0
0
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

9 สถานที่เหลือเชื่อที่ควรไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง

calendar_month 16 ธ.ค. 2021 / stylus Admin Chillpainai / visibility 322,415 / ข่าวท่องเที่ยว

 


 
ไม่น่าเชื่อ เหนือจริง อย่างกับฝัน หรือไม่มีอยู่จริงในโลก คำเหล่านี้ล้วนเป็นเพียงแค่คำที่บรรยายสถานที่เหลือเชื่อในโลกที่เรารวบรวมมาให้ดูยังไงก็ไม่มีวันหมด เพราะภาพบางภาพเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวหนึ่งของสถานที่จริงเท่านั้น ที่เราขอแนะนำว่า หากมีโอกาสคุณควรจะต้องลองไปเห็นเองด้วยตาตัวเองสักครั้งหนึ่งในชีวิต แล้วคุณจะรู้ว่าสถานที่เหลือเชื่อยังมีอยู่จริง!
 



Salar De Uyuni – Bolivia

Salar De Uyuni เปรียบได้กับโรงงานผลิตเกลือที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในช่วงฤดูฝนของประเทศโบลิเวีย มันจะแปรสภาพกลายไปเป็นแผ่นกระจกขนาดใหญ่ ที่ใสและสะท้อนท้องฟ้าจนออกมาเป็นภาพที่งดงามชวนให้เราอดใจไม่ไหวต้องลงไปเดินเล่นได้อย่างสบายๆ




 

 



Sea of Stars, Vaadhoo Island – Maldives

ในช่วงกลางวัน ชายหาดของมัลดีฟส์ก็ไม่ต่างอะไรกับชายหาดอื่นทั่วโลก แต่เมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้วนั้น นั่นแหละความมหัศจรรย์ถึงปรากฎขึ้น! ในเวลากลางคืน  ชายหาดของที่นี่จะกลายเป็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวสดใสวาววับจากแพลงตอนนับล้านตัว ลองคิดดูสิว่า ถ้าได้เดินอยู่ในสถานที่ที่เหมือนกับรายล้อมไปด้วยดวงดาวยามค่ำคืนจะรู้สึกดีแค่ไหนกัน





 



Tianzi Mountains – China  

เหล่าเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนที่ถูกนำมาใช้เป็นโลเคชั่นจากภาพยนตร์สุดฮิตของผู้กำกับชื่อดัง เจมส์ คาเมรอน และทำรายได้ถล่มทลายอย่าง Avatar (อวตาร) ดูเป็นสถานที่ลึกลับน่าค้นหา จากการถูกกัดเซาะของกระแสน้ำเมื่อประมาณ 380 ล้านปีมาแล้ว จนเหลือเป็นเสาหินที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ ไม่แน่ว่าถ้าหากหลงเข้าไป คุณอาจจะเจอบรรดามนุษย์อวตารรออยู่ก็ได้นะ

 





The Antelope Canyon, Arizona – United States 

หยดน้ำฝนเม็ดแล้วเม็ดเล่าในช่วงฤดูมรสุมไหลผ่านเข้าสู่หุบเขาสล็อต, และยิ่งเพิ่มความเร็วมากขึ้นเมื่อพวกมันวิ่งผ่านผืนทรายเข้าไปในช่องทางเดินแคบๆ กินเวลายาวนานกว่าหลายร้อยปี จนเกิดการกัดเซาะเป็นลายเส้นไหลลื่นที่ดูสวยงามพริ้วไหวบนก้อนหิน ชวนให้ไปเห็นกับตาตัวเองบ้างสักวัน

 



 



Deadvlei – Namibia

จิตรกรทั้งหลายต้องได้รับแรงบันดาลใจจากภาพนี้แน่ๆ มันอาจจะดูเป็นเรื่องเหลือเชื่อเกินไปที่ว่าภาพนี้ ไม่ใช่ภาพวาดแบบเหนือจริงตามสไตล์ลัทธิ Surrealism แต่มันคือภาพถ่ายจากสถานที่จริงที่มีชื่อว่า  "Dead Valley" ในประเทศนามิเบียต่างหาก บางทีความร้อนจัดของที่นี่อาจจะแผดเผาทุกสิ่งที่เคยมีชีวิต ก่อนที่มันจะกลายสภาพเป็นทะเลทรายแสนจะแห้งแล้งนี้ก็เป็นไปได้

 




 



Santorini – Greece

ใครจะคาดคิดว่าเกาะที่เสียหายจากการระเบิดของภูเขาไฟในศตวรรษที่ 16 จะกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามและเป็นที่นิยมที่สุดอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวหลายล้านคนอยากมาสัมผัสด้วยตาตัวเอง นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับซานโตรินี และมุมนี้ก็เป็นมุมถ่ายภาพยอดฮิตที่คนมาพลาดไม่ได้ซะด้วย




 


 

Red Beach, Panjin – China

ปรากฎการณ์ทะเลแดงสีเลือดนี้มีที่มาจาก สาหร่ายทะเลชื่อ Sueda สาหร่ายพันธุ์หายากที่มักจะเติบโตได้ดีในช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคม โดยปกติจะมีสีเขียวตลอดฤดูร้อนเหมือนกับสาหร่ายทั่วไป กระทั่งฤดูใบไม้ร่วงมาเยือน จากสีเขียวราวกับผื้นหญ้าก็จะเปลี่ยนมาเป็นสีแดงสดใส หากคุณกำลังรู้สึกเบื่อชายหาดสีฟ้าแบบเดิมๆ เราขอแนะนำให้ลองมาที่นี่ดูบ้างสักครั้ง




 



 Wilhelmstein Island – Germany 

เกาะรูปร่างแปลกตานี้ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 ตั้งอยู่บนทะเลสาบ Steinhude ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมันตะวันตก โดยใช้กองหินจำนวนมากจากฝีมือของชาวประมงท้องถิ่น ระหว่างปีค.ศ. 1765 – 1767 บางทีนี่อาจเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้หลายๆคนให้ความสนใจอยากจะไปเยี่ยมเยือนก็ได้







The Road to Heaven, Huashan Mountain – China

ณ ที่นี้ มันคือสถานที่ที่คุณจะได้เห็นถนนสายยาวซึ่งเปรียบเสมือนเส้นทางเชื่อมต่อกับประตูสวรรค์  ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกล้วนมาทดสอบความกล้าหาญและขีดจำกัดของตัวเอง จากการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่อันตรายที่สุดในโลก ทุกขั้นที่ก้าวย่างขึ้นไปล้วนมีความเสี่ยง บันไดไม้เล็กๆและทางเดินที่ทำจากไม้กระดานตอกเข้าไปยังด้านข้างของภูเขาเป็นสิ่งที่จะทำให้คุณเกือบลืมหายใจจนไม่มีวันลืมประสบการณ์ครั้งนี้แน่นอน!





 


เรียบเรียงโดยชิลไปไหน

 ที่มา  : lifehack






 

เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai