เที่ยวเพชรบูรณ์ - ทริป 2 วัน 1 คืน เที่ยวภูทับเบิก ทุ่งแสลงหลวง ชมสายหมอก กอดทุ่งสะวันนา

ในช่วงปลายเดือนสิงหาย่างเข้าเดือนกันยาของทุกปีช่วงฤดูฝน มักเป็นช่วง Low season สำหรับการท่องเที่ยว แต่สำหรับใครที่มีใจรักในการเดินทางแล้ว ฤดูนี้เป็นฤดูแห่งการตามหาความชิล ความสดชื่น ความหนาวเย็น ความสนุกสนาน และการท่องเที่ยวแบบผจญภัย ที่มาพร้อมกับสายฝนชุ่มช่ำของธรรมชาติ เพราะมองไปทางไหนก็มีแต่ภูเขาและทุ่งหญ้าสีเขียว สบายตา ถ้าอยากรู้ว่าวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ ทริปนี้เราไปชิลที่ไหนบ้าง ตามไปดูกันเลย ....

Story & Photo : หนุ่มชาวดอย

29 สิงหาคม 2558

จุดหมายแรก ภูทับเบิก  ... ตามหาดอกลิ้นมังกร น้ำตกหมันแดง

เริ่มต้นเราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ในช่วงค่ำของคืนวันศุกร์ เวลานั้นฝนตกหนักมาก แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคของการเดินทาง ใช้เวลาประมาณ 6 ชม. ก็ถึงบ้านทับเบิกในตอนเช้ามืดเพื่อรอชมทะเลหมอกตอนพระอาทิตย์ขึ้น การขึ้นมาชิลถ่ายรูปที่จุดชมวิวสูงสุดหรือจุดวัดอุณภูมิทับเบิกก็เหมือนได้มาเชคอินที่ภูทับเบิกแล้ว

 

05.45 น. เช้าวันเสาร์ อากาศเช้าวันนั้น 17 องศา มีหมอกหนาและลมแรง เปิดให้เห็นวิวเป็นบางช่วง ใครจะถ่ายรูปต้องอาศัยดวงกันเล็กน้อย ภูทับเบิกในช่วงปลายฝนนี้ บรรยากาศดีสุดๆ เรียกได้ว่าคุ้มค่าแน่นอนสำหรับคนชอบโอโซน และชอบสัมผัสบรรยากาศหนาวๆ ส่วนไร่กระหล่ำปลีนั้นอยู่ในช่วงกำลังปลูกเลย

เกร็ดน่ารู้ :

 - ภูทับเบิกต้องมาช่วงปลายฝน เพราะอากาศกำลังดีที่สุดจะมีหมอกเยอะลอยไปมา การไปชมไร่กะหล่ำเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของการมาเที่ยวภูทับเบิก ช่วงที่จะได้เห็นไร่กะหล่ำที่ชาวบ้านกำลังปลูกกันคือช่วง หน้าฝนและหน้าหนาว เดือน ก.ค.- ต.ค. 
- ข้างบนภูทับเบิกยังมีเต้นท์และรีสอร์ทอีกมากมายให้บริการและให้เช่า สําหรับผู้ที่ต้องการค้างคืน เพื่อสัมผัสความหนาวเย็น หากนำเต้นท์และอุปกรณ์มาเองทั้งหมดเสียค่าบำรุงสถานที่คนละ 50 บาท

ติดต่อวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวภูทับเบิก โทรศัพท์ : 085-733-9737 

 

 

 

09.00 น. หลังจากสัมผัสบรรยากาศความชิลและทานข้าวต้มมื้อเช้ากันเสร็จ เราก็เตรียมตัวเดินทางกันต่อ เรานั่งรถกระบะของคนนำทางไปที่บ้านหมันขาว เพื่อจะเดินเข้าไปชมความงามของน้ำตกหมันแดง น้ำตกที่ซุกซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติในป่าลึก !! .. แค่ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของน้ำตก ก็ทำให้เลือดการผจญภัยสูบฉีดขึ้นมาทันที

10.00 น. ใช้เวลาในการนั่งรถกระบะเข้ามาที่หมู่บ้านประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ระยะทางกว่า 30 กิโลเมตร จากภูทับเบิก ก็มาถึงโรงเรียน ตชด.บ้านหมันขาว ทุกคนต่างเตรียมตัวเก็บของสัมภาระพร้อมพกข้าวมื้อเที่ยงติดกระเป๋าเข้าไปด้วย จากนั้นพี่เสือคนนำทางก็เดินนำหน้ามุ่งสู่น้ำตกหมันแดง 

11.00 น. ใช้เวลาในการเดินเข้าไปชมน้ำตกประมาณ 1 ชั่วโมง ระยะทาง 2 กิโลเมตร เส้นทางค่อนข้างชันและลื่นพอสมควร แต่ที่สำคัญคือต้องฝ่าดงทากเข้าไป!!  เป็นอะไรที่ท้าทายสำหรับคนที่อยากเดินป่าอย่างมาก งานนี้เหมือนได้โชคสองชั้น เพราะซ้ายเจอทากขวาเจองู เหมือนหนีเสือปะจระเข้ พี่เสือคนนำทางชี้ให้ดูตรงกิ่งไม้ไผ่ข้างทางเดิน มีงูเขียวหางไหม้ขดตัวอยู่อย่างกลมกลืนจนแยกไม่ออก พี่เขาเตือนว่าอย่าเข้าไปใกล้ระยะฉกของมัน เราไม่ทำอะไรเขา .. เขาก็ไม่ทำอะไรเรา  จากนั้นเราเดินไปสักพักใหญ่ก็ถึงน้ำตกหมันแดงชั้นที่ 9 ที่คือชั้นแรก แต่ไม่สามารถเข้าไปชมได้ เพราะมีต้นไม้ล้มขวางหน้าน้ำตกอยู่ ก็เลยเดินขึ้นไปที่ชั้น 8 ซึ่งบอกเลยว่า สวยงามประทับใจจนหายเหนื่อยหายกลัวทากกันเลยทีเดียว 

 

น้ำตกหมันแดง เป็นน้ำตกขนาดใหญ่อยู่ในเขตอุทยานภูหินร่องกล้า จากการสำรวจในอดีตน้ำหมันแดงมีถึง 32 ชั้น แต่ชั้นที่สามารถเดินเข้าไปชมได้คือชั้นที่ 1 ถึงชั้นที่ 9 การนับชั้นของน้ำตกค่อนข้างแปลกกว่าที่อิ่น คือนับจากชั้นบนลงล่าง เพราะเป็นน้ำตกที่มีสายน้ำตกลงสู่หุบเหวด้านล่าง ในแต่ละชั้นก็มีความสวยงามแตกต่างกันไป 

ในที่สุดเราก็ได้เจอสิ่งที่เราตามหา ดอกลิ้นมังกร ...
 ซึ่งเป็นไฮไลท์สำคัญของน้ำตกหมันแดงนี้ ดงดอกลิ้นมังกรสีชมพู ต้นเล็กน่ารัก อยู่ชั้นที่ 5 ซึ่งหาดูได้ยากมาก 1 ปี จะออกดอกแค่ครั้งเดียว ช่วงเวลาที่จะได้เห็นดอกชนิดนี้คือช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปี และหน้าฝนแบบนี้น้ำตกจะสวยงามเพราะมีน้ำเยอะ ใครที่รักธรรมชาติและการผจญภัยต้องอย่าพลาด

 

 

 

เราเดินขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงชั้นที่ 1 ในแต่ละชั้นก็มีความสวยงามตากต่างกันไป อีกทั้งได้เห็นต้นไม้น้อยใหญ่แตกกิ่งใบเขียวขจีในช่วงหน้าฝน ถือว่าเป็นช่วงที่ป่าและน้ำตกกำลังสวยงามที่สุด

เกร็ดน่ารู้ : ควรมีถุงกันทากหรือพกเกลือป่นไว้ใช้โรยตัวหากเวลาโดนทากกัด/เสื้อกันฝน/รองเท้าเดินป่า
 ทางไปน้ำตกกหมันแดงมี 2 เส้นทาง

 1.ภูทับเบิก - บ้านหมันขาว
 หากจ้างรถกระบะคันละ 1,800-2,000 บาท + ค่าคนนำทาง 500 บาท ติดต่อพี่เสือ ภูหินร่องกล้า 085-051-8084 เส้นทางเดินเข้าไปน้ำตก ระยะทาง 2 กิโลเมตร เดินง่าย
 2.ภูหินร่องกล้า - หน่วยพิทักษ์น้ำตกหมันแดง
 สามารถเอารถมาจอดที่หน่วยได้ หรือติดต่อเหมารถที่อุทยานพร้อมเจ้าหน้าที่ ราคา 800-1,000 บาท
 เส้นทางเดินเข้าไปน้ำตก 3.5 กิโมเมตร เดินไกล
 ข้อมูลติดต่อ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า

โทรศัพท์ 08-1596-5977,0-5523-3527  

13.00 น. หลังจากชื่นชมความงามของน้ำตกและทานมื้อกลางวันในป่ากันอย่างเต็มอิ่มแล้ว ต้องเดินเท้ากลับมาทางเดิมที่หมู่บ้านหมันขาว แล้วนั่งรถกระบะกลับไปที่ภูทับเบิกในเส้นทางเดิม

14.00 น. ถึงภูทับเบิก สภาพแต่ละคนเหนื่อยจากการผจญภัยกันอย่างมาก แต่เราต้องเดินทางกันต่อไปที่หน่วยหนองแม่นา อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง เพื่อไปกางเต้นท์และทำอาหารเย็น เป็นแคมป์ที่พักสำหรับคืนนี้

17.00 น. เกือบ 5 โมงเย็น เดินทางมาถึงหน่วยหนองแม่นา อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ในช่วงใกล้ๆ มืด จุดกางเต้นท์จะอยู่บริเวณด้านหน้าทุ่งหญ้าสะวันนาริมป่าสน เป็นทุ่งกว้าง ก็เลือกทำเลกางเต้นท์และตั้งแคมป์กันตามสบาย เสร็จแล้วสามารถเดินถ่ายรูปเล่นได้เลย เพราะมองเห็นวิวทุ่งสะวันนาแบบพาโนราม่ากว้างๆ สุดสายตา ทุ่งหญ้าเขียวขจี บรรยากาศดีสุดๆ และเราโชคดีมากที่ได้เห็นฟ้าหลังฝนสวยๆ ในเย็นวันนั้น

20.00 น. ช่วงค่ำๆ เราทานมื้อเย็นกันเสร็จพร้อมกับพูดคุยกันในแคมป์อย่างสนุกสนาน ทุกคนก็แยกย้ายกันพักผ่อน หลังจากผจญภัยมาทั้งวัน 

 

ชมวิวลานดุสิตา เที่ยวทุ่งนางพญา ไหว้พระธาตุผาซ่อนแก้ว

05.40 น. เช้าวันที่ 2 เราตื่นเช้ามาทำธุระส่วนตัวกันเสร็จ ต้องนั่งรถกระบะเข้าไปในทุ่งเพื่อไปที่ลานสุดิตา

06.30 น. ถึงลานดุสิตา เรายืนชิลจิบกาแฟถ่ายรูปกันอยู่ที่ลาน ซึ่งเป็นจุดชมวิวโลโก้ของทุ่งแสลงหลวง เราสามารถเห็นหมอกบางๆ บนยอดทุ่งหญ้าและเทือกเขาอยู่ไกลๆ ในช่วงกรีนซีซั่นนี้ ทุ่งหญ้าก็จะมีสีเขียวสดชื่นอย่างที่เห็น มองไปทางไหนก็มีแต่ทุ่งหญ้าและต้นไม้สีเขียวขจีสุดสายตา 

 

 

 

 

จุดท่องเที่ยวหลักของอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ด้านจังหวัดเพชรบูรณ์ ก็คือป่าสนธรรมชาติ ทุ่งหญ้าสะวันนา ซึ่งมีทิวทัศน์และพรรณไม้ดอกที่งดงามโดยเฉพาะช่วงปลายฤดูฝนต้นหนาว เหมาะแก่กิจกรรมเดินป่า กางเต้นท์พักแรม และปั่นจักรยานเสือภูเขา ซึ่งเป็นกิจกรรมที่นิยมมากสำหรับนักปั่นหลายๆ คน ยังมีจุดท่องเที่ยวอื่นๆ ที่สำคัญของอุทยานคือ

ทุ่งนางพญา , สะพานแขวน , แก่งวังน้ำเย็น , ทุ่งโนนสน (จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปได้ใน เดือนตุลาคม-พฤศจิกายนของทุกปี ต้องเดินด้วยเท้าเข้าไปประมาณ 15 กิโลเมตร ติดต่อเจ้าหน้าที่และต้องเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไปเอง ทั้งเต้นท์,อาหาร,น้ำดื่ม)

08.45 น. จากที่เราชิลกับบรรยากาศและทานมื้อเช้ากันที่ลานดุสิตากันเต็มอิ่มแล้ว ก็นั่งรถกระบะไปเที่ยวที่ทุ่งนางพญากันต่อ ในระหว่างทางก็ชมวิวสวยๆ มีต้นสนสองใบเรียงราย บรรยากาศคล้ายเมืองนอกสวยสมชื่อทุ่งสะวันนา

 

 

09.45 น. ถึงทุ่งนางพญาเมืองเลน อยู่ห่างจากอุทยาน 14 กิโลเมตร จากการสอบถามคนนำทาง เมืองเลน คือชื่อเมืองในเก่าในสมัยเก่าก่อนเมื่อนานมาแล้ว เป็นดินแดนแห่งทุ่งหญ้าและป่าสนสองใบที่ใหญ่ที่สุด วิวสองข้างทางเป็นเนินเขา คล้ายๆ หลังเต่าที่เรียงสลับกันอย่างสวยงามลงตัว หากใครที่ชอบความงามของป่าสน ต้องอย่าพลาดมาชมทุ่งนางพญาแห่งนี้

 

 

 

 

 

10.30 น. หลังจากถ่ายรูปเล่นในทุ่งป่าสนกันเสร็จเราก็นั่งรถกระบะกลับมาออกมาในเส้นทางเดิม ไปที่อุทยานเพื่อเตรียมตัวเก็บข้าวของเดินทางกันต่อ กลับไปที่อำเภอเขาค้อ

เกร็ดน่ารู้ : จุดกางเต้นท์ที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง แบ่งออกเป็น 2 โซน 2 บรรยากาศให้เลือกว่าต้องการสัมผัสบรรยากาศแบบไหน สามารถนำเต้นท์มมาเองหรือเช่าเต้นท์อุทยานได้ และยังมีบ้านพักสามารถโทรจองสำรองที่พักก่อนไปได้

1. อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงโซนหนองแม่นา (เขาค้อ) เป็นบรรยากาศของทุ่งหญ้าสะวันนา ท่ามกลางกลุ่มสนเขา และทะเลหมอกยามเช้า 

2. อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงโซน อ.วังทอง พิษณุโลก เป็นบรรยากาศริมลำน้ำเข็ก ร่มรื่น เย็นสบาย

 ในการเช่ารถกระบะเข้าไปดูทุ่งนางพญา (หน่วยหนองแม่นา) สามารถติดต่อที่อุทยานได้เลย
 หรือติดต่อพี่หมู 085-605-3953 ราคาคันละ 1,000 บาท ไม่เกิน 12 ท่าน
 ช่วงนี้วันธรรมดา ค่าบริการผ่านเข้าอุทยาน ลด 50% วันที่ 1 กค. - 30 ธค. 2558

หากใครมาได้มาทุ่งแสลงหลวงช่วงหน้าหนาว ทุ่งหญ้าก็จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีทองตามฤดูกาล

ข้อมูลติดต่อเพิ่มเติม
 อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง
 โทรศัพท์ 055-268-019 , 02-579-5269  
 http://www.dnp.go.th

12.00  น. เดินทางมาถึงเขาค้อ เรามาแวะดื่มกาแฟแก้ง่วงและถ่ายรูปเล่นกันที่ร้าน 'แทนรักทะเลหมอก' กันสักพัก บรรยากาศภายในร้านเป็นบ้านไม้น่ารักๆ บนภูเขา มีระเบียง สามารถนั่งทานนั่งชิลทานอาหารและเครื่องดื่มพร้อมชมวิวเขาค้อไปด้วย และบริเวณรอบๆ ยังมีแปลงดอกไม้หลากสีสัน ให้ถ่ายรูปสวยๆ เก็บไว้อีกด้วย

 

13.00 น. ทานมื้อเที่ยงกันที่ร้านครัวเขาค้อกันอิ่มแล้ว ต่อไปเรามาทำบุญที่กันวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว วัดที่เป็นแลนด์มาร์กจุดสำคัญของจังหวัดเพรชบูรณ์ ภายในบริเวณวัดมีนักท่องเที่ยวมากันเยอะ แต่ข้างในเงียบสงบ ร่มรื่น ทั่วทั้งวัดประดับด้วยหินอ่อน หลากสีสันสวยงาม และยังสามารถชมวิวบนวัดของอำเภอเขาค้อได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียว

 

 

 

 

14.00 น. ได้เวลาพอสมควร เก็บสัมภาระเตรียมเดินทางกลับกรุงเทพฯ ก่อนกลับก็แวะซื้อของฝากแถวตลาด บอกลาเขาค้อ บอกลาเพชรบูรณ์เมืองมะขามหวาน

 การเดินทางในครั้งนี้ถือว่าคุ้มค่ามาก ทั้งสนุกสุดมันส์และชิลกับบรรยากาศหนาวๆ  ออกมาเที่ยวเพราะมีความรู้สึกว่าตอนฝนตกในกรุงเทพ ต้องเจอกับน้ำท่วม น้ำขัง รถติดหนึบ  เปียกฝนไม่สบาย ทำให้หลายๆ คน ไม่ชอบฤดูฝนและไม่ชอบท่องเที่ยวในช่วงหน้าฝน และอาจจะกลัวว่าฟ้าไม่สวย กลัวเลอะเฉอะแฉะหรือด้วยเหตุผลอื่นๆ
 แต่เสน่ห์ที่หน้าฝนมีนั้นพิเศษกว่าฤดูอื่นๆ ทั้งสายฝนที่ชุ่มฉ่ำ เติมสีเขียวขจีให้ป่าไม้และภูเขา หมอกฝนตอนเช้าที่ผัดลอยผ่านเราไปตอนฝนหยุดตก และที่สำคัญคือฟ้าหลังฝนที่สวยงาม เหมือนธรรมชาติกำลังกระซิบบอกกับเราว่า กว่าที่เราจะได้สิ่งที่แสนพิเศษมานั้น เราจะต้องอดทนรอและพยายาม ...  เก็บกระเป๋าแล้วออกไปเที่ยวกันเถอะ .. 

การเดินทาง
1.รถยนต์ส่วนตัว
- เส้นทาง จากกรุงเทพฯ ห้างฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต ใช้ถนนพหลโยธิน ( ทางหลวงหมายเลข 1 ) มุ่งหน้าสู่จังหวัด สระบุรี ประมาณ 75 กิโลเมตร จะถึงตัวเมืองสระบุรี จากนั้นขับตรงไปมุ่งหน้าสู่จังหวัดลพบุรี ประมาณ 16 กิโลเมตร สู่ภูทับเบิก จากเพชรบูรณ์ใช้ทางหลวงหมายเลข 21 ประมาณ 40 กิโลเมตร ถึงสี่แยกหล่มสัก ตรงไป ตามทางหลวงหมายเลข 203 อีก 13 กิโลเมตร พบป้ายบอกทางไปอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตามทางหลวง 2011 และทางหลวงหมายเลข 2331 อีก 40 กิโลเมตร ถึงด่านเก็บค่าธรรมเนียมของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าจาก ตรงนี้มีทางแยกขวาเข้าหมู่บ้านทับเบิกไปอีก 6 กิโลเมตร เส้นทางจากหล่มเก่ามาภูทับเบิกจะสูงชัน รถบัสไม่สามารถขึ้นได้ ผู้ที่ใช้รถยนต์หรือรถตู้ ควรขับรถด้วยความระมัดระวัง ตลอดทางขึ้นมีโค้งเยอะมากอยู่หลายช่วง ควรใช้วิธีบีบแตรกันรถที่วิ่งเร็ว หรือรถที่สวนมาในกรณีที่มองไม่เห็น
- อีกเส้นทางหนึ่งใช้เส้นทางด้านอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ผ่านอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าเลยที่ทำการ อุทยานฯ มาประมาณ 24 กิโลเมตร จะถึงภูทับเบิกหากขับรถต่อไปจะมาบรรจบกับเส้นทางที่ จะลงไปยังอำเภอหล่มเก่า
 -เส้นทางจากภูทับเบิกไปหน่วยหนองแม่นา ใช้เส้นทางเขาค้อ จากบ้านแคมป์สน เลี้ยวขวาเข้าถนน 2325 ตรงมาเรื่อยๆ จนถึงตำบลหนองแม่นา 

2.รถประจำทาง

นั่งรถโดยสารมาลงที่หล่มสัก หลังจากนั้น เหมาสองแถวที่อยู่บริเวณหล่มสักเพื่อขึ้นสู่ภูทับเบิก อัตราค่าจ้างประมาณ 1,200 บาท หรือแล้วแต่ตกลงเบอร์รถสองแถว โทร 086-119-1092
 หากใครที่ชอบลุยลองโบกรถของชาวบ้านขึ้นไปภูทับเบิก
 

คลิกเพื่อดูภาพใหญ่ 

 

Tags: เพชรบูรณ์ พิษณุโลก ภูทับเบิก น้ำตกหมันแดง เขาค้อ ทุ่งแสลงหลวง หนองแม่นา วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ทะเลหมอก ปลายฝนต้นหนาว กรีนซีซั่น หมอกล้อมเขา กางเต็นท์ แคมป์ แคมป์ปิ้ง

เขียนโดย

Admin Chillpainai

แชร์บทความนี้