0
0
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

รีวิวร้าน มิโซะคัตสึ ยาบะตง(Misokatsu Yabaton) ร้านอร่อยชื่อดังแห่งนาโกย่า

calendar_month 07 ส.ค. 2015 / stylus Admin Chillpainai / visibility 38,504 / รีวิวที่กิน

คุณผู้อ่านเคยเป็นแบบคุณนายไหมคะ
เดินทางไปต่างประเทศและติดใจร้านอาหารอร่อย
ก็กระวนกระวายอยากกลับไปทานอีกครั้ง
และเมื่อวันหนึ่งมารู้ข่าวว่าร้านโปรดในดวงใจนั้นกำลังมาเปิดในเมืองไทย
คุณนายก็ไม่รอช้ารีบตามไปทานในทันที...
05
เท้าความเรื่องนี้ไปเมื่อปีที่แล้วที่คุณนายเดินทางไปเที่ยวที่เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น และร้านอาหารที่ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไปนาโกย่าต้องไปทานให้ได้นั่นก็คือร้าน Misokatsu Yabaton 


 
ร้านนี้แล่ะค่ะ พอไปถึงก็เจอคนญี่ปุ่นที่มาเข้าแถวรอกันมากมาย แต่คุณนายก็ไม่ยอมถอดใจเพราะคำร่ำลือที่บอกว่ามานาโกย่าถ้าไม่ได้ทานร้านนี้เขาว่าว่ามาไม่ถึงนาโกย่า หลังจากต่อคิวเกือบชั่วโมงพอได้กินเท่านั้นแล่ะค่ะ อร่อยฟินจนกลับมาเมืองไทยก็อยากกลับไปทานอีกครั้ง


 
และล่าสุดพอได้ข่าวว่าร้านนี้จะมาเมืองไทย คุณนายก็รีบชวนคุณสามีเดินทางไปทันที ซึ่งร้านนี้มาเปิดอยู่ที่เจ อเวนิว ทองหล่อ 13 อยู่บริเวณลานจอดรถ หาง่ายมากๆ เลยค่ะ 

แผนที่ร้าน Misokatsu Yabaton

 
Misokatsu Yabaton หรือร้านที่คนไทยเรียกว่าร้านหมูโสร่ง เพราะโลโก้คุณหมูถอดเสื้อใส่ชุดซูโม่ที่เป็นจุดเด่นของร้านเลยทำให้คนไทยมาใส่ชื่อน่ารักให้จำง่าย

Misokatsu Yabaton นั้นมีเรื่องราวความเป็นมาที่น่าสนใจมากๆ โดยเริ่มขึ้นบนถนนสายหนึ่งในเมืองนาโกย่า ท่ามกลางร้านอาหารข้างทางมากมาย มีชายเจ้าของร้านได้นำหมูชุบแป้งทอดหรือที่เรียกว่าคุชิคัตสึจุ่มลงไปในโดเตนิซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองของนาโกย่าที่ทำจากเนื้อหมูมาเคี่ยวกับมิโซะซึ่งผลิตจากถั่วเหลืองเป็นของขึ้นชื่อของนาโกย่า พอหยิบขึ้นมาชิม ก็พบว่ามันอร่อยมากๆ โดยชายผู้นั้นคือ ซูซูกิ โยชิโอะ ผู้ก่อตั้งร้านยาบะตงรุ่นแรก

ต่อมาได้มีการลองผิดลองถูกจนกลายมาเป็นซอส
มิโซะสูตรเฉพาะของร้านที่รสชาติกลมกล่อม มีสีเข้ม ไม่หวาน ไม่เค็มจนเกินไป และนี่คือที่มีของร้านยาบะตงที่มีอายุอานามเกือบ 70 ปีแล้วค่ะ ซึ่งวันนี้ร้านอร่อยที่คุณนายรอคอยมาอยู่ตรงหน้าแล้ว
 


พอมาถึงก็รีบแชะภาพกับคุณหมูโสร่งเลยค่ะ เพราะงานนี้คุณหมูไหว้แบบไทยด้วย ซึ่งจริงๆโลโก้ เจ้าหมูโสร่งนี้มีชื่อว่า บูจัง ซึ่งมาจากคำว่า บูตะ ที่แปลว่าหมูในภาษาญี่ปุ่น ส่วนชุดซูโม่มาจากเจ้าของที่ชอบดูซูโม่ เลยกลายมาเป็นคุณหมูใส่ชุดซูโม่ได้น่ารักมากๆ
 

พอเข้ามาสิ่งแรกที่ประทับใจเลยคือพนักงานค่ะ ซึ่งเขาเทรนด์มาดีมากๆ เหมือนสาขาที่ญี่ปุ่นเลยค่ะ ทุกคนกล่าวต้อนรับด้วยความแข็งขัน และมาบริการคุณนายกับคุณสามีอย่างดีมากๆ 

 
การตกแต่งภายในร้านให้ความรู้สึกเหมือนนั่งทานอยู่ที่สาขาญี่ปุ่นเลยค่ะ


คนที่มาทานมีทั้งคนไทยและคนญี่ปุ่น ซึ่งต่างก็รู้จักคำร่ำลือของร้านนี้กันอยู่แล้ว วันนี้คุณนายจะได้ลองทานว่าจะเหมือนของญี่ปุ่นไหม

 
โดยเมนูแรกที่เลือกคือเมนู Misokatsu Don หรือข้าวหน้าหมูสันนอก ชุบเกล็ดขนมปังทอด ราดด้วยซอสมิโซะ เสิร์ฟมาพร้อมทงจิรุซุป ผักดอง และกะหล่ำปลีหั่นฝอย


ความพิเศษของร้านนี้ก็คือ  พอมาถึงโต๊ะปุ๊บพนักงานก็ทำการราดซอสโดยวิธีการราดของเขานั้นจะต้องราดให้ทั่วเนื้อหมู


พอราดแล้วหน้าตาก็ออกมาเป็นแบบนี้กลิ่นของมิโซะลอยมาแตะจมูกหอมหวลชวนฟินมากๆ พอตักทานคำแรกเท่านั้นอยากจะร้องออกมาเลยว่าโออิชิ เพราะมันอร่อยมากๆ เหมือนที่ญี่ปุ่นเลยค่ะ ข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ นุ่มหนึบกำลังพอดีกับหมูที่ชุ่มฉ่ำด้วยซอสมิโซะ สัมผัสแรกก็เหมือนกำลังนั่งอยู่ที่ร้านยาบะตงที่นาโกย่าแล้วค่ะ
 

 

ต่อด้วยจานต่อมากับ Waraji Misokatsu Half-Half หมูสันนอกขนาดใหญ่ชุบเกล็ดขนมปังทอดราดซอสอะคะมิโซะและวูสเตอร์ซอส(ซอสทงคัตสึ) อย่างละครึ่ง


พอราดมาแล้วก็หน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ สำหรับคนที่ชอบทานซอสทงคัตสึด้วยและมิโซะด้วย แต่สำหรับคุณนายขอให้คะแนนมิโซะซอสมากกว่า



อีกจานของโปรดของคุณนายเช่นกันกับ Teppan Hire Misokatsu หมูสันใน ขนาดใหญ่พิเศษชุบเกล็ดขนมปังทอด บนจานร้อนพร้อมกะหล่ำปลีหั่นฝอย  พนักงานเสิร์ฟมาในจานร้อนมากๆ พอมาถึงโต๊ะพนักงานก็ทำการราดซอสมิโซะลงไป เสียงกระทะร้อนฉ่า ควันสีขาวพวยพุ่งพร้อมกับกลิ่นหอมของซอสมิโซะที่โดนความร้อน มันหอมยั่วยวนมากๆ

 

จานนี้ก็อร่อยมากๆ หมูนุ่มจนเอาตะเกียบตัดก็ขาดแถมเนื้อหมูก็ไม่แห้งจนเกินไปด้วยค่ะ  ตัวซอสมิโซะนั้นซึมเข้าไปในเนื้อหมูทานกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยสุดๆ
 

จานต่อมากับ Tonkatsu Curry ข้าวราดหน้าแกงกะหรี่กับหมูสันนอกชุบเกล็ดขนมปังทอด เนื้อแกงกะหรี่เข้มข้น อร่อยมากๆ ค่ะ  


 
 
ส่วนจานนี้คือ Jumbo Ebi Furai กุ้งใหญ่ชุบเกล็ดขนมปังทอด  กับซอสทงคัตสึ เวลาทานก็จิ้มกุ้งกับซอสอร่อยมากๆ



ส่วนจานนี้คือ Hire Kushikatsu เนื้อหมูสันในเสียบไม้ชุบเกล็ดขนมปังทอดราดด้วยซอสมิโสะ เห็นเมนูนี้แล้วนึกถึงคุณซูซูกิเจ้าของร้านที่บังเอิญนำคุชิคัตสึมาจุ่มไปในซอสมิโสะและพบว่า"ว้าว...มันอร่อยนะเนี่ย"


 
ปิดท้ายด้วยเมนูที่เป็นตำนานเริ่มต้นของซอสมิโซะสููตรลับเฉพาะของร้านยาบะตง นั่นก็คือ Doteni ซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองของคนนาโกย่าที่นำเนื้อหมูมาเคี่ยวกับซอสมิโซะ คลุกกับข้าวสวยอร่อยฟินมากๆ


 
และกิมมิคเล็กๆ ของทางร้าน หากลูกค้าสั่งเมนู Teppan Misokatsu เขาจะนำผ้าลายบูจังมาให้ด้วยนะคะ เพื่อกันเปื้อน น่ารักมากๆ


 

ความพิเศษของร้านนี้อีกอย่างคือการเติมข้าว เติมซุป เติมผักดอง เติมกะหล่ำปลีแบบรีฟีลได้ฟรีกี่ครั้งก็ได้


 
คอนเฟิร์มเลยว่าซุปอร่อยมากซึ่งเป็นซุปมิโซะที่ใส่เนื้อหมูลงไปเรียกว่าทงจิรุซุป ส่วนข้าวเขานำเข้ามาจากญี่ปุ่น นุ่มหนึบ อร่อยสุดๆ


 
นอกจากนี้ทางร้านเขายังมีพริกป่น ถั่วลิสงบด และน้ำปลาพริกเสิร์ฟอยู่บนโต๊ะทุกโต๊ะด้วย เพื่อเป็นการช่วยให้การทานมิโซะคัตสึไม่น่าเบื่อใครอยากลองใส่ถั่ว ใส่พริกป่น ใส่น้ำปลาพริกก็ได้รสชาติอร่อยไปอีกแบบ ซึ่งเป็นนิสัยของชาวนาโกย่าที่ไม่ชอบความจำเจโดยการเปลี่ยนอาหารเมนูเดิมให้อร่อยยิ่งขึ้น 





แค่ได้กลับมาทานมิโซะคัตสึอร่อยๆ  รสชาติที่หาที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่าที่นี่
ก็ทำให้คุณนายนึกย้อนไปถึงความสวยงามของเมืองนาโกย่า ผู้คน บ้านเมือง
และที่ลืมไม่ได้นั่นก็คือมิโซะคัตสึ จากร้านยาบะตงแห่งเมืองนาโกย่า
ที่วันนี้มาอยู่ใกล้ๆ อยากจะทานตอนไหนก็เดินทางไปทานได้
อร่อยแบบนี้ขอบอกว่าพลาดแล้วจะเสียใจค่ะ

karok_waipra

 
ที่ตั้ง : โครงการเจ-อเวนิว ถนนสุขุมวิท 55 (ทองหล่อซอย 13 ) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 
เปิดบริการ : 11.00-22.00 น. (ปิดรับสั่งอาหาร เวลา 21.30 น.)
ราคาเฉลี่ย : 280-500 บาท
โทร : 061-449-7783, 02-712-9487


 
เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai