรบูตะ และซูชิ ซาซิมิ ข้าวหน้าปลาดิบและอีกมากมาย
 
 

มาแล้วค่ะอาหารของเราที่แต่ละเมนูนั้นเป็นไฮไลท์ของร้านเลยค่ะ ลองไปชมกันว่าจะมีอะไรบ้าง

 
 
เริ่มจาก Salmon Cheese Burn ที่เขานำซูชิหน้าแซลม่อน ท็อปด้วยชีสชิ้นโต แล้วนำไปเบิร์นหรือลนไฟให้ร้อนจนเนื้อแซลม่อนสุกนิดๆ และชีสละลายเวลาทานชีสจะยืดเลยค่ะ อร่อยมากๆ
 
 
 
ต่อด้วย Sashimi Cucumber out size ที่เขาใช้แตงกวาญี่ปุ่นห่อเนื้อแซลม่อนสดเวลาทานจะได้ความกรุบกรอบของแตงกวาญี่ปุ่นอร่อยมากๆ และอีกเมนูคือกุ้งเทมปุระ ที่ใช้กุ้งตัวโตๆ ทอดกับแป้งเทมปุระ ที่กรอบนอกนุ่มใน ไม่อมน้ำมัน

  
 
ส่วนชาบูที่เราสั่งมาเป็นเซ็ทชาบูคุโรบูตะ เนื้อหมูคุโรบูตะจุ่มไปน้ำซุปสาหร่ายคอมบุ หอมหวาน จุ่มจนสุกได้ที่ก็นำมาจุ่มกับไข่ดิบทานเป็นสไตล์ญี่ปุ่น หรือจะนำไข่ดิบตีแล้วเทลงไปน้ำซุปก็ได้แล้วแต่ความชอบเลยค่ะ

 

ระหว่างทานเชฟไพรวัลย์ ศรีภูมิพฤกษ์ เชฟผู้ดูแลร้าน Noganno ก็ได้มาพูดคุยกับเรา โดยงานนี้สาวสีส้มได้พูดคุยกับเชฟที่มีประสบการณ์การทำอาหารญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน โดยเมนูของร้านนี้เกิดจากการสร้างสรรค์และความคิดที่อยากให้คนไทยได้ทานชาบูและอาหารญี่ปุ่นสุดอร่อยที่ใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ
 
 

ร้าน Nogano เปิดเวลา 11.00-22.00 น.
 เบอร์โทรศัพท์ 034-496152
 

 

ต่อด้วยร้านอาหารเวียดนาม Hi! Viet ร้านอาหารเวียดนามที่ตกแต่งผสมผสานความเป็นโมเดิร์น โดยอาหารจะมีทั้งเป็นเวียดนามสไตล์ต้นตำรับ และอาหารเวียดนามสไตล์ประยุกต์

 

งานนี้เราขอจัดเมนูเด่นของร้านที่ขอบอกว่าอร่อยทุกเมนูเลยค่ะ

 

เริ่มด้วยปูพันตะไคร้ ที่ใช้เนื้อปูบดผสมกับมันหมูพันด้วยตะไคร้ เนื้อปูเยอะมากๆ และหอมตะไคร้ อร่อยมากๆ


ต่อด้วยเนื้อย่างใบชะพลูที่นำเนื้อไปสับละเอียดแล้วห่อด้วยใบชะพลูแล้วนำไปย่าง ทำให้กลิ่นของใบชะพลูเข้าไปในเนื้อ ตัวเนื้อก็นุ่ม ทานกับเส้นหมี่และหอมเจียว


ต่อด้วยฉู่ฉี่ปลากระพงที่เขานำปลากระพงไปหมักแล้วนำไปทอด ส่วนตัวน้ำเขาใช้ผงกะหรี่ ตะไคร้ ผัดให้เข้ากันแล้วมาคลุกก็จะหอมผงกะหรี่ หอมตะไคร้ อร่อยมากๆ เลยค่ะ ทานกับขนมจีนเข้ากันสุดๆ


 
นอกจากนี้ยังมีผักสด และน้ำจิ้มสามสไตล์ ทั้งน้ำจิ้มหวาน น้ำจิ้มซีฟู้ดที่ความต่างคือจะเป็นสีแดงไม่ใช่สีเขียวเหมือนน้ำจิ้มซีฟู้ดทั่วไป ส่วนรสชาติกลมกล่อมมากๆ และ น้ำจิ้มผักดอง ทานคู่กับอาหารเมนูไหนก็อร่อย
 
 

เชฟเบิ้มผู้สร้างสรรค์เมนูอาหารสุดอร่อยให้เราทานในวันนี้


ร้านอาหาร Hi! Viet เปิดบริการเวลา 11.00-22.00 น.
 โทร : 034496145-6


 

 
 
 
ต่อด้วยร้านอาหารไทยที่ชื่อว่าร้านชิมไทย โดยร้านนี้จะตั้งอยู่บริเวณชั้น 2 ค่ะ เป็นร้านที่มีเชฟชื่อดังของเมืองไทยคือเชฟชุมพล แจ้งไพร เป็นผู้ดูแลในภาพรวม 

พอเข้ามาในร้านก็ต้องทึ่งกับการตกแต่งร้านที่สวย หรูหรา และกว้างขวางมากๆ การออกแบบจะเป็นสไตล์ไทยคอนเทมเพอรารี่ เพดานสูงทำให้ร้านดูไม่อึดอัด บรรยากาศเหมาะกับการพาผู้หลักผู้ใหญ่มาทานอาหารอร่อย


ที่นั่งของร้านจะมีให้เลือกมากมายทั้งโต๊ะกลมดีไซน์เก๋ โต๊ะดินเนอร์แบบยาว สำหรับการเลี้ยงรับรองที่จะจัดโซนแยกออกไปทำให้ได้รับความเป็นส่วนตัว ใครอยากมาปิดร้านจัดงานแต่งงานขอบอกเลยว่าเก๋มากๆ เพราะร้านเหมาะกับการเลี้ยงฉลองมากๆ เลยค่ะ

 
 
จุดเด่นของอาหารไทยที่นี่จะเป็นการประยุกต์ไทยโบราณให้หน้าตาเป็นแบบฟิวชั่นฟู้ดโดยใส่ความครีเอท แต่รสชาติก็ยังคงความเป็นไทยเดิมอยู่ เริ่มจากเมนูแรกได้แก่แกงคั่วปู ที่เขาใช้เนื้อปูชิ้นโตๆ นำไปแกงคั่วกับเครื่องแกงรสชาติเข้มข้น เสิร์ฟพร้อมกับข้าวหอมมะลิและข้าวไรซ์เบอร์รี่ที่มาในหม้อดิน เมนูนี้สาวสีส้มชอบมากๆ เหมือนทานแกงคั่วฝีมือคุณยายเลยค่ะ

  
 
ต่อด้วยน่องเป็ดผัดพริกขิง ที่เขานำน่องเป็ดไปซูวีให้สุกในอุณหภูมิที่พอเหมาะเป็นเวลานาน แล้วนำไปย่าง จากนั้นทำเครื่องผัดพริกขิงแบบโบราณสไตล์จัดจ้านคลุกเคล้ากับปลาดุกทอดแล้วนำมาโรยบนตัวเป็ด จานนี้หน้าตาฝรั่งแต่รสชาติไทยมากๆ



ปิดท้ายด้วยยำแซลม่อนที่เขาใช้ความเป็นตะวันตกผสมสานกับความเป็นตะวันออกเป็นเมนูสุดแซ่บจี๊ดจ๊าดจัดจ้านมากๆ



อาหารอร่อยทุกเมนูวันนี้สร้างสรรค์โดยเชฟเหน่ง พงษ์ศิริ อาจหาญ เชฟมือขวาของเชฟชุมพลค่ะ 
 

 
ร้านชิมไทย เปิดบริการเวลา 11.00-22.00 น.
 โทร : 034-496144

 
 
 
 
ปิดท้ายด้วยร้านอาหารจีนสไตล์ฮ่องกง ร้านเล่อเทียน ที่มีเชฟป้อม ธนรักษ์ ชูโต  เชฟอาหารจีนชื่อดังของเมืองไทยคอยดูแล ตัวร้านตกแต่งไตล์ฮ่องกงโมเดิร์น  มีห้องไพรเวต 2 ห้อง  โดยทั้งร้านสามารถรองรับได้ 90-120 คนซึ่งใครสนใจมาจัดงานก็ติดต่อมากันได้เลยค่ะ

วัตถุดิบต่างๆ ของร้านคัดสรรมาเป็นอย่างดี ซึ่งส่วนมากนำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อให้ได้ของดีที่สุด นำมาปรุงเป็นเมนูสุดอร่อยที่ใครมาชิมก็ต้องยกนิ้วให้


เริ่มจากเมนูซี่โครงหมูเชฟป้อม ที่เขานำเนื้อหมูส่วนซี่โครง ไปหมักกับเครื่องเทศของจีน จากนั้นนำไปต้มในน้ำเดือดร้อยองศาเซลเซียส แต่เอาพอสุก เอาไปทอดจนได้ที่ แล้วเอาไปผัด จนได้เนื้อซี่โครงสุดอร่อยรสชาติกลมกล่อม


ต่อด้วยเมนูหอยเชลล์ฮอกไกโด ที่เขานำหอยเชลล์จากเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่นมาผัดกับซอสเอ็กซ์โอสูตรเด็ดของทางร้าน ขอบอกว่าจานนี้อร่อยมากจนเพื่อนสาวต้องเข้าไปในครัวขอซื้อซอสเอ็กซ์โอจากทางร้านไปผัดทานที่บ้านกันเลยค่ะ


ส่วนจานนี้คือกุ้งกระจก ที่เขาใช้กุ้งนำไปลวก แล้วไปผัดกับน้ำมันงา แป้งมันฮ่องกง เพื่อให้กุ้งขึ้นเงา และเนื้อเด้งจิ้มกับน้ำจิ้มกะปิจากอินโดนีเซียที่ทางเชฟเล่าว่าเป็นกะปีที่ดีที่สุดในโลก กลิ่นหอม รสชาติอร่อยมากๆ ทานคู่กับกุ้งกระจกเข้ากันสุดๆ

 
 
มาทานอาหารเหลาก็ห้ามพลาดกับเมนูหูฉลามอบหม้อดิน จานนี้เชฟบอกว่ากว่าวิธีทำค่อนข้างซับซ้อนเพื่อให้ได้น้ำซุปรสชาติกลมกล่อมที่สุด ตัวหูฉลามก็กรุบๆ ไม่เละ เป็นเมนูที่ทานตอนร้อนๆ จะฟินมากๆ


ร้านอาหารเล่อเที่ยนเปิดบริการเวลา 11.00-22.00 น.
 โทร : 034-496150



วันนี้สาวสีส้มตะลุยกินจนพุงกางไปหมดแล้ว เพราะห้ามใจไม่ได้กับรสชาติอาหารของทุกร้านที่อร่อย น่าไปลอง
 ก็เลยเก็บบรรยากาศและรสชาติอาหารของแต่ละร้านมาให้เพื่อนๆ ได้ชมมากที่สุด
 ใครอยากไปชิมของอร่อยเหล่านี้พร้อมกับถ่ายรูปเก๋ๆ ก็ไปชิลกันได้เลยค่ะ

ที่ กรูเมท์ ดิสทริค พระราม 2 (Gourmet District)
 

กรูเมท์ ดิสทริค พระราม 2 (Gourmet District)
 โทร : 034-496-142
http://gourmetdistrictthailand.com/




 

เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai