calendar_month 15 ส.ค. 2015 / stylus Admin Chillpainai / visibility 107,896 / รีวิวที่เที่ยว
เมื่อวันหยุดที่ผ่านมาสาวสีส้มไม่ได้เดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดที่ไหน เลยมีเวลาว่าง นอนเล่นมือถืออยู่บ้านเฉยๆ พอดีแอบเห็นเพื่อนๆ เช็คอินกันที่เกตเวย์ เอกมัย ทำให้อดใจไม่ได้ที่จะแอบตามไปเช็คอินกับเค้าบ้าง เลยรีบไลน์ไปชวนเพื่อนสาวพากันไปช้อปปิ้งและหาของอร่อยๆ ทานกันสักหน่อย...
เกตเวย์ เอกมัย เป็นศูนย์การค้าที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนเมือง บนย่านธุรกิจที่รวบรวมเอาร้านค้า ร้านอาหาร และบริการต่างๆ ไว้อำนวยความสะดวกแก่คนกรุงเทพฯ ได้อย่างครบครันทีเดียว ภายในศูนย์การค้าถูกจัดแบ่งออกเป็นสัดส่วน เน้นการตกแต่งสไตล์เอเชียนโมเดิร์นสุดชิคได้อย่างลงตัว ในเกตเวย์ เอกมัย ยังมีร้านอาหารนานาชาติชั้นนำให้เลือกทานมากมาย เช่น อาหารญี่ปุ่นสไตล์ปิ้งย่างต้อง Tenjo Sushi & Yakiniku Premium Buffet ร้านราเมนแสนอร่อยก็ต้องร้าน Kourakuen นอกจากนี้ยังมีร้านของหวานน่าทานอีกหลายร้าน เช่น Kyo Roll En เมนูแนะนำคือแยมโรลส่งตรงจากญี่ปุ่นพร้อมไอศครีมชาเขียว และอีกหลากหลายร้านอร่อย การเดินทางก็สะดวกแค่ลง BTS เอกมัย ออกประตู 4 ก็สามารถเข้าศูนย์การค้าได้เลย
แต่ที่พลาดไม่ได้กับ 2 ร้านน้องใหม่ล่าสุดชื่อดังที่ import มาจากต่างประเทศ ซึ่งเปิดเป็นสาขาแรกในประเทศไทย อยู่ที่ชั้น G เกตเวย์ เอกมัย คือ ร้าน The Shrimp Lover ร้านอาหารซีฟู้ด อเมริกันสไตล์ ในคอนเซปต์ “Eat with Your Hand” กับรูปแบบการเสิร์ฟที่แปลกใหม่ด้วยการเทอาหารที่ปรุงสดๆ ร้อนๆ มีทั้ง ปู กุ้ง หอย ลงบนโต๊ะ แล้วให้เราได้ใช้มือแกะ ทานเนื้อที่คลุกเคล้ากับซอสสูตรพิเศษจากเชฟมากประสบการณ์จากอเมริกา ซึ่งมีให้เลือกถึง 5 รสชาติหรือถ้าชอบสไตล์ซีฟู้ดแบบไทยๆ ก็มีให้เลือกทานเช่นกัน
และอีกหนึ่งร้านเบอร์เกอร์น้องใหม่ Teddy’s Bigger Burgers ร้านนี้เรียกว่าเป็นร้านดังในฮาวาย กับความโดดเด่นที่ใช้เนื้อนำเข้า Chuck Roll 100% คุณภาพพรีเมี่ยม ขนมปังมันฝรั่ง ที่มาพร้อมกับความพิเศษของซอสสูตรฮาวายที่ใช้ราดชิ้นเนื้อเบอร์เกอร์ ที่เห็นแค่ภาพก็ทำให้น้ำลายสอแล้วค่ะ ทั้งยังสามารถเลือกระดับความสุกของเนื้อได้อีกด้วย ใครที่ชอบทานเบอร์เกอร์ต้องไม่พลาดร้านนี้เลยค่ะ
และสำหรับนักปั่นที่บริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าก็มีร้านคาเฟ่ฮิปๆ ให้เหล่านักปั่นได้มานั่งพักเหนื่อยกันได้ที่ร้าน All Ride Café ซึ่งจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 7.00 – 22.00 น. ซึ่งนอกจากจะมีกาแฟหอมๆ เบเกอรี่นุ่มๆ ไอศกรีมโฮมเมดให้ได้อิ่มอร่อยกันแล้ว ที่นี้ยังมีบริการเติมลมยาง และจำหน่ายอุปกรณ์จักรยานต่างๆ อีกด้วยค่ะ
เมื่อเดินตรงเข้ามาด้านในศูนย์การค้าก็จะมีโซน Urban Market แหล่งรวบรวมของอร่อยที่หลากหลายมีทั้งอาหารคาวหวานมากกว่า 50 ร้านค้า เรียกว่าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่มีเวลาจำกัดได้ดีทีเดียว เพราะสามารถซื้อหากลับไปทานได้ที่บ้าน หรือถ้าอยากนั่งรับประทานที่นี่ก็มีมุมที่นั่งไว้รองรับเช่นกัน ถัดจากโซน Urban Market จะเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ต Max Value ที่มีสินค้านำเข้าให้เลือกหลายรายการ อาหารสำเร็จรูป อาหารสด ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ให้ได้เลือกซื้อกันอีกเพียบเลยค่ะ
หลังจากอิ่มอร่อยกับอาหารที่โซน Urban Market ก็ขอเดินย่อยช้อปปิ้งกันต่อที่ชั้น 2 โซน Urbano ซึ่งเป็นโซนเปิดใหม่ล่าสุดของทางศูนย์การค้าเลยค่ะ โซนนี้ จะถูกตกแต่งให้กลายเป็นเมืองในอุดมคติของชาวฮิปสเตอร์ ที่เป็นแหล่งรวมศิลปะ, แฟชั่น, งานแฮนด์เมด และงาน D.I.Y. ภายใต้การตกแต่งในรูปแบบการผสมผสานระหว่าง Loft, Industrial, Classic และ Vintage ได้อย่างลงตัว ซึ่งในบริเวณนี้จะมีร้านค้าแบรนด์ชั้นนำ ให้เราได้เลือกซื้อสินค้ากันมากกว่า 20 ร้านค้า ซึ่งแต่ละร้านจะมีสินค้าและการตกแต่งในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ชวนให้สาวสีส้มต้องเข้าไปแวะเวียนเลือกซื้อเลือกหาสินค้าติดไม้ติดมือกลับบ้านบ้างแล้วล่ะค่ะ
100 Year Plan สำหรับร้านนี้จะมีด้วยกันสองแบรนด์ไทยชั้นนำอย่าง Tomato และวานรบางกอก ซึ่งภายในร้านจะตกแต่งอย่างเรียบงายสไตล์วินเทจผสมผสานความเท่ห์โดยใช้ไม้พาเลทมาประดับตกแต่งให้ดูดิบๆ เท่ห์ๆ เข้ากับสินค้าของร้านอย่างรองเท้าหนัง Hand Made กางเกงยีนส์ที่มีเอกลักษณ์การฟอกที่ไม่เหมือนใครจากแบรนด์ Tomato และในส่วนของ วานรบางกอก แบรนด์ชื่อไทยๆ กับรูปแบบการดีไซน์ที่น่าสนใจ กับเสื้อยืดลายกราฟฟิกโดนๆ และกางเกงแนวสตรีท ใครที่ชอบเสื้อผ้าสไตล์เท่ห์ๆ ชิคๆ ต้องมาเลือกซื้อจับจองกันได้ที่ร้านนี้ ซึ่งสาวสีส้มแนะนำเลยค่ะว่าดีไซน์และเนื้อผ้าดีมากๆ เพราะเป็นผ้านำเข้าจากญี่ปุ่นด้วยค่ะ
และมาต่อกันอีก หนึ่งร้านที่น่าสนใจ สาวสีส้มเห็นแล้วเป็นต้องรีบวิ่งเข้าไปเลยค่ะ นั้นคือร้าน Junk Garage เป็นร้านสินค้ามือสอง ภายในร้านจัดวางสินค้าอย่างเป็นสัดส่วน มีมุมกระจุกกระจิกให้สาวๆ อย่างเราๆ ได้รื้อ ได้ค้น เรียกว่าถูกใจสาวสีส้มสุดๆ อีกทั้งสินค้าภายในร้านยังเป็นสินค้าคุณภาพ ถึงแม้จะเป็นมือสองแต่บางชิ้นยังใหม่และสามารถนำไปใช้งานได้อย่างดีเลยค่ะ ซึ่งภายในร้านจะมีสินค้าแอคเซสเซอรี่เบาๆ ต่างหู กำไร แว่นตา เข็มกลัด กระเป๋า เสื้อผ้า ของเล่น ตุ๊กตา ไปจนถึงของตกแต่งบ้านชิ้นใหญ่ๆ รับรองว่าถ้ามาแล้ว ต้องได้ของติดไม้ติดมือกลับบ้านแน่นอนค่ะ
หลังจากเลือกซื้อเครื่องประดับจนเป็นที่หนำใจแล้ว สาวสีส้มขอพาเพื่อนๆ ไปช้อปปิ้งกันต่อที่ร้าน White tee pee ร้านเสื้อผ้าสไตล์วินเทจ มีทั้งสินค้ามือหนึ่งและมือสอง ซึ่งสินค้าภายในร้านจะเป็นสินค้าแบรนด์ดังที่นำเข้ามาจากอเมริกาและญี่ปุ่น ซึ่งสินค้าแต่ละชิ้นเจ้าของร้านได้ คัดสรรมาเป็นอย่างดีก่อนที่จะนำมาจำหน่ายต่อลูกค้า ใครที่ชอบเสื้อผ้าวินเทจ สไตล์ญี่ปุ่นแนะนำร้านนี้เลยค่ะว่าต้องถูกใจแน่ๆ หรือถ้าชอบสินค้าเก๋ๆ จากอเมริกาที่นี่ก็มีให้เลือกหาจับจองไปเป็นเจ้าของกันในราคาสบายๆ ค่ะ
เดินช้อปปิ้งกันจนเมื่อย สาวสีส้มเห็นทีต้องหาที่นั่งพักเหนื่อยกันสักหน่อย พอเดินออกมาจากโซนร้านเสื้อผ้า ก็เหลือบไปเจอร้านกาแฟฮิปๆ สไตล์ Loft ที่เน้นการตกแต่งแบบเปิดโล่ง เรียกว่าแค่บรรยากาศการตกแต่งร้านก็ชวนให้ต้องเข้าไปลิ้มลองกาแฟแล้วค่ะกับ ร้าน 10 Thirty Café ที่มีทั้งเมนูเครื่องดื่มร้อน และเย็นให้เลือกหลายเมนู...
โดยมีเมนูแนะนำเป็น ลาเต้ฮาร์ท กาแฟรสชาติเข้มข้นที่มาพร้อมกับลวดลายฟองนมที่ชวนให้ดื่มสุดๆ หรือถ้าอยากทานคู่กับเบเกอรี่นุ่มๆ ก็มี เลมอน ชีส ทาร์ต, วาฟเฟิล, มาการอง และอีกหลายเมนูเบเกอรี่นุ่มๆ ละมุนลิ้น และที่อยากจะบอกต่อเพื่อนๆ สุดๆ คือร้านนี้..บาริสต้าหล่อมากค่ะ ถ้าคอกาแฟสาวๆ คงพอได้ยินชื่อเสียงความหล่อของบาริสต้าร้านนี้กันบ้างนะคะ เพราะแต่ละคนนี้ระดับนายแบบทั้งนั้นเลย ร้านนี้จึงเป็นอีกหนึ่งร้านที่สาวสีส้มอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ได้มานั่งพักเหนื่อยๆ เพราะพูดเลยว่า “ฟิน” ที่สุดสำหรับร้านนี้…
นอกจาก เกตเวย์ เอกมัย จะมีทั้งร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้าแฟชั่น ร้านเสื้อผ้าสไตล์วินเทจ ให้เลือกซื้อหากันอย่างหลากหลายแล้ว ที่นี่ยังมีโซน Mobile & IT โซนออกกำลังกาย โซนเพื่อสุขภาพและเสริมความงาม โซนให้บริการด้านธุรกรรมการเงิน โซนกิจกรรมและเรียนรู้ของเหล่าน้องๆ หนูๆ ที่กำลังฮิตสุดๆ ในตอนนี้กับ Snow Town Bangkok ที่ยกเมืองหิมะมาไว้กลางกรุงเทพฯ ให้ได้สนุกเย็นฉ่ำกัน ซึ่งได้จำลองบรรยากาศสถาปัตยกรรมยุโรปผสมผสานกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น พร้อมทั้งอิ่มอร่อยกับอาหารนานาชาติท่ามกลางบรรยากาศหิมะในโซน Snow Town Restaurant
และยังมีสวนสนุกมอลลี่ แฟนตาซี สวนสนุกในร่มที่ใหญ่ที่สุดในย่านนี้ มีเครื่องเล่นกว่า 30 รายการส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น รับรองได้ถึงความปลอดภัย ความสนุกที่เหล่าน้องๆ หนูๆ จะได้เพลิดเพลินกันอย่างแน่นอนค่ะ หรือถ้าเป็นคุณแม่อยากมาเดินซื้อสินค้าสำหรับลูกน้อยที่นี่ก็มี Mothercare ร้านสินค้าเพื่อแม่และเด็กชั้นนำจากประเทศอังกฤษ โดยสาขาที่เกตเวย์ เอกมัยนี้เป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยอีกด้วย
เกตเวย์ เอกมัย จึงเป็นอีกหนึ่งศูนย์การค้ากลางเมืองย่านสุขุมวิท ที่สามารถตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของคนเมืองได้อย่างแท้จริง และที่สำคัญช่วงวันหยุดว่างๆ แบบนี้ไม่ว่าจะนัดเพื่อนมาช้อปปิ้ง หรือจะมารับประทานอาหารมื้อพิเศษกับคนรัก หรือจะพาน้องๆ หนูๆ มาสนุกกับเครื่องเล่นสุดพิเศษที่นี่ก็ครบครันทุกความต้องการของคนในครอบครัวอย่างแน่นอนค่ะ เรียกได้ว่า “เกตเวย์ เอกมัย” เป็นแหล่งรวมความสุขครบรสสำหรับทุกคนในครอบครัวอย่างแท้จริงเลยค่ะ
Story By : สาวสีส้ม
รีวิวที่เที่ยว ที่เที่ยว | 03 ก.ค. 2024 | 1,961 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว | 28 เม.ย. 2024 | 2,742 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว | 08 มี.ค. 2024 | 2,764 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว | 06 ก.พ. 2024 | 3,722 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว ที่เที่ยว | 29 ม.ค. 2024 | 4,533 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว | 24 ม.ค. 2024 | 3,468 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว ที่เที่ยว | 22 ม.ค. 2024 | 6,351 อ่าน